เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2045 เจ้า ข้าจะเอาให้ได้ / ตอนที่ 2046 นี่คือมวยไทเก๊ก
ตอนที่ 2045 เจ้า ข้าจะเอาให้ได้
จู่ๆ จอมมารโลหิตก็ถอยหลัง ซ้ำยังใช้สายตาอย่างนั้นจ้องพิจารณาเธอ เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชา สายตาอย่างนี้เธอคุ้นเคยยิ่งนัก คนที่มองเธอด้วยสายตาเช่นนี้ ไม่ได้เห็นเธอเป็นมนุษย์ แต่เห็นเธอเป็นวัตถุชิ้นหนึ่งเท่านั้น
“เจ้าหนู ข้ายิ่งมองเจ้าก็ยิ่งถูกชะตา เจ้ามาอยู่กับข้าเป็นอย่างไร? ข้าจะมอบอนาคตที่สดใสให้เจ้าเอง” จอมมารโลหิตเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เขาคิดว่ารอยยิ้มของตนเองดูอบอุ่นและเป็นมิตรมาก กลับไม่รู้เลยว่า เขาไม่ยิ้มยังดี ครั้นยิ้มยิ่งดูประหลาดกว่าเดิม
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหัวเราะหยัน “แต่ข้าไม่ถูกชะตาเจ้านี่! อายุปูนนี้แล้วยังใส่เสื้อผ้าสีแดง ขัดหูขัดตายิ่งนัก”
จอมมารโลหิตได้ยินอย่างนั้น สายตาหรี่เล็ก ประกายเหี้ยมเกรียมพาดผ่านดวงตา “หึ! ในเมื่อพูดดีๆ ไม่ยอมทำตาม เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม้เกรงใจเล่า! วันนี้ เจ้าจะยอมหรือไม่ยอมก็ดี เจ้า ข้าจะเอาให้ได้!”
สิ้นเสียง เงาร่างสีแดงหม่นพุ่งโจมตีเฟิ่งจิ่ว เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาเหี้ยมโหด กลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างพลุ่งพล่าน จากนั้นก็พุ่งเข้าไปด้วยเช่นกัน
ฮุ่นหยวนจื่อที่ดูสองคนนั้นสู้กัน ได้แต่สบถด่าด้วยความโมโห “ไอ้แก่นั่น ไอ้แก่โรคจิต! ไม่ว่ายินยอมหรือไม่ก็ดี จะเอาให้ได้งั้นหรือ? ไม่นึกว่าไอ้แก่นั่นจะโรคจิตขนาดนี้!”
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของจอมมารโหลิตต่างก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน จอมมารโลหิตพูดอย่างนั้นเพราะชอบพอในตัวเฟิ่งจิ่วงั้นหรือ? จอมมารโลหิตอายุขนาดนี้แล้วคงไม่ใช่พวกแขนเสื้อกุด[1]หรอกระมัง?
พวกเขามองทั้งสองด้วยสีหน้าแปลกๆ กลับลืมไปชั่วขณะหนึ่งว่ายามนี้ตนเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
มีเพียงจัวจวินเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดของจอมมารโลหิตแล้วครุ่นคิด เขาไม่คิดว่าจอมมารโลหิตจะหมายความเช่นนั้น เขาน่าจะอยาก…
เห็นฝีมือและวรยุทธ์ที่โดดเด่นของเด็กหนุ่ม ความคิดหนึ่งแวบผ่านในหัว
เขาคิดจะแย่งร่างเด็กหนุ่มไป! เขาคิดจะเลี้ยงเฟิ่งจิ่วไว้ข้างกาย เพื่อต่อไปยามที่เขาใกล้สิ้นอายุขัยจะได้แย่งร่างของเฟิ่งจิ่ว!
นึกมาถึงตรงนี้ สายตาของเขาพลันตึงเครียด เม้มปากมองเหตุการณ์ตรงหน้า คาดเดาว่าเฟิ่งจิ่วมีโอกาสชนะหรือไม่? หากแพ้จอมมารโหลิต ทุกคนที่นี่ก็ไม่มีใครรอดไปได้ เฟิ่งจิ่วก็จะตกอยู่ในกำมือของเขา กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายเท่านั้น!
ขณะกำลังคิดก็ได้ยินเสียงดังปึง เขาเงยหน้ามองไป เห็นเพียงเฟิ่งจิ่วเด็กหนุ่มชุดเขียวถูกจอมมารโหลิตโจมตีจนเซถอยไปข้างหลังหลายก้าว เห็นอย่างนั้น เขาตึงเครียด ทำท่าจะก้าวออกไป แต่ถูกเรียกไว้ก่อน
“จวินเยวี่ย มานี่!”
ฮุ่นหยวนจื่อเรียกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ขมวดคิ้วมองภาพตรงหน้า สายตาเฉียบแหลมแฝงแววครุ่นคิด ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่
จัวจวินเยวี่ยหันมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนหันไปมองเฟิ่งจิ่วอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปหยุดตรงหน้าเขา ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “มีอะไร?”
ตาเฒ่านี่ไม่เห็นหรือว่าเฟิ่งจิ่วใกล้สู้ไม่ไหวแล้ว? จอมมารโลหิตกำลังใช้หมัดตะปูเจ็ดก้าวกับเด็กหนุ่มอยู่ เขาจะทนไหวได้อย่างไรกัน? ต้องบอกก่อนว่าหมัดตะปูเจ็ดก้าวเป็นกระบวนท่าขึ้นชื่อประจำตัวของจอมมารโลหิตเลยทีเดียว!
ฮุ่นหยวนจื่อเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “พลังของเจ้ายังสู้เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นไม่ได้เลย! อย่าไปเพิ่มภาระให้เขา ดูอยู่ข้างๆ ก็พอ”
“ท่านคิดว่าเขาจะสู้ไหวหรือ?” จัวจวินเยวี่ยขมวดคิ้วเอ่ย
“เรื่องนี้…พูดยาก”
เขาลูบหนวด เอ่ยอย่างครุ่นคิด “แต่ข้าดูแล้ววิธีการโจมตีของเจ้าเด็กเมื่อวานซืนมีเอกลักษณ์มาก ท่าร่างก็แปลกประหลาดนัก ใครชนะใครแพ้ยังไม่แน่นอน!”
………………………………….
ตอนที่ 2046 นี่คือมวยไทเก๊ก
เอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกไปเขาเองก็ตะลึงเช่นกัน นี่เท่ากับเขายอมรับว่าวรยุทธ์ของเจ้าเด็กเมื่อวานซืนแข็งแกร่งมาก หรือกระทั่งอาจกำราบจอมมารโลหิตได้ด้วยซ้ำ เช่นนั้นย่อมไม่ต้องกราบเขาเป็นอาจารย์ก็ได้ หากไม่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตนเอง แม้เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นจะบอกเขาด้วยตนเองว่าพลังของเขาแข็งแกร่งจนถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องกราบเขาเป็นอาจารย์แล้ว เขาก็คงไม่เชื่อ!
“เขาต้านรับหมัดตะปูเจ็ดก้าวของจอมมารโลหิตไม่ได้แน่” จัวจวินเยวี่ยเอ่ย มองเด็กหนุ่มที่ถอยหลังไปก้าวแล้วก้าวเล่าเพราะถูกหมัดตะปูเจ็ดก้าวของจอมมารโลหิตโจมตี ในสายตาฉายแววเป็นห่วง
ฮุ่นหยวนจื่อเห็นการโจมตีของเฟิ่งจิ่วถูกหมัดตะปูเจ็ดก้าวของจอมมารโลหิตข่ม ในใจนึกห่วงเช่นกัน ปากก็อดบ่นไม่ได้ “เจ้าเด็กนั่น บอกให้เขากราบข้าเป็นอาจารย์เขาก็ไม่ฟัง เจ้าว่าด้วยพรสวรรค์ของเขาหากกราบข้าเป็นอาจารย์ และเรียนวิชาหมัดแปดทิศของข้าไป ยังต้องกลัวจอมมารโลหิตอีกเสียที่ไหน?”
“ข้าจะไปช่วยเขา!” จัวจวินเยวี่ยบอก ทำท่าจะก้าวเข้าไป แต่กลับถูกตาเฒ่ารั้งไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อน เจ้าดู ท่าทางของเจ้าเด็กเมื่อวานซืนเปลี่ยนไปแล้ว” ตาเฒ่าดึงเขาไว้ พลางจ้องมองเด็กหนุ่มที่เปลี่ยนวิธีการสู้หลังจากถูกหมัดตะปูเจ็ดก้าวของจอมมารโลหิตโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จัวจวินเยวี่ยมองไปข้างหน้า นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย
จริงอย่างที่ตาเฒ่าว่า หลังจากที่เด็กหนุ่มถูกโจมตีถอยหลังไปอีกครั้ง กลิ่นอายรอบกายรวมถึงท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป เห็นเพียงหลังจากที่เขาถูกโจมตีถอยหลังก็ก้าวขากางขาออกและย่อตัวลง สองมือแบออกกลายเป็นฝ่ามือ ฝ่ามือหนึ่งกดต่ำลงเบื้องหน้า อีกฝ่ามือหนึ่งยกสูงอยู่ข้างหลัง สายตาจับจ้องจอมมารโลหิต กลิ่นอายทั่วร่างพลันถูกดึงกลับมารวมกันเมื่อเขาตั้งท่านี้ ทำให้จัวจวินเยวี่ยที่กำลังดูอยู่ไม่ค่อยเข้าใจนัก
แต่ทว่า ยามเด็กหนุ่มก้าวไปข้างหน้า ฝีเท้าที่เดิมทีก็รวดเร็วดุจสายฟ้าอยู่แล้วยามนี้กลับก้าวไปข้างหน้าอย่างเบาหวิวดุจฝีเท้าแมว ขณะเดียวกันสองมือก็ขยับเขยื้อน กลิ่นอายพลังวิญญาณพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง ขณะที่จอมมารโลหิตกำหมัดแน่น คำรามเสียงต่ำ ซัดหมัดตะปูเจ็ดก้าวใส่เขาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่ง กลับเห็นเด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบด้วยการเคลื่อนไหวอันเบาหวิวและว่องไว มือหนึ่งพลิกหมุนและคว้าจับมือของจอมมารโลหิตไว้ อาศัยเรี่ยวแรงมหาศาลของอีกฝ่ายโจมตีกลับไป
“ปึง!”
“อึก!”
ได้ยินเพียงเสียงดังปึง จอมมารโลหิตถูกซัดถอยหลังออกไปไกลถึงหกจั้ง ร่างกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งข้างหลังจนร้องครวญ แผ่นหลังของเขากระแทกกับต้นไม้ใหญ่ส่งเสียงดังกร๊อบ กระดูกแตกหัก เลือดไหลออกจากมุมปาก
สายตาเหี้ยมเกรียมของเขาจับจ้องเด็กหนุ่มที่กำลังขยับไหวมือทั้งสองข้างอย่างเชื่องช้า เห็นกลิ่นอายพลังวิญญาณรอบกายถูกรวบรวมไว้ที่ตรงกลางระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้าง กลายเป็นวงกลมที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“นี่มันวิชาหมัดอะไรของเจ้า?”
จอมมารโหลิตถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ยกมือเช็ดเลือดตรงมุมปาก พลังมหาศาลของเขากลับถูกเด็กหนุ่มโต้กลับด้วยวิธีสี่ตำลึงปาดพันชั่ง[2]? ใต้หล้านี้มีวิชาที่ร้ายกาจเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?
ฮุ่นหยวนจื่อที่เห็นภาพนั้นอดเบิกตากว้างไม่ได้ เขามองเฟิ่งจิ่วด้วยความตกตะลึง ตัวเขาลุกพรวดจากพื้น มือหนึ่งจับไหล่ของจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างหน้าแน่น ใบหน้าตื่นเต้นจนแดงก่ำ “นะ นี่ นี่มันไทเก๊ก!”
เฟิ่งจิ่วหันกลับมาชำเลืองมองฮุ่นหยวนจื่อแวบหนึ่ง กระตุกมุมปากแวบหนึ่ง เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ใช่ นี่ก็คือมวยไทเก๊ก!”
“มวยไทเก๊ก?” จอมมารโลหิตขมวดคิ้ว “มวยไทเก๊กกับหมัดแปดทิศคือวิชาเดียวกันหรือ?” เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่ามันเหมือนหมัดแปดทิศ?
“มวยไทเก๊ก? กลับเป็นมวยไทเก๊ก!”
ฮุ่นหยวนจื่อมองเฟิ่งจิ่วด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่าน ปากก็พึมพำเบาๆ “ไทเก๊กถือกำเนิดสองขั้ว สองขั้วถือกำเนิดสี่ธาตุ สี่ธาตุถือกำเนิดแปดทิศ หมัดแปดทิศนั้นดัดแปลงมาจากไทเก๊ก นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงเลยจริงๆ…”
………………………………….
[1] แขนเสื้อกุด หมายถึงคนที่ชมชอบเพศเดียวกัน
[2] สี่ตำลึงปาดพันชั่ง หมายถึง วิธีการที่ใช้แรงน้อยกว่าเอาชนะแรงที่มากกว่า