เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2005 ไร้ประโยชน์ ตอนที่ 2006 ทำตามการตัดสินใจของนาง
ตอนที่ 2005 ไร้ประโยชน์ ตอนที่ 2006 ทำตามการตัดสินใจของนาง
ตอนที่ 2005 ไร้ประโยชน์
ฮุยหลางมองรอบๆ ก่อนตอบว่า “พวกข้าสะสางทุกอย่างเสร็จก็กลับมา นายท่านกำชับก่อนออกเดินทาง ให้พวกข้าส่งคนมาคอยเฝ้าที่จวนเพิ่ม ต้องดูแลความปลอดภัยของภูตหมออย่างดี เดิมตั้งใจจะพาคนมาพรุ่งนี้ แต่ตอนอยู่ในจวนได้ยินเสียงทางนี้ พวกข้าจึงรีบมา”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วพยักหน้า กวาดมองคนที่พวกเขามามา เอ่ยว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! คนพวกนี้ให้ประจำอยู่ที่จวนหลิง จวนเฟิ่งของข้ามีคนคอยเฝ้าอยู่แล้ว ไม่ต้องการคนมากนัก หากมีอะไรเกิดขึ้น ห่างกันแค่กำแพงกั้นอย่างไรก็ต้องรู้”
“ก็ดีเหมือนกัน” ทั้งสองคนพยักหน้า
“พวกเจ้าพาพวกเขากลับไปก่อน อีกเดี๋ยวมาหาข้าที่นี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะบอกพวกเจ้า” เฟิ่งจิ่วกำชับ ก่อนหันตัวเดินเข้าห้องไป ส่วนร่องรอยบนพื้นข้างนอกถูกเก็บกวาดทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ฮุยหลางกับอิ่งอีพาคนกลับไปประจำการที่จวนหลิง และกลับมาที่จวนเฟิ่งอีกครั้ง ก็เห็นว่าคราบเลือดถูกทำความสะอาดไปหมดแล้ว ไฟในเรือนของเฟิ่งจิ่วยังสว่างอยู่ ทั้งสองมองหน้ากัน ก่อนจะขานเรียกคนข้างใน
“ภูตหมอ พวกข้ามาแล้ว”
“เข้ามาเถิด!” เหลิ่งซวงเปิดประตูห้อง พยักหน้าให้ทั้งสองเข้ามา
ในห้อง เฟิ่งจิ่วนั่งดื่มชาอยู่ที่โต๊ะ เห็นสองคนเข้ามา ก็พยักหน้าให้พวกเขานั่ง “นั่งเถิด!”
ทั้งสองกล้านั่งเสียที่ไหน ได้เพียงมองแวบเดียวและยืนอยู่ที่เดิม อิ่งอีไม่พูดอะไรเพียงยืนก้มหน้าเงียบๆ ส่วนฮุยหลางกลับหัวเราะแห้งๆ “ภูตหมอ มีอะไรให้รับใช้หรือ?”
“อีกไม่กี่วันข้าจะออกเดินทาง เมื่อถึงตอนนั้นพวกเจ้ากับเหลิ่งซวงจงดูแลทั้งสองจวนให้ดี รอ…” เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงฮุยหลางร้องขึ้นมาด้วยความตกใจก่อน
“อะไรนะ? ภูตหมอจะออกเดินทาง? จะไปที่ใด? ไปนานแค่ไหน? ท่านจะไม่พาพวกเราไปด้วยหรือ? นี่หากนายท่านรู้เข้าพวกเราต้องแย่แน่ๆ!”
อิ่งอีเองก็เงยหน้ามองเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “ฮูหยิน นายท่านสั่งไว้ ให้พวกจ้าปกป้องท่านให้ดี หากฮูหยินจะไปไหน ไม่พาฮุยหลางไปก็ได้ แต่โปรดพาข้าไปด้วย”
ได้ยินอย่างนั้น ฮุยหลางถลึงตา จ้องเขาอย่างไม่พอใจ “ทำไมทีข้าไม่ต้องพาไปก็ได้ แต่กลับต้องพาเจ้าไป? ข้าไม่เห็นว่าเจ้าจะเก่งกว่าข้าตรงไหน”
เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เธอเหลือบมองพวกเขาสองคนแวบหนึ่ง กระแอมเบาๆ “ข้าไปครั้งนี้ไม่คิดจะพาใครไปด้วยทั้งนั้น พวกเจ้าดูแลที่นี่ให้ดีก็พอ”
“จะได้อย่างไรกัน? เหมือนอย่างที่อิ่งอีบอก ท่านไม่พาเขาไป อย่างน้อยก็ควรพาข้าไปด้วย!” ฮุยหลางรีบแย่ง ตบหน้าอกตนเองแล้วโอ้อวดว่า “มีข้าอยู่ข้างกายภูตหมอ อย่างไรก็ต้องปลอดภัยกว่าอยู่แล้ว”
ครั้นเอ่ยประโยคนี้ออกไป แม้แต่เหลิ่งซวงที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งยังอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองฮุยหลางแวบหนึ่ง ก่อนจะละสายตาออกไปเงียบๆ
“พลังเจ้าเหนือกว่าข้า?” เฟิ่งจิ่วถามฮุยหลางอย่างทีเล่นทีจริง
ฮุยหลางสีหน้าค้างเติ่ง ยิ้มแห้งๆ “นั่นก็ไม่ใช่ แต่ข้าคอยเป็นลูกมือที่ดีได้ อยู่ข้างกายท่านอย่างน้อยก็ทำงานใช้แรงงาน หรือคอยสำรวจเส้นทางอะไรทำนองนั้นก็ได้”
“หากเป็นงานอย่างนั้น ข้างกายข้ามีคนมากมาย” เฟิ่งจิ่วมองเขาด้วยแววตายิ้มๆ
“แต่ แต่ว่ามีข้าอยู่ข้างกายภูตหมอจะปลอดภัยกว่านะ! หากมีเรื่องอะไร ข้ายังคอยคุ้มกันให้ท่านได้ด้วย!” ฮุยหลางพยายามหาข้อดีของตนเอง แต่คิดไปคิดมา กลับพบว่าตนเองไม่ได้มีข้อดีที่โดดเด่นอะไรนัก
เทียบกันเรื่องซ่อนกลิ่นอาย เขาสู้อิ่งอีไม่ได้ เทียบกันเรื่องสมอง เขาก็สู้เหลิ่งหวากับตู้ฝานคนของภูตหมอไม่ได้อีก นี่ก็แสดงว่าเขาได้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง
………………………………….
ตอนที่ 2006 ทำตามการตัดสินใจของนาง
เฟิ่งจิ่วดื่มชาหมดไปถ้วยหนึ่ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงแช่มช้า “เรื่องนี้ข้าวางแผนไว้แล้ว เพียงบอกให้พวกเจ้ารับรู้ เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ร้อนใจที่หาข้าไม่เจอ เรื่องในหอยาสวรรค์ข้ากำชับไว้หมดแล้ว พวกเจ้าสนใจแต่เรื่องที่นายท่านของพวกเจ้าสั่งไว้ รวมถึงความปลอดภัยของทั้งสองจวนก็พอ”
เห็นเธอตัดสินใจแน่วแน่ อิ่งอีชะงักไปเล็กน้อย ก่อนถามว่า “เช่นนั้นฮูหยินจะไปที่ใด? ไปครานี้ใช้เวลานานแค่ไหน? อันตรายหรือไม่?”
พวกเขาจะไม่ตามไปก็ได้ แต่เรื่องใดควรรู้ก็ต้องรู้ไว้ ไม่เช่นนั้นภายหน้าหากนายท่านถาม พวกเขาจะได้ตอบได้
“ตั้งแต่ข้ากลับมา ข้าก็สั่งให้หานหรงสืบข่าวเรื่องหานหรง พักนี้ได้ข่าวว่าเขาจะเดินทางไปที่ป่าภูเขาไฟ เป้าหมายสำคัญในครั้งนี้ของข้าก็คือเขา” เสียงของเฟิ่งจิ่วเย็นเยียบ เธอควงถ้วยชาในมือเล่น เอ่ยเสียงแช่มช้า “ขอเพียงข้าจัดการเขาเสร็จก็จะกลับมา”
หานหรง?
ได้ยินชื่อนี้ ฮุยหลางกับอิ่งอีขมวดคิ้วทันที ทั้งสองมองหน้ากันเงียบๆ พวกเขาย่อมรู้จักหานหรงเป็นอย่างดี แต่ว่าหานหรงที่แย่งร่างผู้อื่นมากลับเป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา
คราวก่อนภูตหมอบอกว่ารู้ข่าวของเขาตอนอยู่ข้างนอก แต่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวยจึงไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อฆ่าเขา ต่อมาอยากจะตามหาเขาแต่กลับไร้ข่าวคราว ยามนี้ได้ยินข่าวของเขา นางย่อมไม่มีทางปล่อยไปแน่
หากพูดกันตามจริง ก็เป็นเพราะหานหรงถึงได้ทำให้ราชวงศ์เฟิ่งหวงถูกทำลาย แล้วก็เป็นเพราะหานหรงถึงได้ทำให้ญาติของภูตหมอต้องพลัดพรากตายจากกัน ไม่เพียงเท่านี้ แม้แต่นายท่านของพวกเขาก็ยังต้องเผชิญหน้ากับการบีบคั้นจากแคว้นข้างเคียงและการรุมโจมตีจากยอดฝีมือ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของหานหรงทั้งนั้น
หานหรงผู้นี้เคยเป็นคนของนายท่าน ยามนี้กลับสร้างเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้นายท่านไม่อยู่ที่นี่ หากอยู่จะต้องไปฆ่าเขาถึงที่แน่นอน
“ฮูหยิน หานหรงผู้นี้เจ้าเล่ห์เพทุบาย จะต่อกรกับเขาเกรงว่าจะไม่ง่าย อีกอย่าง เขาเองก็รู้จักท่าน หากไม่ระวังถูกจับได้ ความปลอดภัยของฮูหยิน…” อิ่งอีมองเธออย่างเป็นห่วง เขารู้ดี หานหรงอยากสับร่างฮูหยินเป็นชิ้นๆ แค่ไหน
“ก็เพราะเขาต่อกรด้วยยาก ข้าถึงตัดสินใจไปด้วยตนเอง เรื่องนี้ไม่ว่าให้ใครไปข้าก็ไม่วางใจ” เฟิ่งจิ่วเอ่ยเสียงแช่มช้า “ครั้งนี้ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เขารอดไปได้แน่นอน!”
ประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตาของเธอ นึกถึงหานหรงบัดซบคนนั้นทีไร เพลิงโทสะในใจลุกโชนทุกครั้ง หากไม่ใช่เขา เสี่ยวเฟิ่งเยี่ยตัวน้อยก็คงไม่ต้องตายอย่างอนาถเช่นนั้น ทำเอาเธอยังต้องปิดบังท่านย่ามาจนถึงตอนนี้
แม้ท่านปู่ไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้ การตายของเสี่ยวเฟิ่งเยี่ยส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขามาก เขากลัวท่านย่าเป็นห่วงถึงได้พยายามปิดบังความเจ็บปวดในใจอย่างสุดความสามารถ
หลังจากำชับพวกเขาเสร็จ เฟิ่งจิ่วเอ่ยอีกว่า “คนพวกนั้นที่มาคืนนี้เป็นคนของตำหนักราตรีสังหาร เจ้าตำหนักราตรีสังหารได้รับบาดเจ็บ ระยะนี้คงไม่มาอีก แต่พวกเจ้าก็ต้องตื่นตัวไว้บ้าง เมื่อถึงตอนที่ข้าไม่อยู่ จะสั่งให้หงส์ไฟคอยคุ้มกันอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ข้ายังบอกโม่เฉินไว้แล้ว ให้เขาคอยดูแลหอยาสวรรค์แทนข้า หากมีปัญหาใดแก้ไม่ได้ก็ไปขอให้เขาช่วยเหลือได้”
“ขอรับ พวกเราเข้าใจแล้ว” พวกเขาพยักหน้า หลังจากที่เธอกำชับทุกอย่างครบหมดแล้ว ทั้งสองก็ถอยออกไป
ครั้นกลับถึงจวนหลิง ฮุยหลางเกาหัวมองอิ่งอี “จะปล่อยให้ภูตหมอไปคนเดียวจริงหรือ? นางไม่พาไปแม้กระทั่งหงส์ไฟ จะได้หรือ? หานหรงไม่ได้รับมือได้ง่ายๆ เลยนะ”
“ทุกอย่างทำตามที่ฮูหยินตัดสินใจก็พอแล้ว”
………………………………….