เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1991 แลกเปลี่ยน ตอนที่ 1992 ของขวัญก่อนจาก
ตอนที่ 1991 แลกเปลี่ยน ตอนที่ 1992 ของขวัญก่อนจาก
ตอนที่ 1991 แลกเปลี่ยน
ได้ยินคำพูดของเธอ หยางเสี่ยวเอ้อร์พยักหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ถามว่า “พี่หญิงเฟิ่ง หากข้าอยากผอม ท่านมีวิธีช่วยข้าหรือไม่?”
“เรื่องนี้เจ้าต้องขยับเขยื้อนให้มากหน่อย ทำให้เหงื่อออกเยอะๆ ขอเพียงเจ้ามุ่งมั่น ไม่ต้องให้ข้าช่วยก็ทำได้” เธอมองนาง ยิ้มเอ่ยอีกว่า “แต่ว่าเจ้าอย่าผอมเกินไปเล่า มีเนื้อมีนวลก็น่ารักดี”
ได้ยินอย่างนั้น หยางเสี่ยวเอ้อร์ลอบตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวกับตนเอง นางจะต้องเปลี่ยนแปลงตนเองให้ได้ หลังจากเดินตลาดกับเฟิ่งจิ่วครู่หนึ่ง หยางเสี่ยวเอ้อร์ก็กลับบ้านไปก่อน
เฟิ่งจิ่วเห็นว่านางไม่ห่อเหี่ยวเศร้าซึมเหมือนเมื่อครู่ จึงยิ้มๆ และกลับจวนตระกูลเฟิ่งไปด้วยเช่นกัน
ในจวนหลิง เซวียนหยวนโม่เจ๋อและเซียนจื๋อสุ่ยได้หารือกันเรื่องเวลาออกเดินทางแล้ว พวกเขาตัดสินใจออกเดินทางพรุ่งนี้ แม้เซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้สึกว่าเร็วไปหน่อย แต่เขาเองก็อยากรีบไปรีบกลับจึงยอมตกลง
“คืนนี้ข้าอยากพบเฟิ่งจิ่วอีกครั้ง” เซียนจื๋อสุ่ยเอ่ยกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ
ได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเขาแวบหนึ่ง ถามว่า “มีเรื่องใดหรือ?”
“ข้าอยากแลกยากับนางสักสองสามเม็ด” เซียนจื๋อสุ่ยตอบตรงๆ ไม่ได้คิดจะปิดบังเขาแต่อย่างใด
เซวียนหยวนโม่เจ๋อจึงลุกขึ้นพาเขาไปที่จวนเฟิ่ง ยามเดินผ่านประตูเล็กที่เชื่อมสองจวนไว้ด้วยกัน เซียนจื๋อสุ่ยอดประหลาดใจไม่ได้ สองจวนนี้ห่างกันเพียงกำแพงกั้น? ซ้ำตรงนี้ยังเดินทะลุถึงกันได้อีก? เขาพักอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว กลับไม่เคยรู้เลย
มาถึงในจวนเฟิ่ง เฟิ่งจิ่วยังไม่กลับมา พวกเขาจึงนั่งอยู่ในลานสวนครู่หนึ่ง ดื่มชาหนึ่งถ้วย กระทั่งฮุยหลางเข้ามารายงาน “นายท่าน ภูตหมอกลับมาแล้วขอรับ”
เฟิ่งจิ่วเดินทอดน่องเข้ามาในลานสวน ก็เห็นทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ “ท่านเซียน เจ๋อ พวกท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” นึกไม่ถึงว่าจะเจอทั้งสองนั่งอยู่ในลานสวนฝั่งนี้
“อาจารย์ของข้าอยากแลกยากับเจ้าสักสองสามเม็ด” เซวียนหยวนโม่เจ๋อเอ่ย นัยน์ตาลึกล้ำแฝงรอยยิ้มจ้องมองเฟิ่งจิ่วที่เดินเข้ามา
ครั้นสบตากับเขา เธอก็เข้าใจความหมายแล้ว เฟิ่งจิ่วเดินมานั่งลงที่โต๊ะ มองเซียนจื๋อสุ่ยแล้วยิ้มถามว่า “ท่านเซียนต้องการยาใดหรือ?”
เซียนจื๋อสุ่ยมองเธอ ถามว่า “เจ้ามีอาวุธวิเศษใดที่อยากได้หรือไม่? ยาทิพย์อายุหลายร้อยปีข้าเหลือไม่มากแล้ว แต่ข้ามีอาวุธวิเศษเอามาแลกยาเม็ดและยาน้ำกับเจ้าได้”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วสบตากัน คนข้างหน้าไม่พูดอะไร เพียงยกชาขึ้นมาจิบ ส่วนคนข้างหลังยิ้มๆ หยิบยาสามขวดออกจากห้วงมิติมาวางเรียงกัน จากนั้นก็หยิบยาน้ำออกมาอีกหนึ่งขวด
“ข้ารู้ว่าท่านเซียนไปแลกยามาสองชนิดแล้ว ไม่ทราบว่า ยาสองสามอย่างนี้ถูกใจท่านเซียนหรือไม่?”
เซียนจื๋อสุ่ยมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่ขวดยาตรงหน้า ถามว่า “ยาพวกนี้เป็นยาอะไร? มีสรรพคุณอย่างไรบ้าง?”
“นี่เป็นยาใน ไม่ว่าบาดเจ็บหนักเพียงใดก็รักษาได้ ขวดตรงกลางนี้ใส่ยาแก้พิษระดับหกไว้ ยาแก้พิษระดับหกนี้ เชื่อว่าท่านเซียนคงรู้ว่าแก้พิษอะไรได้บ้าง ข้าคงไม่ต้องอธิบายให้มากความ ส่วนขวดนี้เป็นยาสมานแผลห้ามเลือด ยามเดินทางอยู่ข้างนอกมักได้รับบาดเจ็บอย่างเลี่ยงไม่ได้ แผลภายนอกทั้งมวล ยาขวดนี้ล้วนใช้รักษาได้ทั้งนั้น”
เธออธิบายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบยาน้ำขวดสุดท้ายขึ้นมา “ส่วนยาน้ำขวดนี้ขอเพียงดื่มลงไป พลังก็จะเพิ่มขึ้นในพริบตา นี่เป็นของดีที่ช่วยชีวิตได้ในยามคับขัน สี่อย่างนี้ ข้าคิดว่าท่านเซียนล้วนต้องการ ท่านเซียนคิดเห็นว่าอย่างไร?”
เซียนจื๋อสุ่ยพยักหน้า ก่อนจะหยิบของออกมาจากห้วงมิติ
………………………………….
ตอนที่ 1992 ของขวัญก่อนจาก
มองดูสิ่งของจำพวกอาวุธวิเศษและยาทิพย์วางเรียงรายเต็มโต๊ะ เฟิ่งจิ่วประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าเซียนจื๋อสุ่ยผู้นี้กลับสะสมของไว้มากมายขนาดนี้ หนำซ้ำแต่ละอย่างล้วนดูไม่เลว
“เจ้าเลือกเองก็แล้วกัน!” เซียนจื๋อสุ่ยเอ่ย ปล่อยให้เธอเลือกของพวกนั้นด้วยตนเอง ส่วนเขาก็หันไปสนใจยาเม็ดและยาน้ำเหล่านั้น
เฟิ่งจิ่วเลือกแล้วเลือกอีก ดูแล้วดูอีก สุดท้ายก็หยิบอาวุธเซียนที่สามารถใช้ป้องกันตัวได้มาหลายชิ้น รวมถึงยาทิพย์ล้ำค่าที่มีอายุหลายร้อยปีมาอีกสองสามอย่าง สุดท้ายก็คืนของที่เหลือให้เขา
“ท่านเซียน ข้าเอาของแค่นี้ก็พอแล้ว” เธอชี้ของที่เลือกไว้
เซียนจื๋อสุ่ยเหลือบมองแวบหนึ่ง พยักหน้าเอ่ยว่า “เจ้ากลับไม่ละโมบนัก” ไม่ได้เอาของของเขาไปเสียหมด
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่หยิบยาขวดหนึ่งออกมา “นี่เป็นยาหอมพิศวง มีสรรพคุณช่วยกันสัตว์มีพิษด้วย ท่านเซียนเก็บไว้เถิด!”
“ข้าเองก็ไม่อยากเอาเปรียบเจ้า สองอย่างนี้ให้เจ้าก็แล้วกัน!” เซียนจื๋อสุ่ยรับยาของเฟิ่งจิ่วไป จากนั้นก็เลือกอาวุธวิเศษมาสองอย่าง ยื่นให้เธอ
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะรับไว้อย่างไม่เกรงใจ” เธอยิ้มๆ รับของมาเก็บ ตั้งใจจะแบ่งให้พวกเหลิ่งหวาพกไว้ป้องกันตัวด้วย
“พรุ่งนี้จะออกเดินทางแล้ว คืนนี้รีบพักผ่อนเล่า” เซียนจื๋อสุ่ยลุกขึ้น หันไปเอ่ยกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ก่อนจะหันตัวเดินกลับจวนหลิง
ครั้นเซียนจื๋อสุ่ยกลับไป เฟิ่งจิ่วจึงหยิบของในห้วงมิติออกมา “เมื่อครู่ตอนกลับมาข้าซื้อของมา ท่านเก็บไว้ในห้วงมิติภายหน้าอาจได้ใช้ นอกจากนี้ หลายวันก่อนข้าสั่งให้คนเย็บเสื้อผ้าให้ท่านหลายชุด วันนี้ไปรับมาแล้วเหมือนกัน ท่านเอาไปด้วยเล่า
แล้วก็ อันนี้ให้ท่าน”
เธอยื่นผลไม้วิญญาณลูกหนึ่งที่ถูกแช่ไว้ในกล่องน้ำแข็งให้เขา “นี่เป็นผลไม้วิญญาณที่อยู่ในห้วงมิติ ตอนนั้นเหล่าไป๋แอบกินเข้าไป กลับกลายเป็นมังกรขาวไปแล้ว ต่อมาข้าศึกษาดูแล้ว ผลไม้นี้หากสัตว์กินเข้าไปจะทำให้กลายพันธ์และเพิ่มพลังได้ แต่หากผู้ฝึกตนกินเข้าไปจะทำให้ทะลวงขั้นพลังได้ หากโชคดี อาจได้กล้าวิญญาณกลายพันธ์มาด้วย”
“กล้าวิญญาณกลายพันธ์?” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตะลึงเล็กน้อย “ผลไม้วิญญาณนี่น่ะหรือ?”
“อืม ข้าเคยอ่านเจอในตำราโบราณเล่มหนึ่ง แต่ข้ายังไม่เคยกิน ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ อีกอย่างต้นไม้ขวดก็มีผลแค่ไม่กี่ลูก ข้ารู้มาจากตำราโบราณ ต้นไม้ขวดประเภทนี้ผลิดอกออกผลในรอบร้อยปี ติดผลมากสุดในครั้งหนึ่งก็เพียงไม่กี่ลูก ท่านเดินทางออกนอกสมุทรคราวนี้ หากมีโอกาสที่เหมาะสมก็ลองกินผลวิญญาณนี้ดูก็แล้วกัน!”
“อืม” เขาพยักหน้ารับคำ ก่อนกำชับว่า “เรื่องผลไม้นี้เจ้าอย่าให้ใครรู้เล่า จะได้ไม่นำภัยมาสู่ตัว”
“ข้ารู้” เธอรับคำเสียงเบา เอ่ยว่า “กลับเป็นท่านมากกว่า เดินทางครั้งนี้ต้องระวังตัวให้มาก อย่าประมาทเด็ดขาด จะต้องกลับมาหาข้าอย่างปลอดภัย”
ได้ยินอย่างนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อกระตุกมุมปาก กุมมือของเธอ “ข้ารู้ วางใจเถิด!”
“ข้าจะให้ในครัวเตรียมสราอาหารสักสองสามอย่าง พวกเราไปกินที่ศาลาข้างหน้ากันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วเสนอ
“ได้”
เขาจูงมือเธอเดิน หลังจากเดินเล่นในลานสวนรอบหนึ่ง ก็มานั่งที่ศาลา ทั้งสองพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นาน บ่าวรับใช้ก็ยกสุราอาหารมาให้
ทั้งสองดื่มด่ำบรรยากาศอันสงบสุขในศาลา กระทั่งฟ้าเริ่มมืดจึงค่อยกลับเรือนไปพักผ่อน…
เช้าตรู่วันต่อมา เฟิ่งจิ่วมาที่จวนหลิง ส่งเซวียนหยวนโม่เจ๋อและเซียนจื๋อสุ่ยออกเดินทาง
………………………………….