เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1989 รักทั้งหมดของนาง ตอนที่ 1990 สอบถาม
ตอนที่ 1989 รักทั้งหมดของนาง ตอนที่ 1990 สอบถาม
ตอนที่ 1989 รักทั้งหมดของนาง
“ทั้งที่ข้าก็รูปงามและปราดเปรื่องไม่แพ้กัน เหตุใดไม่มีแม่นางมาชอบข้าบ้างเล่า?” ตู้ฝานคลี่พัดส่ายไปส่ายมาเบาๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มแสดงถึงความข้องใจและสงสัย
ได้ยินอย่างนั้น เหลิ่งหวาอดยิ้มไม่ได้ ถามว่า “ทำไม? เจ้าชอบแม่นางเสี่ยวเอ้อร์หรือ?”
ตู้ฝานหัวเราะเสียงดัง ส่ายหน้าตอบว่า “แม่นางเสี่ยวเอ้อร์จะว่าน่ารักก็น่ารัก เพียงแค่รูปร่างอ้วนกลมเกินไป ไม่ใช่แบบที่ข้าชอบ ข้าชอบหญิงงามที่มีทรวดทรงองค์เอวอวบอิ่ม นิสัยอ่อนโยนดุจสายน้ำ
ชายหนุ่มอย่างเรามักชอบหญิงงามรูปร่างโดดเด่น นี่เป็นสัญชาตญาณ เจ้าว่า ใครจะปล่อยหญิงงามรูปร่างดีไป แล้วไปชอบแม่นางน้อยที่อ้วนกลมกันเล่า?”
“ตู้ฝาน”
เหลิ่งหวาขานเรียกเขา ห้ามไม่ให้เขาพูดต่อ ทั้งสองเหลือบเห็นชายกระโปรงสีเขียวอ่อนที่มุมกำแพง คิดดูแล้วน่าจะเป็นแม่นางเสี่ยวเอ้อร์ยืนฟังพวกเขาคุยกันตรงนั้น คำพูดเช่นนี้หากปล่อยให้แม่นางได้ยินเข้า เกรงว่ามีแต่จะทำให้เสียใจ
เป็นอย่างที่เหลิ่งหวาคาดเดา คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือหยางเสี่ยวเอ้อร์ที่เดินย้อนกลับมา นางได้ยินพวกเขาคุยกันด้วยความบังเอิญ น้ำตารื้นเต็มเบ้าตา ก้มหน้ามองรูปร่างอ้วนกลมของตนเอง ยกมือขึ้นมาจับเอวตนเอง จับโดนแค่เนื้อ ไม่มีเอวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย นึกมาถึงตรงนี้ นางห้ามน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจไว้ไม่อยู่
แต่ก่อนไม่เคยรู้สึกเดือดร้อนที่ตนเองอ้วน แต่พอได้ยินคำพูดพวกนี้ ในใจกลับเจ็บปวดนัก นางไม่กล้าให้พวกเขารู้ว่าตนเองยืนอยู่ตรงนี้ เพียงจากไปอย่างเงียบๆ
เหลือบเห็นชายกระโปรงนั้นหายไปแล้ว เหลิ่งหวาหันกลับมามองตู้ฝาน “เจ้าพูดอย่างนี้เกินไปแล้ว อย่างไรนางก็เป็นแม่นาง คงรู้สึกขายหน้าแย่”
ตู้ฝานขยับพัดในมือเบาๆ พลางยิ้ม “ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้น ถึงแม้บางครั้งการพูดความจริงจะทำให้คนฟังเสียใจ แต่ตอนนี้แม่นางเสี่ยวเอ้อร์อยู่ในวัยสาวแรกแย้ม หากไม่มุ่งมั่นตั้งใจ จะเปลี่ยนรูปร่างตนเองได้อย่างไร หากเปลี่ยนแปลงตนเองจะทำให้นางหาสามีได้ง่ายขึ้นไม่ใช่หรือ?”
เหลิ่งหวาส่ายหน้า “พูดอย่างนี้ไม่ถูก หากชอบคนคนหนึ่งจริงๆ ก็ชอบทุกอย่างของนาง จะรังเกียจนางเพราะนางอ้วนได้อย่างไรกัน รักแรกพบนั้นเกิดจากหน้าตา แต่รักที่ยั่งยืนนั้นเป็นเพราะเรารักใครสักคนจริงๆ”
ได้ยินอย่างนี้ ตู้ฝานยิ้มๆ เอ่ยหยอกเย้าว่า “เจ้ายังไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทำให้ใจเต้นไม่ใช่หรือ? ทำไมจึงเข้าใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ดีนักเล่า? หรือว่า เจ้ามีนางในดวงใจแล้ว?”
“ข้าอยู่กับนายท่านมานาน ย่อมเข้าใจเรื่องพวกนี้บ้างอยู่แล้ว” เหลิ่งหวายิ้มบอก “หรือว่า เจ้าคิดว่าเจ้าตำหนักรักนายท่านแค่เพียงเพราะรูปร่างหน้าตา?”
“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?” ตู้ฝานตอบโดยไม่คิด “ข้าได้ยินมาว่าตอนที่เจ้าตำหนักกับนายท่านรู้จักกัน นายท่านยังเสียโฉมด้วย แม้แต่ในเวลาต่อมาก็เป็นเพราะผ่านอะไรมาด้วยกัน ถึงได้ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น กระทั่งตอนนี้ ข้าเชื่อว่าแม้นายท่านจะสูญเสียทุกอย่างไป ไม่ว่ารูปโฉมหรือพลังของนาง เจ้าตำหนักก็ยังจะรักนางเหมือนเดิม”
เหลิ่งหวาพยักหน้า ยิ้มเอ่ย “ฉะนั้น การรักใครสักคนจริงๆ เราก็จะรักทั้งหมดของนาง ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่นหรือจุดด้อย ในสายตาของคนรักกัน นั่นล้วนเป็นจุดเด่น” เหมือนกับนายท่านและเจ้าตำหนัก
ได้ยินอย่างนั้น ตู้ฝานจ้องพิจารณาเหลิ่งหวาอย่างจริงจัง นัยน์ตาของเขาไหวระริก ยิ้มถามว่า “หมายความว่า หากเจ้ารักแม่นางเสี่ยวเอ้อร์ เจ้าก็จะไม่ถือสาเรื่องที่นางตัวอ้วนกลม?”
เหลิ่งหวาเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ย้อนถามด้วยความเหนื่อยหน่าย “ปัญหาก็คือ เจ้าคิดว่าข้าจะรักนางหรือ?”
………………………………….
ตอนที่ 1990 สอบถาม
เดิมเขาก็ไม่เคยมีความคิดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อยู่แล้ว เพียงต้องการติดตามนายท่านเพื่อรับใช้นาง จะมีใจให้แม่นางเสี่ยวเอ้อร์ได้อย่างไรกัน!
ตู้ฝานหัวเราะเบาๆ “โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ของอย่างวาสนา ใครจะไปรู้เล่า!” เขาลุกขึ้น เดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
เวลาทั้งวันหลังจากนั้น หยางเสี่ยวเอ้อร์หลบหน้าเหลิ่งหวาตลอด นางไม่กล้าไปเสนอหน้าต่อหน้าเขาอีก เพราะคำพูดของเขาทำให้นางรู้สึกต่ำต้อย โดยเฉพาะบุคลิกอ่อนโยนและใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นของเขา นางนึกถึงคำพูดของตู้ฝานเมื่อใด กอปรกับเห็นเหลิ่งหวา ก็รู้สึกเหมือนไม่กล้าเงยหน้าสู้หน้าเขา
เหลิ่งหวาเห็นอย่างนั้นก็เหนือความคาดหมาย เห็นนางหลบหน้าตนเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ส่วนเฟิ่งจิ่วสะสางเรื่องราวในหอยาสวรรค์เสร็จ และกลั่นยาเสร็จหนึ่งเตาก็เตรียมตัวจะกลับจวนเฟิ่ง ทว่าพอมาถึงชั้นหนึ่ง กลับเห็นหยางเสี่ยวเอ้อร์กำลังเช็ดโต๊ะอย่างห่อเหี่ยว จึงอดเรียกเหลิ่งหวามาสอบถามไม่ได้
“เสี่ยวเอ้อร์เป็นอะไรไป? เมื่อเช้ายังเห็นนางตื่นเต้นดีใจ เหตุใดตอนนี้กลายเป็นอย่างนี้? หรือนางไม่คุ้นชินกับงาน?”
เหลิ่งหวาได้ยินก็อดยิ้มแห้งไม่ได้ ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้เธอฟัง
“เรื่องก็เป็นอย่างนี้ขอรับ ข้าเห็นนางหลบหน้าข้าตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว ยามพูดคุยก็ไม่กล้าเงยหน้ามองข้า ข้ากำลังคิดว่าตู้ฝานพูดแรงเกินไปหรือไม่ ข้าต้องไปคุยกับนางสักครั้งรึไม่?”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้ม “ที่แท้ก็อย่างนี้เอง เอาล่ะ เจ้าไปทำงานเถิด! เรื่องนางปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” เธอพยักหน้าให้เหลิ่งหวา ก่อนจะเดินไปหาเสี่ยวเอ้อร์
“เสี่ยวเอ้อร์”
“พี่หญิงเฟิ่ง” หยางเสี่ยวเอ้อร์เงยหน้ามองเธอ “ท่านจะกลับแล้วหรือ?”
“อืม ข้าตั้งใจจะกลับแล้ว เจ้าเป็นอะไรไป? วันนี้ทำงานได้หรือไม่?” เธอยิ้มถาม
“ทำได้เจ้าค่ะ ช่วยงานที่นี่ไม่ยาก” นางพูดไปๆ ก็ก้มหน้าต่ำ แม้ทำงานที่นี่จะไม่ยาก แต่ในเวลาหนึ่งวันที่ผ่านมานางก็รู้สึกได้แล้ว คนที่มาซื้อของชอบหญิงขายยาที่รูปร่างหน้าตาดีพวกนั้นมากกว่า พวกเขาไม่ค่อยมาหานาง
เห็นอย่างนี้ เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ข้ายังตั้งใจว่าจะออกไปซื้อของสักหน่อยด้วย เจ้าออกไปกับข้าเถอะ!”
“ได้” นางรับคำ ก่อนจะเดินออกมาจากด้านในโต๊ะ แล้วเดินตามเฟิ่งจิ่วออกไป
มาข้างนอก นางเอาแต่ก้มหัวและกำชายกระโปรงตลอดทาง คล้ายกำลังครุ่นคิด เงยหน้ามองเฟิ่งจิ่วทำท่าจะพูดแต่ก็หยุดไปหลายครั้ง
“ทำไมรึ? เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้างั้นหรือ?” เห็นนางไม่เอ่ยปากเสียที เฟิ่งจิ่วจึงยิ้มถาม
หยางเสี่ยวเอ้อร์มองนางที่อยู่ข้างๆ ดวงหน้างามล้ำ ชุดสีแดงเพลิง รูปร่างโค้งเว้าได้รูป ยามเดินอยู่บนถนนมีคนเหลียวหลังมองมากมาย สายตาลุ่มหลงในความงามของผู้ชาย และสายาริษยาของผู้หญิงเหล่านั้น ล้วนจับจ้องมาที่นาง
“พี่หญิงเฟิ่ง ผู้ชายล้วนชอบหญิงงามหรือ? พวกเขาล้วนชอบหญิงงามโดยสัญชาตญาณงั้นหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ เดินไปพลาง เล่าเรื่องที่เธอกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อรู้จักกันให้นางฟังไปพลาง พร้อมกับซื้อของตามข้างทางไปด้วย เพื่อเตรียมเอาไว้ให้เจ๋อพกยามออกเดินทาง
“เรื่องก็เป็นอย่างนี้ ตอนนั้นข้ายังเสียโฉมด้วยนะ ต่อมาก็เอาแต่ขัดแย้งโต้เถียงกันตลอด ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่เริ่มใกล้ชิดกัน ที่จริง ผู้ชายชอบความงงามนั้นเป็นสัญชาตญาณ แต่การจะมัดใจผู้ชายได้อย่างแท้จริง กลับไม่ใช่หน้าตาและรูปร่าง ทว่าเป็นตัวเจ้าเอง หัวใจของเรางาม จึงเรียกว่าความงามที่แท้จริง”
เธอยิ้มๆ มองนางที่อยู่ข้างๆ “หากคนคนหนึ่งรักเจ้าจริง ไม่ว่าเจ้าจะผอมหรืออ้วน ในสายตาของเขาล้วนงามทั้งนั้น ไม่มีใครเทียบได้”
………………………………….