เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1118 เหยื่อและผู้กระทำผิด
บทที่ 1118 เหยื่อและผู้กระทำผิด
……….
บทที่ 1118 เหยื่อและผู้กระทำผิด
ในท้ายที่สุด ซูอันเริ่มปวดหัวจึงให้ทั้งสองออกไป อาการบาดเจ็บของเขาเกือบจะหายเป็นปกติแล้ว จะไม่เป็นการเปิดโปงตัวเองเหรอ ถ้าจะไปโรงแพทย์ในตอนนี้? เขาไม่รู้สึกอยากออกจากวัง ดังนั้นจึงกลับไปที่บ้านพักทูตยุทธ์เสื้อแพรและพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม
หลังจากนั้นไม่นาน ซูอันก็ได้รับข่าวว่าซือจวิ้นถูกจับแล้ว เขาเปลี่ยนเป็นเครื่องแบบทูตยุทธ์เสื้อแพรทองหมายเลขสิบเอ็ดและมุ่งหน้าไปยังตำหนักถักแพร มีข้อสงสัยมากมายที่ต้องได้รับการยืนยันกับซือจวิ้น
สถานะของซูอันในหมู่ทูตยุทธ์เสื้อแพรตอนนี้ค่อนข้างสูง แม้ว่าคดีนี้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบอีกต่อไป แต่ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ขณะนี้จูเซี่ยฉือซินกำลังสอบปากคำซือถงเกี่ยวกับหน้าไม้มหากาฬและผู้บ่มเพาะที่โดดเด่นทั้งสาม
ซือจวิ้นนั่งผมกระเซิงอยู่ในคุก ทั้งตัวดูกระสับกระส่าย ไม่เหลือรูปลักษณ์ที่หยิ่งจองหองอย่างในอดีตอีกต่อไป เมื่อได้ยินว่ามีคนมา เขาพูดอย่างอ่อนแรง “ได้โปรดอย่าถามอะไรข้าอีก… เรามีป้ายทองเว้นโทษตาย ข้าจะไม่พูดอะไร…”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “แต่ตอนนี้เจ้าไม่มีป้ายทองเว้นโทษตายติดตัวอยู่นะ”
ซือจวิ้นสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียง ดวงตาหรี่ลงทันทีเมื่อหันกลับมาและเห็นร่างที่คุ้นเคย เขายังคงฝันร้ายเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งก่อนกับทูตยุทธ์เสื้อแพรทองคนนี้
รอยยิ้มของซูอันจางหายไปในขณะที่พูดว่า “ข้าก็ไม่อยากเสียเวลาเหมือนกัน ถ้าข้าถาม เจ้าก็แค่ตอบ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้เจ้ารู้สึกว่าอยู่มิสู้ตาย”
“ตกลง ๆ โปรดถามมา” ซือจวิ้นพูดอย่างลุแก่โทษ คนฉลาดรู้ว่าเมื่อใดควรเลือกต่อสู้ ข้าจะจัดการเรื่องเฉพาะหน้าไปก่อน แล้วพ่อจะต้องหาทางช่วยข้าอย่างแน่นอน!
“เจ้ารู้จักซินรุ่ยได้ยังไง?” ซูอันถาม
ซือจวิ้นลังเล แต่ยังคงตอบว่า “ข้าทำหน้าที่ที่ประตูหวงมาหลายปี จึงเข้าไปในวังได้โดยง่าย อยู่มาวันหนึ่งข้าบังเอิญชนกับนางกำนัลคนหนึ่ง นางยังคงขอโทษข้าด้วยท่าทางที่หวาดกลัว เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอและตื่นตระหนกของนาง ข้าก็อดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจ ต่อมานางนำชาร้อยดอกไม้มาให้แทนคำขอบคุณ นั่นคือตอนที่ข้ารู้ว่านางคือซินรุ่ย นางกำนัลของวังร้อยดอกไม้…”
มีความอ่อนโยนเล็กน้อยในดวงตาของซือจวิ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต วันเวลาของเขากับนางกำนัลที่น่ารักคนนั้นช่างเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเห็นได้ชัด
ซูอันถามอย่างรวดเร็วว่า “นางเป็นคนที่ชนเจ้าหรือเจ้าชนนาง?”
ซือจวิ้นขมวดคิ้ว “ข้ามีหน้าที่ตรวจสอบระเบียบของเจ้าหน้าที่ คงไม่คิดทะลึ่งตึงตังกับนางกำนัลหรอก? แล้วทำไมมันถึงสำคัญว่าใครชนใคร?”
“ข้าลืมไป” ซูอันยิ้มและพูดต่อ “จากนั้นเจ้าสองคนก็เริ่มเข้ากันได้ใช่ไหม?”
ซือจวิ้นพยักหน้า “ตอนแรกนางเป็นเพียงนางกำนัล แต่ผู้หญิงทุกคนในวังเป็นของฝ่าบาท ข้าจึงไม่กล้าแตะต้องนาง แต่นางบอกข้าว่า นางทำงานในวังตั้งแต่ยังเด็ก และตอนนี้นางอายุมากแล้วจึงสามารถออกจากวังได้ ข้าก็มีความรู้สึกดี ๆ กับซินรุ่ยเช่นกัน จึงคิดว่าจะรับนางเป็นภรรยา นี่เป็นสาเหตุที่ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป”
“แล้วข้าก็รู้ว่านางมีแม่และน้องชายอยู่ในชนบท ข้าเลยช่วยพาพวกเขามาที่เมืองหลวงเพื่อตั้งรกรากที่นี่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ นางทะเลาะกับข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้” ซือจวิ้นอธิบาย ดูเหมือนสับสน “ถึงอย่างนั้น ความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้นอีกครั้ง และเริ่มฝันถึงอนาคตอย่างมีความสุข”
ซูอันพูดอย่างเย้ยหยันว่า “ฟังดูดีราวกับกำลังบรรยายถึงผู้ชายคนหนึ่งที่มีความรักอย่างลึกซึ้ง แต่น่าเสียดายที่เจ้ามีแรงจูงใจอื่นในการเข้าหาซินรุ่ย เจ้าอาจชอบนางในฐานะนางกำนัลของพระสนมไป่ เพราะรู้ว่าวันหนึ่งจะใช้ประโยชน์จากนางได้ แน่นอนว่าในภายหลังเจ้าส่งนางไปใส่ร้ายองค์หญิงรัชทายาทและซูอัน สำหรับการพาแม่และน้องชายของนางมาเมืองหลวง ข้าถือว่าเจ้าแค่ใช้พวกเขาเป็นตัวประกัน”
สีหน้าของซือจวิ้นเปลี่ยนไป “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะไร!?”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “เจ้าไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ ตอนนี้มันหมดความหมายแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดตระกูลซือก็จบสิ้น”
ซือจวิ้นรู้ว่าสิ่งที่ทูตยุทธ์เสื้อแพรทองพูดคือความจริง ไม่เพียงแต่การลอบสังหารล้มเหลว ทุกคนที่เกี่ยวข้องกลับถูกจับแทน สถานการณ์ดูเลวร้ายมาก ตอนนี้ความหวังเดียวของเขาคือป้ายทองเว้นโทษตาย ไม่แน่ใจว่ามันจะสามารถช่วยชีวิตของเขาได้หรือไม่
เขากัดฟันด้วยสีหน้าชั่วร้ายแล้วพูดว่า “มันเป็นความผิดของน้องชายนาง! ถ้าไม่ใช่เพราะเขาชอบเล่นการพนันและถูกทูตยุทธ์เสื้อแพรจับกุม ทำไมเราถึงต้องถูกกดดันถึงขนาดใช้กำลัง?”
“เพื่อผลประโยชน์ของฮัวเป่า เจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสียสละเจ้าของบ่อนคนนั้น ข้าเดามานานแล้วว่าตระกูลซือคอยสนับสนุนบ่อนนั้นอยู่ ท้ายที่สุดก็เป็นพวกเจ้าที่สนับสนุนสำนักดอกบ๊วยให้เปิดบ่อนในเมืองจันทร์กระจ่าง” ซูอันถอนหายใจ
ซือจวิ้นแสดงท่าทางประหลาดใจ คิดกับตัวเองว่าเครือข่ายข้อมูลของทูตยุทธ์เสื้อแพรนั้นกว้างขวางจริง ๆ พวกเขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองจันทร์กระจ่างด้วย!
ซูอันกล่าวต่อ “นี่คือเหตุผลที่พวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับอ๋องอู๋และล่อซูอันไปที่บ้านของซินรุ่ย เจ้าจะฆ่าเขาที่นั่นแล้วโยนความผิดทั้งหมดให้เขา เพราะคนตายพูดไม่ได้”
“อ๋องอู๋? อ๋องอู๋อะไร?” ซือจวิ้นถามด้วยความงุนงง
ซูอันรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้สีหน้าของชายคนนี้ไม่ได้เสแสร้ง
“ทำไม? คนของเจ้าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับอ๋องอู๋ใส่ร้ายซูอันและองค์หญิงรัชทายาทงั้นเหรอ?” ซูอันถาม
ซือจวิ้นหัวเราะเยาะ “ฮ่า ๆ ตอนแรกก็ถามข้าว่าเกี่ยวข้องอะไรกับราชันลมปราณ แต่ตอนนี้ จู่ ๆ ก็กลายเป็นอ๋องอู๋ ทูตยุทธ์เสื้อแพรอย่างเจ้านี่เก่งในการใส่ร้ายผู้อื่นมากจริง ๆ!”
“นอกจากนี้ ซูอันหรืออะไรก็ตาม… มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับไอ้คนผู้นั้นบ้าง? เหตุใดคนที่เป็นถึงอ๋องจะต้องทำทุกอย่างเพียงเพื่อจัดการกับเขา” ซือจวิ้นอารมณ์เสียทุกครั้งที่นึกถึงซูอัน หากไม่ใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างซูอันและน้องชายคนที่หกของเขา ตระกูลซือคงไม่ตกต่ำถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตบหน้าที่ประตูวังนั้นช่างน่าอัปยศอดสูเหลือเกิน ทำไมเขาต้องยอมรับว่าชายคนนั้นมีความสำคัญ?
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +411 +411 +411…
—
ซูอันพูดไม่ออกเมื่อเห็นคะแนนความโกรธแค้นที่เข้ามา เขาหยิบแส้ขึ้นมาแล้วฟาดลงไปที่ซือจวิ้นทันที “อย่ามาเล่นลิ้น!”
“อ๊าก…!” ซือจวิ้นร้องด้วยความเจ็บปวด เครื่องมือที่ทูตยุทธ์เสื้อแพรใช้ทุกชิ้นล้วนคล้ายกับแส้คร่ำครวญ มันยากที่จะทนรับความเจ็บปวดได้ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายลงไม้ลงมือทำไม แต่ก็ไม่กล้าถาม ทำได้เพียงจ้องมองด้วยความขุ่นเคือง
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +55 +55 +55…
—
“ใครเป็นต้นคิดที่จะทำร้ายซูอัน? ทำไมเจ้าถึงรู้สึกว่าสามารถยัดเยียดความผิดทั้งหมดให้เขาได้?” ซูอันถามต่อ
“เจ้าหนูนั่นช่างน่ารำคาญยิ่งนัก ใคร ๆ ก็อยากให้มันตาย” ซือจวิ้นตะคอกด้วยความโกรธ “การที่มันมีส่วนพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวร่วมกับองค์หญิงรัชทายาท หมายความว่ามันตกเป็นผู้ต้องสงสัย ถ้ามันตายในบ้านของซินรุ่ย เราก็สามารถโยนความผิดทั้งหมดไปให้มันได้”
ซูอันพูดอย่างเย้ยหยันว่า “น่าเสียดายที่เจ้าไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการใส่ร้ายเขา แต่ยังจบลงด้วยการเปิดเผยตัวเองด้วย”
“เพื่อช่วยฮัวเป่าคนงี่เง่าคนนั้น เราจึงเปิดโปงเจ้าของบ่อน หลังจากทำให้เจ้าของบ่อนเงียบ เราก็ส่งเจียซืออี๋ออกไป ด้วยข้อมูลของทูตยุทธ์เสื้อแพร เจ้าจะพบว่าเป็นพวกเราไม่ช้าก็เร็ว หากเราโจมตีก่อนก็อาจจะเหลือหนทางเอาชีวิตรอดให้ตัวเอง” ซือจวิ้นกล่าวอย่างโกรธเคือง “น่าเสียดายที่ซูอันมักจะมีโชคโง่ ๆ จัดการเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นพรได้เสมอ”
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +444 +444 +444…
—
ซูอันหัวเราะออกมาดัง ๆ “เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นบุตรแห่งโชค แต่เจ้าก็ยังมุ่งเป้าไปที่เขา แน่นอนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่เจ้าต้องการ”
ซือจวิ้นถ่มน้ำลายลงบนพื้น “ถุย! ไอ้นั่นเป็นเพียงหมาข้างถนน ถ้ามันเป็นบุตรแห่งโชค งั้นข้าจะยกมือขึ้นแล้วกินอึเดี๋ยวนี้!”
—
ท่านยั่วยุซือจวิ้นสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +888 +888 +888
—
……….