เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1109 ก้าวหน้า
บทที่ 1109 ก้าวหน้า
……….
บทที่ 1109 ก้าวหน้า
ซูอันถอดหน้ากากออกเช่นกัน เขาพูดด้วยรอยยิ้มคลุมเครือ “แม่นาง เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามีคนอื่นอยู่ที่นี่ด้วย?”
อวิ๋นอวี้ชิงค่อย ๆ เข้าสู่บ่อน้ำพุร้อน มีเพียงไหล่ที่เนียนใสและกระดูกไหปลาร้าที่สวยงามของนางเท่านั้นที่เปิดเผย นางพูดว่า “เจ้าแตกต่างจากคนอื่น”
“ข้าไม่ใช่อ๋องอู๋” ซูอันถอนหายใจ ชายเจ้าสำราญตัวจริงไม่ควรปล่อยให้ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาอดพูดไม่ได้เมื่ออยู่กันแค่สองคน เฮ้อ ทำไมข้าถึงทำเป็นเล่นกับความรู้สึก? แบบนี้ข้าจะต้องตกลงไปในบ่วงรักเข้าสักวันแน่นอน
อวิ๋นอวี้ชิงต้องการพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุด สุดท้ายแล้วนางไม่ได้อธิบายอะไรและได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด
ซูอันเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ “จัดการพิษของเจ้าก่อน เราจะรอช้าไม่ได้แล้ว”
“ตกลง” อวิ๋นอวี้ชิงตอบ จากนั้นนางหลับตาและมือทั้งสองวาดไปในอากาศ อักขระเก้าตัวค่อย ๆ ปรากฏขึ้น และค่อย ๆ ร่อนลงไปในน้ำ ปกคลุมผิวน้ำราวกับชั้นทองคำบาง ๆ
จากนั้นอวิ๋นอวี้ชิงมุ่งเน้นไปที่การกำจัดพิษ ครู่ต่อมาซูอันสังเกตเห็นว่าพลังงานสีดำออกจากร่างกายของนางและละลายลงไปในน้ำ จากนั้นอักขระสีทองสะบัดไปรอบ ๆ พลังงานสีดำค่อย ๆ ถูกกลั่นกรองจนในที่สุดก็หายไปจากบ่อน้ำ
ซูอันตกใจมาก มีตำนานบอกเล่าว่าเผ่าปีศาจล้วนชั่วร้าย แต่อวิ๋นอวี้ชิงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ถึงขนาดที่ใช้อักขระชำระล้างพิษที่เหลืออยู่ เพราะกลัวว่าพิษจะเป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์หากปล่อยให้มันระบายออกไปสู่ภายนอก
หลังจากเวลาผ่านไปอวิ๋นอวี้ชิงลืมตาขึ้นอีกครั้ง แก้มที่แดงระเรื่อของนางดูน่ารักท่ามกลางไอน้ำสีขาว นางพูดว่า “อาซู ข้ากำจัดพิษศพหมดแล้ว”
ซูอันถอนหายใจด้วยความโล่งอกและตอบว่า “ดูเหมือนว่าสองคนนั้นไม่ได้หลอกลวงเรา”
อวิ๋นอวี้ชิงยิ้มและพูดว่า “พวกเขาทั้งคู่เป็นบุคคลสำคัญจากชายแดนใต้ ในอนาคตถ้าข้ากับพวกเขาได้มันน่าจะช่วยเจ้าได้มาก”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ จริง ๆ แล้วเขามีคำถามมากมายที่อยากถามนาง แต่กังวลว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีกหากถามออกไป
อวิ๋นอวี้ชิงว่ายมาที่ริมบ่อแล้วพูดว่า “อาซูหมอบลงตรงนี้”
ซูอันไม่รู้ว่าทำไมนางถึงพูดแบบนี้ อวิ๋นอวี้ชิงลูบไล้หน้าอกของเขาเบา ๆ และถอดเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ออก เมื่อนางเห็นว่าร่างกายส่วนใหญ่ของซูอันโชกไปด้วยเลือด นิ้วของนางสั่นเล็กน้อยขณะที่ถามว่า “เจ็บไหม?”
“ก่อนหน้านี้ไม่เจ็บ แต่ตอนนี้เมื่อมือเล็ก ๆ ของเจ้าสัมผัสมัน บางทีมันอาจจะเจ็บเล็กน้อย” ซูอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวิ๋นอวี้ชิงเสียสมาธิไปชั่วขณะ นี่คือสิ่งที่เขาพูดครั้งสุดท้ายในคฤหาสน์อ๋องอู๋ที่เมืองแผ่นฟ้าแดนเหนือ นางมองเขาอย่างหงุดหงิดแล้วต่อว่า “ดูสภาพเจ้าสิ! ถึงอย่างนี้ก็ยังพูดจาล้อเล่นอยู่อีก”
ซูอันกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล ข้ามาถึงระดับเจ็ดแล้ว ดังนั้นข้าจึงสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าเมื่อก่อน ข้าจะไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
อวิ๋นอวี้ชิงส่ายศีรษะ “แม้ว่าผู้บ่มเพาะขั้นสูงสุดของระดับเจ็ดจะมีความสามารถในการฟื้นฟูที่ทรงพลัง แต่คนธรรมดาอาจระเบิดแหลกเป็นชิ้น ๆ หากโดนยิงด้วยหน้าไม้มหากาฬ แม้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตมาได้ด้วยความบังเอิญ แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีในการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บประเภทนี้ และอาจมีความเสียหายตกค้างอยู่ แม้ว่าเลือดจะหยุดไหลแล้วแต่บาดแผลภายในก็ไม่หายง่ายนัก รีบเข้ามาสิ ข้าจะช่วยรักษาให้เอง” ไม่ว่านางจะมีสถานะเป็นปรมาจารย์ด้านอักขระหรือเผ่าปีศาจก็ตาม นางก็มีวิธีการรักษาบาดแผลเช่นกัน
ซูอันถามด้วยท่าทางแปลก ๆ “เจ้าไม่ถือเหรอ?”
อวิ๋นอวี้ชิงดูหงุดหงิดขณะที่ตอบว่า “กับความสัมพันธ์ของเรา เจ้ากังวลเรื่องอะไร?”
ซูอันหัวเราะเบา ๆ “ข้านี่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย” จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าและเดินเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน
อวิ๋นอวี้ชิงว่ายเข้ามาช่วยเขาทำความสะอาดบาดแผลอย่างอ่อนโยน ในเวลาเดียวกัน มืออีกข้างของนางกะพริบแสงเพื่อช่วยฟื้นฟู นางพูดว่า “ข้าผิดเองที่มาช้า เจ้าเลยได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้” ดวงตาคู่งามเริ่มแดง หยดน้ำใสเปล่งประกายประดับขนตายาวงอน
ซูอันส่ายศีรษะ “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ารีบมาทันเวลา ข้าคงไม่มีชีวิตรอดอยู่จนถึงตอนนี้” อวิ๋นอวี้ชิงกัดริมฝีปากและไม่พูดอะไรต่อขณะที่ช่วยเหลือเขาอย่างตั้งใจ
ซูอันหลับตา แม้ว่าวิชาปฐมบทแรกเริ่มได้เริ่มซ่อมแซมร่างกายของเขาแล้วหลังจากต่อสู้มานาน แต่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการรักษาในขณะนี้ได้ เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอวิ๋นอวี้ชิงคอยช่วยอยู่หรือไม่? แต่ในตอนนี้พลังปฐมบทดูแข็งแกร่งกว่าปกติมาก
เขาไม่ยอมเสียโอกาสนี้ไป รวบรวมพลังปฐมบทเข้าสู่บาดแผล จากนั้นบาดแผลฉกรรจ์แต่เดิมก็เริ่มส่งเสียงดังฉ่าและสมานตัวในอัตราที่มองเห็นได้
ทันใดนั้น ซูอันก็ได้ยินเสียง ‘ติ๊ง!’ ในหัวของเขา ราวกับได้รับความรู้แจ้งในทันใด เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอากาศรอบตัวเขามีกลิ่นหอมหวานมากขึ้น ก่อนหน้านี้เขารู้สึกราวกับว่าพลังชี่กำลังไหลผ่านถนนลูกรังชนบทที่เต็มไปดินแดง ตอนนี้มันไหลเวียนอย่างรวดเร็วราวกับกำลังเดินทางบนถนนคอนกรีต
“อะไรกัน?” ซูอันทั้งดีใจและประหลาดใจ
เสียงหมี่ลี่พูดขึ้นในหัวของเขาว่า “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเด็กเหลือขออย่างเจ้าจะสำเร็จขั้นที่สามของวิชาปฐมบทแรกเริ่มได้เร็วขนาดนี้ จิ๊ โชคดีอะไรอย่างนี้” ตัวตนที่สวมชุดสีแดงของนางลอยอยู่ข้างกระบี่ไท่เอ๋อร์ในสภาพกึ่งโปร่งแสง
ซูอันรู้สึกประหลาดใจและกล่าวว่า “ในที่สุดท่านก็ออกมา พี่หญิงใหญ่! ก่อนหน้านี้ข้าเกือบตายแต่ท่านก็ไม่ออกมา”
หมี่ลี่ไม่พอใจ “ข้าบอกแล้วว่าเจ้าต้องกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่แท้จริงให้ได้ ดังนั้นอย่าพึ่งพิงข้า ถ้าแม้แต่ผู้ไม่หวังดีระดับต่ำพวกนั้นก็สามารถคร่าชีวิตเจ้าได้ ข้าก็อาจจะตายไปด้วยเช่นกัน”
ซูอันพูดไม่ออก เฮ้อ พี่หญิงใหญ่ยังเป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนเดิม นางเหมือนอาจารย์ที่เข้มงวดที่ต้องการให้นักศึกษามีอนาคตที่ดี
“ว่าแต่ตอนนี้วิชาปฐมบทแรกเริ่มได้มาถึงขั้นที่สามแล้ว มีประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง?” ซูอันจำได้ว่าขั้นแรกทำให้เขามีความสามารถในการฟื้นฟูที่ทรงพลัง และขั้นที่สองมีความสามารถในการชำระล้างวิญญาณชั่วร้าย ขั้นที่สามนี้จะมีอะไรเพิ่มเติมอีก?
“มันสามารถทำให้เจ้าทนต่อพิษทั้งหมดได้” หมี่ลี่พูดด้วยรอยยิ้มที่คลุมเครือ “อย่างน้อยที่สุดเจ้าจะไม่ถูกวางยาเหมือนครั้งที่แล้วที่เป็นลมไปพร้อมกับองค์หญิงรัชทายาท”
ซูอันหน้าแดงและพูดว่า “ครั้งที่แล้วข้าประมาทเกินไป”
ในขณะเดียวกันเขาก็ค่อนข้างหวั่นไหว การมีภูมิคุ้มกันต่อพิษนั้นยอดเยี่ยมมาก! แม้ว่าผู้บ่มเพาะในโลกนี้จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าโลกก่อนหน้านี้มาก แต่พิษของโลกนี้ก็กลับแข็งแกร่งขึ้น แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับสูงก็ยากที่จะต้านทานได้ เมื่อคิดว่าต้องทนทุกข์จากพิษมาหลายครั้งแล้ว ภูมิคุ้มกันพิษนี้ช่วยให้เขาคลายกังวลไปได้มาก
……….