เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] - บทที่ 1049 มอบหมายให้สืบเรื่อง
บทที่ 1049 มอบหมายให้สืบเรื่อง
บทที่ 1049 มอบหมายให้สืบเรื่อง
“อาซู!” ฉู่ชูเหยียนซอยเท้าถี่ ๆ เข้ามาหา เมื่อเห็นว่าสามีไม่ได้ถูกทุบตีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้?!” ซูอันรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขที่ได้พบนาง เขาคว้ามือเล็ก ๆ ที่เย็นยะเยือกไว้
ฉู่ชูเหยียนร้องเสียงดังและดึงมือกลับ ความสุขของนางหายไป กลับสู่ความเยือกเย็นตามปกติ “เจ้าคาดหวังว่าจะเป็นใครล่ะ? องค์หญิงรัชทายาท?”
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +77… +77… +77…
—
ซูอันฝืนหัวเราะ “ถ้าคนอื่นมองข้าอย่างนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่เจ้าคิดแบบนั้นได้อย่างไร?”
ฉู่ชูเหยียนดูค่อนข้างเจ็บปวด “ถ้าเป็นอย่างที่ข้าคิดจริง ๆ ข้าก็คงไม่มาเยี่ยมเจ้าแต่เช้า”
ซูอันรู้สึกอบอุ่นและจับมือเล็ก ๆ ของนางอีกครั้ง “ภรรยาของข้ามีค่ามากที่สุด”
ฉู่ชูเหยียนกล่าวต่อว่า “แม้ว่าจะเป็นชายเจ้าสำราญอย่างยิ่ง แต่จากความเข้าใจของข้า ต่อให้เจ้าจะโหยหาองค์หญิงรัชทายาทมากแค่ไหน เจ้าจะไล่ตามนางอย่างลับ ๆ เมื่อเจ้ามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าจะไม่มีปัญหา เจ้าจะไม่มีวันสร้างเรื่องราวใหญ่โตจนต้องย้ายที่นอนเช่นนี้”
ซูอันพูดไม่ออก ตอนนี้เรากำลังอยู่ในคุกหลวง! นี่เจ้าไม่พูดดังไปหน่อยเหรอ?
ราวกับเดาความคิดของเขาได้ ฉู่ชูเหยียนพูดว่า “เจ้ากลัวอะไร? เราต้องการให้พวกเขารู้เหตุผลว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรกับองค์หญิงรัชทายาทอย่างแน่นอน” นางมองผู้คุมสองคนที่กำลังฟังทุกอย่างอยู่
ผู้คุมมีสีหน้าแปลก ๆ พวกเขาหันศีรษะหนีทันทีราวกับไม่ได้ยินอะไรเลย แต่สักพักก็แลกเปลี่ยนสายตาและเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“คุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่เป็นสาวงามในตำนานอย่างที่ลือกันจริง ๆ! แต่ทำไมบุคลิกของนางถึงไม่เย็นชาอย่างที่คนอื่นพูดกันล่ะ?”
“ท่านซูโชคดีจริง ๆ ที่มีภรรยางดงามหยาดเยิ้มเช่นนี้ เขาจะทำอะไรบ้า ๆ กับผู้หญิงคนอื่นทำไมในเมื่อที่บ้านมีเทพธิดารออยู่!”
“ก็พูดยาก เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายจะเบื่อแม้กระทั่งผู้หญิงที่งดงามที่สุด นอกจากนี้องค์หญิงรัชทายาทยังจัดเป็นหญิงงามเช่นกัน”
“ให้ตายสิ! ข้าเกือบจะรู้สึกว่าเจ้ากำลังพูดถึงยายแก่ขี้บ่นที่บ้านข้า”
…
ในขณะเดียวกันซูอันถามว่า “ชูเหยียน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?”
“เมื่อวานข้ารอเจ้าทั้งคืน” ฉู่ชูเหยียนดูค่อนข้างรู้สึกผิดในขณะที่นางพูดต่อ “แต่แล้วโหยวเจาบอกข้าว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเจ้าและองค์หญิงรัชทายาท แต่น่าเสียดายที่กลางคืนล่วงไปแล้ว ข้าจึงเข้าไปในวังไม่ได้ ข้าทำได้แค่รอจนถึงเวลากลางวันเท่านั้นจึงขอให้ท่านตาอนุญาตให้เข้ามาได้
“ระหว่างทาง ข้าถูกขันทีชื่อเหวินขวางไว้ เมื่อพิจารณาว่ามีผู้คนมากมายอยู่ด้านหลัง เขาน่าจะเป็นขันทีคนสนิทของฝ่าบาท “เสียงของฉู่ชูเหยียนฟังดูเหมือนยังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง “ข้าคิดว่าข้าจะถูกจับแล้วถูกท่านตาลงโทษเสียแล้ว แต่เขากลับปล่อยข้าหลังจากถามถึงตัวตนของข้า มันแปลกจริง ๆ”
ซูอันยิ้ม เขาคิดกับตัวเองว่าเขาไม่ได้เสียของกำนัลเหล่านั้นแก่ขันทีเหวินโดยเปล่าประโยชน์
“จากนั้นหลังจากที่ข้ามาถึงคุกหลวง ข้าคิดว่าจะลองใช้สายสัมพันธ์ของท่านปู่และท่านตาว่าข้าจะผ่านแม่ทัพกองทหารฝ่ายขวาได้หรือไม่ แต่เมื่อเขาได้ยินว่าข้ามาหาเจ้า เขาก็ปล่อยให้ข้าเข้ามาทันที” ฉู่ชูเหยียนมองไปที่ซูอันอย่างแปลกใจ “ข้ารู้สึกว่าพวกเขาสองคนไม่ได้เห็นแก่หน้าท่านตา แต่เพราะชมชอบในน้ำใจของเจ้ามากกว่า สายสัมพันธ์ดี ๆ ทั้งหมดในวังนี้ เจ้าสร้างด้วยตัวเองเหรอ?”
ซูอันหัวเราะ “แน่นอน เจ้ารู้จักเสน่ห์ของข้าดี ทั้งชายและหญิงต่างก็ตกเป็นเหยื่อ…”
“ตกเป็นเหยื่อเหมือนที่เจ้าอยู่ในคุกหลวงตอนนี้?” ฉู่ชูเหยียนกล่าวขัดจังหวะอย่างเย็นชา
ซูอันเงียบไป อา… การถูกแหกหน้าในขณะที่กำลังโม้อย่างนี้ น่าอับอายอย่างยิ่ง…
ฉู่ชูเหยียน ถามอย่างรวดเร็ว “แล้วเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“แน่นอนว่าข้าถูกใส่ร้าย…” ซูอันย้ำสิ่งที่เขาบอกกับเหล่าเสนาบดีไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจนาง แต่นี่คือคุกหลวง มีหูมีตามากมาย ยังคงเป็นการดีที่สุดที่จะพูดอะไรที่ปลอดภัยไว้ก่อน
“ตระกูลซือ น่ารังเกียจเสียจริง!” เสียงของฉู่ชูเหยียนเย็นชา นางเคยประสบกับความไร้ยางอายของซือคุนด้วยตัวเอง และเกือบจะเสียชีวิตในมิติลับหยกจรัส นางจึงเชื่อทันทีเมื่อเขาบอกว่าเป็นตระกูลซือที่วางแผนเรื่องทั้งหมด
ซูอันถอนหายใจ “คงจะดีถ้าเป็นเพียงตระกูลซือ สิ่งที่ข้ากังวลก็คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้อาจเป็นราชันลมปราณ”
สีหน้าของฉู่ชูเหยียนเปลี่ยนไป “มันเป็นไปได้เหรอ? ราชันลมปราณมีชื่อเสียงดีเสมอมา ซ้ำเรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ด้วย มันน่าจะเสี่ยงเกินไปสำหรับเขาถ้าเรื่องจริงถูกเปิดเผย” ด้วยอิทธิพลของตระกูลฉินความประทับใจของนางที่มีต่อราชันลมปราณจึงไม่เลวร้ายนัก
“ข้าหวังว่าจะไม่ใช่เขา” สีหน้าของซูอันนั้นน่ากลัว “แต่ถึงจะไม่ใช่ เขาก็ยังใช้โอกาสนี้ทำให้ข้าและองค์หญิงรัชทายาทเกิดเรื่องอื้อฉาว ซึ่งจะทำให้ฝ่ายของรัชทายาทอ่อนแอลง”
“คงจะดีมากถ้าเจ้าตกลงตามข้ากลับไปที่เมืองจันทร์กระจ่าง” ฉู่ชูเหยียนคิดว่านี่เป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากถูกราชันลมปราณตามรังควานแบบนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากโศกเศร้าอยู่ครู่หนึ่ง นางถามอย่างรวดเร็วว่า “มีอะไรให้ช่วยไหม? ข้าคงปล่อยให้เจ้าถูกรุมโจมตีแบบนี้ไม่ได้”
ซูอันถอนหายใจด้วยความชื่นชม ภรรยาของเขาไม่ได้มีดีแค่ความงดงาม ไม่น่าแปลกใจที่นางสามารถจัดการกิจการของตระกูลฉู่ได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“มี เจ้าช่วยข้าค้นหาว่าขันทีและทหารคนไหนประกาศว่าเห็นข้าและองค์หญิงรัชทายาทอยู่ด้วยกัน ตรวจสอบภูมิหลังของทุกคนดูว่ามีความเกี่ยวข้องกับราชันลมปราณหรือตระกูลซือหรือไม่?” ซูอันร้องขอ “และช่วยข้าตรวจสอบนางกำนัลซินรุ่ยของวังร้อยดอกไม้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง”
“ซินรุ่ย?” ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง “นางมีความสัมพันธ์แบบไหนกับคดีนี้?” นางรู้สึกสับสน ซูอันไม่รู้จักชื่อคนอื่นที่เขาต้องการให้หาข้อมูล แต่กลับรู้ชื่อของบุคคลนี้
“เจ้ายังไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น แค่ช่วยตรวจสอบดูว่านางยังอยู่ในวังร้อยดอกไม้หรือไม่ ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ คงจะดีถ้าเจ้าสามารถช่วยข้าตรวจสอบภูมิหลังของนางได้” ซูอันไม่ได้อธิบายรายละเอียด เขาไม่สามารถบอกฉู่ชูเหยียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับองค์หญิงรัชทายาทในวังร้อยดอกไม้ได้ แต่กุญแจสำคัญของเรื่องทั้งหมดนี้คือซินรุ่ย เขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากภรรยา
“อืม” ฉู่ชูเหยียนไม่ได้ทำให้เรื่องยากขึ้นสำหรับเขา “แต่แม้ว่าข้าจะสามารถตรวจสอบทุกคนได้ แต่ทั้งหมดล้วนอยู่ในพระราชวัง การสืบข้อมูลจึงค่อนข้างช้า ข้ากังวลว่าอาจสายเกินไปสำหรับเจ้า”
ซูอันกล่าวว่า “มันไม่ใช่ปัญหา ไปหาจักรพรรดินีและขอความช่วยเหลือจากนาง แต่ที่สำคัญคือเจ้าต้องสอบสวนเรื่องของซินรุ่ยด้วยตัวเอง ไม่สามารถให้คนอื่นทำแทนได้”
“จักรพรรดินี?” ฉู่ชูเหยียนตกตะลึง “เราไม่มีมิตรภาพกับจักรพรรดินี นางคงไม่เต็มใจช่วย!”