เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2061 ผู้ใดเป็ นคนยุยงท่าน
คาพูดขององค์ชายหลิงปี๋ได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วอาณาจักร เกิงจิน
ผู้คนจ านวนมหาศาลตกตะลึง
องค์ชายหลิงหวงฉีสั่งให้องครักษ์รีบไปจับกุมตัวองค์ชายหลิงปี๋ แต่จังหวะนั้น ด้านหลังขององค์ชายหลิงปี๋ ก็มีผู้คนลุกขึ้นยืนขึ้นมา เป็ นจ านวนมาก
องค์ชายสวีเองก็ลุกขึ้นยืนตะโกนด้วยความโกรธแค้นว่า “ข้าได้ ยินมาจากท่านหมอหลวงว่าองค์จักรพรรดิหลิงจิวได้รับบาดเจ็บจาก การพยายามเลื่อนขั้นพลัง อาการบาดเจ็บนี้น่าจะรักษาได้ไม่ยากเย็น นัก แต่ไม่ทราบว่าเป็ นเพราะเหตุใด อาการบาดเจ็บของพระองค์จึง ทรุดลงเรื่อย ๆ เมื่อมาคิดดูในตอนนี้ ข้าถึงเพิ่งนึกออกว่าก็เพราะข้าง กายของพระองค์ท่านมีหลิงเฉินคอยดูแลอย่างไรเล่า นางตั้งใจทาให้ องค์จักรพรรดิหลิงจิวอ่อนแอลงและนามาสู่การสวรรคตในที่สุด”
แล้วองค์ชายสวีก็ยื่นมือออกมาข้างหน้า ในมือของเขาถืออะไร บางอย่างอยู่ด้วย
เป็ นศิลาวิเศษที่บันทึกคาให้การของหมอหลวงหลายคน
หมอหลวงทุกคนต่างก็ให้การตรงกันว่าอาการบาดเจ็บขององค์ จักรพรรดิหลิงจิวนั้น เดิมทีไม่มีอะไรรุนแรงเลย หลังจากได้รับการ รักษา พระองค์ท่านก็มีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นมาเป็ นอย่างดี แต่เมื่อมีห ลิงเฉินมาคอยดูแล อาการขององค์จักรพรรดิหลิงจิวกลับแย่ลงเรื่อย ๆ
เมื่อได้ยินคาให้การเหล่านี้ สีหน้าของทุกคนก็แปรเปลี่ยนไป
องค์ชายหลิงปี๋กล่าวขึ้นอีกครั้ง “ข้าได้สั่งให้คนแอบสืบสวนเรื่อง นี้ จึงได้รับทราบข้อมูลสาคัญว่าบุรุษที่อยู่ข้างกายหลิงเฉินในขณะนี้มี ตัวตนที่แท้จริงชื่อว่าหลินเป่ ยเฉิน เขาเป็ นจอมโจรอามหิตที่ก่อเหตุ ปล้นฆ่ามาหลายเขตแดนแล้ว”
เมื่อถ้อยคาเหล่านี้ถูกประกาศออกมา ทุกฝ่ายก็ส่งเสียงอุทานราว กับคลื่นสึนามิ
องค์ชายหลงอวี้พลันระเบิดเสียงค ารามด้วยความโกรธแค้น ออกมาเช่นกัน “แต่สิ่งที่น่ารังเกียจมากที่สุดก็คือบุรุษผู้นี้เป็ นพวกที่ สมคบคิดกับเผ่าพันธุ์ปีศาจ ครั้งหนึ่ง เขาถึงกับเคยร่วมมือกับสานัก เซวียนเสวี่ยของเผ่าพันธุ์ปีศาจอย่างเปิดเผยด้วยซ้า”
เสียงอุทานยังคงดังขึ้นไม่หยุดยั้ง
ไม่มีผู้ใดคาดคิดเลยว่าบรรดาองค์ชายเหล่านี้จะลุกขึ้นมา ก่อกวนสถานการณ์พร ้อม ๆ กัน
องค์ชายหลิงหวงฉีได้แต่สบถค าหยาบอยู่ในใจ
พวกขององค์ชายหลิงปี๋รู ้ข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร?
ความจริงข้อมูลเหล่านี้ไม่ควรสร ้างความเสียหายได้เลยด้วยซ้า
แต่เมื่อข้อมูลที่เป็ นความจริงครึ่งหนึ่งถูกนามารวมกับคาโกหก อีกครึ่งหนึ่ง นั่นก็เพียงพอที่จะทาให้ผู้คนจานวนมากหลงเชื่อได้แล้ว
“พวกท่านกาลังกล่าวหาผู้คนอย่างเลื่อนลอยไร ้หลักฐาน”
องค์ชายหลิงหวงฉีตะโกนสวนกลับไปเสียงดังสนั่น “หากสิ่งที่ พวกท่านกล่าวมาเป็ นความจริง แล้วเหตุใดองค์หญิงหลิงเฉินถึง สามารถเปิดประตูวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้ล่ะ? เหตุใดเปลวไฟอมตะจึงพวย พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ าและทาให้เครื่องมือเล่นแร่แปรธาตุต่าง ๆ กลับมา ทางานได้อีกครั้ง? หรือท่านกาลังจะกล่าวว่าเรื่องราวเหล่านี้ล้วนแต่ เป็ นการแสดงละครตบตา?”
บังเกิดเสียงโห่ร้องสนับสนุนดังกึกก้องเช่นกัน
วิหารแห่งผู้แปรธาตุเป็ นตัวแทนของบรรพบุรุษประจ าสายเลือด ของพวกเขา
เปลวไฟอมตะคือเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์
เมื่อทั้งสองสิ่งนี้ยอมรับในตัวหลิงเฉิน นางก็มีสิทธิ์ขึ้นครอง บัลลังก์โดยชอบธรรม
บรรดาผู้คนที่เกิดความเคลือบแคลงใจ ก่อนหน้านี้กลับมามี ความหนักแน่นมั่นคงอีกครั้ง ใช่แล้ว วิหารแห่งผู้แปรธาตุยอมรับใน
ตัวขององค์หญิงไข่มุกขาว นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถดัดแปลงกันได้ เด็ดขาด
องค์ชายหลิงปี๋พลันเงยหน้าหัวเราะใส่ท้องฟ้ า
“ฮ่า ๆๆ นี่เป็ นการสมคบคิดของพวกเจ้า ก่อนหน้านี้ ข้าเองก็ถูก พวกเจ้าหลอกจนตายใจ ตอนนั้นข้าจึงไม่ได้คัดค้าน แต่บัดนี้ ข้ารู ้ แล้วว่าพวกเจ้าใช ้กลโกงบางอย่างในการเปิ ดวิหารศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้นข้าจึงขอถามเพียงคาถามเดียวเท่านั้น ร่างของ จักรพรรดิหลิงจิวอยู่ที่ใด? พระองค์รับใช ้อาณาจักรเกิงจินมาตลอด ชีวิต แต่สุดท้ายกลับถูกพวกเจ้าสังหารและน าร่างไปเป็ นกุญแจใน การเปิดวิหารหลังนี้ หลังจากนั้น พวกเจ้าก็นาร่างของพระองค์ไปเป็ น เชื้อไฟในการจุดไฟอมตะ…”
เสียงอุทานด้วยความไม่อยากเชื่อดังขึ้นอีกครั้ง
บรรยากาศทั่วเมืองตกอยู่ในความร ้อนระอุ
ผู้คนจ านวนนับพันล้านคนส่งเสียงอุทานออกมาพร ้อมกัน เกิด เป็ นคลื่นเสียงที่ไม่ต่างจากคลื่นสึนามิซัดถล่มไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
นี่คือสิ่งที่กระทบต่อความศรัทธาของผู้คน
หลิงเฉินยังคงมีสีหน้าสงบเยือกเย็น
หลินเป่ยเฉินเองก็นิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้คาใด
ผู้เป็ นบ่าวสาวเพียงจับมือและหันมายิ้มให้กัน ก่อนจะหันกลับไป รับชมการแสดงขององค์ชายหลิงปี๋และพรรคพวกเสมือนเรื่องราวนี้ไม่ มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับตนเอง
“เหลวไหล”
เสียงคารามขององค์ชายหลิงหวงฉีดังสะเทือนไปทั่วแผ่นฟ้ า “บอกมาเถอะ ผู้ใดเป็ นคนยุยงท่านให้ออกมาใส่ร้ายป้ ายสีพวกเรา เช่นนี้?”
เขาเดือดดาลสุดขีด
บัดนี้อาณาจักรเกิงจินกาลังจะได้ออกจากยุคมืด ประตูวิหารแห่ง ผู้แปรธาตุก็เปิดออกแล้ว สายเลือดแห่งผู้แปรธาตุก าลังจะกลับมา รุ่งเรืองอีกครั้ง…
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็กาลังจะถูกทาลายลงไปด้วยฝีมือของคนกลุ่ม หนึ่งที่มีความเห็นแก่ตัวและปรารถนาทรัพย์สินและอ านาจ
“ยุยงอย่างนั้นหรือ?”
เสียงของคนผู้หนึ่งดังกังวานตอบกลับมา “ไม่เลย นี่ไม่ใช่การยุ ยง แต่เรียกว่าเป็ นการแจ้งเตือนมากกว่า”
แสงสว่างเป็ นประกายวูบวาบ
แล้วคนผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ คนผู้นี้มีร่างกายสูง ใหญ่ สวมใส่ชุดเกราะสีเงินแวววาว เส้นผมสีชมพูปลิวไสวตามสาย ลม
คนผู้นี้เป็ นบุรุษ
บุรุษที่มีใบหน้าแปลกประหลาดยิ่งนัก
ใบหน้าครึ่งหนึ่งอัปลักษณ์ อีกครึ่งหนึ่งหล่อเหลาราวกับเทพบุตร
นับเป็ นตัวประหลาดผู้หนึ่ง
และพลังกดดันที่แผ่ออกมาจากร่างกายก็มีความน่าสะพรึงกลัว… ความรุนแรงของพลังกดดันนั้นมีมากเกินกว่าที่ผู้คนจานวนมากจะ เข้าใจได้
“เจ้าเป็ นใคร?”
องค์ชายหลิงหวงฉีถามเสียงเข้ม
“สามหาว!”
อีกเสียงหนึ่งดังกังวาน
เสียงนั้นดังขึ้นมาจากกลางแท่นรับชมพิธีของแขกระดับสูง แต่ผู้ พูดเป็ นสตรีนางหนึ่ง นางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “คนผู้นี้เป็ น ถึงท่านเสนาบดีฮั่วอวี้จิงจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึง ได้กล่าววาจาหยาบคายเช่นนี้กับท่าน?”
หญิงผู้นี้ย่อมต้องเป็ นสมาชิกคณะผู้ลอบสังหารจากอาณาจักร ศักดิ์สิทธิ์
บัดนี้ เจ้าของร ้านเพื่อนพ้องพี่น้องโจรยืนอยู่ด้านหลังนาง
เมื่อเสียงพูดของหญิงสาวดังไปถึงหูของผู้คน ทุกคนก็ต้องตก ตะลึงทันที
เสนาบดีจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?
นับเป็ นผู้ที่มีสถานะสูงส่งยิ่งนัก
เหตุใดจึงไม่มีจดหมายแจ้งเตือนว่าผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้จะมาเยือน อาณาจักรเกิงจินมาก่อน?
องค์ชายหลิงหวงฉีรู ้สึกใจคอไม่ดี แต่ก็ยังประสานมือแสดงความ เคารพพลางกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็ นท่านเสนาบดีฮั่วนี่เอง…แต่ผู้ต่าต้อย ไม่ทราบว่าสิ่งที่ท่านกล่าวออกมาเมื่อสักครู่นี้ หมายความว่าอย่างไร กันแน่?”
ฮั่วอวี้จิงจ้องมองไปทางกลุ่มคนและกล่าวว่า “พวกเราอาณาจักร ศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบพบความผิดปกติ จึงได้ทาการแจ้งเตือนมาที่องค์ ชายหลิงปี๋ และตามตัวบทกฎหมายของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ที่ ครอบคลุมไปทั่วเส้นทางดาราจักรนั้น ทั้งหลินเป่ ยเฉินและหลิงเฉิน สมควรถูกน าตัวมาลงโทษทันที”
“เรื่องนี้…”