เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2043 ชัยชนะอันยิ่งใหญ่
หลินเป่ ยเฉินยื่นศีรษะออกมาจากด้านหลังเสาหิน และพบว่ากับ ราชากิ้งก่าสยองขวัญยังคงต่อสู้กับอสูรผลาญดาราต่วนซิงอย่าง ดุเดือด เช่นเดียวกับองค์จักรพรรดิหลิงจิวและหลิงเฉิน มันเป็ นเรื่อง ยากที่จะบอกได้ว่าผู้ใดจะเป็ นฝ่ ายชนะ แต่โชคดีที่วิหารแห่งผู้แปร ธาตุมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรองรับการต่อสู้ที่มีพลังทาลายล้าง รุนแรงมหาศาล ตัววิหารจึงยังไม่ได้ถล่มลงมาอย่างที่ควรจะเป็ น
หลินเป่ยเฉินจ้องมองไปยังประตูมิติที่ปรากฏแสงสว่างไสว
ฟิ้ว!
ชายหนุ่มนาเครื่องยิงจรวดออกมายิงลูกระเบิดใส่ประตูมิติบาน นั้น
ตู้ม!
แรงระเบิดท าให้ประตูมิติพังทลาย คลื่นพลังจานวนมหาศาลแผ่ กระจายไปรอบบริเวณโดยทันที วิหารแห่งผู้แปรธาตุถึงกับ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ประตูมิติถูกท าลายแล้ว!
องค์จักรพรรดิหลิงจิวระเบิดเสียงค ารามด้วยความโกรธแค้น
ราชากิ้งก่าสยองขวัญร ้องอุทานด้วยความตื่นตระหนก “ข้า สัมผัสได้ถึงพลังของชนชั้นบรรพบุรุษ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหล่าจิว เจ้าทราบหรือไม่ว่านี่เป็ นพลังของผู้ใด…”
บัดนี้ ทั้งองค์จักรพรรดิหลิงจิวและราชากิ้งก่าสยองขวัญต่างก็ รู ้สึกได้ถึงลางร ้ายบางอย่าง
โดยเฉพาะการคานับของหวังจงที่ทาให้พวกมันตัวสั่นเทาอย่าง ไม่มีเหตุผล
“พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวไม่กล้าอยู่สู้อีกต่อไป
หัวใจของเขาร้องบอกให้รีบหนี
แต่ว่า…
ค้อนคว่านภาในมือของหลิงเฉินฟาดลงมาแล้ว
ปัง!
ปัง!
เสียงบานประตูถูกปิดดังกังวานขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่ววิหารแห่งผู้ แปรธาตุ
ปรากฏว่าประตูทั้งเจ็ดบานนั้นถูกปิดตายด้วยการควบคุมของห ลิงเฉิน
องค์จักรพรรดิหลิงจิวกับราชากิ้งก่าสยองขวัญถูกกักขังอยู่ใน วิหารโดยสมบูรณ์
“หวังจง รีบคานับพวกมันเดี๋ยวนี้!”
หลินเป่ยเฉินออกคาสั่งด้วยความตื่นเต้น
เขารอคอยเวลาที่วิหารปิดประตูและหวังจงได้แสดงพลังมานาน แล้ว
หวังจงกล่าวว่า “กราบเรียนนายน้อย เราควรใช้องค์จักรพรรดิห ลิงจิวเป็ นหินลับมีดให้แก่คุณหนูหลิง ส่วนราชากิ้งก่าสยองขวัญนั้น ต้องยอมรับว่ามันมีพลังแข็งแกร่งจริง ๆ เพราะฉะนั้น บ่าวจะช่วย คานับมันให้แก่นายน้อยเอง อีกทั้งซากศพของมันยังมีพลังมหาศาล สามารถนาเนื้อเอาไปให้พวกอากวงกินได้ขอรับ”
หลังจากนั้น พ่อบ้านชราก็คุกเข่าลงไปบนพื้นหิน
ท่วงท่าของเขาสง่างามยิ่ง
เขาก้มศีรษะลงจนหน้าผากแนบติดกับพื้น
“ราชาแห่งยมโลกโขกศีรษะ ผู้คนต้องตายตก”
เสียงของชายชราร่างอ้วนก้องกังวานไปทั่ววิหารแห่งผู้แปรธาตุ
ราชากิ้งก่าสยองขวัญกาลังต่อสู้อยู่กับอสูรผลาญดาราต่วนซิงอ ยู่ดี ๆ ก็รู ้สึกวิงเวียนศีรษะขึ้นมา มวลพลังในร่างกายสลายหายไป มัน
รู ้สึกเหมือนถูกกระแทกอย่างแรง แล้วสติสัมปชัญญะก็ดับวูบลงตลอด กาล…
ยอดฝีมือชนชั้นราชาต้องถึงแก่ความตายไปอีกคน
นี่คือยอดฝีมือชนชั้นราชาของเผ่ามนุษย์ทะเลทรายคนที่สองที่ ต้องตายด้วยฝีมือของหวังจง
“บัดซบ เป็ นเรื่องราวใดกันแน่?”
ต่วนซิงหยุดชะงักและถูกคลื่นพลังบางอย่างกระแทกจนลอย กระเด็นออกมา
ทันใดนั้น อสูรผลาญดารารู ้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็ นมา ก่อน มันสัมผัสได้ถึงเค้าลางแห่งความตายที่ตนเองไม่เคยพบเจอ
และเมื่อเห็นราชากิ้งก่าสยองขวัญนอนแน่นิ่งกลายเป็ นศพอยู่บน พื้นหิน แขนขารวมไปถึงปี กของต่วนซิงก็สั่นระริกอย่างไม่อาจ ควบคุมได้อีกแล้ว
นี่นับว่าน่ากลัวมากเกินไป!
หลินเป่ยเฉินรีบวิ่งเข้าไปหาศพของราชากิ้งก่าสยองขวัญทันที
เขาไม่พูดไม่คุยกับผู้ใด จากนั้นก็เริ่มต้นตรวจค้นศพผู้ตายอย่าง รวดเร็วและมุ่งมั่น ยังไม่ต้องพูดถึงอาวุธวิเศษใด ๆ เอาแค่พลังปราณที่ อยู่ในร่างกายของราชากิ้งก่าสยองขวัญ มันก็เพียงพอแล้วที่จะนามา หลอมรวมเป็ นลูกกระสุนให้ใช้ได้ไม่มีวันหมด…
หลินเป่ยเฉินแทบจะร ้องเพลงออกมาอย่างมีความสุข
ต่วนซิงลอบคลานเข้ามาสังเกตการณ์ด้วยความระมัดระวัง แวว ตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
โดยเฉพาะตอนที่มองไปยังหวังจง ต่วนซิงก็รู ้สึกขนลุกขนชันไป ทั้งตัว
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ มันเข้าใจแล้ว
ความคิดที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นในหัวสมองของอสูรผลาญ ดาราต่วนซิง
มันพอจะคาดเดาได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของชายชราร่างอ้วนเตี้ยผู้ นี้คือผู้ใด… และนั่นก็คือเรื่องราวที่น่าตกตะลึงยิ่งนัก
ดูเหมือนว่าหลังจากนี้เป็ นต้นไป มันคงจะต้องทาตัวดี ๆ แล้วสิ
ต่วนซิงคิดอย่างเศร ้าใจ
เพราะมันไม่สามารถล่วงเกินชายชราผู้นี้ได้เด็ดขาด
“พวกเรามานั่งชมการต่อสู้กันเถอะ”
หลินเป่ยเฉินกวักมือเรียก
“นี่ เจ้าเหมียว เจ้ามานั่งตรงนี้สิ”
ทั้งอสูรผลาญดาราต่วนซิงและหวังจงต่างก็พร ้อมใจกันค้อมตัว เข้าไปหาหลินเป่ยเฉินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
การต่อสู้ในวิหารยังคงด าเนินต่อไป
ยิ่งเวลาผ่านไปนานมากเท่าไหร่ เปลวไฟอมตะที่ปกคลุมร่างกาย ของหลิงเฉินก็ยิ่งลุกโชนมากเท่านั้น
นางแสดงพลังที่แท้จริงออกมาแล้ว
และเมื่อองค์จักรพรรดิหลิงจิวเห็นความตายของราชากิ้งก่าสยอง ขวัญ เขาก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เมื่อผู้ช่วยเหลือของตนเองถูกกาจัดทิ้งไปจนหมดสิ้น องค์ จักรพรรดิหลิงจิวก็ไม่เหลือช่องทางให้ต่อสู้อีกต่อไป
สุดท้ายเปลวไฟอมตะก็เผาไหม้อุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุและหุ่น เชิดสังหารขององค์จักรพรรดิหลิงจิวหมดสิ้น…
“ท่านมีสายเลือดผู้แปรธาตุแต่กลับละทิ้งชาติกาเนิดของตนเอง ไปรับใช ้เผ่ามนุษย์ทะเลทราย นี่ถือเป็ นบาปกรรมที่ชั่วร ้ายยิ่งนัก… ใน นามของจักรพรรดินีองค์ใหม่ ข้าจะเป็ นผู้ช าระบาปให้แก่ท่านเอง!”
จักรพรรดินีองค์ใหม่ได้ถือกาเนิดขึ้นแล้ว นางคือผู้น าสูงสุดแห่งผู้ใช้สายเลือดผู้แปรธาตุ เปลวไฟอมตะเผาไหม้ทั่วร่างขององค์จักรพรรดิหลิงจิว “ฮ่า ๆๆ!”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความเศร ้า “ข้าไม่ เคยเชื่อมั่นในสายเลือดผู้แปรธาตุอยู่แล้ว ข้าควรจะพบจุดจบตั้งนาน แล้วเช่นกัน ไม่สาคัญอีกแล้ว ไม่มีสิ่งใดสาคัญอีกต่อไป”
องค์จักรพรรดิหลิงจิวนั่งขัดสมาธิท่ามกลางกองไฟ ไม่ดิ้นรนขัด ขืนอีกต่อไป
หลินเป่ยเฉินมองภาพนี้ด้วยความเศร ้าสลด
ร่างขององค์จักรพรรดิหลิงจิวถูกเผาหมดแล้ว
แล้วยังจะเหลือสมบัติอันใดให้เก็บกวาดอีกไหมนะ?
ในที่สุด ร่างขององค์จักรพรรดิหลิงจิวก็มอดไหม้กลายเป็ นกอง เถ้าถ่าน
บางทีในห้วงสุดท้ายของการมีชีวิต จิตใจของเขาอาจจะพบกับ ความสงบสุขก็เป็ นได้
เพราะว่าส าหรับผู้แปรธาตุทุกคน ความตายจากการถูกเผาไหม้ ด้วยไฟอมตะคือสิ่งที่จะสามารถชาระล้างบาปที่ร ้ายแรงที่สุดแล้ว
“ยังจะเอาไปใช ้ประโยชน์ได้อีกไหมวะเนี่ย?”
หลินเป่ยเฉินเขี่ยกองขี้เถ้าและนาขวดหยกออกมาโกยกองขี้เถ้า ทั้งหมดนั้นใส่ลงไปในขวด
ที่ทาเช่นนี้ก็เพราะหลินเป่ ยเฉินนึกได้ถึงผงขาวจานวนหนึ่งที่ เทพธิดาเจี๋ยนเซวี่ยอู่หมิงเคยมอบให้แก่ตนเองในอดีต ตอนแรก หลิน
เป่ ยเฉินก็คิดว่าผงขาวเหล่านั้นไร ้ประโยชน์ ต่อมาจึงได้ค้นพบว่า ระหว่างการต่อสู้ เขาสามารถใช ้ประโยชน์จากผงขาวเหล่านั้นได้ มากมายหลายรูปแบบ…
บางทีเถ้ากระดูกขององค์จักรพรรดิหลิงจิวก็อาจจะน าไปใช ้งาน ได้เช่นกัน