เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2032 อาวุธวิเศษทั้งสี่
ตอนที่ 2,032 อาวุธวิเศษทั้งสี่
ณ อาณาเขตสนธยา
คลื่นพลังสีดำแผ่ปกคลุมรอบบริเวณ
ต่วนซิงระเบิดพลังปราณสีแดงราวกับเปลวไฟออกมาจากร่างกาย มันช่วยทำให้สภาพแวดล้อมสว่างไสวยิ่งขึ้นและนี่ยังทำให้มันไม่ถูกค่ายอาคมแห่งนี้ลดทอนพลังของตนเองลงอีกด้วย
ต่วนซิงมองรอบกายด้วยความพิศวงสงสัย
“นี่สินะอาณาเขตเงาทมิฬของเจ้า”
ต่วนซิงลองสลายพลังปราณของตนเองดูชั่วคราว แล้วเขาก็พบว่าร่างกายถูกดึงพลังออกไปอย่างแปลกประหลาดในรูปแบบที่ตัวมันเองไม่เข้าใจ แต่เห็นได้ชัดว่าหลินเป่ยเฉินเป็นผู้ควบคุมอาณาเขตแห่งนี้อย่างสมบูรณ์ ต่วนซิงจึงมีดวงตาเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาทันที “น่าสนใจ ข้าไม่เคยพบอาณาเขตใดแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน นับว่าเจ้าสามารถสร้างสุดยอดอาณาเขตขึ้นมาได้สำเร็จจริง ๆ”
“เจ้าเคยพบอาณาเขตในลักษณะนี้ด้วยหรือ?”
หลินเป่ยเฉินถามด้วยความประหลาดใจ
บอกตามตรงว่านอกจากอาณาเขตสนธยาของเขาแล้ว หลินเป่ยเฉินก็ยังไม่เคยพบเห็นผู้ใดใช้การต่อสู้รูปแบบนี้มาก่อนแม้แต่คนเดียว
“แน่นอนว่าข้าต้องเคยเห็น”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงหัวเราะในลำคอและกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าในโลกนี้มีเพียงตนเองที่สามารถใช้งานอาณาเขตรูปแบบนี้ได้หรืออย่างไร?”
หลินเป่ยเฉินไม่ตอบคำ
แต่ที่ต่วนซิงพูดมาก็มีเหตุผล
อสูรผลาญดาราต่วนซิงกล่าวต่อไปอีกครั้ง “ข้ารู้ด้วยว่าเจ้าแอบเข้าวังหลวงไปพบองค์จักรพรรดิหลิงจิวเมื่อสิบวันก่อน”
หลินเป่ยเฉินพูดสวนกลับไปทันที “ข้าไปเข้าพบพ่อตาของข้า มันก็เรื่องปกตินี่นา”
“หากข้าเดาไม่ผิด…”
ดวงตาสีแดงของต่วนซิงเป็นประกายเหยียดหยามขณะกล่าวต่อ “องค์จักรพรรดิคงมอบอาวุธวิเศษให้เจ้ามาสินะ และนั่นก็คงเป็นอาวุธที่ช่วยต้านทานพลังการดูดกลืนของข้าใช่หรือไม่?”
หลินเป่ยเฉินได้ยินดังนี้ก็อดตกตะลึงขึ้นมาไม่ได้
เชี่ย!
ความลับสำคัญเช่นนี้ เขายังไม่ได้บอกใครเลยสักคน
แล้วไอ้หัวแดงนี่มันรู้ได้ยังไง?
หรือว่าในกลุ่มผู้ติดตามของท่านพ่อตาจะมีคนทรยศซ่อนตัวอยู่?
“ดูจากสีหน้าของเจ้าก็รู้แล้วว่าข้าเดาถูก”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงยิ้มอย่างผู้ชนะ และกล่าวต่อไปว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็นำอาวุธเหล่านั้นออกมาเถอะ องค์จักรพรรดิถึงกับยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเช่นนี้ เขาคงมอบไข่มุกผูกชะตาให้กับเจ้า เพราะมันเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่สามารถต้านทานการดูดพลังของข้าได้”
แม่งเอ๊ย!
ความรู้สึกของการถูกผู้อื่นรู้ทันนี่มันเลวร้ายจริง ๆ
หลินเป่ยเฉินนำไข่มุกผูกชะตาออกมาสิบแปดเม็ด
ไข่มุกเปล่งแสงเป็นประกายแวววาวลอยตัวอยู่กลางอากาศ
ไข่มุกแต่ละเม็ดปลดปล่อยรัศมีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ออกมาราวกับเป็นไข่มุกสวรรค์
แทบจะไม่ได้เป็นไข่มุกอีกต่อไปแล้ว
พลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากไข่มุกแต่ละเม็ดทำให้มวลอากาศปั่นป่วนอย่างรุนแรง
“สุดท้ายก็เป็นไข่มุกผูกชะตาจริง ๆ ด้วย”
ดวงตาของอสูรผลาญดาราต่วนซิงเป็นประกายตื่นเต้นขึ้นมาในทันใด
มันนับจำนวนอย่างระมัดระวังและกล่าวว่า “ไข่มุกผูกชะตามีอยู่ทั้งหมดสามสิบหกเม็ด แต่องค์จักรพรรดิให้เจ้ามาถึงสิบแปดเม็ด นับว่าเขายอมทุ่มเทเพื่อเจ้าจริง ๆ …ให้ตายเถอะ เมื่อมีไข่มุกทั้งสิบแปดเม็ดนี้ เจ้าก็สามารถต้านทานการดูดกลืนพลังของข้าได้แล้ว ฮ่า ๆๆ แต่ผู้ใดบอกเจ้าว่าข้ามีความร้ายกาจเพียงการดูดพลังศัตรูเท่านั้น? เจ้ามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ แล้วคิดว่าข้าจะไม่มีบ้างหรือ?”
ทันใดนั้น ดวงไฟสี่ดวงก็ลอยตัวขึ้นมาอยู่ที่เบื้องหน้าของต่วนซิง
อสูรผลาญดาราต่วนซิงคว้าดวงไฟดวงแรกมาถือไว้ในมือ แล้วดวงไฟดวงนั้นก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นไหมเงินเส้นหนึ่ง “นี่คือเส้นไหมมังกรจักรพรรดิ เป็นวัตถุเล่นแร่แปรธาตุระดับ 65 สามารถใช้ทำลายไข่มุกผูกชะตาของเจ้าได้อย่างไม่มีปัญหา”
พูดจบ มันก็สะบัดข้อมือ
วูบ!
เส้นไหมมังกรจักรพรรดิพุ่งเข้าไปกระแทกใส่ไข่มุกผูกชะตาเม็ดแรก
เคร้ง!
ไข่มุกเม็ดนั้นลอยกระเด็นออกไปอย่างไม่อาจควบคุมได้
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินดูตื่นตกใจขึ้นมาทันที
ต่วนซิงดึงเส้นไหมมังกรจักรพรรดิกลับไปและไม่ได้โจมตีอีก แต่มันเอื้อมมือคว้าดวงไฟดวงที่สองมาถือในมือ แล้วดวงไฟดวงนั้นก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นขวดสีแดงขวดหนึ่ง มันเปิดฝาจุกขวดออก มวลพลังที่ถูกบรรจุอยู่ด้านในขวดก็ถูกปลดปล่อยออกมา แล้วอาณาเขตสนธยาของหลินเป่ยเฉินเกินครึ่งก็ปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังสีแดงเพลิงเหล่านั้น
“นี่คือปราณเพลิงอมตะที่สามารถเผาผลาญได้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ แม้แต่อาณาเขตของเจ้า ข้าก็สามารถทำลายได้เช่นกัน แต่ข้าจะไม่บอกหรอกนะว่ามันสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง เจ้าลองเดาดูดีหรือไม่?”
สีหน้าของหลินเป่ยเฉินแปรเปลี่ยนไปอีกครั้ง
หลังจากนั้น อสูรผลาญดาราต่วนซิงก็ปิดฝาขวด ก่อนจะเอื้อมมือคว้าดวงไฟดวงที่สามและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหีบขนาดเล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่แกะสลักเป็นรูปหัวแกะหางพยัคฆ์ พร้อมกับอธิบายว่า “นี่คืออาวุธวิเศษชิ้นที่สี่ มันเรียกว่าหีบถ้ำเสือ ความสามารถของมันคือการดูดซับพลังการโจมตีของผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพอนันต์ สามารถรับมือได้แม้แต่ผู้ที่อยู่ในขั้นจอมเทพอสงไขย…”
กล่าวจบ มันก็หยิบดวงไฟดวงที่สี่ขึ้นมา
ปรากฏว่าเป็นหม้อปรุงยาสามขาใบหนึ่ง
มันเป็นหม้อปรุงยาสามขาที่มีหูจับรูปทรงโค้งงอสองข้าง แกะสลักเป็นลวดลายภูเขา แม่น้ำ ดวงจันทร์ ดวงตะวันและดวงดารา
“นี่คือหม้อปรุงยามังกรบรรพกาล มันสามารถหลอมได้แม้แต่ดวงตะวันจันทราและหมู่มวลดาราในเส้นทางดาราจักร... ลองเดาสิว่ามันจะสามารถกักขังเจ้าอยู่ในนี้ได้หรือไม่?”
ต่วนซิงยิ้มอย่างผู้ชนะ
หลินเป่ยเฉินเห็นอาวุธวิเศษแต่ละอย่างของฝ่ายตรงข้ามก็ให้น้ำลายไหลย้อยออกมาโดยไม่รู้ตัว “นับว่าเป็นของดีทั้งสิ้น”
อสูรผลาญดาราต่วนซิงถึงกับชะงักเล็กน้อย “เหตุใดเจ้าถึงไม่กลัว?”
หลินเป่ยเฉินยกมือขึ้นปาดน้ำลายและถามกลับไปว่า “เหตุใดข้าถึงต้องกลัวด้วยเล่า?”
“เจ้าไม่กลัวหรือว่าอาวุธทั้งสี่ชิ้นนี้จะเล่นงานเจ้า?”
ต่วนซิงถามด้วยความพิศวง
หลินเป่ยเฉินตอบว่า “ข้ามองออกว่าพวกมันล้วนเป็นของดีทั้งสิ้นและน่าจะมีมูลค่ามหาศาลยิ่งนัก…”
สีหน้าของอสูรผลาญดาราต่วนซิงดูแปลกประหลาดเล็กน้อย ขณะจ้องมองไปที่หลินเป่ยเฉินด้วยความคาดหวัง แต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย มันจึงต้องถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า “เฮ้อ เจ้าไม่กลัวข้าเช่นนี้ แสดงว่าเจ้าคงรู้เรื่องนั้นอยู่แล้วสินะ”