เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2024 ผู้คนหายไปไหนแล้ว?
ตอนที่ 2,024 ผู้คนหายไปไหนแล้ว?
หลินเป่ยเฉินถามด้วยความตื้นตันใจว่า “ศิษย์พี่พูดจริงหรือ?”
“ไม่จริงเลยสักอย่าง”
ฮันปู้ฟู่ตอบกลับมาหน้าตาเฉย
“อ้าว?”
หลินเป่ยเฉินหยุดชะงัก
ฮันปู้ฟู่อธิบายเพิ่มเติมว่า “มารดาและน้องสาวของข้าอยู่ในกำมือของเจ้า แล้วข้าจะกล้ากล่าวโทษเจ้าได้อย่างไร? ข้าไม่รู้เลยว่าหากพวกเราเป็นศัตรูกัน เจ้าจะทำอะไรกับมารดาของข้าบ้าง… เพราะฉะนั้นข้าจึงต้องประจบเอาใจเจ้าอยู่เสมอ”
หลินเป่ยเฉินกะพริบตาปริบ ๆ
นี่ศิษย์พี่ฮันมีอารมณ์ขันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?
หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันถึงเรื่องกลยุทธ์ทางการทหารสำหรับการรับมือกับศัตรูต่อไป
เผ่ามนุษย์ทะเลทรายยังคงเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของพวกเขา
ส่วนพวกเผ่าพันธุ์ปีศาจในขณะนี้จะยังไม่เปิดฉากโจมตีอาณาจักรเทียนอวี่เป็นการชั่วคราว
ฮันปู้ฟู่ไม่ได้ตั้งคำถามต่อแผนการของหลินเป่ยเฉิน เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวของคนเสเพลผู้นี้อย่างหมดหัวใจ
“เจ้าต้องใช้โอกาสนี้ยึดบัลลังก์ของอาณาจักรเกิงจินมาให้ได้ หากกองทัพเป่ยเฉินได้ผู้ใช้สายเลือดผู้แปรธาตุมาเป็นพรรคพวก พวกเราก็จะได้เปรียบพวกมนุษย์ทะเลทรายแล้ว”
ฮันปู้ฟู่ตั้งความหวังกับหลินเป่ยเฉินเอาไว้ไม่ใช่น้อย
การประชุมผ่านโทรศัพท์จบลง
หลินเป่ยเฉินอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “คิดไม่ถึงเลยนะว่าคนเสเพลอย่างเราวันหนึ่งจะต้องมาวางแผนการรบเช่นนี้ นับว่าภารกิจที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งจริง ๆ”
หลินเป่ยเฉินเปิดประตูมิติเพื่อกลับไปยังแผ่นดินตงเต้าและทำการหลอมรวมโลหิตพิสุทธิ์จากบรรพบุรุษผู้แปรธาตุต่อจากเดิม
เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
เมื่อการประกบคู่ประลองในรอบต่อไปถูกประกาศออกมา เสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นก็ดังกังวานไปทั่วเมืองเหลียนจินฉู่
เพราะว่าบุรุษหนุ่มผมขาวอวี้เหวินซิวเซียนกำลังจะต้องพบกับราชันปริศนาไร้นาม
นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
…
วันต่อมา
ท้องฟ้าแจ่มใสมีสายฝนโปรยปรายเล็กน้อย
เมืองเหลียนจินฉู่เป็นเมืองที่มีความทันสมัยล้ำยุค สภาพอากาศอยู่ในการควบคุมของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นสายฝน สายลม สายฟ้าหรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอื่น ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้การจัดการของมนุษย์ทั้งสิ้น
วันนี้เป็นวันที่กำหนดให้มีฝนตก
สายฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าทำให้หมู่มวลดอกไม้บานสะพรั่ง
พื้นที่ในรัศมีสิบลี้รอบบริเวณของหอคอยนักรบไม่ว่าจะเป็นบนพื้นดินหรือในอากาศต่างก็มีผู้คนมารวมตัวอย่างหนาแน่น
หน้าจอถ่ายทอดสดที่มีขนาดใหญ่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
บนหน้าจอถ่ายทอดสดในขณะนี้กำลังแสดงภาพการต่อสู้ของหลินเป่ยเฉินในรอบที่ผ่าน ๆ มาสลับกับการต่อสู้ของราชันปริศนาไร้นาม แต่เมื่อเทียบกับความนิยมของผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนแล้ว นอกจากหลินเป่ยเฉินจะมีหน้าตาที่หล่อเหลา รูปแบบการต่อสู้ของเขายังถึงอกถึงใจคนดู ผิดกับราชันปริศนาไร้นามที่ปิดบังหน้าตายังไม่พอ รูปแบบการต่อสู้ของเขายังเรียบง่ายจนน่าเบื่ออีกด้วย
จากการเก็บสถิติอย่างไม่เป็นทางการนี้ระบุว่าจำนวนผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดในวันนี้ มียอดผู้รับชมสูงจนเกือบจะเทียบเท่ารอบชิงชนะเลิศแล้ว
การประลองใกล้เปิดฉากขึ้น
ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น
สายลับรหัส 91 ชินเซียนเฉิงก็อยู่ในอาการไม่ต่างกัน
เขาได้รับอนุญาตจากผู้จัดการแข่งขันให้เข้ามาถ่ายภาพได้ในระยะใกล้ชิด
ราชันปริศนาไร้นามถูกจับตามองมาตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับอสูรผลาญดาราต่วนซิง และทั้งสองคนนี้ก็ได้รับการคาดหมายว่าน่าจะเป็นผู้ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
พวกเขาต่างก็ทำผลงานได้ดี
ตลอดการประลองที่ผ่านมาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ในกระบวนท่าเดียว
บังเกิดข่าวลือจากหลายฝ่ายว่าราชันปริศนาไร้นามมีขั้นพลังที่แท้จริงอยู่ในขอบเขตจอมเทพอสงไขย
และการต่อสู้ในวันนี้ เมื่อดูจากสถิติที่ผ่านมา กลุ่มคนดูส่วนใหญ่จึงเชื่อว่าราชันปริศนาไร้นามจะเป็นผู้ชนะคุณชายผมขาวได้อย่างแน่นอน
ว่ากันว่ามีหญิงสูงศักดิ์จำนวนไม่น้อยได้ส่งคนไปติดต่อกับราชันปริศนาไร้นามก่อนการประลอง โดยพวกนางหวังว่าราชันปริศนาไร้นามจะไว้ชีวิตอวี้เหวินซิวเซียนและส่งตัวเขาให้แก่พวกนางเพื่อแลกกับค่าตอบแทนมหาศาล
นับว่าสตรีเหล่านี้ยังไม่เคยหมดหวังจริง ๆ
พวกนางเชื่อมั่นว่าเมื่อการต่อสู้วันนี้จบลง คุณชายผมขาวก็จะกลายเป็นตำนาน
เมื่อกำหนดการประลองใกล้เข้ามาทุกที สีหน้าของสายลับรหัส 91 ชินเซียนเฉิงก็ยิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขารู้สึกไม่สบายใจ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชินเซียนเฉิงถ่ายภาพเคลื่อนไหวและตัดต่อสร้างชื่อเสียงให้ผู้คนโด่งดังไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
แต่มีเพียงบุรุษผมขาวผู้นี้เท่านั้นที่กล่าวได้ว่ากลายเป็นผู้โด่งดังอย่างแท้จริง
บุรุษผมขาวคือผลงานอันภาคภูมิใจของชินเซียนเฉิง
เขารู้สึกว่าอวี้เหวินซิวเซียนเป็นผลงานการสร้างชื่อเสียงของตนเอง
แต่น่าเสียดายที่ทุกอย่างต้องจบสิ้นลงเสียแล้ว
“เว้นแต่ว่าอวี้เหวินซิวเซียนจะชนะการประลองในวันนี้…”
สายลับรหัส 91 ชินเซียนเฉิงเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาวูบหนึ่ง
แต่ก็เป็นเพียงความคิดวูบเดียวเท่านั้น
เพราะมันเป็นไปไม่ได้
นี่ไม่ต่างจากหนูตัวหนึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับพญาราชสีห์ เขาไม่มีโอกาสที่จะชนะได้อีกแล้ว
ผู้คนจำนวนมากล้วนมีความคิดเช่นนี้ รวมถึงองค์ชายหลง อสูรผลาญดาราต่วนซิงและสมาชิกของเผ่าพันธุ์อสูรสีคราม
ต่วนซิงยืนอยู่บนแท่นลอยฟ้าสำหรับแขกระดับสูงและบิดขี้เกียจด้วยความเบื่อหน่าย
นับตั้งแต่แรก มันไม่ได้ให้ความสำคัญกับการประลองในครั้งนี้อยู่แล้ว สายตายามมองผู้คนจึงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม ในความคิดของต่วนซิง บุรุษผมขาวก็เป็นเพียงมดแมลงตัวหนึ่งเท่านั้น…
ใบหน้าเย็นชาขององค์ชายหลงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย
เดิมทีเขายังอยากเก็บอวี้เหวินซิวเซียนเอาไว้ใช้งานอีกสักหน่อย
แต่เมื่อผลการประกบคู่ประลองออกมาเช่นนี้ ก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องเก็บอวี้เหวินซิวเซียนเอาไว้อีกต่อไป
เมื่อหันมามองหน้าต่วนซิง รอยยิ้มบนใบหน้าขององค์ชายหลงก็ยิ่งกว้างขึ้นอีก
บัดนี้ เสียงโห่ร้องได้ดังขึ้นรอบบริเวณ
ภาพการต่อสู้ในรอบที่ผ่าน ๆ มาบนหน้าจอถ่ายทอดสดดับวูบลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการถ่ายทอดสดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ร่างของคนสองคนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ราชันปริศนาไร้นาม!
อวี้เหวินซิวเซียน!
คนหนึ่งมีความแข็งแกร่ง
อีกคนหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง
ไม่ทราบว่าครั้งนี้ราชันปริศนาไร้นามจะยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ในกระบวนท่าเดียวอีกหรือไม่?
ไม่ทราบว่าครั้งนี้อวี้เหวินซิวเซียนจะยังสามารถทุบตีคู่ต่อสู้จนมีใบหน้าบวมปูดเป็นหัวหมูไหว้เจ้าได้อยู่อีกหรือไม่?
หลังจากส่งเสียงโห่ร้องออกมา บรรดาคนดูก็เริ่มกลั้นหายใจ รอคอยให้การต่อสู้เริ่มขึ้น
ทุกคนกลัวว่าตนเองจะพลาดช่วงเวลาสำคัญ
บนสังเวียนประลอง คู่ต่อสู้ยืนเผชิญหน้ากัน
ราชันปริศนาไร้นามยังคงยกมือขึ้นช้า ๆ อย่างเยือกเย็น เตรียมพร้อมที่จะโจมตี
แต่ลมหายใจต่อมา แสงสว่างก็ปรากฏวูบบนหน้าจอ
แล้วร่างของคนทั้งสองก็หายวับไป
หลงเหลือเพียงแสงระยิบระยับที่ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น
สีหน้าที่เบื่อหน่ายของต่วนซิงกลายเป็นประหลาดใจขึ้นมาทันที
องค์ชายหลงเบิกตาโต ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์
กลุ่มคนดูล้วนจ้องมองไปยังสังเวียนประลองด้วยความตกตะลึง
ตัวคนหายไปไหนแล้ว?