เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 2016 สกัดขัดขวาง
ตอนที่ 2,016 สกัดขัดขวาง
เมื่อทะลุม่านพลังปราณปีศาจเข้าไปแล้ว บรรดาสัตว์อสูรชั้นต่ำที่รักษาการณ์อยู่แนวหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นมาทันที
พวกมันพุ่งชนเรือเหาะเล็กอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ตนเองต้องแขนหักขาหักบิดเบี้ยวผิดรูป
ฮันปู้ฟู่ผู้อยู่ในชุดเกราะอธิบายให้พวกของโจวเทียนอวิ๋นรับฟังอย่างอดทนว่า “สัตว์อสูรเหล่านี้แต่เดิมทีเป็นเผ่าพันธุ์อสูรทั่วไป แต่พวกมันถูกพลังปราณปีศาจแทรกซึม สุดท้ายจึงกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของพวกปีศาจ…”
เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย
โครม!
เรือเหาะเล็กของพวกเขาก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรง
ม่านพลังปราณปีศาจสีม่วงเข้มสั่นไหว แล้วปีศาจยักษ์ที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่ากับตึกหลายสิบชั้นก็ปรากฏตัวขึ้นมา มันสวมชุดเกราะสีม่วง ร่างกายปกคลุมด้วยพลังปราณหนาแน่น ในมือถือหอกโบราณยักษ์ ปลดปล่อยจิตสังหารแรงกล้าในบรรยากาศ
“ผู้บุกรุกต้องตาย!”
ปีศาจยักษ์ระเบิดเสียงคำรามและแทงหอกในมือของมันตรงมาที่เรือเหาะของผู้บุกรุก
วูบ!
ลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกไปจากข้างกายของฮันปู้ฟู่
การต่อสู้เกิดขึ้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
นับเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดยิ่งนัก
ผู้ที่ออกไปต่อสู้กับปีศาจยักษ์ตนนี้คือขุนพลคนสนิทของฮันปู้ฟู่นามว่าเจียงหู
แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า เจียงหูก็ลอยกระเด็นกลับมากระแทกกับม่านพลังคุ้มกันเรือเหาะในสภาพที่กระอักเลือดเต็มปาก ได้รับบาดเจ็บสาหัสรุนแรง
ทุกคนล้วนประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้ไม่ใช่ปีศาจธรรมดา
“นี่เป็นปีศาจบรรพกาล”
ฮันปู้ฟู่รีบออกไปช่วยเหลือเจียงหู พร้อมกับกระแทกฝ่ามือออกไปข้างหน้า
คลื่นพลังถูกปลดปล่อยออกไปจากฝ่ามือของฮันปู้ฟู่
ปีศาจยักษ์ระเบิดเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้นมากขึ้น แต่ทันใดนั้น พลังปราณบนร่างกายของมันก็ค่อย ๆ เสื่อมถอยลง พลังชีวิตของมันลดน้อยลง จนในที่สุด ปีศาจยักษ์ก็กลายเป็นศพลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้า
“เป็นปีศาจบรรพกาลจริง ๆ ด้วย พวกมันถูกชุบชีวิตขึ้นมาได้อย่างไร?”
ฮันปู้ฟู่พึมพำด้วยความประหลาดใจ
ฝ่ามือย้อนเวลาของเขาสามารถทำให้ศัตรูถูกย้อนเวลากลับไปตอนที่ยังไม่ถือกำเนิดขึ้นมา
นับเป็นวิชาที่ร้ายกาจ
สมควรทำให้ปีศาจยักษ์ตนนี้สลายหายไป
แต่เห็นได้ชัดว่าปีศาจยักษ์มีอายุขัยยืนยาวเกินไป พลังของฮันปู้ฟู่จึงไม่เพียงพอที่จะย้อนเวลากลับไปสู่จุดก่อนกำเนิด เขาจึงทำได้เพียงทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นศพเท่านั้น
นี่หมายความว่าหากมีผู้คนนำวิญญาณมาคืนร่างอีกครั้ง ปีศาจยักษ์ก็สามารถฟื้นคืนชีพกลับคืนมาได้เสมอ!
ทันใดนั้น ฮันปู้ฟู่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
มนตราวิญญาณหวนคืน!
นั่นคือหนึ่งในยอดเคล็ดวิชาของเผ่าพันธุ์ปีศาจ มีอิทธิฤทธิ์สามารถเรียกคืนวิญญาณคนตายได้
สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด
พลังปราณปีศาจที่ปกคลุมดาวเคราะห์ดวงนี้… อาจมีความน่าสะพรึงกลัวมากกว่าที่ฮันปู้ฟู่เคยประเมินไว้ก่อนหน้า
และการคาดเดาของฮันปู้ฟู่ก็ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง
เพราะว่าในลมหายใจต่อมา เรือเหาะเล็กของพวกเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มปีศาจจากยุคโบราณจำนวนหลายร้อยตัว
ปีศาจบรรพกาลตนเดียวก็ว่าน่ากลัวแล้ว แต่นี่ยังโผล่มาอีกหลายร้อยตน แล้วผู้คนจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไร?
สุยหลิวกวงและคนอื่น ๆ ตื่นตระหนกขึ้นมาในทันใด
แต่ฮันปู้ฟู่กลับยิ้มออกมาเล็กน้อย
“จะมีตัวเดียวหรือมีหลายร้อยตัวมันก็ไม่ต่างกันหรอกเมื่อเผชิญหน้ากับกาลเวลา”
เขายื่นมือออกไปข้างหน้าและปลดปล่อยพลังออกไปอีกครั้ง
พลังปราณรูปฝ่ามือนับร้อยพุ่งออกไปในอากาศ
มวลอากาศเกิดความปั่นป่วนโกลาหลไม่ต่างจากผิวน้ำในทะเลสาบเงียบสงบที่อยู่ดี ๆ ก็มีพายุฝนโหมกระหน่ำลงมา
กลุ่มปีศาจบรรพกาลสะดุ้งเฮือก ร่างกายของพวกมันพร่าเลือนไปชั่วครู่ และหลังจากนั้น ปีศาจจากยุคโบราณนับร้อยตัวก็กลายเป็นเพียงซากศพลอยอยู่ในอากาศ ไม่ต่างจากขอนไม้ที่ลอยเคว้งคว้างอยู่ในมหาสมุทร
แข็งแกร่งยิ่งนัก
สุยหลิวกวงพร้อมด้วยผู้ติดตามจ้องมองฮันปู้ฟู่อย่างตกตะลึง
สมแล้วที่ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเป่ยเฉิน
เฉียนเหมย หวังซินอวี่และคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
เมื่อได้เห็นยอดฝีมือตัวจริงแสดงพลัง จำนวนของศัตรูก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกแล้ว
“หนทางข้างหน้าเราคงต้องเผชิญกับพวกมันมากกว่านี้”
ฮันปู้ฟู่กลับมามีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ยิ่งเราเดินทางลึกเข้าไปมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเจอกับปีศาจที่มีความแข็งแกร่งมากเท่านั้น”
เรือเหาะของพวกเขายังคงมุ่งไปข้างหน้าต่อไป
และเป็นไปตามคำพูดของฮันปู้ฟู่
ยิ่งเรือเหาะของพวกเขาแล่นไปไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีกลุ่มปีศาจออกมาขวางทางมากเท่านั้น
ฮันปู้ฟู่ต้องการจะออกไปลงมืออีกครั้ง แต่โจวเทียนอวิ๋นก็ห้ามเอาไว้
“ท่านแม่ทัพใหญ่เก็บแรงเอาไว้ก่อนเถอะ ยังมีพวกปีศาจระดับสูงรอคอยท่านอยู่อีก”
ชายฉกรรจ์ผู้เป็นแม่ทัพจากกองทัพเซียนกระบี่ยิ้มเล็กน้อย กล่าวต่อไปว่า “ส่วนปีศาจเหล่านี้ให้กองทัพเซียนกระบี่ของพวกเราจัดการเอง”
ฮันปู้ฟู่ขมวดคิ้วและจ้องมองด้วยความพิศวง
บรรดาเด็กสาวที่โจวเทียนอวิ๋นคัดเลือกมานั้น ไม่ว่าจะเป็นขั้นพลังหรือความแข็งแกร่งทางร่างกาย พวกนางก็ไม่น่าจะสามารถเอาชนะปีศาจบรรพกาลได้เลยสักนิด
โจวเทียนอวิ๋นวาดเท้าไปบนพื้นดาดฟ้าเรืออย่างแผ่วเบา
ทันใดนั้น เท้าของเขาก็วาดอักขระอาคมขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
อักขระเหล่านั้นเปล่งแสงสว่างไสว
และในเวลาเดียวกันนี้ แสงสว่างสีทองคำก็เรืองรองออกมาจากร่างกายของเฉียนเหมย หวังซินอวี่ เยว่เว่ยหยาง มี่หรู่หยานและคนอื่น ๆ
ทันใดนั้น กลุ่มเด็กสาวรู้สึกได้ว่าตนเองมีพลังเพิ่มมากขึ้น
“นี่คือความรู้สึกที่คุ้นเคยยิ่งนัก”
ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉียนเหมย
นี่เหมือนกับการถ่ายทอดพลังที่นายท่านเคยทำมาก่อน
“ผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพัน?”
ฮันปู้ฟู่เบิกตามองโจวเทียนอวิ๋นด้วยความเหลือเชื่อ
และบัดนั้น ฮันปู้ฟู่ถึงได้รู้ว่าตนเองมองข้ามบางอย่างไป ชายฉกรรจ์ร่างกำยำผู้นี้เป็นผู้ใช้สายเลือดผู้คงกระพัน ความสามารถพิเศษคือการถ่ายทอดพลังของตนเองให้แก่ผู้ที่ได้รับเลือก… นับว่าขุมกำลังของกองทัพเซียนกระบี่มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาเคยคิดเอาไว้เสียอีก
“ฝากพวกเจ้าด้วยนะ”
โจวเทียนอวิ๋นกล่าวด้วยเสียงราบเรียบสงบสุขุม จากนั้นผายมือไปยังกลุ่มปีศาจที่ขวางทางอยู่ “นี่คือโอกาสในการฝึกฝนที่หาได้ยากยิ่ง ปีศาจเหล่านี้เป็นศัตรูของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าจงใช้โอกาสนี้ล้างแค้นให้กับเผ่าพันธุ์ของพวกเรา เช่นเดียวกับใช้พวกมันเป็นหินลับมีดให้แก่ฝีมือของตนเองเถอะ”
โจวเทียนอวิ๋นพูดยังไม่ทันจบ
เฉียนเหมยก็ควงค้อนเหล็กในมือนางพุ่งออกไปราวกับเป็นสุนัขบ้าคลั่งตัวหนึ่งแล้ว