เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ - ตอนที่ 1239 ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้อภัย
บทที่ 1239 ไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้อภัย
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็คุยกันไปสักพัก ผู้หญิงกำลังจะพาสามีของเธอจากไป
ก่อนจากไปจู่ๆเธอก็เห็นร่างที่อยู่ด้านหน้าเธอ จึงได้พูดขึ้น
“เฮ้ย? คนนี้……..มันใช่คนที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมลงจากเรือหรือเปล่า? เธอมาได้ยังไงกัน?”
ได้ยินแบบนี้ เสี่ยวเหยียนมองไปตามทางที่เธอชี้อยู่ ก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังเดินมาทางเธอ
หลินชิ่นเอ๋อ?
เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง?
เมื่อเห็นหลินชิ่นเอ๋อ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ยังไม่ทันที่เธอจะหันหน้าหนี หลินชิ่นเอ๋อก็เห็นเธอแล้ว นอกจากจะยิ้มให้เธอแล้วยังได้โบกมือให้เธออย่างต่อเนื่อง
ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นท่าทางของหลินชิ่นเอ๋อ ก็อดไม่ได้ที่แสดงออกอย่างดูถูก เธอมันเป็นเงาที่ตามตัวไม่เลิกจริงๆ ถึงกลับตามมาถึงที่นี่ หรือว่าอยากที่จะมาให้ท่าสามีเธอต่อ?
เสี่ยวเหยียน: “………..”
เสี่ยวเหยียนตอนนี้ก็ไม่ชอบหลินชิ่นเอ๋อแล้ว เพียงแต่คิดไว้ว่าเมื่อเที่ยวเสร็จแล้วค่อยไปจัดการเรื่องของเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกลับตามมาถึงที่นี่
เธอต้องการอะไรกันแน่? หรือว่าเธอต้องการมาให้ท่าหานชิง?
แต่ว่า…….เธอแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ?
ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วทำไมยังมาให้ท่าคนอื่นล่ะ? เสี่ยวเหยียนคิดไม่ตก หรือว่าเป็นเพราะหานชิงสมบูรณ์แบบ และสามีของเธอมักใช้ความรุนแรงกับเธอ ดังนั้นเธอเลยอยากจะให้ท่าหางชิง?
เมื่อคิดถึงตรงไหน คิ้วของเสี่ยวเหยียนก็ขมวดขึ้นมาทันที
“ฉันจะบอกเธอให้นะ เธอมันยังเป็นเด็กสาว อย่าให้ผู้หญิงแบบนี้มาหลอกได้เด็ดขาด ฉันดูเขาอายุก็เยอะแล้ว คาดว่าฝีมือในการจีบผู้ชายต้องไปเบา เขามาแล้วเธอต้องดูไอ้แก่ของเธอให้ดีๆละ”
“ดูให้ดี? เสี่ยวเหยียนไม่เข้าใจ ทำไมต้องดูสามีฉันให้ดีละ? เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเหรอ?”
“เฮ้ย ยัยเด็กโง่ เธอไม่เข้าใจใช่มั้ย?” เพราะตอนนี้หานชิงไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ เขาไปเอาน้ำให้เสี่ยวเหยียน ดังนั้นผู้หญิงคนนี้พูดจาก็ไม่ได้ระมัดระวัง “ในโลกนี้ ไม่มีที่ไม่ขโมยกิน แมวกับกลิ่นคาว เข้าใจความหมายของฉันแล้วใช่มั้ย?”
เสี่ยวเหยียน: “……..”
ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความสงสัย ขโมย แมวกับกลิ่นคาว?
หมายถึง……… หลินชิ่นเอ๋อเหรอ? แต่ว่า แล้วเกี่ยวกับอะไรกับหานชิง?
สามีของผู้หญิงที่อยู่ข้างๆไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินเรื่องนี้ หัวเราะออกมา: “น้องสาว เธออย่าไปฟังเมียพี่พูดไปเรื่อยเลย ในโลกนี้ยังมีแมวที่ไม่ไปขโมยกินของคาว เหมือนอย่างพี่ก็ไม่เคยขโมยกิน พี่รักแต่เมียพี่คนเดียว”
ผู้หญิงคนนี้ค้อนเขาไปหนึ่งที แต่ว่าสีหน้านั้นบ่งบอกถึงความพอใจ
“ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องดูแลให้สามีดีๆ ผู้หญิงคนนั้นดูแล้วไม่น่าจะใช่คนดีอะไร ก่อนหน้านั้นที่อยู่บนเรือฉันก็มองออกแล้ว สิ่งที่ไม่ควรเกรงใจก็อย่าไปเกรงใจ เพื่อไม่ให้ต้องมาเสียใจภายหลัง เข้าใจมั้ย?”
ในที่สุดเสี่ยวเหยียนก็เข้าใจแล้ว ขโมยที่พวกเขาพูดถึง แมวกับกลิ่นคาว กลับหมายถึงหานชิงนี่เอง……….
ก่อนหน้านี้ที่เธอไม่เคยคิดถึงด้านนี้มาก่อน เป็นเพราะว่าเธอเชื่อใจหานชิง รู้สึกว่าหานชิงเขาไม่ใช่คนแบบนั้น
แม้ว่าเธอไม่รู้ว่าหานชิงจะชอบตัวเองมากแค่ไหน แต่เธอนั้นเข้าใจหานชิงเป็นอย่างดี นิสัยอย่างเขา ไม่มีทางที่จะชอบหลินชิ่นเอ๋อ
เพียงแต่อีกฝ่ายก็แค่เตือนตัวเอง เสี่ยวเหยียนตอบด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“ขอบคุณที่เป็นห่วง ฉันจะระวังตัว”
หลินชิ่นเอ๋อเหรอ? หากเธอไม่รักษาศีลธรรมจริงๆ คิดจะมาให้ท่าหานชิงละก็ เธอเสี่ยวเหยียนก็ไม่ใช่ว่าจะรังแกได้ง่ายๆ
ช่วยเธอแล้วยังจะถูกเธอแว้งกัด เสี่ยเยี่ยวไม่มีทางจะยอมเด็ดขาด
สามีเธอมาแล้ว หลินชิ่นเอ๋อคนนั้นก็ใกล้ถึงแล้ว เธอระวังหน่อยละกัน พวกเราไปก่อนล่ะ
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพาสามีของเธอออกไปได้ไม่นานเธอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองแวบหนึ่ง แล้วกระซิบกับสามีของเธอ
“น้องเสี่ยวเหยียนคนนี้ดูแล้วใสซื่อเกินไป ไม่รู้ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า”
สามีเธอพูดด้วยเสียงเข้ม “ใช่หรือไม่ใช่คู่ต่อสู้ก็อยู่ที่ว่าผู้ชายคิดยังไง หากผู้ชายคนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ต่อให้น้องเสี่ยวเหยียนจะใสซื่อยังไงก็ไม่มีคู่ต่อสู้มาปรากฏตัวหรอก แต่ถ้าหาก………”
คำพูดด้านหลังก็ไม่ได้พูดจนจบ แต่ภรรยาของเขาเข้าใจอย่างชัดเจน แล้วก็ถอนหายใจ
“ฉันเห็นเธอเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นก็สมบูรณ์แบบเกินไป หวังว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ชายเลว”
“ผมดูแล้วไม่ใช่ บนตัวเขามีออร่าที่คนธรรมดาทั่วไปไม่มี อีกอย่างก็รักน้องเสี่ยวเหยียนไม่น้อย สำหรับผู้หญิงแบบนั้น…….พูดตามตรง ต่อให้ผู้ชายถูกใจ ก็คงแค่เล็กๆ ไม่จริงจังอะไรหรอก”
“ถุย ผู้ชายอย่างพวกคุณช่างไม่รู้อะไรดีอะไรไม่ดีเลย”
“เมียจ๋า นั่นมันคนอื่น ไม่ใช่ผม”
ทั้งสองคนพลางพูดพลางเดินจากไป
และทางนี้ในที่สุดหลินชิ่นเอ๋อก็ได้วิ่งมาถึงตรงหน้าของเสี่ยวเหยียน นั่งลงที่ข้างกายเธอ ด้วยท่าทางที่สนิทสนมมาก
“น้องเสี่ยวเหยียน ในที่สุดฉันก็หาเธอจนเจอแล้ว จะหาเธอนี่มันไม่ง่ายเลย” หลินชิ่นเอ๋อถูมือของเธอด้วยความลำบากใจ อยากจะไปจับมือของเสี่ยวเหยียน
และแล้ว ก่อนที่เธอยังไม่โดนมือเสี่ยวเหยียน กลับถูกเสี่ยวเหยียนหลบมือหนีโดยตรง
มือของหลินชิ่นเอ๋อทื่ออยู่ตรงที่เดิม “น้องเสี่ยวเหยียน น้องคงไม่ใช่ว่ายังโกรธพี่เรื่องสองวันก่อนมั้ง?”
เรื่องสองวันก่อน? ความเยือกเย็นปรากฏขึ้นที่ตาของเสี่ยวเหยียน น้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย
“คุณหมายถึง คุณอยากจะนั่งข้างๆสามีของฉันแต่ถูกเขาปฏิเสธ จากนั้นคุณก็โกรธแล้วสาปแช่งให้ฉันกับสามีหย่ากันใช่มั้ย?”
เสี่ยวเหยียนพูดตรงๆแบบนี้ ทำให้หลินชิ่นเอ๋อเป็นใบ้ไปชั่วขณะ มองเธอด้วยความกระอักกระอ่วน
เพียงแค่ไม่เจอกันสองวัน ทำไมออร่าบนตัวเธอเหมือนจะมีพลังขึ้นมาหน่อย อีกอย่างแม้แต่พี่ก็ยังไม่เรียกแล้ว การพูดการจาก็ช่างบาดหูนะ หลินชิ่นเอ๋ออิจฉาตาร้อนขึ้นมาทันที
“ขอโทษน้องเสี่ยวเหยียนด้วย วันนั้นเป็นเพราะพี่นั้นไร้เหตุผลไปหน่อย เพราะการมาเที่ยวครั้งนี้สามีพี่เป็นคนพาพี่มา ตั้งแต่แต่งงานมาถึงตอนนี้เขาก็มักจะใช้ความรุนแรงกับพี่ ครั้งนี้บอกว่าจะชดเชยให้พี่ ดังนั้นจึงได้พาพี่มาเที่ยว แต่พี่คิดไม่ถึง ในระหว่างเที่ยวกันอยู่นั้นเขาก็ได้ใช้กำลังกับพี่อีกแล้ว หากวันนั้นไม่ใช่พวกเธอช่วยพี่เอาไว้ เกรงว่าตอนนี้ร่างกายของพี่คงเต็มไปด้วยบาดแผล ดังนั้นวันนั้นฉันเห็นเรือทั้งลำล้วนเป็นคู่สามีภรรยากัน มีแต่ฉันคนเดียวที่โดดเดี่ยว ดังนั้นจึงได้เกิดความอิจฉาขึ้นมา น้องเสี่ยวเหยียน พี่ไม่ใช่คนวิเศษ พี่เป็นเพียงผู้หญิงที่โชคร้ายคนหนึ่ง บางครั้งก็มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นก็เป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ผ่านไปพี่ก็คิดได้แล้ว พี่มาขอโทษเธออย่างเป็นทางการ ต่อไปนี้จะไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้อีก ดีมั้ยเอ่ย?”
คำพูดของหลินชิ่นเอ๋อจริงใจมาก ในแววตาก็ไม่มีความตอแหลแม้แต่นิดเดียว เสี่ยวเหยียนหวั่นไหว เธอก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล หากหลินชิ่นเอ๋อทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบก็ยังดี ถ้าหากตอนนี้เขากำลังหลอกเธอหรือวางแผนเธอล่ะ?
คิดไปคิดมา เสี่ยวเหยียนจึงพูดขึ้น คุณไม่ต้องมาขอโทษฉันหรอกค่ะ เพราะยังไงต่อไปคุณคงไม่มีโอกาสที่จะทำผิดแบบนี้อีกแล้วล่ะ
ได้ยินแบบนี้ หลินชิ่นเอ๋ออึ้งไปเล็กน้อย: “น้องเสี่ยวเหยียน น้องยังไม่ได้อภัยฉันเหรอ? ฉันรู้สึกผิดแล้วจริงๆ”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมให้อภัยคุณ แต่ไม่จำเป็นต้องอภัย อีกไม่นานฉันและสามีก็จะกลับไปแล้ว ถึงเวลาก็จากกันแล้ว”
หลินชิ่นเอ๋อได้ยินแบบนี้ก็ตกใจ: “พวกเธอจะกลับประเทศแล้ว? อยู่ที่นี่อีกไม่นาน?”