เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ - บทที่ 778 พี่น้องตู้เข้าเมืองหลวง
- Home
- เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ
- บทที่ 778 พี่น้องตู้เข้าเมืองหลวง
บทที่ 778 พี่น้องตู้เข้าเมืองหลวง
ในช่วงเย็น
ถังหลี่บอกข่าวเรื่องตู้ชิงหยูกับเว่ยฉิง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุขและคาดหวัง บ่งบอกได้ชัดว่านางคิดถึงสหายของนางมากเพียงใด ชายหนุ่มยินดีไปด้วยเมื่อเห็นภรรยาของตัวเองมีความสุข ถังหลี่มีสหายไม่มาก หนึ่งในนั้นคือตู้ชิงหยู
หลังจากที่ได้รับจดหมาย เว่ยฉิงจึงลาหยุดและตามถังหลี่ไปยังประตูเมืองเพื่อรอสองพี่น้อง พวกเขาไม่รู้เวลาที่แน่ชัดของอีกฝ่าย จึงได้แต่รออยู่ที่โรงน้ำชาตรงประตูเมืองแทน
เว่ยฉิงถอดเสื้อคลุมลายงูเหลือมของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ออก เขาสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ ทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนสามีภรรยาทั่วไป คำพูดตลกๆ ของเขาทำให้ถังหลี่ยิ้ม บรรยากาศในโรงน้ำชาจึงไม่ได้น่าเบื่อนัก นางรู้สึกว่าการได้ใช้ชีวิตเช่นนี้ช่างดีเหลือเกิน สามีของนางพูดถึงภาพฝันตอนที่ทั้งสองจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษด้วยกัน แม้ว่าถังหลี่จะไม่ได้เอ่ยปาก แต่แท้จริงแล้ว ในหัวใจของนางยังคงรอคอยวันเช่นนั้นอยู่
ถังหลี่มองไปที่ประตูเมืองเป็นครั้งคราว ทันใดนั้นดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้าง นางลุกขึ้นยืนดึงมือเว่ยฉิงออกไปจากโรงน้ำชาทันที
นางเห็นคนสองคนยืนเคียงข้างกัน คนผู้หนึ่งจูงม้าแต่งกายด้วยชุดบุรุษ ใบหน้าหล่อเหลารูปงาม แต่ถังหลี่รู้ว่านางไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง นางคือตู้ชิงหยู แม้จะผ่านมาห้าหกปีแล้ว แต่ตู้ชิงหยูดูไม่เปลี่ยนไปมากนัก ท่าทางยังคงสง่างามเช่นเดิม
เมื่อตู้ชิงหยูเห็นถังหลี่ นางโยนบังเหียนให้กับคนข้างๆ แล้วเดินไปกอดถังหลี่แน่น
ตู้ชิงหยูแต่งกายด้วยชุดบุรุษซ้ำยังสูงกว่าถังหลี่ เมื่อดูเช่นนี้แล้ว พวกเขาเหมือนชายหนุ่ม หญิงสาวที่ไม่ได้เจอกันมานาน
เว่ยฉิงมองมือตู้ชิงหยูตรงเอวของภรรยาแล้วให้ขมขื่นใจ เขาเฝ้าบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าอีกฝ่ายคือสตรีเหมือนกัน ไม่มีอะไรที่ควรริษยา แต่ไม่นาน เมื่อเห็นตู้ชิงหยูยังไม่ยอมปล่อยภรรยาเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะกระแอมออกมา สุดท้ายแล้วถังหลี่จึงเป็นฝ่ายผละออก แต่ตู้ชิงหยูยังคงกอดเอวของถังหลี่ไว้แล้วมองไปยังเว่ยฉิง
“พี่เว่ย ท่านน้ำหนักขึ้นหรือ อายุมากขึ้นแล้วทำให้อ้วนหรือเปล่า?” ตู้ชิงหยูถาม
ใบหน้าของเว่ยฉิงครึ้มลงทันที
“เจ้าก็คล้ำขึ้นนะ เหมือนแก่ขึ้นสักสิบปี”
ถังหลี่จับศีรษะตัวเอง รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ทั้งสองยังคงไม่ชอบหน้ากันแม้จะไม่ได้เจอมาหลายปีแล้วก็ตาม พวกเขาต่อล้อต่อเถียงกันอีกสองสามคำ ถังหลี่ขัดจังหวะขึ้นมา ทั้งคู่หันไปมอง สีหน้าอ่อนลง
“ชิงหยูเป็นพี่สาวที่ดีของข้า ท่านอย่าได้อิจฉานางเลยนะ” ถังหลี่เตือนเว่ยฉิง ตู้ชิงหยูเชิดหน้าขึ้นรู้สึกตนเองเป็นต่อ มีคนให้ท้าย
“ชิงหยู เจ้าจะไม่ผูกไมตรีกับสามีของน้องสาวที่แสนดีเช่นข้าเลยหรือ?” ถังหลี่หันไปพูดกับนาง ตู้ชิงหยูพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เว่ยฉิงที่คอตกเพราะโดนภรรยาดุ ตอนนี้เบิกบานได้อีกครั้ง
ภรรยาปกป้องเขา!
ถังหลี่มองเด็กหนุ่มที่ติดตามตู้ชิงหยู นางตะลึงไป
“เสี่ยวไป๋หรือ?”
ตู้เสี่ยวไป๋ในความทรงจำของถังหลี่เป็นนักชิมขนมตัวยงและอ้วนท้วน แต่เด็กหนุ่มตรงหน้าของนางผอมเพรียวสูงเกือบจะเท่าตู้ชิงหยู เขารวบผมขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนเยาว์ ดูขี้อายเมื่อมองถังหลี่ เด็กหนุ่มยิ้มจนเห็นเขี้ยวซี่เล็กที่มุมปาก ทำให้ดูน่าเอ็นดูไม่น้อย
“พี่ถัง” ตู้เสี่ยวไป๋เรียกทักทาย เสียงของเด็กหนุ่มน่าฟัง ตู้เสี่ยวไป๋เปลี่ยนไปมาก หากเขาไม่ได้ตามตู้ชิงหยูมา ถังหลี่คงจำไม่ได้ เขาทักทายเว่ยฉิงเรียกพี่เขยอย่างสุภาพ
“กลับจวนกันเถอะ” ถังหลี่ชวน
พวกเขาทั้งสี่กลับไปยังจวนสกุลอู่ ถังหลี่จัดที่นอนให้ตู้ชิงหยูและตู้เสี่ยวไป๋ในเรือนที่เงียบสงบ นางรู้ว่าสหายของนางชอบบรรยากาศเช่นไร หลังจากที่เข้าไปในจวนสกุลอู่แล้ว ระหว่างทางไปยังเรือนรับรองสายตาของตู้เสี่ยวไป๋มองหาใครบางคนไปรอบๆ
“พี่ถัง ซานเป่าไปไหนหรือ?”
“ซานเป่าไม่อยู่ นางกลับบ้านเกิดยังไม่กลับมา” ถังหลี่ว่า
ตู้เสี่ยวไป๋ดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เขาไปต่างแคว้นเสียหลายปี ได้พบผู้คนมากมายแต่ก็ไม่มีใครเหมือนซานเป่า นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าพี่สาวของเขากำลังกลับเมืองหลวง เด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความคาดหวัง รอที่จะพบซานเป่า
“จื่ออั๋งกับสวี่เจวี๋ยเล่า?” ตู้ชิงหยูถามถึงลูกศิษย์ที่แสนล้ำค่าของตน
“จื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยต้องไปรับตำแหน่งที่มณฑลอื่น” ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้เจอศิษย์ทั้งสอง พวกเขาเพิ่งจากไปมณฑลอื่นไม่ถึงสองเดือน หากตู้ชิงหยูกลับมาเร็วกว่านี้คงจะได้เจอกัน
ในระหว่างที่คุยพวกเขาก็ได้เดินมาถึงเรือนรับรอง
“เดินทางมานาน อาบน้ำให้สบายตัวก่อนค่อยมากินอาหารนะ”
ถังหลี่ให้บ่าวรับใช้เตรียมน้ำร้อนให้ ระหว่างที่สองพี่น้องอาบน้ำกันอยู่นั้น เว่ยฉิงรีบเข้ามาอ้อนภรรยา เพราะถ้าหากตู้ชิงหยูมาแล้ว ไม่แคล้วต้องขโมยภรรยาเขาอีกอย่างแน่นอน
เว่ยฉิงคาดการณ์ได้ถูกต้อง เมื่อทั้งสองกลับมาจากอาบน้ำตู้ชิงหยูเกาะติดถังหลี่ทันที นางยังขอให้ถังหลี่่ช่วยคีบอาหารให้อีกด้วย
“เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว” เว่ยฉิงถาม
ตู้ชิงหยูจ้องเว่ยฉิง นางรู้สึกไม่ดีจึงเลือกที่จะไม่ตอบ ถังหลี่คำนวณอายุของสหายในใจ นางอายุมากกว่าถังหลี่หนึ่งปี ตอนนี้น่าจะอายุได้ยี่สิบเจ็ด
“ได้เวลาแต่งงานแล้ว ฮูหยินอย่าลืมหาคนที่เหมาะให้พี่สาวของเจ้าด้วยล่ะ” เว่ยฉิงแอบคิดว่าหากตู้ชิงหยูมีคนรัก นางคงจะไม่มารบกวนถังหลี่
“พี่เว่ย ข้าไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน ข้าอยากมีอิสระ ไม่อยากถูกกักขังอยู่ในเรือนจำที่บ้าน” ตู้ชิงหยูกล่าว ความหมายของนางชัดเจนมากว่านางไม่ต้องการแต่งงาน
“ชิงหยู อย่าพูดเช่นนั้น เจ้ายังไม่แต่งงานเพราะยังไม่เคยเจอบุรุษที่ทำให้หัวใจเต้นแรงต่างหาก” เว่ยฉิงว่า
“บุรุษที่ทำให้ข้าใจเต้นแรงไม่มีอยู่จริง สิ่งที่จะทำให้ข้าใจเต้นแรงได้คือ..” ดวงตาของนางมองไปที่ถังหลี่ด้วยความรักใคร่
“เสี่ยวหลี่เอ๋อร์ ข้าอยากกินซี่โครง คีบให้หน่อยสิ”
ถังหลี่ที่กลับมาเจอตู้ชิงหยูอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน จึงตามใจตู้ชิงหยูทุกอย่าง เว่ยฉิงที่อยู่ข้างๆโกรธมาก ตู้ชิงหยูรีบกินอาหารจนหมด หลังมื้ออาหารจบลง นางรู้สึกง่วง จึงได้ปล่อยถังหลี่ไป
เว่ยฉิงที่อยู่กับถังหลี่พยายามอย่างมากที่จะเกลี้ยกล่อมให้หญิงสาวหาสามีให้กับตู้ชิงหยู
“ภรรยา ข้าคิดว่าพี่รองของเราเก่งและหน้าตาดี เจ้าไม่คิดว่าเขาชอบเดินหมากหรือ? ข้าจำได้ว่าทักษะการเดินหมากของตู้ชิงหยูก็เก่งกาจเช่นกัน พวกเขาเหมาะสมกันมากเลย” เว่ยฉิงพูด ยิ่งทำให้ดูสมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น
ถังหลี่คิดว่าสามีของนางเข้ามายุ่งเรื่องนี้มากเกินไป ทั้งพี่รองและตู้ชิงหยูต่างไม่มีความคิดที่จะแต่งงาน แล้วจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร อย่างน้อยก็ต้องมีใครเป็นฝ่ายริเริ่มไม่ใช่หรือ?
พี่รองของนางต้องการหญิงสาวที่มีความอบอุ่น และกระตือรือร้นต่างหาก