เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 426 เลือกสักคน
คำพูดของหลินโป๋หลาย ทำให้หลินชิงเสว่หน้าซีด
ความจริง เมื่อเห็นหลินโป๋หลาย เหยียนเสี้ยงหม่า และถังหลินออกมาจากห้องของตระกูลซ่ง เธอก็เข้าใจทุกอย่าง
เรื่องทั้งหมด เป็นแผนการของซ่งหรูอี้ และพวกเขาทั้งสาม ให้ความร่วมมือ เพื่อ พาเธอกลับเยี่ยนจิง
เธอดูถูกซ่งหรูอี้เกินไป และประเมินซ่งหรูอี้ต่ำไป
“แกเริ่มใช้ กลอุบายชั้นต่ำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
หลินชิงเสว่ชักตาใส่ซ่งหรูอี้ กัดฟันด้วยความโกรธ
แม้เธอจะเป็นศัตรูกับซ่งหรูอี้ แต่ก็รู้คุณธรรมของเธอ ว่าเธอไม่โกหก และไม่ลอบทำร้าย
แต่ ความเรื่องที่เกิดขึ้นกลับเหนือความคาดหมายของหลินชิงเสว่
ซ่งหรูอี้เย็นชา “ถ้าเป็นเรื่องอื่น ฉันไม่ร่วมมือกับคนอื่น แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับถังเฉา ฉันไม่สนอะไรมากมายหรอกนะ”
ประโยคนี้ พูดจนถังหลิน หนึ่งในสามสีหน้าไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกสับสนวุ่นวาย
ซ่งหรูอี้คือคู่หมั้นของเขา แต่ในใจของเธอมีแต่ชายอื่น แล้วจะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไรกัน?
สีหน้าของหลินโป๋หลายก็ดูแย่ไม่แพ้กัน เขาชอบซ่งหรูอี้ เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้
“เอาคุณหนูไปโรงแรม พักผ่อน พรุ่งนี้เช้า ขึ้นเครื่องตอนเก้าโมง!”
หลินโป๋หลายตวาดออกมา กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
“ครับ!”
การ์ดของตระกูลซ่งรับคำสั่ง จากนั้นก็ไปที่หลินชิงเสว่
พวกเขาไม่สนใจ ยังไงหลินชิงเสว่ก็เป็นแค่ผู้หญิงไร้พละกำลังคนหนึ่ง
หลินชิงเสว่ยกเท้าขึ้นมา แล้วถีบไปที่เป้าของการ์ดคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด
ปัง!
ทันใดนั้น ขาของคนนั้นก็หุบเข้าหากัน จู่ๆก็หน้าเขียวหน้าซีดลงทันใด
หลินชิงเสว่ฉวยโอกาสนี้ หนีออกไป
หลินโป๋หลายตะโกนออกมาเสียงดัง “จับเธอให้ได้!”
การ์ดทุกคนเริ่มไล่ตามหลินชิงเสว่
แต่ซ่งหรูอี้กลับหันหลัง พูดกับเหยียนเสี้ยงหม่าว่า “ยังต้องให้หญิงคนนั้นจัดการ พรุ่งนี้ก่อนเก้าโมง ขวางถังเฉาไว้!”
เหยียนเสี้ยงหม่าพยักหน้า จากนั้นกดโทรออก
“ลงมือได้ คนที่รับงาน มาถึงแล้ว”
……
ขณะเดียวกัน ในห้องพักฟื้นโรงพยาบาล
โจวเหม่ยหยูนนั่งอยู่บนโซฟาตามลำพัง ข้างๆเป็นหลินเจิ้นสงและฟงโฝที่นอนหลับปุ๋ย
เธอใส่ยานอนหลับลงไปในน้ำของหลินเจิ้นสง และซื้อโยเกิร์ตที่มียานอนหลับให้หงโฝ ทั้งสองดื่มหมดก็สลบไป
เมื่อวางสาย โจวเหม่ยหยูนก็หน้าซีดถึงขีดสุด
จากนั้น ยืนขึ้นอย่างตัวสั่น เดินไปที่หลินเจิ้นสง
แต่ เธอไม่ได้ลงมือ ทว่ากลับเดินวนไปวนมา
ไม่ใช่เพราะเครียด แต่กำลังวางแผนอยู่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำเรื่องแบบนี้
โจวเหม่ยหยูนสูดหายใจเข้าลึกๆไม่หยุด สุดท้ายก็ตัดสินใจ พยุงหลินเจิ้นสงขึ้นมา
ปังๆๆ!
ไม่นาน มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใคร?”
โจวเหม่ยหยูนถามอย่างอกสั่นขวัญหาย
“ฉีดยาครับ”
ด้านนอกมีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา
ที่โรงพยาบาลไม่มีบุรุษพยาบาลแต่อย่างใด โจวเหม่ยหยูนรู้ทันที ว่าเป็นคนของอีกฝ่าย รีบปลดล็อก แล้วประตู
เห็นคนที่ยืนที่ประตูสองคนกำลังสวมชุดกาวน์ มองมาที่โจวเหม่ยหยูน “คนอยู่ด้านในใช่มั้ย?”
“อยู่ อยู่ พวกคุณรีบพาเขาลงไป ฉันคนเดียวเอาไม่ไหว”
โจวเหม่ยหยูนรีบกล่าว
ก่อนหน้านี้ ชายลึกลับสั่งการเธอว่า ให้ลักพาตัวหลินเจิ้นสง
ชายทั้งสองสบตากัน คนหนึ่งแบกหลินเจิ้นสง อีกคนนำทาง โจวเหม่ยหยูนตามหลังไปอย่างร้อนรน
ทั้งสามไม่ได้ลงบันได แต่ใช้ช่องทางของบุคลากรทางการแพทย์
เดินไปตามทางไม่มีใครสักคน ต่อให้มี ก็ไปอย่างเร็ว หลบๆซ่อนๆตลอดทาง ไม่นานทั้งสามก็ออกมานอกโรงพยาบาล แล้วขึ้นรถบิวอิคก์สีดำคันหนึ่งไป
รถขับไปเรื่อยๆ ไม่นาน ก็ขับออกนอกเมือง มายังชานเมืองที่เปลี่ยว
ก่อนที่ทั้งสามจะขึ้นรถมาล้วนไม่เห็น ว่าใต้ท้องรถ ได้ติดตั้งจีพีเอสตัวเล็กไว้
“เรากำลังจะไปไหน?”
โจวเหม่ยหยูนถามอย่างจิตใจไม่สงบ
หนึ่งในผู้ชายสองคนกลับดูแคลน “ไม่ต้องถาม ไปแล้วก็จะรู้เอง”
โจวเหม่ยหยูนนั่งห่อไหล่ ด้วยความหวาดกลัว
อี๊ด—-
จู่ๆ คนขับเบรกกะทันหัน รถจอดอยู่ข้างถนนทันใด
โจวเหม่ยหยูนไม่ทันได้ระวังตัว หัวพุ่งชนเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ข้างหน้า หัวหมุนไปมา
คนที่นั่งข้างคนขับก็สะท้าน แล้วกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ขับรถเป็นมั้ยวะ?”
หน้าตาคนขับเคร่งขรึม ชี้ไปที่ข้างหน้า แล้วกล่าว “มองข้างหน้าสิ”
พวกเขามองไป แล้วตกใจทันใด
ตรงกลางถนน มีสองคนกำลังยืนอยู่
คนนึ่งตัวสูง ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ
อีกคนเป็นผู้หญิง อายุประมาณสิบสองสิบสามปี กอดถังโยเกิร์ตไว้
“พวกแก?!”
เมื่อเห็นเฟิ่งหวงและหงโฝ โจวเหม่ยหยูนตกใจจนตัวสั่น ด้วยความคาดไม่ถึง “แกสลบไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงตื่นขึ้นมาได้?”
หงโฝกล่าวอย่างไม่พอใจ “ก็แค่ยานอนหลับเล็กน้อย แล้วยังจะให้ฉันนอนหลับอีก?ฝันไปเถอะ!”
รู้ว่าไปต่อไม่ได้แล้ว ผู้ชายที่นั่งด้านหน้าทั้งสองหยิบปืนขึ้นมา ยิงไปที่เฟิ่งหวงและหงโฝ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น แต่กลับไม่เห็นเฟิ่งหวงและหงโฝแล้ว
ตูม!
ทันใดนั้น บนหลังคารถมีเสียงดังสนั่นขึ้น
เฟิ่งหวงชกไปที่บนหลังคา ทำให้หลังคารถบุบลงทันใด
หงโฝผิวปาก แมลงสองตัวบินเข้าไปในรถ แล้วเจาะเข้าไปในปากของทั้งสอง
พวกเขายังไม่ทันได้ร้องครวญคราง ก็ต้องสิ้นชีพแล้ว
เฟิ่งหวงกระโดดจากรถ เปิดประตูออก โจวเหม่ยหยูนนั่งในรถอย่างแข็งทื่อ ตกใจจนพูดสะเปะสะปะ
“อย่า อย่าฆ่าฉัน……”
ปัง!
เฟิ่งหวงชกเธอจนสลบไป จากนั้นก็กดโทรออก
“นายน้อย จัดการแล้วนะคะ เป็นไปตามที่คุณพูดไว้ทั้งหมด คนเบื้องหลังที่ติดต่อโจวเหม่ยหยูนคือตระกูลเหยียน”
“โอเค”
ปลายสายเป็นเสียงของถังเฉาดัง
แม้จะเป็นคำพูดสั้นๆ แต่กลับเต็มไปด้วยแรงอาฆาต
“นายน้อย ให้ฉันไปหามั้ยคะ?”
เฟิ่งหวงถาม เธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์เบาๆ ดังจากปลายสาย
“ไม่ต้อง ฉันจะไปหาพวกมันเอง”
ถังเฉาน้ำเสียงเลือดเย็น
……
แม้หลินชิงเสว่จะพยายามอย่างสุดกำลังที่จะวิ่งกลับมาที่รถ จากนั้นก็จากไป แต่ถูกการ์ดของตระกูลซ่งไล่ตาม จับกลับไป
“เป็นหน้าที่ของพวกแกก็แล้วกัน”
ซ่งหรูอี้มองหลินชิงเสว่ที่ผมสยาย ราวกับสูญเสียความสุขไป ที่ต้องกลับไปอย่างไม่เต็มใจ
ดังนั้น ในห้องจึงเหลือเพียงหลินโป๋หลาย ถังหลินและเหยียนเสี้ยงหม่าสามคนเท่านั้น
หลินชิงเสว่ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว แต่ แววตายังคงจ้องพวกเขาอย่างไม่ละสายตา
“หลินโป๋หลาย แกทำแบบนี้กับฉัน ไม่กลัวถังเฉาจัดการแกหรือไง?”
หลินโป๋หลายหัวเราะเสียงดัง “เกรงว่าตอนที่มันจะหาเรื่องฉัน ตอนนั้นผมคงควบคุมคุณอยู่บนเครื่องบินแล้วล่ะ”
“หมายความว่าไง?”
จู่ๆหลินชิงเสว่ก็รู้สึกว้าวุ่นเป็นอย่างมาก
ตอนที่เธอหนี เธอได้กดโทรหาถังเฉา แต่กลับสายไม่ว่าง
เหยียนเสี้ยงหม่าหัวเราะเหอะๆ “คุณหลิน คุณยังไม่รู้สินะ?ว่าตอนนี้พ่อของคุณ ก็เกิดเหตุแล้วเช่นกัน”
“พวกเราได้เตรียมไว้สองแผน ให้คนลักพาตัวหลินเจิ้นสงไป”
“อะไรนะ?!”
เมื่อได้ยินดังนี้ หลินชิงเสว่ก็ชะงักไป จากนั้นส่งเสียงอย่างสุดชีวิต “พวกแกไม่ตายดีแน่!”
หลินโป๋หลายหลับตาทันใด แล้วกล่าว “คุณคิดว่าไอ้สวะนั่นรักคุณมากงั้นเหรอ เกิดเหตุทั้งสองฝ่าย ต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง คุณคิดว่ามันจะเลือกช่วยใคร?”
หลินชิงเสว่เงียบสงัดไป
เมื่อกี๊ที่สายไม่ว่าง เธอก็รู้แล้ว ว่าถังเฉาไม่มีทางช่วยตัวเองแน่
ถีงแม้หลินชิงเสว่ไม่โทษเขา แต่ในใจของเธอ เธอก็ยังหวังให้ถังเฉามาช่วย
“พาออกไป!”
หลินโป๋หลายโบกมือ การ์ดของตระกูลซ่งพาหลินชิงเสว่เตรียมขึ้นรถ
ตูม!
ในขณะเดียวกันนี้ มีรถเก๋งคันหนึ่งขับเข้ามา แว็บเดียว เหมือนกับวัวตัวผู้ที่บ้าคลั่ง ขับเข้ามาในสวนของตระกูลซ่ง
แต่ทว่า กลับไม่ลดความเร็วลงแต่อย่างใด แต่กลับ เร่งความเร็วขึ้นไปอีก พุ่งไปที่การ์ดของตระกูลซ่ง
ปังๆๆ!
ทันใดนั้น การ์ดตระกูลซ่งก็ถูกชนลอยไป
“ใครกัน?”
เหตุการณ์กลับตาลปัตร หลินโป๋หลาย เหยียนเสี้ยงหม่าทั้งสามคนหน้าถอดสีทันใด
รถจอดลง คนหนึ่งเดินลงมา
เมื่อเห็นคนผู้นี้ หลินชิงเสว่ก็ดีใจจนน้ำตาไหล
“สามี!”