เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 320 ไม่คู่ควรจะเป็นพ่อ
นักลอบสังหารที่ยิ่งใหญ่มีกลิ่นอายที่มืดครึ้มและหนาวเย็น ทำให้กลิ่นอายในห้องหนังสือหนาวยะเยือก ร่างกายที่ทรงพลังของถังเฉาก็ขึงตึงในชั่วพริบตา
แต่ก็ต่อเนื่องกันแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น ความรู้สึกตึงเครียดทั้งหมดสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย สิ่งที่แย่งชิงอำนาจของคนอื่นคือ ความเย็นชาที่ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด
หลังจากที่มองเห็นพวกหน่วยกล้าตายที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดแล้ว ในที่สุดถังเฉาก็เข้าใจในขั้นต้นแล้วว่าเพราะอะไรตระกูลหลินถึงได้เป็นหนึ่งในเก้าตระกูลหลวง
เพราะว่าหลินรั่วหวี
แค่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
เพราะเขาคนเดียว ก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลยิ่งใหญ่ตระกูลหนึ่งเสียอีก
พวกนักลอบสังหารพวกนี้ เกรงว่าจะเป็นหน่วยกล้าตายชั่วร้ายที่หลินรั่วหวีแอบเลี้ยงดูเอาไว้ ทุก ๆ คนล้วนมีศักยภาพที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟิ่งหวงเลย
สิบกว่าคนร่วมมือกัน จะต้องเป็นพลังชั่วร้ายที่น่าหวาดผวามากแค่ไหนกันนะ?
ถังเฉารู้แจ้งดี ไม่ว่าจะเป็นวงการนักฆ่า หรือว่าวงการทหารรับจ้าง ล้วนแต่ไม่มีกำลังที่จะต่อต้านกองกำลังทหารหน่วยนี้ จะต้องถูกทำลายล้างในชั่วพริบตาเป็นแน่!
แต่ถ้าคิดจะสยบถังเฉาละก็ ยังไม่พออยู่ดี
เขากวาดตามองหน่วยกล้าตายที่อยู่ด้านนอกอย่างเย็นชา ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา “นี่คืออำนาจที่ได้เปรียบของคุณเหรอครับ?”
ทุก ๆ คนมีศักยภาพที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟิ่งหวง กองกำลังทหารนี้ ถึงจะน่ากลัว แต่ถังเฉากลัวเสียที่ไหนกันล่ะ?
บนเขาโยวเหิง ยอดนักบู๊ทั้งเก้าของโลกข้ามน้ำข้ามทะเลมา ล้วนแต่ถูกถังเฉาสังหารเรียบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารกองนี้เลย
ต้องรู้ว่ายอดนักบู๊ทั้งเก้า ทุก ๆ คนล้วนไปถึงขั้น ‘ระดับจื้อจุน’
“ก็แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น”
ทว่าหลินรั่วหวีกลับยังคงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “ทหารองครักษ์ส่วนตัวที่ผมเลี้ยงเอาไว้ องครักษ์อ้านอิ่ง”
“ผมรู้ว่าคุณเคยเป็นทหารมาก่อน แถมตำแหน่งในกองทัพยังไม่ต่ำเสียด้วย ไม่อย่างนั้นในระหว่างห้าปีนั้นคงไม่ว่างเปล่าหรอก แต่ว่า…”
พูดมาถึงตรงนี้ หลินรั่วหวีก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอีก ชี้ไปที่หน่วยกล้าตายที่อยู่ด้านนอกแล้วพูดว่า “พวกเขาทุกคนล้วนแต่มีผลงานที่ไม่ด้อยไปกว่าคุณ”
“มีหนึ่งในพวกเขาที่เป็นพระราชาแห่งนักล่าที่ฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลา มีหนึ่งคนที่เป็นทหารรับจ้างยอดฝีมือที่ทำได้ทุกอย่าง และยังมีสายลับที่ยอดเยี่อมอีก… ความยิ่งใหญ่ของคุณ ไม่มีค่าในสายตาของผมเลยแม้แต่น้อย”
คำพูดนี้พูดออกมาได้อย่างเหยียดหยามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เหมือนกับปฏิเสธความเป็นคนทุกอย่างของถังเฉา แต่ว่าถังเฉาก็ยังคงไม่โกรธ
ถึงขั้นแม้แต่อารมณ์บนใบหน้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย “คุณคิดจะฆ่าผม?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่”
หลินรั่วหวียิ้มหัวเราะเพราะประโยคนี้ “ผมให้พวกเขาออกมาไม่ใช่เพื่อที่จะฆ่าคุณ ไม่อย่างนั้น ในวันที่คุณกลับเมืองหมิงจูไป คุณได้ตายไปแล้ว”
“ผมแค่อยากจะบอกความจริงกับคุณเรื่องหนึ่ง โลกนี้มันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนที่คุณคิด และก็ไม่ได้ดีงามเหมือนอย่างที่คุณคิดด้วย… พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือในด้านของตัวเอง กลับมารวมตัวกันเพื่อรับใช้ ทำไมกันนะ?”
“เพราะความศรัทธา”
หลินรั่วหวีพูดออกมาสองคำอย่างช้า ๆ สายตาก็เปลี่ยนเป็นคมปลาบในช่วงเวลาสั้น ๆ จ้องถังเฉาเขม็ง “ผมสามารถทำให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่านี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงติดตามผม ไม่ใช่แค่รักษาความปลอดภัยให้กับผม ทั้งยังทำเรื่องที่ไม่สามารถให้ใครรับรู้ได้แทนผมอีกด้วย”
“ผมไม่ฆ่าคุณหรอกครับ เพราะว่ากลัวว่าเธอจะเสียใจ ดังนั้นผมจึงให้โอกาสคุณได้จากเธอไปด้วยตัวเอง”
ฟังคำพูดของหลินรั่วหวีแล้ว ถังเฉาก็จมดิ่งอยู่ในความเงียบอย่างล้ำลึก บางครั้งใบหน้าของเขาก็หน้าเขียวคล้ำ บางครั้งก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ทั้งยังมีความพ่ายแพ้
เขาสามารถแสดงอารมณ์แบบนี้ออกมาได้ ไม่ใช่เพราะว่าหวาดกลัว หน่วยกล้าตายพวกนี้เขาไม่เก็บมาใส่ใจเลยสักนิด เขาเพียงแต่อ่านความตั้งใจของหลินรั่วหวีออก
เพื่อที่จะให้ตนหย่ากับหลินชิงเสว่ เขาไม่เสียดายเลยที่จะโชว์หนึ่งในไพ่ตายของเขา เพื่อให้เขาหวาดกลัว
ถังเฉาเคยพูดเอาไว้ว่า ใครที่จะขัดขวางไม่ให้เขากับหลินชิงเสว่อยู่ด้วยกัน ก็จะเป็นศัตรูของเขา แต่ว่าเขาจะสามารถลงมือกับพ่อตาของเขาได้จริง ๆ เหรอ?
ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ หลินชิงเสว่จะมองตัวเองอย่างไร?
แต่ว่า เขาก็เคยพูดไว้อีกว่าจะไม่ให้เธอเสียใจอีกแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งสองวิธีที่ที่จะทำให้โลกนี้สงบสุข ไม่ผิดต่อพ่อตาและไม่ทำให้เธอเสียใจ?
ถังเฉาเชื่อมั่นว่าจะต้องมีวิธีสิ
ถังเฉาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะทำให้อารมณ์ที่อยู่ในใจหายไปอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นสงบนิ่ง “อาหลินครับ ผมรู้ว่าไม่ว่าอย่างไรคุณก็ไม่ยอมรับผม”
คำนี้พูดออกมา คนที่ประหลาดใจกลับกลายเป็นหลินรั่วหวี
เขามองถังเฉาอย่าประหลาดใจ จากนั้นสายตาก็เปลี่ยนเป็นคมปลาบ
ในสายตาของเขา ถังเฉาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ เขาพูดแบบนี้จะต้องมีประโยคต่อไปแน่
จริงอย่างที่คิด หยุดอยู่สักพัก ถังเฉาก็ยิ้มอย่างใคร่ครวญมาทางเขา “แต่ว่าคุณเคยพิจารณาถึงปัญหาหนึ่งไหมครับ ในใจของหลินชิงเสว่ ความได้เปรียบของคุณมีมากแค่ไหน?”
หลินรั่วหวีขมวดคิ้วแน่นทันที “ผมเป็นพ่อของเธอ”
“ยังมีอีกไหมครับ?”
ถังเฉาเอ่ยถามกลับ
“…”
นอกจากนี้แล้ว หลินรั่วหวีก็พูดคำพูดอื่นไม่ออกอีก สีหน้าเข้มครึ้มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“เธอยอมรับพ่ออย่างคุณแล้วเหรอครับ?”
คำพูดของถังเฉาเย็นชาตามไป “พวกคุณไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วครับ? เธอได้เรียกคุณว่า ‘พ่อ’ ไหมครับ? ในช่วงที่ลำบากที่สุดในชีวิตของเธอ เธอเคยมาร้องขอความช่วยเหลือจากคุณบ้างไหมครับ!”
บึ้ม!
การสอบปากคำที่ทรมานวิญญาณติด ๆ กัน พูดจนสีหน้าของหลินรั่วหวีเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก พลังที่อยู่บนตัวพุ่งขึ้นพรวดพราด ในสายตาที่มองมายังถังเฉาในที่สุดก็ปรากฏความปรารถนาที่อยากจะสังหารขึ้นมา
ทันใดนั้นดูเหมือนบรรยากาศรอบ ๆ จะแข็งตัว ถังเฉาราวกับอยู่ท่ามกลางระลอกคลื่น สัมผัสได้ถึงความกดดันมหาศาล
ถึงแม้ว่าจะเป็นเขา แต่ก็ไม่ยอมรับไม่ได้ว่านี่เป็นศัตรูที่พิเศษ และเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขากลับมาถึงมหานครเลย
แต่ว่า เขาก็ยังคงจ้องหลินรั่วหวีอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เพียงแต่ไม่ขลาดกลัว กลับยิ่งพูดยิ่งฮึกเหิม
“เธอบอกทุกอย่างกับผมแล้ว ว่าใครที่เป็นคนที่ทำให้เธอมีนิสัยเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้?”
“เธอทิ้งชีวิตที่กินหรูอยู่แพงของคุณหนูใหญ่เพื่อที่จะหนีไปจากคุณ สร้างกิจการอย่างยากลำบากตัวคนเดียว ไม่มีเงินของครอบครัวแม้แต่แดงเดียว ก็เพราะอยากจะพิสูจน์ว่าเธออยู่คนเดียวก็สามารถอยู่ได้เป็นอย่างดีมาก ๆ”
“ถ้าหากผมเป็นคุณละก็ ต่อให้ขอให้เธอยกโทษให้ไม่ได้ ก็จะต้องไปขอโทษเธออย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณมาก เธอไม่เพียงแต่ยอมแพ้ต่อความรัก ทั้งยังยอมแพ้ต่อครอบครัวอีกด้วย!”
“หุบปาก!”
เส้นเลือดดำบนหน้าผากของหลินรั่วหวีปูดโปนออกมา รูม่านตาเบิกกว้าง จ้องถังเฉาอย่างเหี้ยมเกรียม
ถังเฉาไม่เพียงแต่ไม่หุบปาก กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเดือดดาลว่า “พวกคุณไม่ใช่ญาติกันเลยสักนิด พวกคุณเป็นแค่คนแปลกหน้าที่มีสายเลือดเดียวกัน!”
บึ้ม…
ประโยคนี้ของถังเฉา ปลุกใจที่อยากจะสังหารของหลินรั่วหวีอย่างถึงที่สุด
ดวงตาเดือดดาลของเขาจ้องตาโต มือกำหมัด สีหน้าประเดี๋ยวเขียว ประเดี๋ยวแดง
คำพูดของถังเฉากรีดหัวใจของเขาอย่างโหดร้ายเหมือนกับมีดดาบ ทำให้เขาเดือดดาลอย่างไม่มีอะไรเทียบได้
และเขาไม่ได้โมโหมากี่ปีแล้วนะ?
“ทำไมเหรอครับ? แทงใจดำคุณเหรอครับ?”
ถังเฉามองหลินรั่วหวีด้วยความเสียดสีเต็มใบหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อของหลินชิงเสว่ก็ตาม แต่ว่าถังเฉาไม่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเขาเลยแม้แต่น้อย
“ผมยอมรับว่าคุณยิ่งใหญ่มาก แต่ว่าคุณก็ยังคงเป็นคนที่ล้มเหลว”
“ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูแล้วยังไงครับ ได้รับโลกทั้งใบแล้วยังไงครับ คุณได้สูญเสียลูกสาวของคุณไปตลอดกาล!”
“ฆ่าเขาซะ”
หลินรั่วหวีลุกขึ้นยืนด้วยสายตาหนาวยะเยือก ดูเหมือนจะหมดความสนใจที่จะเจรจาต่อ
เขาเปลี่ยนใจที่จะฆ่าแล้ว อีกอย่าง จะสังหารถังเฉาเสียที่นี่เลย
ต่อให้มันจะทำให้เธอเจ็บแค้นอีกครั้ง ก็ไม่กลัวแล้ว
ทันใดนั้น บรรดาหน่วยกล้าตายทุกคนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกก็เดินขึ้นหน้ากันมาคนละก้าว พลังบนร่างปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาที่มองไปยังถังเฉาเหมือนกับมองคนตาย