เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 218 หนามยอกเอาหนามบ่ง
ออกจากบริษัทสื่อบันเทิงเฉาหวามาแล้ว หลินชิงเสว่ยังคงโกรธเคืองอยู่ สายตานั้นเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นตายร้ายดียังไงเธอก็ไม่ลบข่าว มีเพียงต้องใช้อำนาจในการประชาสัมพันธ์ของบริษัทต่อสู้กับเธออย่างยืดเยื้อต่อไปเท่านั้น”
“ไม่ต้องลำบากอะไรขนาดนั้นหรอก”
ถังเฉากลับส่ายหัวแล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า : “ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง รับรองว่าในวันพรุ่งนี้ข่าวร้ายทั้งหมดจะหายไป”
ใบหน้าของหลินชิงเสว่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ : “คุณจะทำอะไร?”
ถังเฉายิ้ม : “เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่งหรอก กลับไปที่บริษัทก่อนเถอะ บริษัทเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องการคุณอย่างแน่นอน”
หลังจากได้ยินเช่นนี้แล้ว หลินชิงเสว่ทีมีท่าทีสงบแล้วกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า : “ขอบคุณนะคะ”
ส่งหลิงชิงเสว่กลับไปที่อาคารกั๋วจี้แล้ว ถังเฉาหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีแล้วโทรหาเจิงเทียนเสียง :”บริษัทลูกน้องของคุณมีสื่อรูปแบบใหม่มีพลังความคิดเห็นสาธารณะแข็งแกร่งสักหน่อยไหม?”
เจิงเทียนเสียงยิ้มกว้าง : “คุณถัง คุณมองหาถูกคนแล้ว ผมเริ่มต้นด้วยธุรกิจนี้ ไม่ต้องพูดไกล พูดใกล้ๆนี่แหละ เมืองหมิงจูของพวกเรา งานในด้านสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่ ถ้าผมอยู่อันดับสองก็ไม่มีใครกล้าอยู่อันดับหนึ่งหรอกครับ”
“ดีมาก”
ถังเฉาพยักหน้าแล้วพูดอย่างพึงพอใจ : “ช่วยผมจัดการคนสองคน เว่ยเช่นเช่นของบริษัทสื่อบันเทิงเฉาหวาและต่งวี่ซู่แห่งตระกูลต่ง ทำลายชื่อเสียงและเกียรติภูมิใส่เรายังไง คุณก็ทำแบบนั้นเลย”
“รับทราบครับ”
เจิงเทียนเสียงหัวเราะร่า “คุณดูข่าววันพรุ่งนี้ให้ดีแล้วกันครับ”
หลังจากวางสายแล้วมุมปากของถังเฉาได้ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่โหดร้ายเช่นกัน
เล่นสกปรกกับฉันงั้นเหรอ?
น่ากลัวว่าแกจะเอาชนะไม่ได้น่ะสิ
เวลาเดียวกัน ณ โรงพยาบาลหมิงจู โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองหมิงจู
เว่ยเช่นเช่นนั่งข้างๆต่งวี่ซู่กำลังป้อนองุ่นให้เขา
ต่งวี่ซู่ดึงเว่ยเช่นเช่นเข้ามากอดขณะที่กินไปด้วย : “ผมเห็นข่าวแล้ว ทำได้ไม่เลวเลย ตอนนี้ชื่อเสียงของหลินชิงเสว่ผู้หญิงคนนั้นและบริษัทของเธอเหม็นโฉ่สุดๆแล้ว”
“น่าเกลียด ที่นี่โรงพยาบาลนะคะ”
เว่ยเช่นเช่นตีมือต่งวี่ซู่ท่าทางจริงจังเล็กน้อย : “วี่ซู่คะ เมื่อกี้นี้หลินชิงเสว่พาผ้ชายคนหนึ่งมาหาฉัน เขาพูดว่าเขาเป็นคนทำร้ายคุณจนบาดเจ็บ เป็นแบบนี้จริงเหรอ?”
“ผู้ชายคนนั้นแซ่ถังใช่หรือเปล่า?”
เว่ยเช่นเช่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
“เป็นเขานั่นแหละ!”
ท่างทางของต่งวี่ซู่กลายเป็นมืดมนลงไปทันทีทันใด : “รอให้เขาสูญเสียการสนับสนุนจากหลินชิงเสว่ก่อนเถอะ ผมจะต้องฆ่าเขาให้ได้!”
เพราะอย่างนี้ สายตาของเว่ยเช่นเช่นจึงเคร่งเครียดขึ้นมาทันที พูดแบบนี้แล้ว การบาดเจ็บบนตัวของวี่ซู่เป็นเขาที่ทำจริงๆน่ะสิ
“แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอกนะ ทำให้ชื่อเสียงของหลินชิงเสว่เหม็นเน่าเป็นเพียงแค่ก้าวแรกแรกเท่านั้น ที่เหลือแค่รอให้ตระกูลต่งของผมลงมือ”
ต่งวี่ซู่เปลี่ยนหัวข้อการสนทนาอีกครั้ง เขาพูดว่า : “รอให้บริษัทของนังสารเลวนั่นล้มละลายก่อน เธอไม่ได้มีหน้าที่ปล่อยให้เราจัดการหรอกเหรอ?”
เว่ยเช่นเช่นขจัดความกังวลใจในใจออกไปแล้วและกลับไปรอฟังข่าวดี
ต่งวี่ซู่ได้บอกข่าวนี้กับต่งอี้สิงด้วยเช่นกัน
ห้องประชุมขนาดใหญ่ของตระกูลต่ง
ต่งหนานหลิ่ง ต่งอี้สิงและชายวัยกลางคนสวมชุดและรองเท้าหัวกลมสีดำนั่งอยู่รวมอยู่ในนั้น
หน้าอกบนชุดของชายวัยกลางคนได้ปักรูปไทเก๊กสีขาวและดำขนาดใหญ่ เป็นหยินและหยางโอบกอดกัน เต็มไปด้วยความเป็นลัทธิเต๋า
“คุณปู่ครับ ขั้นตอนแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ที่เหลือแค่รอให้ลี่จิงกรุ๊ปถูกทุกฝ่ายกดดันแล้วพังทลายลงมา”
ต่งอี้สิงวางโทรศัพท์ลงแล้วบอกกับต่งหนานหลิ่งด้วยรอยยิ้มระบายเต็มใบหน้า
“ดีมาก แกกับวี่ซู่จะได้หน้ากับเครดิตในครั้งนี้”
ใบหน้าของต่งหนานหลิ่งเป็นสีแดงแล้วหยิบชาหลงจิ่งชั้นดีขึ้นมาจิบแล้วหัวเราะ : “ตั้งแต่เริ่มแรก ตระกูลต่งของฉันอยู่ในตำแหน่งอยู่ยงคงกระพัน ผู้หญิงคนนั้นหลินชิงเสว่เป็นคนมีพรสวรรค์เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตระกูลต่งได้”
“คนที่ไม่สร้างประโยชน์อะไรให้กับตระกูลต่งของฉัน สมควรถูกทำลาย”
แววตาของต่งอี้สิงกลับมีประกายโหดร้าย : “ผมเคยให้โอกาสเธอแล้ว น่าเสียดาย เธอไม่เพียงไม่รักษาเอาไว้ ยังรู้เห็นเป็นใจกับสามีของเธอในการลงมือกับผมจนผมเกือบจะตกจากหอคอยหมิงจู แค้นนี้ไม่ชำระ ผมก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!”
“อี้สิง วางใจเถอะ ฉันจะไม่ยอมละเว้นครอบครัวของหลินชิงเสว่ พวกเขาจะอยู่หรือตาย ต้องขึ้นอยู่กับแก!”
“ชอบคุณครับคุณปู่”
ถึงแม้ว่าใบหน้าของต่งอี้สิงจะมีรอยยิ้มแต่เขายังคงระมัดระวังตัว : “เกรงว่าถังเฉาที่อยู่ข้างกายหลินชิงเสว่จะเป็นตัวแปร ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาจะต้องมาที่บ้านตระกูลต่งของผม แล้วยึดคืนวิดีโอต้นฉบับกลับไป”
“เรื่องนี้จะต้องขอให้อาจารย์เปาออกโรงเองแล้ว”
ต่งอี้สิงไร้ซึ่งความกลัวไปโดยสิ้นเชิง เขามองไปยังชายสวมชุดชาวบ้านธรรมดาที่กำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ตรงกลาง สองมือของเขากำแน่นทำท่าแสดงความนับถือ
ฟึ่บ—-
ทันทีที่เสียงพูดจบลง อาจารย์เปาก็ลืมตาขึ้น แสงสว่างสดใสเปล่งแสงออกมาจากตาทั้งสองข้าง
โหนกแก้มยกขึ้นสูง ขมับทั้งสองข้างมีเส้นเลือดสีน้ำเงินที่สามารถมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าปูดขึ้นมา มันขดเลื้อยไปมาราวกับงูยังไงยังงั้น
ดวงตาทั้งสองข้างที่ของเขาเบิกกว้างเหมือนโกรธเคือง แต่ไม่มีความโกรธ
นี่คือยอดฝีมือขั้นสูงสุด ที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าเหล่าบรรดานักบู๊ฆราวาสจำนวนมาก
“เจ้าบ้านตระกูลต่ง ไม่ต้องกังวลใจ เขายกเลิกยอดฝีมือในสมาคมการต่อสู้ของฉันมากมายขนาดนี้ ตัวฉันเองก็ไม่อาจอยู่ร่วมกับเขามาตั้งนานแล้ว!”
อาจารย์เปาพูดอย่างเฉียบขาดว่า : “ขอแค่ผู้ชายคนนี้กล้ามา ฉันบอกได้เลยว่าเขาจะไม่มีทางได้กลับไปอีก!”
ต่งหนานหลิ่งมีความสุขขึ้นมาทันที อาจารย์เปาผู้นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกศิษย์ของท่านผู้นั้น แต่ยังเป็นสมาคมการต่อสู้ชั้นสูง เขาต้องจ่ายเงินก้อนโตและพูดพล่ามมากมายถึงจะเชิญเขามาได้
แต่อย่างไรก็ตามต่งอี้สิงยังคงมีความกังวลใจเล็กน้อย เขากำหมัดแล้วพูดว่า : “อาจารย์เปา ครับ แล้วท่านผู้นั้นล่ะ? มาด้วยได้หรือเปล่า ตระกูลต่งของผมจะดูแลเป็นอย่างดี”
“คุณหมายความว่ายังไง?”
คิดไม่ถึงว่า อาจารย์เปากลับพ่นเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชาออกมาแล้วมองไปที่ต่งอี้สิงด้วยสายตาเย็นเยียบ : “หรือคุณคิดว่าฉันคนเดียวไม่สามารถจัดการผู้ชายคนนี้ได้งั้นเหรอ?”
ต่งอี้สิงก้มหน้าลงทันที : “อี้สิงไม่กล้า อี้สิงเพียงแค่รู้สึกว่า สิงโตสู้กับกระต่ายอย่างสุดกำลัง เมื่อต่อสู้เสร็จสิ้นแล้ว ย่อมไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเด็ดขาด”
“ฮึ ตัวท่านปรมาจารย์เองก็ยุ่งมาก จะมีเวลามาดูแลเรื่องทางโลกได้อย่างไร?” ในคำพูดของอาจารย์เปาเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง
ต่งอี้สิงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง อาจารย์เปากลับโบกมือ : “เจ้าเด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความแล้ว ฉันคนเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการกับเจ้าหมอนี่แล้ว”
ต่งอี้สิงจึงไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก เขากำหมัดแสดงความนับถือ : “ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนอาจารย์เปาแล้ว”
เช้าตรู่วันถัดมา
เว่ยเช่นเช่นขึ้นลิฟต์และเดินไปที่บริษัท แต่มีคนชี้นิ้วมาที่เธอตลอดทางแล้วยังแอบหัวเราะด้วย
เว่ยเช่นเช่นคิดว่าเป็นเพราะวันนี้เธอแต่งหน้าผิดพลาด ดังนั้นจึงหยิบกระจกขึ้นมาเช็คเครื่องสำอาง คิดไม่ถึงเลยว่าคนรอบๆตัวเธอกลับหัวเราะชอบใจมากยิ่งขึ้น และยังมีบางคนแอบถ่ายรูปเธอด้วย
ในที่สุดเว่ยเช่นเช่นก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว เธอจับตัวคนที่แอบถ่ายรูปเธอเอาไว้แล้วซักถามว่า : “เมื่อกี้นี้ถ่ายรูปฉันงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วจะทำไม?”
คนผู้นั้นไม่เพียงไม่กลัว ตรงกันข้ามกลับปัดมือของเว่ยเช่นเช่นออก ใบหน้าเต็มไปด้วยการดูหมิ่นเหยียดหยาม : “เป็นโสเภณีฉาวโฉ่ไปทั่วแล้วยังกลัวคนถ่ายรูปอีกเหรอ? ต้องการให้ฉันพิมพ์ความคิดเห็นสองสามคำแล้วส่งไปที่ประเด็นร้อนของคุณไหมล่ะ?”
“คุณพูดอะไร!”
เว่ยเช่นเช่นรู้สึกสับสน แต่ความโกรธเคืองยังปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ
“เห็นผู้หญิงสารเลวมาก็เยอะ แต่ชั้นต่ำแบบเธอนี่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก”
“ไม่เป็นไรหรอกที่จะเป็นเมียน้องของต่งวี่ซู่ แต่ยังไม่พอใจ ยังจะไปเป็นชู้กับต่งอี้สิงแห่งตระกูลต่งอีก ได้ยินว่าทำแท้งเด็กไปแล้วหลายคนด้วยนะ”
“จริงด้วย ไม่ไปเป็นนักแสดงหญิงเลยล่ะ น่าเสียดายนะ”
“……”
ผู้คนตามถนนพากันวิพากษ์วิจารณ์ มีคนพูดจาให้ร้ายและยังมีการเยาะเย้ยถากถางอย่างมีความสุข
ผู้คนสังเกตเห็นเว่ยเช่นเช่นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเข้ามาตบไหล่เธอโดยตรง ไม่ยอมให้เธอเดินไป : “คุณคือเว่ยเช่นเช่นสินะ?”
สีหน้าของเว่ยเช่นเช่นสับสนวุ่นวายใจอย่างมาก เพราะเธอพบว่ามีคนพากันรุมล้อมและชี้มาที่เธอมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ดังนั้นจึงกางขาแล้ววิ่งหนีทันที
“อย่าวิ่งนะ!”
“จับเว่ยเช่นเช่นผู้หญิงสารเลวคนนั้นให้ได้”
“ทุบเธอให้ตาย!”
คนเดินเท้าต่างกันไล่ตามไป แล้วปาขวดเปล่าและไข่ไปบนตัวของเว่ยเช่นเช่น
หลังจากความชุลมุนวุ่นวายได้ผ่านพ้นไปครู่หนึ่ง เว่ยเช่นเช่นนอนผมยาวแผ่สยายอยู่บนพื้น บนตัวเต็มไปด้วยรอยรองเท้าและไข่ รองเท้าหลุดออกไปแล้วข้างหนึ่ง
“นี่มัน ……ทำอะไรกัน?”
น้ำตาอันเจ็บปวดของเว่ยเช่นเช่นไหลออกมา เธอปีนกระโผลกกะเผลกขึ้นมา มือข้างหนึ่งปัดหน้าจอมือถือ จนไปพบข่าวหนึ่งที่ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ
“นักแสดงชายชาวจีนต่งวี่ซู่และต่งอี้สิงคุณชายน้อยแห่งตระกูลต่งมีคนรักคนเดียวกัน เปิดโปงความโกลาหลของเหล่าเศรษฐีให้กับคุณ”
ดวงตาของเว่ยเช่นเช่นกลมโตขึ้นมาทันที เธอคลิกเข้าไปอย่างสั่นเทา ภาพและวิดีโอขนาดใหญ่ปรากฏสู่สายตาเธอ
นักแสดงนำชายคือต่งอี้สิงคุณชายน้อยแห่งตระกูลต่ง แล้วนักแสดงนำหญิง ไม่ใช่ตัวเธอหรอกเหรอ?