เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย - บทที่ 455 อาหารส่งท้ายปีเก่าที่ชุลมุนวุ่นวาย
- Home
- เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย
- บทที่ 455 อาหารส่งท้ายปีเก่าที่ชุลมุนวุ่นวาย
บทที่ 455 อาหารส่งท้ายปีเก่าที่ชุลมุนวุ่นวาย
อันชินอ๋องเห็นเผยยวนไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย ก็เอ่ยขึ้นมาทันที “เนี่ยเจิ้งอ๋อง อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นคนต่างแซ่ ราชวงศ์ตระกูลเซี่ยของข้าอนุญาตให้เจ้ามีสิทธิ์ตัดสินใจตั้งแต่เมื่อใดกัน!”
เผยยวนเห็นเขาโมโหจนกระทืบเท้าเร่า ๆ ก็เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ “อุบายสุนัขจนตรอก อดีตฮ่องเต้เซี่ยเจินเล่นสมบทบาทกว่าเจ้าเสียอีก ดูท่าเจ้าต้องการปฏิเสธและไม่ยอมจำนนใช่หรือไม่?”
และไม่รอให้อันชินอ๋องระเบิดอารมณ์ออกมา เผยยวนก็เอ่ยต่ออีก “ในเมื่ออันชินอ๋องไม่ให้ความร่วมมือ ก็ไม่ต้องไว้หน้าเขาอีก พาตัวคนไป ไม่ให้ความร่วมมือ โดนตีจนสงบเสงี่ยมแล้วก็จะรู้เองว่าควรเชื่อฟังเช่นไร”
เผยยวนเอ่ยจบก็ให้คนลากเก้าอี้มา เพื่อให้จี้จือฮวนนั่ง
อันชินอ๋องโมโหจนควันแทบจะออกหู เผยยวนตอนนี้กำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ หากยอมตามเขาไป มิเท่ากับเผยยวนเป็นมีด ส่วนเขาเป็นเพียงเนื้อปลาบนเขียงหรอกหรือ!?
เมื่อเขาคิดได้ดังนั้นก็ชักดาบของคนที่อยู่ข้างกายออกมา แล้วฟันเผยยวนทันที ปากก็ร้องตะโกนลั่น “วันนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง!”
ทว่ายังไม่ทันที่เผยยวนจะลงมือ คนที่เผยยวนพามาก็จับอันชินอ๋องกดลงกับพื้นเสียแล้ว ส่วนองครักษ์ลับและอันธพาลในจวนเหล่านั้น จะมีสักกี่คนกันที่สามารถสู้กับพวกเขาได้
อันชินอ๋องยังคงไม่ยอมจำนน เอาแต่พูดว่าเผยยวนทำเพราะต้องการกำจัดคนที่เห็นต่าง ต้องการควบคุมราชสำนัก อยากควบคุมโอรสสวรรค์ คอยสั่งการกษัตริย์ โฉดชั่วและทะเยอทะยาน ใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
เผยยวนก็ไม่ได้ให้คนปิดปากของเขา ปล่อยให้เขาตะโกนไป เขาจะดูสิว่าในราชสำนักยังมีอีกกี่คนที่เป็นพวกเดียวกับคนสารเลวอย่างอันชินอ๋อง และเขาก็ไม่รังเกียจหากจะต้องจัดการทีละคน
พระชายาอันชินอ๋องตกใจจนนิ่งงันไปนานแล้ว ในฐานะภรรยา สามีของนางทำอะไร ต่อให้ไม่รู้แน่ชัดก็ควรจะสังเกตเห็นอะไรบ้าง ทว่าเรื่องยังไม่ทันสำเร็จ เขาก็ถูกคนจับได้เสียแล้ว นอกจากนี้ยังทำให้คนในครอบครัวพลอยเดือดร้อนไปด้วย พระชายาจึงทำอะไรไม่ถูกแล้ว
เมื่อเห็นอันชินอ๋องถูกคนกดไว้กับพื้น ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้โต้กลับ พระชายาก็พุ่งตัวเข้ามาคุกเข่าขอร้อง ถึงเวลานี้นางก็ไม่สนใจสิ่งที่เรียกว่าหน้าตาอะไรนั่นอีกแล้ว คิดแค่เพียงต้องปกป้องทุกคนในจวนอันชินอ๋องเอาไว้ให้ได้ต่างหากที่สำคัญกว่า
“เนี่ยเจิ้งอ๋อง ต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันเป็นแน่ ท่านอย่าโกรธเขาเลยนะเจ้าคะ”
เผยยวนปกป้องจี้จือฮวนเอาไว้ข้างกายด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พระชายาไม่จำเป็นต้องคารวะเช่นนี้ เผยยวนเพียงปฏิบัติตามกฎของราชสำนัก ใต้หล้าก็ไม่มีกฎที่ผู้ชายทำความผิดแล้วต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาคุกเข่าขอความเมตตาให้”
เขาเอ่ยถึงตรงนี้ก็กวาดสายตาไปทางอันชินอ๋องอย่างดูแคลน “เอาตัวไป!”
เผยยวนสองสามีภรรยาทำงานรวดเร็วและเด็ดขาดมาโดยตลอด คนข้างนอกต่างก็รู้ดี แต่คนพวกนี้ที่มีชีวิตอยู่ดีกินดีในเมืองหลวง และทุกครั้งก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นที่ระบายอารมณ์อย่างไรอย่างนั้น ยังจะมาวางท่าเป็นพระญาติต่อหน้าเขาอีก
ไม่คิดบ้างว่าแม้แต่เซี่ยเจินเขาก็ยังไม่ไว้หน้า นับประสาอะไรกับแค่อันชินอ๋องคนหนึ่งกัน
หากเขากับจี้จือฮวนไม่ได้กลับมาถึงก่อน อาฉือและไท่ซ่างหวงมิเท่ากับจะถูกลอบสังหารหรอกหรือ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็อยากจะถลกหนังของพวกเขาขึ้นมา ยังจะมาพูดเรื่องความเมตตาอะไรกับเขาอีก ลงไปคุยต่อหน้ายมทูตดำขาวเถอะ
เผยยวนเดินไปได้สองก้าว ก็เอ่ยกับฉู่จิ้นที่ยืนอยู่ตรงนั้น “จะมัวยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นอีกทำไม จะรอกินเกี๊ยวอยู่นี่หรืออย่างไร?”
ฉู่จิ้นจึงได้สติขึ้นมา และรีบตามไปทันที “ท่านอ๋อง พระชายา ข้ามาขออภัยขอรับ”
จี้จือฮวนปรายตามองเขาเล็กน้อย “เจ้าจะมาขออภัยอะไรกัน พวกเราต่างหากที่ต้องขอบคุณเจ้า”
หากไม่ใช่เพราะเขา เซียวเซวียนจิ่นคนเดียวเกรงว่าคงยากจะปกป้องอาอินให้ปลอดภัยได้
ส่วนเรื่องที่ไม่พอใจฉู่จิ้นก่อนหน้านี้นั้น ไหนเลยจะเอามาเทียบกับความปลอดภัยของลูกสาวได้
ฉู่จิ้นเห็นท่าทีเช่นนี้ของจี้จือฮวน ก็ยิ่งรู้สึกละอายแก่ใจ “ขอบคุณท่านอ๋องและพระชายาที่ใจกว้างขอรับ เพียงแต่ข้ารีบร้อนตามมา จึงไม่ได้เอาของขวัญปีใหม่มาด้วย”
จี้จือฮวนรู้ว่าตระกูลของฉู่จิ้นตกต่ำลงจากที่เคยรุ่งเรือง จึงไม่คิดที่จะรับของขวัญปีใหม่อะไรจากเขา ยิ่งไปกว่านั้น นางก็เป็นคนไม่ชอบติดหนี้บุญคุณคนที่สุด
“อย่าได้เกรงใจเช่นนี้เลย ไปเถอะ”
ฉู่จิ้นรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองยังไม่ใหญ่เท่าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งด้วยซ้ำ แต่ก็ตามไปด้วยความละอายแก่ใจ
แต่คนของจวนอันชินอ๋องจะยอมให้จับง่าย ๆ เช่นนี้อย่างนั้นหรือ? แน่นอนว่าไม่ใช่
ทันทีที่พวกเผยยวนออกจากประตูไป ก็มีคนคิดจะหนีเพื่อลอบเอาข่าวไปรายงาน สุดท้ายกลับถูกคนจับโยนกลับมา
อย่าว่าแต่คนเป็น ๆ เลย แม้แต่หนูในจวนหากกล้าวิ่งออกไป ล้วนถูกโยนกลับมาทั้งสิ้น!
ล้อเล่นอะไรกัน คิดว่าคนของจวนเนี่ยเจิ้งอ๋องของพวกเขากินหญ้าหรืออย่างไร?
อันชินอ๋องถูกลากตัวออกมาแล้วก็ยังร้องตะโกนไม่หยุด มีคนเฝ้าประตูของจวนข้าง ๆ ได้ยินเสียงก็เปิดออกมาดูเงียบ ๆ จากนั้นก็รีบหดหัวกลับเข้าไป
จี้จือฮวนเอ่ยขึ้นมา “พวกเราจะกลับจวนเอง เจ้าพาตัวคนไปเถอะ อย่าลืมรีบกลับมากินมื้อค่ำส่งท้ายปีเก่าด้วยล่ะ พวกเรารอเจ้าอยู่”
เผยยวนไม่อยากอยู่กับเจ้าสุนัขประเภทนี้ในวันส่งท้ายปีเก่าจริง ๆ อันชินอ๋องยังคงด่าทอไม่หยุด ดังนั้นเขาจึงเหยียบไปที่มือของอีกฝ่าย อันชินอ๋องเจ็บจนร้องโหยหวนออกมาดังลั่น
“ข้าจะรีบกลับไป อาอิน เจ้าต้องเชื่อฟังด้วยรู้หรือไม่?”
อาอินพยักหน้ารับคำ พร้อมกับจูงมือของเซียวเซวียนจิ่นไปด้วย “ท่านพ่อวางใจเถอะเจ้าค่ะ คิดจะมาหาตัวคนเพื่อแก้แค้นแต่กลับได้ยินเรื่องกบฏเสียได้ โชคเช่นนี้ข้าไม่ได้มีทุกวันหรอกเจ้าค่ะ”
เผยยวน “…”
ก็จริง
อันชินอ๋องลอบด่าอยู่ภายในใจ เช่นนั้นเหตุใดถึงมาได้ยินเรื่องที่เขาพูดได้กัน!
เมื่อเผยยวนเอ่ยเตือนขึ้นมาอาอินก็ตบต้นขาทันที “เฮอะ ข้าลืมเอาของสำคัญที่สุดออกมาด้วย พวกท่านรอข้าเดี๋ยวนะเจ้าคะ”
เอ่ยจบนางก็วิ่งตึงตังเข้าไปในจวน
พระชายาอันชินอ๋องที่กำลังสาปแช่งเผยยวนกับจี้จือฮวนอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นวิ่งกลับมา จึงรีบหุบปากทันที
อาอินไม่มองหน้านางด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินเข้าไปยกกระสอบป่านที่มัดเซี่ยจวิ้นเอาไว้ขึ้นมา
“เจ้า…เจ้าจะพาลูกชายข้าไปที่ใด!?”
อาอินปรายตามองนางเล็กน้อย “ไม่บอกเจ้าหรอก แบร่ ๆ ๆ ให้เจ้าเป็นกังวลจนตายไปเลย
อย่างไรเสียเขาก็มีชะตาขาดลูกสิ้นหลานแน่ ๆ!”
นี่เป็นคำพูดที่เมื่อครู่พระชายาของอันชินอ๋องด่าเผยยวนพอดี เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ก็โมโหจนเป็นลมไป ส่วนคนในจวนเหล่านั้นไหนเลยจะกล้าขวางอาอิน
ได้แต่มองดูนางพาตัวเซี่ยจวิ้นไป
“ไปเถอะ!”
เซี่ยจวิ้นในเวลานี้ ยังไม่รู้ว่ามีสิ่งใดรอเขาอยู่
เผยยวนส่งตัวคนไปที่กรมอาญา เวลานี้ที่ว่าการของกรมอาญาก็มีอาลักษณ์เพียงไม่กี่คนที่อยู่เวร เมื่อได้ยินว่าเนี่ยเจิ้งอ๋องพาตัวอันชินอ๋องมา ก็ชุลมุนวุ่นวายกันเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงรีบไปเชิญเหล่าหัวหน้าให้กลับมา
ท่ามกลางครอบครัวที่ได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาเคล้าเสียงประทัดบนท้องถนน ทว่าเจ้าหน้าที่หลายคนกลับสวมชุดราชการและรีบไปที่ที่ว่าการ กลัวว่าหากไปสายจะถูกกล่าวโทษเอาได้
เพราะเรื่องนี้ฟังดูแล้วต้องไม่ใช่เล็ก ๆ อย่างแน่นอน ไม่แน่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความโกลาหลก็เป็นได้
ทุกคนต่างก็กำลังครุ่นคิดว่าอันชินอ๋องพูดอะไรกันแน่ ถึงได้ไปล่วงเกินเผยยวนเข้า สุดท้ายเมื่อลองถามดูจึงได้รู้ว่าคนผู้นี้มีความคิดจะสังหารไท่ซ่างหวง!
นี่มันบ้าระห่ำชัด ๆ!
เผยยวนฟังคนนั้นพูดคำหนึ่งคนนี้พูดคำหนึ่ง แต่ไม่มีใครคิดจะใช้วิธีการทรมานกับอันชินอ๋อง ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากเสียเอง
“ข้ามีเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม พระชายายังรอข้ากลับไปกินมื้อเย็นอยู่ที่บ้าน ไท่ซ่างหวงก็อายุมากแล้วไม่สามารถทนรอให้ท้องหิวได้ ข้าต้องได้รู้ถึงแผนการและคนที่เกี่ยวข้องกับเขาทั้งหมดภายในครึ่งชั่วยาม”
คนของกรมอาญาเมื่อได้ยินดังนั้น ก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที “ท่านอ๋องได้โปรดวางใจขอรับ!”
เอ่ยจบ ก็ปฏิบัติกับอันชินอ๋องราวกับคนที่ตายไปแล้วก็มิปาน ทำความผิดระดับนี้ก็แทบจะไม่มีโอกาสรอดอีกแล้ว
“พาตัวไป”