เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 332 (I) ความมั่นใจของสมาชิกประตูเซียน
Sign in Buddha’s palm 332 (I) ความมั่นใจของสมาชิกประตูเซียน
เขาคุนหลุน
เซียนเทพปฐพีจากประตูเซียนทั้งห้าล้วนยืนอยู่บนอากาศ พลังปราณนั้นกว้างไกล ปกคลุมไป ทั่วทุกที่ราวกับมหาสมุทร
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นย่อมทําให้จอมยุทธจํานวนมากบนเทือกเขาคุนหลุนตกใจเป็นธรรมดา
เทือกเขาคุนหลุนเป็นเทือกเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งหลังจากกระแส ปราณจีฟื้นคืน นอกจากนี้มันยังสามารถรวบรวมจิตวิญญาณปราณจีจํานวนมากจากระยะหลายร้อยลี้ ไม่รู้ว่าดึงดูดผู้ฝึกยุทธให้เข้ามาฝึกฝนที่นี่มากมายเท่าไหร่ และแม้แต่อาณาจักรถังยังส่งกองทัพขนาดใหญ่เข้ามาประจําการในที่แห่งนี้
ดังนั้น เมื่อเซียนเทพปฐพี่ทั้งห้าปรากฏกายขึ้นโดยไม่มีปิดบังใดๆ พวกเขาจึงดึงดูดความสนใจของผู้อื่นในทันที ทําให้หลายสิบร่างทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ามุ่งหน้าไปยังยอดเขาเกือบจะในทันที
“ท่านทั้งห้าดูไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาเท่าไหร่ คงจะมาจากดินแดนโพ้นทะเลเป็นแน่ แต่อย่างไรก็ตาม เขาคุนหลุนนี้เป็นสถานที่สําคัญของอาณาจักรถัง ผู้ฝึกยุทธจากต่างดินแดนที่ต้องการเข้าสู่เทือกเขาคุนหลุนจําเป็นต้องได้รับอนุญาตจากอาณาจักรถัง ไม่ทราบว่าท่านทั้งห้า…”
ชายชราที่มีใบหน้าผอมบางดูสุภาพอย่างยิ่ง โบกมือให้คนทั้งห้า
ชายชราหน้าตอบเป็นตํานานยุทธที่กําเนิดขึ้นในผืนแผ่นดินอาณาจักรถัง และอยู่ในระดับนภาชั้นที่สอง มีสถานะที่สูงมากในหมู่จอมยุทธภายในเทือกเขาคุนหลุน
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วนับจากเหตุการณ์ที่ซูฉินเหยียบย่าทําลายนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ชาวยุทธจํานวนมากในอาณาจักรถังจึงค่อยๆ ยอมรับนิกายใหญ่จากดินแดนโพ้นทะเล และเนื่องจากอํานาจปราบปรามของซูฉิน จึงไม่มีใครในนิกายใหญ่กล้าสร้างปัญหาภายในอาณาจักรถัง
เป็นเพราะเหตุนี้นี่เอง ชายชราหน้าตอบจึงไม่ได้โจมตีคนทั้งห้าในทันที แต่ถามไถ่ว่ามาจากไหนถึงได้บุกรุกเข้ามาภายในเขาคุนหลุนโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ส่วนยอดเขาของเทือกเขาคุนหลุนนั้นถือว่าเป็นพื้นที่หวงห้ามด้วย
“อาณาจักรถัง?”
“มันคือสิ่งใด?”
“การที่ข้าจะมาที่นี่ทําไมต้องขอความเห็นจากอาณาจักรถังด้วย?” ชายร่างกายที่อยู่ในกลุ่มคนทั้งห้านั้นไม่มีความกังวลใดๆ และไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
“อย่าได้พูดจาไร้สาระ
เมื่อชายชราหน้าตอบได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปในทันที ดวงตาของเขามองไปที่ชายร่างกําย่าด้วยความเย็นชา
ในตอนนี้อาณาจักรถังครอบครองแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ ทั้งหมดแล้ว มีมนุษย์สวรรค์อย่างซูฉินประจําการอยู่ในเมืองหลวง แม้แต่นิกายใหญ่ที่ดื้อรั้นทั้งหลายในต่างดินแดนก็ต้องปฏิบัติตัวอย่างซื่อตรงและทําตามกฎที่ซูฉินได้วางเอาไว้
แต่คนทั้งห้าที่อยู่ด้านหน้านี้ พวกเขาไม่เพียงแต่บุกรุกเข้าไปภายในเขาคุนหลุนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ยังกล่าวคําที่แสดงถึงความไม่เคารพต่ออาณาจักรถังด้วย
“เจ้ากล้าสั่งข้าหรือ?”
ชายร่างกายหรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องไปที่ใบหน้าของชายชราหน้าตอบ
ทันใดนั้น ชายชราหน้าตอบก็กระเด็นออกไปหลายก้าว กระอักเลือดออกมาคําโต กลิ่นอายอ่อนแอลงทันทีด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ชัดเจนว่าถูกกระแทกอย่างรุนแรง
“อ่อนแอเกินไป”
“เจ้ามันก็แค่มด ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ข้าคงขี้เล่นจนสิ้นชีพแล้ว แต่วันนี้ข้าอารมณ์ดี ทําไมยังไม่รีบออกไปอีกเล่า?”
ชายร่างกําย่ามองดูฝูงชนที่เหลือ เสียงที่เปล่งราวกับฟ้าร้องอึกทึก ไอพลังที่น่าสะพรึงกลัวกระจายออกไปกระแทกจอมยุทธภายในเทือกเขาคุนหลุนโดยตรง
“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เทือกเขานี้เป็นของข้า ใครกล้าเข้ามาใกล้จะต้องถูกฆ่าอย่างไร้ความ ปรานี้!”
ชายร่างกายกํายําเหยียดมือขวาออกไป สะบัดเบาๆ ทันใดนั้น พลังฟ้าดินก็เดือดพล่าน แผ่นดินแตกระแหง ภูเขาถล่มดินทลาย ก้อนหินดินพืชกระจายเป็นชิ้นๆ เทือกเขาคุนหลุนทั้งลูกสันสะเทือนเลือนลั่น
ฉับพลัน
จอมยุทธจํานวนนับไม่ถ้วนเคลื่อนตัวออกจากเขาคุนหลุนอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นตระหนก ขณะนี้พวกเขารู้สึกเหมือนโลกกําลังจะถล่มลงมา ร่างกายสันสะท้าน
“คนผู้นั้นคือใครกัน?”
“มีพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?”
ใบหน้าผอมบางของชายชราซีดเซียว ไร้ร่องรอยของเลือดฝาด และตํานานยุทธอีกหลายคนก็ รีบถอยห่างจากเทือกเขาคุนหลุน มองขึ้นไปบนยอดเขาด้วยความตกใจ
ชายผู้นี้แข็งแกร่งจนเกินไป
เพียงชาเลืองตาครั้งเดียวก็สร้างความสั่นสะเทือนให้แต่ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สองอย่างรุนแรงได้ และเพียงแค่สะบัดมือเบาๆ ก็เขย่าเขาคุนหลุนทั้งลูกโดยตรง เกรงว่าคนที่ทําเช่นนี้ได้ คงมีแต่ตํานานยุทธขั้นสูงสุดใช่หรือไม่?
เทือกเขาคุนหลุนเป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงระดับโลกสูงตรงตั้งตระหง่าน แม้จะเป็นกลุ่มตํานานยุทธก็ยากที่จะสั่นคลอน แต่ชายร่างกายผู้นี้ไม่เพียงแต่สั่นคลอนมันเท่านั้น แต่พลังของเขายังดูเหลือเฟือ
“มนุษย์สวรรค์”
“ชายร่างกํายําผู้นั้นก็เป็นมนุษย์สวรรค์เช่นกัน”
ชายชราหน้าตอบสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด กล่าวทุกคําออกมา
ไม่กี่ปีก่อน เขาได้รับเกียรติให้ไปที่เมืองฉางอัน และได้รับชมการต่อสู้ระหว่างซูฉินกับเหลยเฉียนจือด้วยตาของตนเอง
แต่ในยามนี้ กลิ่นอายที่ชายร่างกายได้แผ่ออกมา คล้ายคลึงกับเหลยเฉียนจือเมื่อสองสามปีก่อน
กว้างใหญ่ไพศาลดุจเดียวกัน
เชื่อมต่อถึงฟ้าดินเหมือนกัน
“มนุษย์สวรรค์?”
ตํานานยุทธคนอื่นๆ จู่ๆก็เบิกตาโพลง ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
มนุษย์สวรรค์กําเนิดขึ้นมาได้เช่นไร? แม้แต่ในต่างดินแดนที่ศิลปะวิทยายุทธรุ่งเรืองก็ยังหาได้ยากยิ่งในรอบพันปี แล้วตอนนี้กลับมีใครก็ไม่รู้โผล่ขึ้นมาจากอากาศกลายเป็นมนุษย์สวรรค์?
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ทําให้ทุกคนหวาดกลัวมากขึ้นไปอีกคือ ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงชายร่างกําย่าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาคุนหลุน แต่มีถึงห้า
กลุ่มชายร่างกําย่าทั้งห้าคนที่ยืนเคียงข้างกัน เห็นได้ชัดว่าแต่ละคนไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากัน
ถ้าชายร่างกํายําเป็นมนุษย์สวรรค์ อีกสี่คนก็ควรจะเป็นมนุษย์สวรรค์ด้วย?
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เทือกเขาคุนหลุนในตอนนี้มีมนุษย์สวรรค์ถึงห้าคน?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนรวมถึงชายชราหน้าตอบก็รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเหลวไหลทั้งเพ
มนุษย์สวรรค์เป็นตัวตนที่สูงส่งยากที่จะกําเนิดขึ้นมาได้สักคนในรอบพันปี แต่บัดนี้ ไม่เพียงแต่มีมนุษย์สวรรค์กําเนิดขึ้น แต่ยังมีถึงห้าคนพร้อมกัน เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
เดิมที่พวกเขาคิดว่าการที่มีซูฉินและเหลยเฉียนจือเป็นมนุษย์สวรรค์ ในยุคเดียวกันก็นับว่าเป็นเรื่องหายากในรอบหมื่นปีแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีถึงห้า….
“ห้าคนนี้ ไม่น่าจะมาจากดินแดนโพ้นทะเล” ในเวลานั้นตํานานยุทธอีกคนหนึ่งก็กล่าวออกด้วยเสียงต่ํา
หากยังคงมีมนุษย์สวรรค์ในยุทธภพต่างดินแดนอีกตั้งห้าคน เป็นไปได้อย่างไรที่จะยอมจํานนต่อซูฉิน?
“ไม่ว่ามนุษย์สวรรค์ทั้งห้าจะมาจากไหน ข้าเกรงว่าโลกนี้จะต้องเปลี่ยนไปอย่างมากที่ เดียว…” ชายชราหน้าตอบพยายามระงับลมหายใจ มองขึ้นไปบนยอดเขาคุนหลุนด้วยสีหน้ากังวล
เป็นเพียงเวลาแค่ปีเดียวที่ทุกอย่างเริ่มมั่นคง จากนั้นคนแปลกหน้าทั้งห้าก็ปรากฏตัวขึ้น ซึ่งนับเป็นอันตรายต่อการปกครองของอาณาจักรถัง มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการต่อสู้ระหว่างขอบเขตเซียนเทพปฐพี่เกิดขึ้นอีกครั้ง
ยอดเขาคุนหลุน
“ขับไล่พวกมดปลวกออกไปหมดแล้ว” ชายร่างกํายําเผยใบหน้าดูถูกเหยียดหยามแล้วมองไปที่สี่คนที่เหลือ “ดูเหมือนว่าโลกนี้จะเสื่อมโทรมไปหมดสิ้นแล้ว กลุ่มเมื่อครู่ คนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงแค่ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่สอง ศิษย์ชั้นนอกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังดีกว่านี้……”
“อย่าได้ประมาทไป”
ชายหนุ่มที่ดูอ่อนแอในชุดบัณฑิตส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “กลุ่มคนเมื่อครู่ได้กล่าวถึงอาณาจักรถึง เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ข้าได้สืบทราบมา อาณาจักรถังนั้นไม่ได้ง่ายอย่างตาเห็น มีมนุษย์สวรรค์ผู้หนึ่งคอยให้ความคุ้มครองอยู่”
“และมนุษย์สวรรค์จากอาณาจักรถังผู้นี้ก็เหมือนจะเคยสังหารมนุษย์สวรรค์อีกคนหนึ่งมาก่อนด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรมองข้าม” ชายท่าทางอ่อนแอกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“โอ?”
“ยังมีมนุษย์สวรรค์อยู่บนโลกด้วยหรือ?” ชายร่างกายกํายาขมวดคิ้ว แล้วกล่าวต่ออย่างเฉยเมย “ต่อให้มีมนุษย์สวรรค์แล้วอย่างไร? เมื่อหมื่นปีก่อน ยามที่ผู้ทรงพลังถึงขีดสุดหนีเข้าไปในประตูเซียน ก็ได้นําสมบัติส่วนใหญ่บนโลกเข้าสู่ประตูเซียนไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
“ในช่วงหมื่นปีที่ผ่านมานี้ เคล็ดวิชาที่ทรงพลังส่วนใหญ่ได้สูญหายไปนานแล้ว แม้ว่าจะมีมนุษย์สวรรค์กําเนิดขึ้น แต่จะเทียบกับศิษย์สาวกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเราที่มีทักษะสังหารมากมายได้อย่างไร?
ร่างสูงกายหัวเราะเสียงดัง
แม้พวกเขาทั้งหมดจะเป็นเซียนเทพปฐพี แต่ก็มีความแตกต่าง มีทั้งระดับสูงและระดับต่ํา และเหล่าศิษย์สาวกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภายในประตูเซียนย่อมเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน พวกเขามีเคล็ดวิชาทรงพลังมากมายที่สืบทอดมาจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุดเซียนเทพปฐพี่คนอื่นๆจะมาเทียบได้เช่นไร?
“ตามนั้น”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่มท่าทางอ่อนแอ
“เอาล่ะ”
“ไม่ต้องเถียงกันแล้ว”
เสียงเย็นชาดังขึ้นมาจากเทพธิดาไท่อิน นางมองไปยังเด็กหนุ่มซึ่งจ้องมองไปที่ความว่างเปล่า แล้วจึงกล่าวขึ้นว่า “หากไม่ใช่ช่วงที่วิหารการสงครามจะโผล่ขึ้นมา มันก็รวมเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของความว่างเปล่า หากไม่มีวิธีการจําเพาะ แม้แต่ผู้ทรงพลังถึงขีดสุดก็ไม่สามารถจับตําแหน่งของวิหารการสงครามได้
“ข้าอยากจะรู้นักว่าทําไมเจ้าถึงคิดว่าจะหาต่าแหน่งของวิหารการสงครามพบ?”