เกิดใหม่เป็นไอหนุ่ม NTR ในเกมเอโรเกะ แต่ฉันไม่มีวันแย่งเธอมาเด็ดขาด - ตอนที่ 7.2 แม่
“….”
ฉันตื่นมาเพราะแสงที่ส่องผ่านม่านเข้ามาที่ตา
ฉันจ้องมองเพดานด้วยอาการมึนงงอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานฉันก็หันความสนใจไปที่มือและเท้าซึ่งควรจะขยับได้ตามปกติ
“……..ฉันจำมันได้หมดเลย”
ฉันจำทุกสิ่งที่ฉันเห็นในความฝันได้ชัดเจนทุกอย่างเลย
ฉันจำอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการเข้าไปช่วยชูได้ รวมถึงการแข่งขันที่ฉันต้องยอมแพ้เพราะอุบัติเหตุ และคำพูดของฮัทสึเนะซังที่เธอพูดกับฉัน ฉันรู้ว่าทั้งหมดนั้นไม่เคยถูกกล่าวถึงในเกม
บางทีอาจเป็นเพราะสิ่งที่อายานะเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับอดีตของเธอ หรืออาจเป็นเพราะความฝันของฉัน ที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของฉันกลายเป็นหนึ่งเดียวกับโทวะ
“รู้สึกแปลกๆเหมือนกันนะเนี่ย……แต่ฉันว่าสำหรับตอนนี้มันดีแล้วละ”
เหตุผลก็คือฉันรู้สึกว่าความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ในฐานะยูกิชิโระ โทวะ นั้นมีมากกว่าแต่ก่อน
แม้ว่าความเกลียดชังของฉันที่มีต่อชูและครอบครัวของเขาจะมีมากขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อฉันเข้าใกล้การเป็นโทวะมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินไปที่ฉันทนไม่ไหวเพราะฉันยังรู้ว่าฉันเป็นใคร
“…แต่ดูเหมือนว่าโทวะจะไม่ได้มีความขุ่นเคืองมากขนาดนั้น”
อุบัติเหตุครั้งนั้นคงเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดสำหรับโทวะอย่างแน่นอน แต่ฉันก็รู้ด้วยว่าเขามีความสุขอย่างแน่นอนที่เห็นว่าชูยังปลอดภัยดีอยู่
ในท้ายที่สุด โทวะก็ยังเป็นคนใจดีเสมอมา…..แต่ตอนนี้เขาแค่ใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย
ฉันก็หลงทางเหมือนกันนะ ในตอนแรกฉันไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าฉันได้เกิดใหม่ในโลกนี้ได้
ความฝันก็คือความฝัน ความจริงก็คือความจริง……“ฉันนอนกับอายานะ……”
ฉันนึกถึงเรื่องเมื่อวานได้ชัดเจนเลย
หลังจากที่อายานะเล่าเรื่องอดีตของเธอให้ฉันฟัง ฉันก็ต้องการเธอมากขึ้นและลงเอยด้วยการได้ใกล้ชิดกับเธอ
ขณะที่ฉันนอนบนตัวกับอายานะ ฉันจำประสบการณ์ครั้งแรกของฉันกับเธอได้ และสิ่งนั้นเป็นเครื่องการันตีแล้วว่าโทวะมีความสัมพันธ์กับอายานะอยู่ก่อนแล้ว
“……ร่างกายของอายานะนุ่มมาก และ……เธอก็น่ารักจริงๆ”
ในแง่หนึ่ง มันมีแค่เฉพาะในช่วงวัยแรกรุ่นเท่านั้นที่จะดื่มด่ำกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาวแบบนี้ได้
ยังไม่ถึงเวลาตอนกลางคืนด้วยซ้ำ อายานะกับฉันมีอะไรกันจนกระทั่งก่อนที่แม่ของฉันจะกลับมาบ้าน จากนั้นเราก็ทานอาหารเย็นด้วยกัน และฉันก็ไปส่งเธอที่บ้าน
อายานะดูเศร้ามากเมื่อเราต้องจากกันและเป็นเรื่องยากสำหรับฉันด้วยที่จะปล่อยมือของเธอที่เกาะฉันไว้
“เฮ้อ…”
ฉันยืนขึ้นและมองเข้าไปในกระจก
ฉันยังสงสัยว่าใช่หน้าของฉันจริงๆหรือเปล่าแต่ฉันก็คิดว่าหน้าฉันตอนตื่นนี้ก็ดูดีไม่เบาเลยนะ
“…… เฮ้ โทวะ นายก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกันเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงเอาอายานะมาจากชูอย่างงั้นเหรอ?”
ฉันไม่คิดว่ามันยุติธรรมเลยที่จะบอกว่าฉันมาไกลขนาดนี้เพื่อแย่งชิงทุกอย่างของชูมา
ฉันเปลี่ยนใจเรื่องอายานะแล้ว ฉันอยากอยู่กับเธออยากอยู่เคียงข้างเธอ
แต่แน่นอนว่ามีสิ่งใหม่ๆ มากวนใจฉันอยู่เสมอ
[ฉัน……อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีโทวะคุง ถ้าโทวะคุงไม่อยู่ที่นี่ ฉันคง……อยู่ไม่ได้]
นี่คือคำพูดที่เธอพูดตอนอยู่ในอ้อมแขนของฉันหลังจากเรื่องเมื่อวาน
ความไม่มั่นคงของอายานะถูกเน้นด้วยความจริงที่ว่าเธอจะพังทลายลงอย่างแน่นอนเมื่อฉันหายไปจากชีวิตเธอ
ฉันอดไม่ได้ที่จะเข้าใจว่าฉันเป็นคนให้การสนับสนุนและมีบทบาทสำคัญในชีวิตของอายานะแต่จริงๆแล้วสภาพของเธอในขณะนั้นมันไม่ปกติ
บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่เธอเรียกฉันว่า “มาสเตอร์” บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงให้ความสำคัญกับโทวะมากจนเธอพูดแบบนั้น
[ฉันจะชิงมันมาทุกอย่าง]
“?!”
ทันใดนั้นฉันก็ปวดหัวอย่างรุนแรงและล้มลง
แต่ก็เหมือนกับวันอื่นๆ อาการปวดหัวเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่และฉันก็ลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
“……นั่นเสียงของอายานะเหรอ?”
เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ฟังเหมือนเสียงของอายานะแน่นอน
ฉันหัวเราะให้กับเสียงของอายานะที่ทั้งต่ำและเย็นชาจนฟังดูไร้ความปรานี ราวกับว่าเธอกำลังตัดทุกสิ่งและทุกคนออกไป
“อายานะไม่ทำเสียงแบบนั้นหรอก นี้ฉันคิดอะไรของฉันแต่เช้าเนี่ย”
ฉันไปหาแม่ที่กำลังทำอาหารเช้าอยู่ โดยคิดว่าอายานะคงไม่มีวันพูดแบบนั้นแน่นอน
เมื่อฉันมุ่งหน้าไปที่ห้องนั่งเล่น อาหารเช้าเพิ่งถูกเตรียมไว้ และฉันก็สบตากับแม่ขณะที่เธอพับผ้ากันเปื้อนอยู่
“อรุณสวัสดิ์โทวะ”
“สวัสดีตอนเช้าครับแม่”
หลังจากทักทายแม่แล้ว ฉันก็นั่งลงบนเก้าอี้และเริ่มกินข้าวเช้า
อาหารไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นเพราะมันเป็นอาหารเช้า แต่ฉันก็มีความสุขที่ได้ลิ้มรสอาหารฝีมือแม่เพราะแม่ใส่ความรักลงไปในทุกจานที่เธอทำ
“แม่มีความสุขมากนะที่เห็นลูกกินมันอย่างเอร็ดอร่อยขนาดนี้”
“ก็มันอร่อยจริงๆ ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับแม่”
เมื่อฉันบอกเธอเรื่องนี้ เธอหัวเราะและดูมีความสุขมาก
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ตอนที่ฉันเพิ่งเป็นโทวะ ฉันรู้สึกตื่นตระหนกนิดหน่อย แต่ตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว
ฉันไม่รู้สึกอึดอัดที่จะพูดในสิ่งที่คิดอีกต่อไป
“……มันอร่อยจริงๆนะ”
ขณะที่ฉันกำลังซดซุปมิโซะร้อนๆ ฉันสังเกตเห็นแม่จ้องมาที่ฉัน
“มีอะไรเหรอครับ?”
“เปล่า แม่แค่คิดว่าลูกดูดีขึ้นนะ”
“….เป็นงั้นเหรอครับ?”
เธอกล่าวต่อว่า “แม่ภูมิใจนะที่ลูกแม่เป็นคนดี”
“แม่ภูมิใจนะที่ลูกแม่เป็นคนดี” ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำเหล่านั้นเท่าไหร่ แต่แม่ของฉันก็ยังคงพูดต่อ
“หลังเกิดอุบัติเหตุลูกล้มลงไปสักพักรู้ไหม? ลูกแสดงความกล้าออกมาต่อหน้าทุกคน แต่มันก็แน่อยู่แล้วเพราะลูกแม่กล้าหาญกว่าใครๆ”
“….หืม จริงเหร…?”
“ใช่”
“ตอบเร็วไปไหมเนี่ย?”
ฉันรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นแม่หัวเราะจนไหล่สั่น
“แล้วก็ต้องขอบคุณลูกที่ทำให้หนูอายานะมาบ้านเราบ่อยขึ้น แม่ประทับใจหนูอายานะจริงๆนะ เมื่อวานเธอแสดงให้แม่เห็นหลายอย่างเลยใช่ไหมละ”
“…..เอ่อคือว่า….”
อายานะให้ฉัน “อ้ามมม” สองสามอย่างในมื้อเย็น แม่ของฉันก็ยิ้มขณะที่เธอมองดูเรา แต่ฉันก็รู้สึกอายเหมือนกันนะ
“ขอบคุณสำหรับอาหาร”
“ขอบคุณสำหรับอาหาร”
ฉันกำลังจะกลับห้องเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน แต่จู่ๆแม่ก็พูดบางอย่างกับฉัน
แม่มีสีหน้าที่จริงจังมากเมื่อมองกลับมาที่ฉัน
“เธอเป็นเด็กดีจริงๆนะหนูอายานะนะ เธอเป็นเด็กดีจนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย…..แต่ถึงอย่างงั้น ดูเหมือนว่าเธอกำลังแบกรับอะไรบางอย่างไว้อยู่ ดังนั้นโทวะช่วยดูแลหนูอายานะด้วยนะ”
“……ครับ ไม่บอกผมก็จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
ฉันพยักหน้าอย่างแรง โดยบอกว่าฉันตั้งใจจะทำแม้ว่าแม่จะไม่บอกฉันก็ตาม
แม่พยักหน้าอย่างพอใจกับคำตอบของฉัน และกำลังจะล้างจานต่อแต่เธอพึมพำอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันก็อดไม่ได้ที่จะถามกลับ
“หนูอายานะเคยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลให้แม่ฟังด้วยนะ มีครั้งหนึ่งแม่เคยคิดที่จะเอาไม้เบสบอลไปฟาดหน้าเธอด้วยแหละ~!”
“ม-แม่ไม่ได้ทำใช่ไหม”
ฉันรู้ดีว่าแม่ทุกคนมีความรักต่อลูกชายของพวกเธอ แต่ฉันไม่คิดว่าแม่จะไปไกลขนาดนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันกังวล—
“ไม่แน่นอน แม่เพิ่งได้ยินมาตอนที่แม่ขอให้หนูอายานะช่วยสนิทกับลูก เธอพูดอะไรบางอย่างกับลูกชายของแม่กันน้า~~~“ฉันจะกระชับให้แน่นๆเลย ~♪” ว้าวว”
“ม-แม่พูดอะไรนะ?!”
“โทษที โทษที~♪ แม่คงติดนิสัยสมัยเป็นแยงกี้นะ”
“……………”
“สมัยแยงกี้” แม่หมายถึงอะไรนะ? แม่เคยเป็นแยงกี้เหรอ?
ลองคิดดูแล้ว ตอนที่ฉันค้นบ้านเพื่อทำความสะอาด ตอนนั้นดันไปเจอรูปแม่ที่สมัยนั้นเธอค่อนข้างหวือหวา..…อย่าบอกนะว่าผู้หญิงที่บางครั้งก็มาบ้านเรา……คงเป็นน้องสาวของแม่แหละ
ฉันรู้แล้วว่าแม่ของฉันค่อนข้างแข็งแกร่ง
ฉันว่าจะถามรายละเอียดเพิ่มถ้ามีโอกาส
จากนั้นฉันก็ไปเตรียมตัวและออกจากบ้าน แต่ฉันรู้สึกว่าคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อฉันได้เจอกับอายานะ
ถึงอย่างงั้น……ฉันคิดว่าฉันจะเดินหน้าต่อไปตามที่เห็นสมควร
“ฉันยังมีเรื่องติดใจอยู่เลย”
อดีตที่ถูกซ่อนไว้จากโทวะ ความรู้สึกที่อายานะเก็บซ่อนไว้ และความสัมพันธ์ที่ถูกเปิดเผย……ฉันเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ แต่ฉันยังมีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ
[……โครตแย่……อายานะจะมีปัญหา……]
“เอ๊ะ?”
ทันใดนั้นฉันก็คิดว่าฉันได้ยินเสียงของใครบางคน
มันเป็นเสียงที่ทำให้เกิดความรู้สึกคิดถึง แต่ฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
ฉันไม่คิดว่าฉันสามารถมองข้ามว่ามันเป็นจินตนาการของฉันได้
สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันทำเชื่อมโยงกับโลกนี้
และเหนือสิ่งอื่นใด มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นสิ่งที่ปลุกความทรงจำที่อยู่ในตัวฉัน……ดังนั้นฉันคิดว่าฉันควรจะใส่ใจกับมันด้วย
เมื่อฉันมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดพบตามปกติ พวกเขาก็อยู่ที่นั่นแล้ว
“อรุณสวัสดิ์โทวะ”
“สวัสดีจ้าโทวะคุง”
“โอ้ สวัสดีตอนเช้าชู อายานะด้วย”
ฉันดีใจมากที่ได้เห็นอายานะเป็นปกติ หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเธอก็ยังเหมือนเดิม
และฉันก็เป็นเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นด้วยการตัดสินใจครั้งใหญ่ ฉันแน่ใจว่าบางสิ่งจะเปลี่ยนไปอย่างมาก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราสามคนกำลังจะเปลี่ยนไป
ต้องทำให้เขาจนมุม…..ไล่ต้อนเขา…..
ทำให้เขาทุกข์ทรมาน……ทำให้เขาเจ็บปวด…….
และสุดท้ายก็เอาสิ่งที่มีค่าที่สุดไป……แล้วเขาจะไม่มีอะไรนอกจากความสิ้นหวังใช่ไหม?
ฉันจะไม่มีวันลืมคำพูดที่พวกนั้นพูด
ฉันจะไม่มีวันลืมน้ำตาของโทวะคุง
ดังนั้นฉันจะ [ชิงมันมาทุกอย่าง]