เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 759 พี่น้องตีกัน ช่างน่าดูเสียจริง!
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 759 พี่น้องตีกัน ช่างน่าดูเสียจริง!
บทที่ 759 พี่น้องตีกัน ช่างน่าดูเสียจริง!
เมื่อคิดดูอีกที มันก็สมเหตุสมผลแล้ว นั่นคือบ้านของเกาเสียง และเกาเสียงกับไห่หรงเทียนก็เป็นศัตรูคู่อาฆาต ถ้าเจี๋ยไห่เสียไปกับพวกเขา มันจะหมายความว่าอย่างไร
เจียงหว่านจึงขอให้เฉียวเหลียนเฉิงขับรถไปส่งเจี๋ยไห่เสียกลับบ้านหลังเล็กของเจี๋ยไห่เสีย จากนั้นค่อยกลับมาโรงพยาบาลเพื่อรับเธอกลับบ้าน
แล้วทั้งสองก็มุ่งหน้ากลับบ้าน
ครั้นรถจอดลงหน้าประตูบ้าน เฉียวเหลียนเฉิงลงจากรถเพื่อเปิดประตู
แต่ก่อนที่มือของเขาจะสัมผัสประตู หมัดหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว
เฉียวเหลียนเฉิงหลบหลีกตามสัญชาตญาณ และโจมตีกลับโดยไม่ต้องหันกลับไปมอง
ครั้นเสี้ยววินาทีที่เขาหันกลับมาเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มพลันรู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะ
เสี้ยววินาทีนั้น คู่ต่อสู้ก็โจมตีเข้าที่เบ้าตาของเขา
เฉียวเหลียนเฉิงรีบปรับจังหวะการเคลื่อนไหว ยกมือขึ้นเพื่อตอบโต้
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ส่วนเจียงหว่านบนรถกำลังเบิกตากว้างมองดู เพราะเธอเดาตัวตนของบุคคลที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นจากด้านข้างได้ตั้งแต่แรก
ไห่จิ่ง!
ชายหนุ่มที่หน้าตาคล้ายเฉียวเหลียนเฉิงถึงแปดส่วน
ใจของเจียงหว่านสับสนวุ่นวาย สามีของเธอถูกต่อย เธอควรจะโกรธและลงไปช่วยเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นทหารหนุ่มสุดหล่อสองคนต่อสู้กัน สลับกันรุกสลับกันรับ มันกลับดูน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก
ความเร็วของทั้งสองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เฉียวเหลียนเฉิงไม่รอช้า ตอบโต้หมัดที่โดนเมื่อครู่กลับไป
ทว่าเขาก็โดนหมัดสวนกลับมาอีกครั้ง จึงตอบโต้กลับไปอีกเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ ช่างน่าตื่นเต้นเร้าใจเสียจริง
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่นาน กระทั่งคนในบ้านได้ยินเสียงและออกมาห้ามปราม
“พวกแกทำอะไรกัน? กลางวันแสก ๆ ทะเลาะวิวาทกันแบบนี้มันอะไรกัน!”
คนที่ตะโกนห้ามปรามคือเกาเสียง
พูดถึงเรื่องนี้ คงมีแค่เกาเสียงคนเดียวเท่านั้นที่ตะโกนสั่งพวกเขาได้
ไห่จิ่งนิ่งเงียบ เขาจ้องมองเฉียวเหลียนเฉิงด้วยสายตาเย็นชา “พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน แค่กำลังซ้อม!”
เฉียวเหลียนเฉิงเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก “พ่อครับ พวกเราแค่ซ้อมกันเฉย ๆ ไม่ได้มีเรื่องอะไร!”
ไห่จิงดูเหมือนสะเทือนใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน
เขาหันขวับ มองเฉียวเหลียนเฉิง “นายเรียกเขาว่าอะไรนะ?”
เฉียวเหลียนเฉิงเลิกคิ้วแล้วตอบ “ก็พ่อไง! เขาเป็นพ่อตาของฉัน มีปัญหาอะไร?!”
ไห่จิ่งนิ่งเงียบ ก่อนเลิกคิ้วแล้ว
เกาเสียงถอนหายใจเบา “เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ พวกนายทำแบบนี้ อยากให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง?”
ทั้งสองคนมองหน้ากันและเดินตามเกาเสียงเข้าไปในบ้าน
ภายในห้องนั่งเล่น เฉียวเหลียนเฉิงกับไห่จิงนั่งประจันหน้ากัน
ทั้งคู่นั่งตัวตรง สวมเสื้อแขนสั้นสีเขียวขี้ม้าแบบทหารทั่วไป ไม่ได้สวมหมวกหรือติดยศ
ท่าทางของพวกเขาดูเหมือนภาพสะท้อนในกระจกไม่มีผิด ใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะสลัก
แม้จะมีความแตกต่างอยู่บ้าง แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นและเป็นความแตกต่างที่รายละเอียด ยากจะสังเกตเห็นได้หากไม่ได้จ้องมองอย่างตั้งใจ
ไห่จิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เรื่องของนาย ฉันได้ยินมาหมดแล้ว!”
“สำหรับเรื่องราวในอดีตฉันไม่รู้ความจริงทั้งหมด แต่ฉันอยากถามนายว่า นายตั้งใจกลับมาเพื่อแก้แค้นงั้นเหรอ?”
“ถึงแม้นายจะถูกสลับตัวไปผิดจริง ๆ และนายก็คงทนทุกข์ทรมานมามาก งั้นกลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวไม่ดีกว่าหรือไง?”
“ทำไมถึงต้องทำให้ทุกคนเจ็บปวดด้วย?”
“ตอนนี้ไห่หนิงซวงถูกส่งตัวเข้าสถานกักกันไปแล้ว ส่วนพ่อก็ถูกพักงานเพื่อตรวจสอบ แล้วแม่ก็หนีออกจากบ้าน ตอนนี้พอใจแล้วหรือยัง?!”
ไห่หรงเทียนถูกพักงานเพื่อตรวจสอบจริงหรือ?
เฉียวเหลียนเฉิงกับเจียงหว่านหันมองหน้ากัน แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเพิ่งรู้เรื่องนี้
ตอนนี้เกาเสียงนั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขา จึงอธิบายว่า “พวกเธอฟ้องร้องไห่หรงเทียน เขาไม่ได้แก้ตัวใด ๆ และยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมด”
“ประกอบกับคดีของไห่หนิงซวงยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน ทางหน่วยงานไม่แน่ใจว่าไห่หรงเทียนรู้เห็นหรือมีส่วนร่วมมากแค่ไหน จึงต้องพักงานเพื่อทำการตรวจสอบ!”
เฉียวเหลียนเฉิงนิ่งเงียบ
เจียงหว่านรู้ดีว่าสามีของเธอไม่มีทางแก้ตัว แต่เธอสามารถทำได้
เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันเป็นคนฟ้องร้อง ไม่เกี่ยวอะไรกับเฉียวเหลียนเฉิง!”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้วพูดปฏิเสธ “พูดเรื่องไร้สาระอะไร ผมต่างหากที่ฟ้องร้อง!”
เจียงหว่านหันขวับ จ้องเขา “นายเงียบไปเลย!”
เฉียวเหลียนเฉิงอ้าปากค้าง ก่อนจะปิดปากลง นั่งเงียบอย่างว่าง่าย
ดวงตาไห่จิ่งวูบไหวเล็กน้อย เขาประหลาดใจกับน้องชายคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะกลัวภรรยาถึงขนาดนี้
เจียงหว่านพูดต่อ “คุณมีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาเฉียวเหลียนเฉิง?”
ไห่จิ่งขมวดคิ้ว “ผมไม่ทะเลาะกับผู้หญิง!”
หลังได้ยินไห่จิ่งพูดแบบนี้ เกาเสียงกับเฉียวเหลียนเฉิงก็รีบมองไปทางอื่น ในใจของพวกเขาสงสารไห่จิ่งไปก่อนแล้ว
อย่างที่คิดไว้
เจียงหว่านยกยิ้มมุมปาก จากนั้นเธอก็ตบโต๊ะเสียงดังสนั่น
“คุณว่ายังไงนะ ไม่ทะเลาะกับผู้หญิงงั้นเหรอ?”
“คุณหมายความว่ายังไง?”
“เป็นผู้หญิงแล้วทำไม? คุณดูถูกผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ?”
“แม่ของคุณไม่ใช่ผู้หญิงหรือไง? หรือน้องสาวของคุณไม่ใช่ผู้หญิง? อีกอย่าง คุณกำลังจะแต่งงาน ภรรยาของคุณไม่ใช่ผู้หญิงเหรอ!”
ไห่จิ่งหน้าตึงเครียด รีบแก้ตัว “คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้นเลย!”
เจียงหว่านยิ้มเยาะ “แล้วมันหมายความว่ายังไง?!”
ไห่จิ่งพูดไม่ออก
เจียงหว่านพูดต่อ “คำกล่าวหาของคุณมันพลิกขาวเป็นดำชัด ๆ มาดูประโยคแรกของคุณก่อน คุณพูดว่า ถึงแม้จะถูกสลับตัวไปจริง ๆ งั้นก็กลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวไม่ดีกว่าหรือไง?”
“ไห่จิ่ง คุณยอมรับว่าเด็กถูกสลับตัว แล้วพ่อของคุณยอมรับหรือเปล่า? น้องสาวของคุณยอมรับหรือเปล่า?”
“ตอนนี้คุณกลับมาพูดหน้าตาเฉยว่า ให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัว แค่นี้เรื่องก็จบแล้วงั้นเหรอ?!”
“ฉันขอถามคุณหน่อย คุณคิดว่าการที่ไห่หนิงซวงน้องสาวของคุณคอยกลั่นแกล้งเฉียวเหลียนเฉิงอยู่หลายครั้งหลายครา มันหมายความว่าอะไร? การที่เธอร่วมมือกับเฉินผิงใส่ร้ายเฉียวเหลียนเฉิง มันหมายความว่ายังไง?”
“ไห่หนิงซวงติดสินบนถานหย่งกับฉินหู่ให้พยายามฆ่าฉันกับเฉียวเหลียนเฉิงตั้งกี่ครั้ง แม้แต่ลูกชายวัยเพียงไม่กี่ขวบของพวกเราก็ไม่เว้น นี่หมายความว่าหล่อนคิดอะไรอยู่ล่ะ?”
“แต่คุณกลับพูดว่าให้กลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัว คิดจะลบล้างทุกอย่างทิ้งหรือไง?”
“ตอนพูดประโยคนี้ออกมา ใจไม่รู้สึกผิดเลยเหรอ? ทำไมถึงยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก!?”
ไห่จิ่งตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เขาไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน
เขาเคยได้ยินแค่ว่า ตอนแรกเด็กถูกสลับตัว และเพราะเรื่องนี้แม่ของเขาจึงหนีออกจากบ้าน ส่วนพ่อก็ถูกแจ้งความและถูกพักงาน
ไม่คาดคิดเลยว่าจะยังมีเรื่องราวมากมายที่เขาไม่รู้
ไห่จิ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“เป็นไปไม่ได้หรอก หนิงซวงเป็นเด็กเรียบร้อยและใจดี ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นได้!”
เจียงหว่านกลอกตา มาเจอคนหลงน้องสาวแบบนี้ เธอยิ่งหัวเสีย
“แต่ความจริงก็คือเธอทำมัน!”
“คิดว่าทำไมพ่อของคุณถึงส่งเธอเข้าคุกด้วยตัวเองล่ะ!”
ไห่จิ่งตะลึงงัน
เจียงหว่านพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณไม่รู้อะไรเลยสักนิด แล้วมีสิทธิ์อะไรมาตำหนิเฉียวเหลียนเฉิงของฉัน!”
“อีกอย่าง ฉันขอบอกคุณไว้เลย ตอนนี้เฉียวเหลียนเฉิงก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวของคุณเลยด้วยซ้ำ!”
“และพวกเราเองก็ไม่คิดจะยอมรับพ่อคุณเช่นกัน การฟ้องร้องไห่หรงเทียน ก็เพียงเพราะต้องการทวงคืนความยุติธรรมให้กับตัวเราเองเท่านั้น!”
ไห่จิ่งนิ่งเงียบ!
เจียงหว่านเห็นว่าเขาไม่มีท่าทีหยิ่งยโสเหมือนเมื่อครู่แล้ว จึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว เชิญคุณออกไปได้!”
“ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ทั่วทั้งตัวยังมีรอยเย็บตั้งหลายสิบแผล ไม่มีอารมณ์จะต้อนรับคุณหรอกค่ะ!”
เมื่อถูกไล่ซึ่ง ๆ หน้า ไห่จิ่งก็ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า เขาเปิดประตูออกไปเหม่อลอย
หลังจากเขาออกไป เจียงหว่านก็รีบหันไปหาเฉียวเหลียนเฉิง “ไม่ต้องกลัวนะสามี ไม่ต้องสนใจคนงี่เง่าแบบนั้น ไม่ต้องโกรธนะ ปล่อยมันไป!”
เฉียวเหลียนเฉิงหน้าตึง “ทำไมเวลาคุณเรียกผมว่าสามี ผมรู้สึกเหมือนคุณกำลังเรียกคนงานเลย!*[1]”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “ทำไม คุณไม่อยากเป็นคนงานของฉันเหรอ?”
เฉียวเหลียนเฉิงถอนหายใจเบา “อยากสิ ขอแค่อยู่ข้าง ๆ คุณ จะให้ผมเป็นอะไรก็ยินดีทั้งนั้น”
เจียงหว่านเผยยิ้มออกมา
เฉียวเหลียนเฉิงพูดว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ผมไม่ได้โกรธหรอก!”
“ตอนนี้ผมไม่มีความคาดหวังใด ๆ กับพวกเขาอีกแล้ว เมื่อไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง และไม่มีความแค้น!”
เขาพูดประโยคนี้เบา ๆ แต่เจียงหว่านกลับรู้สึกเศร้าใจ
ดวงตาของเธอแดงก่ำ จนต้องเข้าไปสวมกอดเขาเงียบ ๆ
[1] เป็นการเล่นเสียงเนื่องจากในภาษาจีนคำว่าสามี 老公 (Lǎogōng/เหล่ากง) ออกเสียงคล้ายคำว่าแรงงานหรือคนงาน 劳工 (láogōng/เหลากง)