เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 587 ภรรยาทหารโด่งดังด้วยวิธีนี้!
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 587 ภรรยาทหารโด่งดังด้วยวิธีนี้!
บทที่ 587 ภรรยาทหารโด่งดังด้วยวิธีนี้!
เจียงหว่านกับเฉียวเหลียนเฉิงได้แต่ยิ้มอย่างขำขัน
เหอซานไห่คนนี้ จะออกโทรทัศน์ก็ออกไปคนเดียวสิ จะพูดถึงเธอทำไม!
ทันใดนั้นพิธีกรก็ถามขึ้นว่า ‘ช่วยบอกชื่อภรรยาทหารคนนั้นให้เราทราบได้ไหม?’
เหอซานไห่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ‘ไม่ดีกว่าครับ หุ้นส่วนของผมเป็นคนชอบเก็บตัว เธอคงไม่อยากให้คนทั้งประเทศรู้จัก’
‘ที่สำคัญ เธอคนนี้ค่อนข้างหงุดหงิดง่าย อารมณ์ร้อน ผมไม่กล้าพูดชื่อเธอหรอก เดี๋ยวโดนตี!’
“ฮ่า ๆๆ” ทุกคนหัวเราะกันลั่น
ท่าทางที่ทั้งกลัวทั้งขำขันของเหอซานไห่ยิ่งทำให้เสียงหัวเราะของทุกคนดังก้องมากขึ้น
ใบหน้าเจียงหว่านบึ้งตึงทันที
จากนั้นพิธีกรก็หันไปทางหลิวเชี่ยนเชี่ยน
‘ในพื้นที่ภัยพิบัติ ท่านผู้ใจบุญท่านนี้บริจาคเต็นท์และอุปกรณ์ป้องกันของคนงานหลายร้อยชุด’
ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นภาพเต็นท์ที่เรียงรายกัน ซึ่งดูสะอาด และถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
บนเต็นท์แต่ละหลังมีตัวอักษรคำว่าเหนียนหวา และด้านใต้คำว่าเหนียนหวาเป็นลายดอกไม้ที่เจียงหว่านออกแบบเอง
แล้วหน้าจอก็ตัดกลับมาที่หลิวเชี่ยนเชี่ยน
พิธีกรถามหลิวเชี่ยนเชี่ยนว่า ‘ผมขอถามผู้จัดการโรงงานหลิวได้ไหม อะไรทำให้คุณตัดสินใจบริจาคเต็นท์และอุปกรณ์ป้องกันของคนงาน ทั้งยังบริจาคจำนวนมากขนาดนี้ด้วย?!’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ทำให้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ
‘ฉะ… ฉันเป็นแค่ผู้จัดการโรงงาน และทำตามคำสั่งเท่านั้น เถ้าแก่เนี้ยของฉันเป็นคนสั่งให้ทำสิ่งนี้ค่ะ!’
พิธีกรประหลาดใจ ‘แล้วเถ้าแก่เนี้ยของคุณคือใคร?’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนชี้ไปที่เหอซานไห่ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ‘เป็นเขา…’
พิธีกรรู้สึกประหลาดใจ
ทันใดนั้นหลิวเชี่ยนเชี่ยนก็พูดต่อ
‘เป็นหุ้นส่วนของเขาค่ะ!’
ทุกคนตกตะลึง
พิธีกรก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน ‘หมายความว่า พวกคุณมีเถ้าแก่เนี้ยคนเดียวกันเหรอ?’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้า ก่อนจะส่ายหัวอีกครั้ง
เหอซานไห่เห็นท่าทางของเธอแล้ว เขาจึงอาสาอธิบายแทน’“เธอประหม่าเกินไป เดี๋ยวผมจะอธิบายแทนเธอเอง!’
‘โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยหุ้นส่วนของผมร่วมกับครอบครัวทหารในกองพัน’
‘คนส่วนใหญ่ที่ทำงานที่นั่นเป็นภรรยาทหารจากกองพัน’
‘เดิมทีมีคนสั่งสินค้าล็อตนี้ไว้ เขาสั่งเต็นท์ห้าร้อยผืน และอุปกรณ์ป้องกันของแรงงานอีกหนึ่งพันชุด’
‘แต่หลังจากโรงงานผลิตเสร็จ กลับพบว่าชายคนนั้นหนีไป!’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนสงบลงแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะอารมณ์โกรธ น้ำเสียงของเธอจึงเด็ดเดี่ยวขึ้นมาก
‘ขอฉันพูดต่อเอง!’
พิธีกรยื่นไมโครโฟนให้เธออีกครั้ง
หลิวเชี่ยนเชี่ยนกล่าว ‘พวกเราตามหาคนที่สั่งสินค้าจนเจอ สุดท้ายก็รู้ว่าเขาเป็นคนหลอกลวง เขาถูกศัตรูของเถ้าแก่เนี้ยเราส่งมาเพื่อกลั่นแกล้งพวกเรา’
‘พอดีกับเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว’
‘เถ้าแก่เนี้ยก็เลยบอกว่า ช่างเถอะ ของพวกนี้คนทั่วไปคงไม่มีโอกาสได้ใช้ บริจาคให้กับเขตภัยพิบัติทั้งหมดเลยดีกว่า’
‘แต่ถ้ามอบอุปกรณ์ป้องกันของคนงานให้กับผู้ประสบภัยโดยตรง มันก็จะได้ใช้เพียงครั้งเดียว แต่ถ้าบริจาคให้กับทหารที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ก็น่าจะช่วยพวกเขาได้บ้าง และพวกเขาก็จะสามารถเอาไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้อีก’
‘สำหรับเต็นท์ เต็นท์จำนวนมากเหล่านี้ หลังจากใช้งานในเขตภัยพิบัติแล้ว ทางเราจะให้เหอซานไห่เก็บไว้ เพื่อนำไปใช้ในเขตภัยพิบัติอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต!’
‘ด้วยอย่างไรแล้วเต็นท์ถือเป็นสิ่งของที่จำเป็นสำหรับพื้นที่ภัยพิบัติ’
พิธีกรถามด้วยความสงสัย ‘ทำไมถึงต้องเก็บไว้กับคุณเหอซานไห่ พวกคุณเก็บไว้เองไม่ดีกว่าเหรอ?’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนยิ้มอย่างขมขื่น ‘ในวันแรกของแผ่นดินไหว พวกเราบริจาคเสื้อผ้าทั้งที่ผลิตเสร็จแล้วและสินค้าคงคลังทั้งหมดให้กับพื้นที่ภัยพิบัติ’
‘วันต่อมาถึงได้รู้ว่าโดนหลอก จึงบริจาคเต็นท์กับอุปกรณ์ป้องกันของคนงานทั้งหมด’
‘ตอนนี้โรงงานไม่มีสินค้าเหลือแล้ว หลังจากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ โรงงานของเราคงต้องล้มละลาย!’
พิธีกรรู้สึกตกใจ ‘ในโรงงานไม่มีสินค้าเหลือเลยเหรอครับ?’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้า ‘ก็ไม่เชิงว่าไม่มีเหลือเลย ยังมีเต็นท์กับอุปกรณ์ป้องกันของคนงานอยู่บ้าง แต่ว่าวัตถุดิบนั้นหมดไปแล้ว’
‘สินค้าที่เหลืออยู่เหล่านี้ไม่มีประโยชน์อะไร คนทั่วไปก็คงไม่มีโอกาสได้ใช้ จะขายก็ขายไม่ได้ คงต้องบริจาคให้กับทหารทั้งหมด หลังจากนั้นโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเหนียนหวาของพวกเราก็คงต้องปิดตัวอย่างเป็นทางการ!’
พูดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของหลิวเชี่ยนเชี่ยนก็เริ่มแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า
ทันใดเธอก็ถามขึ้นว่า ‘คุณพิธีกรคะ นี่มันเป็นการถ่ายทอดสดใช่ไหม ประชาชนทั่วไปจะสามารถเห็นฉันพูดหรือเปล่า?’
พิธีกรพยักหน้า ‘ใช่ครับ คุณมีอะไรจะพูดก็พูดออกมาได้เลย!’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความรู้สึกโกรธแค้นอย่างสุดซึ้ง
‘คนงานในโรงงานของเราส่วนใหญ่เป็นภรรยาทหาร พวกเธอล้วนมีชีวิตที่ยากลำบาก’
‘ทหารและเจ้าหน้าที่ในกองทัพเงินเดือนไม่สูง ทำงานทั้งปีก็ได้เงินไม่มาก แล้วยังต้องดูแลทั้งครอบครัวอีก’
‘เถ้าแก่เนี้ยตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งนี้ขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือภรรยาทหาร’
‘ทว่าโอกาสที่ภรรยาทหารเหล่านี้ได้รับก็ต้องถูกทำลายลงโดยคนที่มีเจตนาชั่วร้าย’
‘เถ้าแก่เนี้ยเป็นคนดีขนาดนี้ แต่ยังมีคนบางคนที่มีความคิดเห็นแก่ตัว คิดจะกำจัดเธอให้สิ้นซาก คนแบบนี้ไม่มีวันตายดี!’
‘วันนี้แหละฉันขอเสี่ยงกับทุกอย่างที่มี’
‘ถานหย่ง!’
‘ไอ้คุณชายบ้าคลั่งจากตระกูลถานในเมืองหนานเฉิง มณฑลซาน ถ้าป่วยทางจิตก็ไปอาละวาดที่อื่น ทำไมต้องมาหาเรื่องผู้หญิงแบบเราด้วย!’
‘พ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศจงฟังให้ดี อย่าได้ทำธุรกิจกับถานหย่ง ผู้ชายคนนั้นมันไม่ใช่คนดี!’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนต้องการสาปแช่งต่อ แต่เหอซานไห่ก็รีบเข้ามาปิดปากเธอไว้
‘ขออภัยด้วยครับ นี่เป็นความแค้นส่วนตัว ทุกคนอย่าถือสาเลยนะครับ!’
หลิวเชี่ยนเชี่ยนพยายามจะพูดต่อ แต่ก็ถูกเหอซานไห่ลากตัวออกไป
ในเวลานี้พิธีกรเองก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน แต่ก็ยังคงหันมาพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
‘ในการบรรเทาภัยพิบัติครั้งนี้ คนที่มีส่วนร่วมมากที่สุดก็คือภรรยาทหารในเมืองหลินเฉิง แต่พวกเธอกลับกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่ง และในเมื่อสามีของพวกเธอทุ่มเทชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมือง เราก็ไม่ควรทำร้ายครอบครัวของพวกเขาอีกต่อไป อย่าให้เหล่านักรบต้องเสียใจเลยครับ!’
พอรายการจบลงแล้ว ผู้ชมในห้องส่งต่างก็นิ่งเงียบ
ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร
เจียงหว่านถอนหายใจเบา ๆ เธอหันไปหาเฉียวเหลียนเฉิงและพูดว่า
“ไปกันเถอะ”
เฉียวเหลียนเฉิงพยักหน้ารับ
ขณะที่ทั้งสองกำลังจะจากไปก็ได้ยินผู้คนรอบตัวพูดว่า
“ถานหย่ง นั่นมันคุณชายผู้บ้าคลั่งจากตระกูลถานไม่ใช่เหรอ เขาไปอาละวาดถึงเมืองหลินเฉิงเลยหรือเนี่ย?”
“ภรรยาทหารเหล่านั้นน่าสงสารจริง ๆ”
“เหนียนหวางั้นเหรอ ฉันจำได้ว่าห้างสรรพสินค้าของเรามีเสื้อผ้าแบรนด์เหนียนหวาด้วยนี่นา!”
“จริงเหรอ ฉันกำลังจะไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูกชายอยู่พอดี เดี๋ยวฉันจะลองไปดู ถ้ามีสินค้าก็จะอุดหนุน ฉันไม่อยากซื้อจากเจ้าอื่นแล้ว!”
“เพื่อทหารภรรยาเหล่านั้น พวกเรายินดีจ่ายเงินเพิ่มด้วยซ้ำ!”
“ใช่ เราลองไปดูกันเถอะ!”
เจียงหว่านและเฉียวเหลียนเฉิงยังไม่ทันก้าวขาออกไป เหล่าผู้คนด้านหลังก็แห่กันขึ้นไปยังชั้นบนแล้ว
เจียงหว่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอหันไปมองเฉียวเหลียนเฉิง
“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย!”
เฉียวเหลียนเฉิงส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม “คุณทุ่มเททำเพื่อผู้คน พวกเขาจึงตอบแทนคุณยังไงล่ะ”
เจียงหว่านตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงยิ้ม
เธอเคยเล่าให้เหอซานไห่ฟังเกี่ยวกับกรณีศึกษาของยี่ห้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและยี่ห้อรองเท้าจากชีวิตก่อนของเธอ
ตอนนั้นเธอแค่พูดเล่น ๆ
แต่เหอซานไห่เรียนรู้และนำไปปฏิบัติจริง ๆ
เฉียวเหลียนเฉิงพูดว่า “ได้ออกโทรศัพท์แบบนี้ คงต้องขอบคุณมู่เหย่ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนัก ต่อไปหนังสือพิมพ์ก็ควรเขียนรายงานที่เฉพาะเจาะจงด้วย”
“คลื่นใหญ่คลื่นนี้ อาจทำให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็ได้!”
เจี่ยงหว่านแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นผลลัพธ์นั้น!