เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 529 การพบเจอครั้งแรกกับแม่สามีที่แท้จริง
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 529 การพบเจอครั้งแรกกับแม่สามีที่แท้จริง
บทที่ 529 การพบเจอครั้งแรกกับแม่สามีที่แท้จริง
สหายตำรวจนิ่งเงียบไป “ในเมื่อคุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย งั้นก็พาคนในครอบครัวของคุณมาเถอะ!”
ไห่หนิงซวงตกใจ “อะไรนะ คนในครอบครัว?”
คนในครอบครัวของหล่อนคือใคร นายพลหรือผู้บัญชาการ? จะให้พาใครมาที่นี่เพื่อขายหน้าหรือไง?
และต่อให้ไห่หนิงซวงจะนั่งรออยู่ที่นี่จนผมขาว พ่อกับพี่ชายก็ไม่มาหาหล่อนแน่
ไม่มีทางเลือกอื่น หล่อนมองไปที่เจียงหว่านอย่างโกรธแค้น “นี่ เจียงหว่าน ฉันจะไม่เอาเรื่องที่เธอทุบตีฉันก็ได้”
ตอนที่พูดประโยคนี้ หล่อนก็ไม่ลืมความเป็นคุณหนูของตัวเอง ท่าทางการพูดดูเย่อหยิ่งมาก
เจียงหว่านยิ้มเยาะ “เกรงว่าสมองของเธอน่าจะไม่ดีนะ ฉันตบเธอไม่ใช่ความผิด แต่ว่าเป็นเพราะเธอปากไม่ดีก่อนต่างหาก!”
ไห่หนิงซวงถึงกับอึกอัก “กะ ก็ฉันจะไม่เอาเรื่องเธอแล้วไง!”
เจียงหว่านชำเลืองมองหล่อนราวกับมองคนโง่ “แต่ว่าฉันจะเอา!”
“เธอด่าสามีของฉันว่าเป็นไอ้ลูกพันธุ์ผสม เรื่องนี้ฉันไม่ยอม!”
“พาคนในครอบครัวของเธอมา ฉันอยากจะถามนักว่าตระกูลที่สูงส่งอย่างตระกูลไห่สั่งสอนลูกสาวมายังไง?”
ไห่หนิงซวงมองอย่างอาฆาต แทบจะพุ่งเข้าไปกัดเจียงหว่านแรง ๆ เสียให้ได้
แม้พ่อกับพี่ชายจะไม่มีทางมาแน่ แต่สุดท้ายหล่อนก็ไม่มีทางเลือก หล่อนจึงต้องโทรหาเจี๋ยไห่เสีย แม่ของหล่อน
เจี๋ยไห่เสียเป็นคนนิสัยดี หล่อนเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก
อีกทั้งยังรักไห่หนิงซวงเป็นที่สุด หลังจากไห่หนิงซวงโทรหา เจี๋ยไห่เสียก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
ด้วยว่าตอนไห่หนิงซวงโทรหา หล่อนไม่ได้บอกเรื่องที่ตัวเองไปด่าทอคนอื่น บอกแค่เพียงมีปากเสียงและถูกทุบตี
เจี๋ยไห่เสียรีบมายังสถานีตำรวจ พอมาถึงก็เห็นว่าลูกสาวถูกทุบตีจนหน้าบวมเป่งจนดูเหมือนหัวหมู
“หนิงซวง หนูเป็นยังไงบ้าง ใครกันทุบตีหนูจนกลายเป็นแบบนี้?!”
เจี๋ยไห่เสียใจแทบสลายเมื่อเห็นใบหน้าของลูกสาวเต็มไปด้วยรอยบวมแดงและรอยฟกช้ำ
ไม่รอให้ไห่หนิงซวงตอบ เสียงของเจียงหว่านที่อยู่ข้างหลังก็ดังขึ้น “ฉันเอง!”
เจี๋ยไห่เสียนิ่งอึ้งขณะที่หันไปมองเจียงหว่าน เดิมทีหล่อนคิดว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นผู้ชาย
แต่เมื่อสำรวจจนละเอียดแล้วจึงรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง
โดยปกติแล้วผู้หญิงสมัยนี้ต่างผมยาวคลุมไหล่ แม้ว่าจะผมสั้นก็เพียงสั้นประบ่าเท่านั้น
แต่เพียงเจียงหว่านตัดผมสั้นจนแทบจะเป็นผมทรงสกินเฮด เพียงยาวกว่าผมทรงสกินเฮดนิดหน่อยเอง
เมื่อมองแวบแรกจึงอาจคิดว่าเป็นผู้ชายได้
“คุณเป็นใคร ทำไมถึงทุบตีลูกสาวฉัน!” แม้ว่าเจี๋ยไห่เสียจะมีนิสัยอ่อนโยน แต่ลูกสาวสุดที่รักถูกทุบตีขนาดนี้ จะให้เธอใจเย็นอยู่ได้ยังไง?
ทว่าเจียงหว่านไม่ตอบคำถาม เพียงแต่มองขึ้น ๆ ลง ๆ สำรวจแม่สามีที่แท้จริงของตัวเอง
หลังจากมองสักพักก็ชักสายตากลับไปที่เดิม
“ฉันทำไห่หนิงซวงเพราะเธอสมควรโดน!”
“สามีของฉันคือเฉียวเหลียนเฉิง เธอสบประมาทสามีของฉันว่าเป็นไอ้ลูกพันธุ์ผสม แบบนี้ฉันไม่ควรทุบตีเธอเลยเหรอ?”
เจี๋ยไห่เสียชะงักค้าง หล่อนหันกลับไปมองลูกสาวสุดที่รักด้วยความสงสัย
และแม้ว่าสายตาของเธอจะมองลูกสาวแต่ในใจกลับไม่มั่นใจ
‘เฉียวเหลียนเฉิง’ ทำไมชื่อนี้รู้สึกคุ้น ๆ นัก
ไห่หนิงซวงอยากจะพูดแก้ต่างว่าไม่ได้ทำ แต่เจียงหว่านบันทึกเสียงไว้หมดแล้ว และหากแม่ของหล่อนได้ยินจะต้องไม่ให้อภัยหล่อนแน่นอน
ฉะนั้นหล่อนจึงทำได้เพียงกัดริมฝีปาก ยอมรับความผิด “แม่ หนูไม่ได้ตั้งใจจะด่าคนอื่นนะ แต่เฉียวเหลียนเฉิงเป็นคนที่ชอบมองข้ามความหวังดีของคนอื่น กองกำลังพิเศษของพ่อเลือกเขาแล้ว แต่เขากลับเย่อหยิ่งไม่ไปรายงานตัว”
“หนูก็แค่สงสัยในเหตุผลที่เขาทำเลยไปถามจากเจียงหว่าน”
ยิ่งพูดถึงเรื่องนี้ เสียงของไห่หนิงซวงก็ยิ่งเบาลงเรื่อย ๆ
ส่วนเจียงหว่านก็เพียงมองหล่อนนิ่ง ๆ ไม่ได้พูดอะไร เธออยากเห็นว่าในสถานการณ์นี้ไห่หนิงซวงจะกลับดำเป็นขาวอย่างไร
ตอนนี้ในที่สุดเจี๋ยไห่เสียก็รู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงเป็นใคร
เฉียวเหลียนเฉิงเป็นลูกชายของผู้หญิงที่มาทำคลอดให้เธอคนนั้น…
หลังจากช่วยทำคลอด ไม่กี่วันหลี่หงเหมยก็วิ่งเข้ามาบอกว่าตัวเองไม่ทันระวังอุ้มเด็กไปผิดคน และต้องการเปลี่ยนลูกชายกับลูกสาวของเธอ แล้วเธอจะเห็นด้วยได้อย่างไร
และเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ จู่ ๆ สามีก็บอกว่าลูกสะใภ้ของหลี่หงเหมยมาหา
เหมือนว่าเธอจะชื่อ เจียงหว่าน คนที่อยู่ตรงหน้าหล่อนตอนนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เจี๋ยไห่เสียก็มองเจียงหว่านอีกครั้ง แต่หล่อนก็ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ว่าเป็นความรังเกียจ แม้จะมีความโกรธอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ชัดว่ารังเกียจ…
เธอจึงพูดเสียงเรียบ “สหายเจียง ลูกสาวของฉันอาจจะพูดคำที่ไม่น่าฟัง แต่เธอก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี!”
“เรื่องแค่นี้ทำไมเราไม่ปล่อยผ่านไปล่ะ!”
ไห่หนิงซวงอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็พูดไม่ได้ หล่อนทำอะไรเจียงหว่านได้ซะที่ไหน หล่อนกลัวจริง ๆ ว่าเจียงหว่านจะพูดเรื่องนายน้อยตัวจริงกับลูกสาวจอมปลอมในตอนนี้
ฉะนั้นไห่หนิงซวงจะปล่อนให้แม่ไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งนี้ ตอนนี้หล่อนก็ทำได้เพียงบีบจมูกยอมรับไปก่อน
ชั่วขณะเดียวกันนี้ ในหัวของไห่หนิงซวงก็กำลังคิดหาวิธีที่จะใช้จัดการเจียงหว่านสารพัด
ตอนนี้คำพูดของเจี๋ยไห่เสียกำลังทำให้เจียงหว่านอึดอัด
สามีของตัวเองถูกด่าทอ คนอื่นมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าให้ปล่อยผ่าน!
เจียงหว่านมองเจี๋ยไห่เสียด้วยสายตาเรียบเฉยและถามว่า “คุณหมายความว่ายังไง จะใช้อำนาจกดขี่คนอื่นเหรอ?”
เจี๋ยไห่เสียขมวดคิ้วพูดอย่างไม่พอใจ “สหายคนนี้ ทำไมถึงได้ไม่ฟังใครแบบนี้นะ?”
“ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาทำร้ายลูกสาวของฉัน แต่เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว โปรดอย่ามาก่อเรื่องวุ่นวายอีก!”
“สรุปก็คือ ฉันหวังว่าเธอจะออกไปให้ไกลจากเหยียนจิงโดยเร็วที่สุด”
“สามีของฉันเป็นทหาร ถึงเขาไม่สามารถบีบบังคับให้เธอออกไปได้ แต่ครอบครัวของฉันไม่ใช่อย่างนั้น”
“นิสัยหลานชายของฉันไม่ใจดีหรอกนะ หากถึงตอนนั้นเธอก็อย่ามาว่าพวกเราใจ้ร้ายแล้วกัน”
น้ำเสียงของเจี๋ยไห่เสียอ่อนโยนมาก แต่คำพูดไม่ได้อ่อนโยนเลยสักนิด
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “คุณนายคะ นี่คุณกำลังขู่ฉันอยู่เหรอ?”
“คุณรู้ไหมว่าคนที่ถูกเธอด่าว่าไอ้ลูกพันธุ์ผสมคือใคร?”
ทันใดดูเหมือนว่าเจี๋ยไห่เสียจะกลัวเจียงหว่านพูดอะไรที่ไม่น่าฟังออกมา หล่อนจึงรีบพูดขัดจังหวะ “เป็นใครไม่สำคัญ”
“สรุปก็คือฉันไม่อยากเห็นใครก็ตามที่มาจากครอบครัวของเธออีก!”
“ตอนนี้ เชิญเธอออกไปจากเหยียนจิงซะ!”
เจี๋ยไห่เสียกลัวว่าเจียงหว่านจะพูดอะไรที่ไม่สมควรออกมา เธอกลัวว่าไห่หนิงซวงจะรู้เรื่องน่าอายตอนนั้นที่เธอคลอดลูกสาวกลางทุ่งนา
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอกลัวลูกสาวจะเสียใจ
ทว่าคำสั่งขับไล่ของเธอทำให้เจียงหว่านประหลาดใจมาก
เธอมองเจี๋ยไห่เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อและถามออกไปด้วยความโมโห
“คุณบ้าหรือเปล่า คุณรู้ไหมว่าผู้ชายที่ถูกลูกสาวของคุณด่าว่าไอ้ลูกพันธุ์ผสมเป็นลูกชายแท้ ๆ ที่คุณให้กำเนิดน่ะ!”
“หยุดพูด!”
“หุบปาก!”
ทั้งสองเสียงตะโกนออกมาพร้อม ๆ กัน
เสียงหนึ่งมาจากเจี๋ยไห่เสีย ส่วนอีกเสียงมาจากไห่หนิงซวง
หลังจากทั้งสองตะโกนออกไป พวกเธอถึงเพิ่งรู้ว่าตัวว่าเสียความสง่างาม จึงรีบมองออกไปข้างนอกอย่างเขินอาย
เจี๋ยไห่เสียถอนหายใจและพูดว่า “หนิงซวง ลูกออกไปก่อนเถอะ แม่กับสหายคนนี้จะคุยกันสักหน่อย!”
เมื่อไห่หนิงซวงได้ยินแบบนี้ หล่อนก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอ
“แม่คะ เธอก็พูดไปเรื่อยนั่นแหละ แม่อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของเธอนะ!”
เจี๋ยไห่เสียคิดว่าลูกสาวกลัวว่าตัวเธอจะถูกหลอก จึงรีบปลอบหล่อนด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“แม่รู้จ้ะ แม่รู้!”
“หนูออกไปรอข้างนอกก่อนนะ”
ไห่หนิงซวงกัดฟันมองดวงตาที่แน่วแน่ของแม่ตัวเอง สุดท้ายก็ยอมออกไป
หล่อนจำเดินออกไปข้างนอกอย่างไม่มีทางเลือก แต่ก็อดหันกลับไปมองไม่ได้ หล่อนหันกลับไปมองถึงสามครั้ง
จนออกมาจากห้องและประตูปิดลงจึงหยุดทำแบบนั้น
เจียงหว่านไม่รู้ว่าที่แม่สามีพูดหมายความว่าอะไร จึงมองและรอ โดยไม่พูดอะไรสักคำ
กระทั่งเห็นว่าไห่หนิงซวงเดินออกไปแล้ว เจี๋ยไห่เสียถึงเดินเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเจียงหว่านและพูดว่า
“เรื่องที่เธอพูดฉันรู้หมดแล้ว เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน หลี่หงเหมยก็อุ้มลูกชายของตัวเองมาหาฉันและบอกว่าเด็กถูกอุ้มไปผิดคน!”
“แต่พวกเราอาจจะถูกหลอกก็ได้ ลูกของตัวเองแท้ ๆ จะมาอุ้มไปผิดคนได้ยังไง ใครจะไปเชื่อ?”