เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 527 วัฒนธรรมการนั่งอึ
บทที่ 527 วัฒนธรรมการนั่งอึ
เจียงหว่านแจกจ่ายหนังสือพิมพ์ทั้งหมดนับร้อยฉบับให้กับคนในค่ายทหารแต่ละเขต ทั้งโรงงาน และครอบครัวที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานด้วย
แต่เธอไม่ได้แจกให้กับคนเฝ้าประตูหรือคนเดินผ่านไปผ่านมา เพียงแค่เอาไปยัดไว้ในห้องน้ำเพื่อให้มันเป็นกระดาษชำระ
ทันทีที่มู่เหย่เห็นว่าเจียงหว่านใช้หนังสือพิมพ์เหล่านี้เป็นกระดาษชำระ ใบหน้าของเขาก็บึ้งตึงด้วยความโกรธ
“เธอคิดจะตีพิมพ์แค่ชุดเดียวแล้วปิดตัวเลยหรือไง?”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ นอกจากเงินลงทุนก่อนหน้า ฉันก็ไม่มีแผนว่าจะใช้เงินเพิ่มสักแดงเดียวเลยนะ!” เจียงกล่าว
หญิงสาวยิ้มแล้วพูดต่อ “นี่นายไม่เข้าใจหรือไง? ทุกคนยุ่งกับงานขนาดนี้ เมื่อไหร่จะได้อ่านหนังสือพิมพ์ล่ะ?”
มู่เหย่ตอบกลับตามตรง “หลังจากเลิกงานและกลับถึงบ้านไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้ไม่ใช่เหรอ!”
เจียงหว่านแค่นหัวเราะ “ไม่จริง นั่นเป็นพฤติกรรมของคนรวย แต่คนจนต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างหลังเลิกงาน”
“พวกเขาต้องทำอาหาร กินอาหาร ทำความสะอาดบ้าน และดูแลเด็ก ๆ!”
มู่เหย่เงียบ ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นความจริงที่เขาคาดไม่ถึง
เจียงหว่านพูดต่อ “แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์บางอย่าง ทุกคนจะมีเวลาอ่านหนังสือพิมพ์ และพวกเขาจะอ่านมันได้นานด้วย”
มู่เหย่ถึงกับสับสน
เจียงหว่านจึงอธิบายต่อ “ก็อย่างตอนเข้าห้องน้ำและนั่งอึในส้วมไง!”
มู่เหย่พูดไม่ออก
เพราะเขาเองก็ชอบอ่านหนังสือพิมพ์ในห้องน้ำเหมือนกัน เพราะมันไม่มีอะไรทำเลยถ้าหากไม่อ่านหนังสือพิมพ์
ไม่มีใครหรอกที่จะเอาแต่ก้มหน้ามองส้วมว่าจะมีสัตว์ประหลาดหรือเปล่า!
“ที่เธอพูดก็มีเหตุผล แต่ว่าหนังสือพิมพ์ของเราจะถูกอ่านขณะกำลังนั่งอึมันไม่มากเกินไปหน่อยเหรอ!”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “เกี่ยวอะไรกัน วัฒนธรรมการนั่งอึก็คือวัฒนธรรมนะ!”
ได้ยินอย่างนั้นมูเหน่ถึงกับพูดไม่ออก จึงทำได้เพียงตามน้ำต่อไป
“ในเมื่อเธอจะใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมนั่งอึ อย่างนั้นเราจะพิมพ์เพิ่มอีกสามหมื่นฉบับ! แล้วนำมาใช้เป็นกระดาษชำระก็แล้วกัน” สุดท้ายแล้วหากกล่าวถึงความฟุ่มเฟือย มู่เหย่ก็ไม่ด้อยไปกว่าเจียงหว่านนัก
จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันทำงาน เจียงหว่านไปแขวนป้ายที่หน้าประตูสำนักพิมพ์เพื่อรับสมัครบรรณาธิการ
ส่วนมู่เหย่กำลังไปเผยแพร่วัฒนธรรมการนั่งอึ
ห้าวันต่อมา ไห่เทียนหรงก็ได้เห็นหนังสือพิมพ์ที่จัดทำขึ้นสำหรับการนั่งอึ
และตอนที่เขาได้เห็นหนังสือพิมพ์ ก็เป็นช่วงเวลาที่เขากำลังนั่งอึอยู่ในห้องน้ำที่บ้านพอดีเสียด้วย
เดิมทีเขาเองก็นึกคิดอะไรไปมากมาย และไม่อยากจะอ่านมันนัก แต่เพราะเขานั่งอึและไม่มีอะไรทำ เขาจึงจำเป็นต้องหยิบขึ้นมาอ่านอย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นเขาก็มองเห็นชื่อตอนของนิยายเรื่องหนึ่งในนั้นได้อย่างรวดเร็ว
‘ความขุ่นเคืองระหว่างนายน้อยตัวจริงกับลูกสาวกำมะลอในตระกูลเศรษฐี!’
คิ้วของไห่เทียนหรงขมวดเข้าหากันแน่น สัมผัสได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขากวาดตามองไปทั่ว ๆ
ขณะนั้นเอง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา
ครั้นไห่หรงเทียนอ่านเรื่องราวในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้จบลง เขาก็เข้าใจทันทีว่านี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับใคร
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจากเหตุการณ์ฆาตกรรม
ลูกสาวในตระกูลเศรษฐีนามว่าไห่หนิงซวงปรากฏตัวขึ้น และบอกกล่าวกับตำรวจว่าตนเป็นคู่หมั้นของผู้ตาย
เพื่อที่จะร่วมมือกับตำรวจในการสืบคดี เธอได้ให้เบาะแสไว้มากมาย
และเพื่อนำผู้กระทำผิดตัวจริงกลับมาลงโทษ ตำรวจก็ได้ติดตามเบาะแสจนกระทั่งได้พบกับนายน้อยอันเฉิง
จากนั้นเป็นต้นมา เรื่องราวเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วจึงค่อย ๆ ถูกเปิดเผยทีละน้อย
และเรื่องราวในฉบับแรกก็จบลงเพียงเท่านี้
อย่างไรก็ตามในนิยายเรื่องนี้ ชื่อของที่อยู่คือกานเฉิง ชื่อของนายน้อยตัวจริงคืออันเฉิง และชื่อคู่หมั้นของผู้ตายก็คือไห่หนิงซวง ชื่อพวกนี้และเรื่องทั้งหมดสร้างความหงุดหงิดให้กับไห่หรงเทียนจนถึงขีดสุด
ถ้าหากเขาคาดเดาเรื่องนี้ไม่ได้ เขาก็ไม่สมควที่จะเป็นผู้บัญชาการกรมทหารแล้ว
ไห่หรงเทียนโกรธจัด เขาวิ่งออกไปหาแม่บ้านทันที
“ไปเอาหนังสือพิมพ์นี้มาจากไหน?”
แม่บ้านตอบกลับอย่างใจเย็น “มีแจกอยู่ที่ทางเข้าลานค่ะ เราได้มาหนึ่งฉบับ เลยจะเอามาใช้เป็นกระดาษชำระค่ะ”
ใบหน้าของไห่หรงเทียนเคร่งขรึมขึ้น ก่อนจะเอ่ยปากเสียงหนักแน่น “หมายความว่าหนังสือพิมพ์พวกนี้แจกฟรีงั้นเหรอ? แจกที่ไหน?”
แม่บ้านชี้ออกไปหน้าประตู “ตรงนั้นค่ะ แต่ว่าต้องรู้รหัสลับ!”
ไห่หรงเทียนสับสน “รหัสลับอะไร?”
แม่บ้านตอบกลับว่า “ถ้าหล่อนถามคุณว่าจะเอาหนังสือพิมพ์นี้ไปทำอะไร ต้องตอบไปว่าใช้เป็นกระดาษชำระ ไม่อย่างนั้นหล่อนจะไม่ให้ค่ะ!”
ไห่หรงเทียนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด
เขาต้องการไปหาเจียงหว่านเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็หยุดฝีเท้าของตัวเองไว้ก่อนจะก้าวออกจากประตู
หากได้พบเจออีกฝ่ายจะพูดว่าอะไรล่ะ?
ฉันอ่านมันแล้ว นี่มันหมายความว่ายังไง? จะพูดไปแบบนี้งั้นเหรอ?
นักแต่งนวนิยายสามารถทำอะไรก็ได้ แม้พวกเขาจะใช้ชื่อไห่หนิงซวง แต่ที่ด้านหน้าของบทนำก็มีข้อความเขียนไว้ชัดเจนว่า
‘เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องแต่ง และหากมีความคล้ายคลึง ย่อมเป็นความบังเอิญ!’
บังเอิญงั้นเหรอ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง
เห็น ๆ กันอยู่ว่านี่เป็นความตั้งใจ!
ไห่หรงเทียนสูดลมหายใจเข้าสองสามครั้งก่อนจะหันกลับเข้าบ้าน พอเดินผ่านแม่บ้าน เขาก็สั่งเสียงหนัก
“เอาหนังสือพิมพ์พวกนี้ไปทิ้งให้หมด และห้ามเอาเข้ามาในบ้านอีกเด็ดขาด!”
แม่บ้านที่ได้ยินคำสั่งนี้รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เธอก็ปฏิบัติตามโดยไม่คิดอะไรให้มาก
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาไห่หนิงซวงไม่อยู่บ้าน เพราะเวลานี้หล่อนได้รับความโปรดปรานจากตระกูลเฉินมาก และยังได้เข้าร่วมธุรกิจมูลค่านับล้านในมณฑลซานซีอีก
นายท่านเฉินพูดขึ้น “เธอคือลูกสาวที่พวกเรายอมรับ เธอก็ควรเรียนรู้ธุรกิจของพวกเราไว้ด้วย”
“ในอนาคตหากเธอมีลูก แน่นอนว่าเธอสามารถให้เขาเป็นบุตรบุญธรรมตระกูลเฉินของพวกเราได้!”
“สุดท้ายแล้ว หากไม่มีทายาทที่เหมาะสม ตระกูลเฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมอบความไว้วางใจทั้งหมดให้กับเธอ ไห่หนิงซวง!”
ไห่หนิงซวงทำเป็นถ่อมตนเมื่อรับฟังถ้อยคำเหล่านี้ และยังแสดงความลำบากใจในสิ่งที่ตระกูลเฉินมอบให้ เพราะทั้งหมดที่เธอทำก็เพื่อช่วยเหลือตระกูลเฉินเท่านั้น
แต่ความจริงในใจ ความยินดีของหล่อนแทบจะล้นออกจากอกแล้ว
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หล่อนไม่ได้กลับบ้านเพราะต้องอยู่กับนายท่านเฉิน
หลังจากเรียนรู้งานมาสักพักใหญ่ หล่อนก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กลับบ้านไปเจอพ่อกับแม่นานแล้ว
วันนี้พอจะมีเวลาว่าง หล่อนจึงกลับมาที่บ้าน
ทันทีที่เข้ามาในบ้าน หล่อนก็ได้พบกับเจียงเสวี่ย
“หนิงซวง กลับมาแล้วเหรอ!” เจียงเสวี่ยเดินเข้ามาทักทาย
ก่อนหน้านี้ถานหย่งช่วยเหลือไห่หนิงซวงเอาไว้ ความสัมพันธ์ของไห่หนิงซวงกับเจียงเสวี่ยจึงดีขึ้น
ไห่หนิงซวงพึมพำเล็กน้อยก่อนจะเผยสีหน้ารำคาญใจ “ฉันเพิ่งลงจากรถไฟ เหนื่อยมาก ไว้คุยกันวันหลังนะ!”
หล่อนกำลังจะเดินหนี แต่เจียงเสวี่ยก็หยุดหล่อนไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน ไห่หนิงซวง เธอได้อ่านหนังสือพิมพ์หรือยัง?”
ไห่หนิงซวงเผยสีหน้าประหลาดใจ “หนังสือพิมพ์? หนังสือพิมพ์อะไร?”
เจียงเสวี่ยเงียบพร้อมเผยสีหน้าแปลก ๆ ออกมา จากนั้นหยิบหนังสือพิมพ์ออกจากระเป๋าเป้บนหลังแล้วส่งให้ไห่หนิงซวง
ไห่หนิงซวงรับมันไว้ก่อนจะก้มลงมองด้วยความสงสัย
นายน้อยตัวจริงกับลูกสาวกำมะลอ?
แน่นอนว่าหล่อนค่อนข้างอ่อนไหวกับถ้อยคำเหล่านี้
และใจของหล่อนก็เต้นรัวทันที
เมื่ออ่านตอนต้นของเรื่องนี้ ทั้งเวลา และสถานที่ของเรื่อง ตลอดไปจนมีผู้เสียชีวิต ทั้งหมดเหมือนความจริงแทบทุกประการ
เวลานี้ใบหน้าของไห่หนิงซวงบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด ยิ่งอ่านมากเท่าไหร่หล่อนก็ยิ่งหวาดกลัวมากเท่านั้น
หลังจากอ่านจบแล้ว หล่อนก็มองชื่อและที่อยู่ของสำนักพิมพ์ด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฉันขอหนังสือพิมพ์ฉบับนี้นะ!”
หลังพูดจบ ไห่หนิงซวงก็หันกลับไปโดยไม่ลังเล
ไห่หนิงซวงมาถึงสำนักงานของหนังสือพิมพ์ในเวลาหกโมงเย็น
ตอนี้เจียงหว่านยังคงรับสมัครพนักงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยหลายวันที่ผ่านมาเธอเพิ่งรับแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
เมื่อเจียงหว่านเห็นว่าเริ่มเย็นแล้ว เธอจึงจะปิดสำนักงานแล้วกลับบ้าน
แต่ขณะนั้นประตูพลันเปิดออก พร้อมเสียงกระแทกดังลั่น
เจียงหว่านหันมอง และก็เห็นว่าเป็นไห่หนิงซวงที่กำลังเกรี้ยวกราด
“เจียงหว่าน เป็นแกจริง ๆ ด้วย!”
ขณะไห่หนิงซวงถีบประตูออก หล่อนดูไม่แปลกใจเลยเมื่อเห็นเจียงหว่านอยู่ในนี้
เจียงหว่านเองก็เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องมาที่นี่ เธอจึงวางหนังสือพิมพ์ในมือลง ก่อนจะกอดอกแล้วจ้องมองอีกฝ่าย
“ฉันทำไมเหรอ? ฉันก็แค่จัดทำหนังสือพิมพ์อยู่ที่นี่ แล้วเธอน่ะมาที่นี่ทำไม!”
ไห่หนิงซวงกัดฟันแน่น “เจียงหว่าน นังบ้า แกจะตามหลอกหลอนฉันไปทุกที่เลยหรือไง?!”