เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 518 แผนการของเฉียวเหลียนเจียถูกเปิดเผย
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 518 แผนการของเฉียวเหลียนเจียถูกเปิดเผย
บทที่ 518 แผนการของเฉียวเหลียนเจียถูกเปิดเผย
“เรียนพิเศษเหรอ” เจียงหว่านรู้ว่าหมายถึงการเข้าโรงเรียนกวดวิชา
“ฉันต้องจ่ายค่าเรียนให้ไหม?” เจียงหว่านถามอีกครั้ง
ครอบครัวของพวกเขามีปัญหา พวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนกวดวิชาหรอก
แม้หลี่หงเหมยมีเงิน แต่ด้วยนิสัยที่ตระหนี่ของหล่อน หล่อนคงลังเลที่จะเอาเงินมาจ่าย และในที่สุดภาระก็ต้องตกไปที่เฉียวเหลียนเฉิงอยู่ดี
นั่นไงล่ะ…
เฉียวเหลียนเจียพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ต้องจ่าย ประมาณร้อยหยวน พี่ชายจ่ายให้ผมแล้ว!”
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของเขาก็มีแววความยั่วยุ
เจียงหว่านหรี่ตาลงและไม่พูดอะไรอีก
เธอไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก เพราะรู้สึกไม่สบายใจจะมองดูพวกเขาต่อ อีกแค่นาทีหนึ่งก็อยู่ไม่ได้
ก่อนออกเดินทางเธอก็ให้เงินสิบหยวนไว้เป็นค่าครองชีพ
“ตกลงกันแล้วนี่ว่าจะให้ข้าว ทำไมยังไม่ได้ล่ะ!” หลี่หงเหมยมองดูเงินสิบหยวนด้วยความรังเกียจ
เจียงหว่านเหลือบมองหล่อนแล้วตอบ “ฉันกำลังส่งมาให้ แต่ลูกชายของคุณถูกจับซะก่อน”
“ถึงตอนนี้เขาจะถูกปล่อยตัวแล้ว แต่เขาก็ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ ดังนั้นฉันจะยังส่งให้คุณไม่ได้ในช่วงนี้ รอจนกว่าเขาจะดีขึ้น แล้วจะส่งมาอีกที!”
หลี่หงเหมยไม่พอใจ “เขาถูกปล่อยตัวแล้ว จะยังอารมณ์เสียอยู่ได้ยังไง”
เจียงหว่านตอบโดยไม่ต้องคิด “นี่คือการแทงข้างหลังจากญาติตัวเอง เหมือนชาวนาที่เลี้ยงงูเห่าเอาไว้ไม่มีผิด!”
หลี่หงเหมยโกรธ “นังบ้า แกเรียกใครว่างูเห่า?”
เจียงหว่านพูดด้วยความโกรธ “หลี่หงเหมย ที่ฉันจ่ายค่าครองชีพให้คุณทุกเดือน เพราะเฉียวเหลียนเฉิงคือคนที่เลี้ยงดูครอบครัวของคุณไม่ใช่หรือไง?”
“มันไม่เป็นไรหรอกถ้าคุณไม่รู้สึกขอบคุณ แต่นี่คุณยังอยากฟ้องเขาอีก ไม่ใช่งูเห่าแล้วเรียกอะไรได้?”
“ฉันว่าลองเขียนเรื่องราวของคุณและเฉียวเหลียนเฉิงแล้วพิมพ์ออกมาสักหมื่นเล่ม เอาไปแจกให้แต่ละบ้าน เผยแพร่พฤติกรรมงูเห่าของคุณให้ทุกบ้านก็คงดีไม่น้อย!”
“แก!” หลี่หงเหมยกัดฟันด้วยความโกรธ แต่ไม่กล้าพูดมากกว่านี้ เหตุผลหลักคือหล่อนต่อสู้ไม่เก่งและเอาชนะเจียงหว่านไม่ได้
เจียงหว่านเหลือบมองหญิงชรา แล้วเดินจากไปด้วยสายตาเหยียดหยัน
ส่วนหลี่หงเหมยกระโดดไปข้างหลัง และเริ่มสาปแช่งด้วยความโกรธ
ไม่ไกลจากประตู เจียงหว่านก็พบกับไป๋อวี้ซิ่วโดยไม่คาดคิด
“เธอรอฉันอยู่งั้นเหรอ?” เจียงหว่านมองหล่อนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือกอดอก
ไป๋อวี้ซิ่วกลับมามีสติอีกครั้งและพูดขึ้น “ฉันมาที่นี่เพื่อเตือนเธอ เฉียวเหลียนเจียน่ากลัวมาก ลับหลังเขาคะยั้นคะยอให้เราผูกมิตรกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนแอบวางแผนอะไรบางอย่าง”
ดวงตาของเจียงหว่านกระตุก เฉียวเหลียนเจียนี่ร้ายจริง ๆ ด้วย
เธอมองไป๋อวี้ซิ่วอย่างตื่นเต้น “แล้วเขาพูดอะไรอีก?”
ไป๋อวี้ซิ่วตอบ “เขาบอกว่าเขาจะสร้างความขัดแย้งระหว่างเธอกับเฉียวเหลียนเฉิง แค่ทำให้พวกเธอหย่าร้างกัน พวกเขาก็จะควบคุมเฉียวเหลียนเฉิงได้”
“เฉียวเหลียนเฉิงเป็นหัวหน้าครอบครัว แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกชายทางสายเลือด แต่เขาก็ยังต้องรับผิดชอบตระกูลเฉียว พวกนั้นเขาจะเป็นทาสของตระกูลเฉียวตลอดไป!”
เจียงหว่านหรี่ตาลง
ตอนเธอได้พบกับเฉียวเหลียนเจียครั้งแรก เธอก็รู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา ตอนนี้ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะหัวหมอจริง ๆ ในหัวเขามีกลอุบายมากมายเต็มไปหมดเลย
“เธอไม่ได้มาหาฉันเพราะแค่จะบอกเรื่องนี้ใช่ไหม? ต้องการอะไรอีก?”
“ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฉันจะไม่ช่วยเธอออกไปจากที่นี่หรอก”
ไป๋อวี้ซิ่วรู้สึกเศร้าเล็กน้อย หล่อนเงยหน้าขึ้นแล้วพูด “ฉันแค่อยากถามว่าเธอเรียนกังฟูแบบนั้นได้ยังไง ฉันอยากชนะเฉียวเหลียนเย่!”
เจียงหว่านยิ้ม “เธอต้องตั้งใจและมีความแน่วแน่ว่า ต่อให้ต้องตาย เธอก็ยังจะฆ่าเขา!”
ดวงตาไป๋อวี้ซิ่วเบิกกว้าง
หลังจากนั้นไม่นานหล่อนก็กลับมามีสติอีกครั้ง “แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังเอาชนะเขาไม่ได้ เขาแข็งแกร่งกว่าฉัน ทั้งยังแย่งมีดจากฉันไปได้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วย!”
เจียงหว่านเยาะเย้ย “ถ้ามีดทำครัวถูกกระชากออกไป แล้วมือกับเท้าของเธอทำอะไรอยู่ล่ะ เตะเข้าเป้าสิ แหย่ตาเขาสิ!”
“และถ้ามือกับเท้าไม่ได้ผล แต่เธอยังมีฟันกับหัวอยู่ไม่ใช่หรือไง? จะกัดด้วยฟันหรือจะฟาดด้วยหัวก็ไม่เสียหายนี่!”
“ไป๋อวี้ซิ่ว เธอต้องทำกับเขาเหมือนเป็นศัตรู ทุบตีเขาให้หนัก แล้วเธอจะเอาชนะเขาได้แน่นอน”
“เพราะหมอนั่นกลัวตายมากกว่าเธอเสียอีก!”
หลังจากได้ยินแบบนี้ร่างกายของไป๋อวี้ซิ่วก็สั่นสะท้าน และในที่สุดหล่อนก็พยักหน้า
“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบใจนะ!”
หลังไป๋อวี้ซิ่วจากไป เจียหว่านก้มองไปยังลานบ้านเล็ก ๆ นั่น
เฉียวเหลียนเจียคำนวณได้ดีจริง ๆ…
ก่อนหน้านี้เจียงหว่านจงใจหลอกให้หลี่หงเหมยบอกเธอเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวเด็ก เพื่อจะไปหาไห่หรงเทียนที่เมืองเหยียนจิง
เธอต้องการฝ่าปัญหาไปให้ได้ และล้างแค้นแทนเฉียวเหลียนเฉิง
แต่พอเจียงหว่านกลับถึงฟาร์มก็มืดแล้ว…
วันนี้เฉียวเหลียนเฉิงเตรียมอาหารเย็นไว้ให้เจียงหว่านเป็นพิเศษ และตอนนี้เขากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนก้อนหินใหญ่ตรงทางเข้าฟาร์มพร้อมตะเกียงไฟ
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ ข้างนอกหนาวจะตาย มืดก็มืด สายตาจะเสียเอานะ!”
ใบหน้าของเฉียวเหลียนเฉิงแดงเพราะความหนาวเย็น เห็นอย่างนั้น เจียงหว่านก็รีบเข้าไปหาเขาด้วยความร้อนใจ
“ฉันซื้อมันเทศมาให้!” เธอบอก
พอเจียงหว่านเข้ามาใกล้ เฉียวเหลียนเฉิงก็จับมือของเจียงหว่านแล้วมองขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่นาน กระทั่งแน่ใจว่าเธอไม่มีบาดแผลหรือรอยฟกช้ำบนร่างกาย เขาถึงผ่อนคลายลง
“ผมคงไม่กังวลแบบนี้ ถ้าคุณรีบกลับมา!”
เจียงหว่านเม้มริมฝีปากเมื่อรู้ว่าเฉียวเหลียนเฉิงรู้สึกห่วงใยเธอขนาดไหน
ทั้งสองเดินกลับบ้านด้วยกัน เจียงหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามชายหนุ่ม “ฉันได้ยินมาว่าเฉียวเหลียนเจียจะอยู่ที่นี่ต่อ แล้วเขาก็จะลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนกวดวิชาด้วย เขาได้บอกนายหรือเปล่า?”
เฉียวเหลียนเฉิงพูดอย่างสงสัย “ไม่ ไม่ได้เจอเขาเลย ผมยุ่งจะตาย”
“เขาอยากเรียนพิเศษเหรอ? ที่ไหน ต้องใช้เงินไหม?”
เจียงหว่านอธิบายและบอกราคาไป
หลังจากนั้นเฉียวเหลียนเฉิงก็ยังคงนิ่งเงียบ
เจียงหว่านจึงหันมองเขา “เฉียวเหลียนเจียบอกว่าจะให้นายจ่าย นายจะจ่ายไหม?”
เฉียวเหลียนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว “ไม่!”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เต็มใจที่จะให้นะ แต่ผมบอกไว้ว่าจะให้เขาไปเรียนมหาวิทยาลัย แล้วมหาวิทยาลัยก็ต้องใช้เงินมาก”
“แล้วนี่ยังต้องลงทะเบียนเรียนกวดวิชาอีกเหรอ ถ้าไม่เรียนจะสอบไม่ผ่านหรือไง?”
“ผมรู้สึกว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียน ต่อให้สมัครกวดวิชา มันก็ไร้ประโยชน์!”
เจียงหว่านประหลาดใจ เธอไม่คิดว่าเฉียวเหลียนเฉิงจะพูดแบบนี้
เธอพูดขึ้นทันที “แต่เฉียวเหลียนเจียไปมาแล้วนะ เขาบอกว่านายจ่ายให้แล้วด้วยซ้ำ”
เฉียวเหลียนเฉิงขมวดคิ้ว “เขาบอกว่าผมจ่ายให้ไปแล้วเหรอ?”
เจียงหว่านพยักหน้า “แล้วตอนฉันจะออกมา ไป๋อวี้ซิ่วก็มาหาฉัน หล่อนบอกว่าเฉียวเหลียนเจียบอกทุกคนที่บ้านว่าอย่าต่อต้านนาย จุดประสงค์เขาคืออะไรฉันเองก็ยังไม่รู้…”
เจียงหว่านพูดซ้ำคำพูดของไป๋อวี้ซิ่ว
หลังจากพูดจบ เธอก็กล่าวเสริม “ฉันก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่า คำพูดของไป่อวี้ซิ่วน่าเชื่อถือได้แค่ไหน”
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังสงสัยว่าทำไมเฉียวเหลียนเจียถึงบอกว่านายจ่ายค่าเรียนให้เขาแล้ว!”