เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80 - บทที่ 270 ถ้าอย่างนั้น คงต้องกำจัดหลัวชิงซาน
- Home
- เกิดใหม่เป็นภรรยาอ้วนของหัวหน้ากองพันสุดฮอต ยุค 80
- บทที่ 270 ถ้าอย่างนั้น คงต้องกำจัดหลัวชิงซาน
บทที่ 270 ถ้าอย่างนั้น คงต้องกำจัดหลัวชิงซาน
เหอซานไห่เอามือลูบหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“อย่าพูดถึงมันเลย คราวนี้ผมพลาดเอง”
“เดิมทีหลัวชิงซานมีอิทธิพลแค่ในเมืองเท่านั้น คนที่ต้องการขายสินค้าให้กับเขาต้องไปหาเขาด้วยตัวเอง”
“ถ้ามีลูกน้องอยู่ พวกมันก็แค่เดินไปรอบ ๆ เมือง ไม่ได้ไปที่ไกล ๆ”
ขณะพูด เหอซานไห่ก็ลุกขึ้นจากเตียง
เขาหยิบไม้ถูพื้นมา และเริ่มปัดกวาดสิ่งสกปรกออกไป จนพอมีที่สะอาดให้เจียงหว่านได้นั่งลง
พอเจียงหว่านนั่งลง เธอโบกมือให้เขาเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องหาน้ำมาให้และให่เขาพูดต่อเลย
เหอซานไห่จึงพูดต่อ “หลังจากคุณกลับไป ผมก็แจ้งไปแต่ละหมู่บ้าน แล้วกำลังดูว่าจะเตรียมของที่คุณต้องการให้เร็วที่สุดได้เมื่อไหร่”
“ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วง หลายหมู่บ้านมีเมล็ดพืชส่วนเกินจึงเอามาขาย”
“ผมบอกว่าจะติดต่อกลับภายในสองวัน เลยรวบรวมบางส่วนไปไว้ที่หมู่บ้านไป๋หยาง”
“พอของมาถึง หลัวชิงซานก็มาพร้อมกับคนของเขา”
“พวกมันไม่ใช่แค่แย่งของไป แต่คนของมันยังทุบตีผมด้วย”
เจียงหว่านเลิกคิ้ว “สินค้านั้นเป็นของคุณ พวกเขาปล้นไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้นเลยได้เหรอ? นี่มันผิดกฎหมายนะ คุณไม่ได้ไปแจ้งความเหรอ?”
“ผมแจ้งความแล้ว แต่…”
เหอซานไห่อธิบายสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากอธิบายจบ เจียงหว่านก็เข้าใจ
ชาวบ้านขายสินค้าให้กับเหอซานไห่ และเหอซานไห่ก็ได้เซ็นสัญญากับพวกเขา จากนั้น เมื่อชาวบ้านขายสินค้าให้กับพวกเฉิงเฉิงก็จะคิดราคาเป็นสามเท่า
ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่เฉิงเฉิงจะปล้นสินค้าไป!
เจียงหว่านคิดสักพักแล้วถาม “สัญญาที่นายมอบให้ชาวบ้านอยู่ที่ไหน?”
เหอซานไห่ยิ้มอย่างขมขื่น “หลังจากสินค้าถูกปล้นออกไป พวกเขาก็คืนสัญญา”
“ตอนนี้ผมมันเป็นไอ้สารเลว แค่หายใจก็ผิดแล้ว!”
เมื่อพูดเช่นนี้ สีหน้าของอีกฝ่ายก็ค่อย ๆ สงบลง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ นี่เป็นความขัดแย้งระหว่างผมกับหลัวชิงซาน สินค้าอีกครึ่งนึงยังอยู่ หลัวชิงซานเอามันไปไม่ได้”
“ผมจะหารถแทรกเตอร์มาส่งของให้คุณในอีกสองสามวันนี้”
”ส่วนที่เหลือ…”
ไม่รอให้เขาพูดจบ เจียงหว่านก็ขัดจังหวะขึ้น “เราตกลงร่วมมือกันแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องไรหรือเกิดอะไรขึ้นเราก็จะร่วมมือกัน เอาล่ะ คุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
เหอซานไห่ส่ายหัว “ผมยังคิดไม่ตก แต่มีพี่น้องอีกหลายสิบคนที่ยังเต็มใจช่วยผมได้!”
เจียงหว่านยิ้ม “แล้วคุณรออะไรอยู่ล่ะ? ฉันจะช่วยคุณในฐานะที่ปรึกษา ในเมื่อคุณทำให้หลัวชิงซานขุ่นเคืองได้ งั้นก็แค่กดดันเขาอีก กดดันจนกว่าหมอนั่นจะไม่กล้าทำแบบนี้อีกต่อไป และทำให้มันโงหัวขึ้นมาไม่ได้อีก!”
เหอซานไห่หรี่ตาลง เขาจ้องมองไปที่เจียงหว่านอย่างจริงจัง
“จากนั้นกำจัดหลัวชิงซานซะ”
ขณะเดียวกัน ณ โรงแรมในเมือง
หลัวชิงซานพาหลัวนีน่ามาด้วย เขาเคาะประตูด้วยความวิตกกังวล
เมื่อประตูเปิด ไห่หนิงซวงเหลือบมองพวกเขา แล้วให้พวกเขาเข้ามา
วันนี้ไห่หนิงซวงอยู่ในชุดผ้าไหมเกรดสูงปกปิดร่างกายเกือบทั้งหมด มีเพียงปกเสื้อที่เปิดออกเล็กน้อย แสดงถึงความสูงส่งและสง่างาม
เธอปิดประตูแล้วนั่งอย่างเกียจคร้านบนโซฟา ก่อนจะโบกมือให้พวกเขานั่งลง
“คุณหนูไห่ เราพบคนที่คุณต้องการแล้ว นี่คือข้อมูลของเขาครับ”
หลัวชิงซานนำข้อมูลของเฉียวเหลียนเฉิงออกมา ส่งมอบให้เธอ
อันที่จริงเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเฉียวเหลียนเฉิงมากนัก รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชนะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของกองทัพ
และการสืบประวัติครั้งนี้ก็ทำให้ตกใจ
แค่พูดถึงเรื่องความสำเร็จของอีกฝ่าย เขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว
ไห่หนิงซวงหยิบเอกสารขึ้นมา และหยุดอยู่ที่หน้าข้อมูลทั่วไปของเฉียวเหลียนเฉิง
”อยู่ใต้บังคับบัญชาของลุงตงหัว หึ น่าสนใจนี่”
แม้ว่าเธอจะพูดว่า ‘น่าสนใจ’ แต่ดวงตากลับเย็นชาและว่างเปล่า
เธอหลับตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกข้อมูลในมือขึ้น แล้วพูดว่า “ขอบใจ”
หลัวชิงซานรีบถาม “คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรไหมครับ? เฉียวเหลียนเฉิงคนนี้มีทักษะดีมาก ถ้าเราลงมือ…”
ไห่หนิงซวงส่ายหัว “ไม่ พวกคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้!”
หลัวชิงซานพยักหน้า และโค้งคำนับแสดงออกว่าเห็นด้วย
เมื่อเห็นสีหน้าไม่แยแสของคุณหนูไห่ ทั้งสองคนก็รีบลุกขึ้น และจากไป
นอกประตู หลัวนีน่าถามพี่ชายของตนอย่างหดหู่ “แค่เธออยากหาข้อมูลของใครสักคน ทำไมถึงต้องให้เราหาล่ะ เธอหาข้อมูลของเฉียวเหลียนเฉิงเองไม่ได้เหรอ? แค่เข้าไปในสำนักงานทหารก็ได้ข้อมูลแล้วนี่!”
หลัวชิงซานจ้องมองน้องสาว “เธอรู้อะไรไหม การดำเนินการสอบสวนในเขตทหารนั้นลำบากมาก และยังดึงดูดความสนใจเกินไปอีก พวกเขาเป็นลูกหลานคนใหญ่คนโตก็ต้องระมัดระวังเวลาจะทำอะไรสิ!”
ดวงตาของหลัวนีน่าเป็นประกายเมื่อได้ยินอย่างนี้ “หล่อนจะจัดการผู้ชายคนนั้นเหรอ ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรให้คุณหนูไห่ขุ่นเคืองกันนะ!”
หลัวชิงซานเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร แต่ดวงตาก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทันทีที่ทั้งสองเดินออกจากโรงแรม ก็มีชายคนหนึ่งรีบวิ่งตรงเข้ามา
“หัวหน้า เราได้รับข่าวว่าพวกกลุ่มเหอเอาเสบียงอีกชุดไปจากหมู่บ้านหั่วจวี้แล้วครับ”
ดวงตาของหลัวชิงซานเป็นประกายขึ้นทันใด
“เอาล่ะ พวกนี้ดูท่าทางจะพูดด้วยยากนะ”
“พาลูกน้องไป! พรุ่งนี้เช้าเราจะไปจัดการมัน!”
“ไอ้พวกเหอกล้ามาปล้นธุรกิจเฉิงเฉิงของเรา ฉันจะจัดการมัน จนมันไม่กล้าเอาอะไรไปได้แม้แต่ขนนกเส้นเดียว!”
”ครับ!”
ลูกน้องคนนั้นเห็นด้วยอย่างยิ่ง และรีบวิ่งออกไป
เช้าวันรุ่งขึ้น หลัวชิงซานพาลูกน้องไปหมู่บ้านหั่วจวี้ และทันทีที่เขาลงจากรถ ลูกน้องก็เข้ามารายงาน
“หัวหน้า คนของเราติดต่อหัวหน้าหมู่บ้านไปแล้ว แม้จะให้ราคาสามเท่า แต่พวกเขาก็ไม่ยอมขายครับ”
“ทำไม?” หลัวชิงซานถามอย่างสงสัย
“เขาบอกว่าเขาและคนกลุ่มเหอเป็นเพื่อนกันมานาน ไม่สามารถกลับคำพูดได้!”
หลัวชิงซานตะคอกอย่างเย็นชา “วุ่นวายอะไรกันนักกันหนาวะ!”
“ไป! ฉันจะไปคุยกับเขาเอง!”
เหลือเวลาไม่มาก หลัวชิงซานจึงนำลูกน้องเข้าไปในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านโดยตรง
“คุณไม่เต็มใจจะขายในราคาสามเท่าเหรอ?”
หัวหน้าหมู่บ้านเป็นชายชราวัยห้าสิบ เขาเหลือบมองหลัวชิงซาน และตอบอย่างหนักแน่น
“ไม่ เราร่วมมือกับกลุ่มเหอมานานแล้ว ทำไมเราต้องทรยศมิตรของเราด้วยล่ะ?”
หลัวชิงซานจ้องมอง พลางครุ่นคิด… อืม มันก็สมเหตุสมผล
จากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น สี่เท่า!”
หัวหน้าหมู่บ้านตกตะลึง ดวงตาสว่างวาบขึ้นทนัที “สี่เท่ารึ?”
หลัวชิงซานพยักหน้า “ใช่ จะขายหรือยัง?”
หัวหน้าหมู่บ้านยังคงลังเล และไม่ได้ตอบออกไป
ขณะเดียวกันนี้เอง ประตูก็เปิดออก และเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น
“แค่สี่เท่า ฉันก็จ่ายได้เหมือนกัน”
สิ้นเสียง เหอซานไห่ก็เดินเข้ามา
ครั้งนี้เขาพาลูกน้องหลายสิบคนมาด้วย ทั้งหมดดูแข็งแรงกำยำ และดูเหมือนว่าจะจัดการไม่ได้ง่าย ๆ
เมื่อเห็นอย่างนั้น หลัวชิงซานก็แค่นหัวเราะ “หึ ๆ แม่ทัพที่พ่ายแพ้ไปแล้ว กล้าดียังไงตะโกนออกมาแบบนี้!”
“คุณเหอ เมียคุณหนีไปกับใครแล้วไม่รู้ ทำไมถึงยังกระโดดมาหาผมอยู่อีก!”
หัวใจของเหอซานไห่เจ็บปวดราวกับถูกบีบอย่างแรง
เมียฉันหนีไปกับใคร?
เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน แม้แต่ลูกน้องก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เหอซานไห่หรี่ตา ระงับความไม่สบายใจและความสงสัยไว้ พลางพูดอย่างเย็นชา
“เถ้าแก่หลัว คุณเริ่มสนใจปัญหาของคู่รักตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“นี่คุณคอยเงี่ยหูฟังกับกำแพงเป็นงานอดิเรกรึไง?”
หลัวชิงซานเม้มริมฝีปาก ไม่โต้เถียงกับอีกฝ่ายอีก แต่หันไปมองหัวหน้าหมู่บ้านแทน
”ห้าเท่า!”
“ถ้าตกลงเราจะจ่ายทันที ถ้ายังปฏิเสธก็ขายให้พวกเหอไปเถอะ!”
”แต่ว่า! จากนี้ไปเราจะไม่รับสินค้าจากหมู่บ้านหั่วจวี้อีก!”
เหอซานไห่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความโกรธ “ให้ตายเถอะ หลัวชิงซาน คุณกำลังรนหาที่ตายอยู่รึไง?”