เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 89 คุณต้องสนับสนุนฉัน
บทที่ 89 คุณต้องสนับสนุนฉัน
พอฉินเสวี่ยเหมยจากไป สวี่ชิงก็พุ่งตรงไปร้านค้าสหกรณ์อย่างตื่นเต้น และซื้อแว่นขยายกลับมา
หลังจากกลับบ้านก็ไม่มีเวลาพูดกับโจวจินหนาน หยิบรูปภาพของเย่หนานออกมาจากในตู้มาพลิก ๆ ดู วางไว้บนเตียงแล้วใช้แว่นขยายตรวจสอบดูอย่างละเอียด
ทันใดนั้นรูปภาพก็ดูชัดเจนขึ้นมา แม้แต่องค์ประกอบทั้งห้าของใบหน้าเย่หนานก็เปลี่ยนไปทำให้มองชัดมากยิ่งขึ้น
สวี่ชิงมององค์ประกอบทั้งห้าบนใบหน้าแม่แท้ ๆ รอบหนึ่ง คิ้วโก่งนุ่มนวลราวภาพวาด ที่แท้เธอก็ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากเย่หนานนี่เอง เพียงแต่โครงหน้าของเธอไม่ได้อ่อนช้อยราวรูปสลักอย่างเย่หนาน
โครงหน้าของเย่หนานยังให้ความรู้สึกเหมือนสายฝนพร่ำกลางแม่น้ำแยงซีเจียงเดือนมีนาคม ทั้งอ่อนโยนและสงบสวยงาม
สวี่ชิงถอนหายใจแล้วหยิบแว่นขยายมองอย่างละเอียดอีกครั้ง
โจวจินหนานที่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยก็ได้ยินเสียงสวี่ชิงถอนหายใจพักหนึ่ง อีกพักหนึ่งก็ถอนหายใจอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าเธอกำลังทำอะไร “คุณเป็นอะไรครับ”
สวี่ชิงนั่งยืดตัวขึ้นดี ๆ หยิบรูปภาพขึ้นมาดู “ฉันกำลังดูรูปแม่แท้ ๆ ของฉันอยู่ค่ะ คิดไม่ถึงว่าว่าตอนที่แม่ยังสาวจะเป็นคนสวยมาก ๆ คนหนึ่ง”
พูดอยู่ก็ยิ้มขณะมองโจวจินหนาน “ที่จริงฉันเองก็สวยมากเหมือนกันนะคะ”
โจวจินหนานได้ยินสวี่ชิงพูดอย่างซุกซน ก็อดยิ้มไม่ได้ เขาเคยเห็นสวี่ชิง และรู้ว่าเธอหน้าตาเป็นอย่างไร
สวี่ชิงพูดชมตัวเองก็ยิ้มขำอย่างรู้สึกเชินนิด ๆไม่ได้ ถึงค่อยเริ่มพูดธุระที่แท้จริงกับโจวจินหนาน “เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่บ้านคุณย่า อารองของฉันบอกว่าแม่ได้ทิ้งของล้ำค่าไว้ให้ฉันไม่น้อย ฉันสงสัยว่าสิ่งของเหล่านี้จะถูกฟางหลานซินเอาไปซ่อนเอาไว้”
โจวจินหนานเองก็ได้ยินไม่ต่างกัน เพียงแต่ในตอนนี้ยากที่จะจัดการ “คุณอยากเอากลับมาหรือ”
สวี่ชิงพยักหน้า “ใช่น่ะสิคะ นั่นเป็นของที่แม่ของฉันทิ้งเอาไว้ ฉันก็ต้องอยากได้อยู่แล้ว”
โจวจินหนานมุ่นคิ้ว “แต่คุณไม่รู้ว่ามีอะไรเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงอยากได้ล่ะ ถ้าหล่อนปิดปากเงียบไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมพูด หรือถ้าให้คุณแค่หนึ่งหรือสองอย่าง บอกว่ามีแค่นั้นแล้วคุณจะทำยังไง”
สวี่ชิงเดินเข้าไปกอดโจวจินหนาน “ดังนั้นฉันถึงต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันจะไปยั่วยุฟางหลานซินก่อน ทำให้หล่อนเกิดความระแวง หวาดกลัว แล้วหล่อนจะต้องรีบเปลี่ยนสถานที่ซ่อนเหล่านั้นอย่างแน่นอน หรือไม่ก็คงเอาของส่วนหนึ่งมาให้ฉัน เพื่อให้รอดจากน้ำมือของฉัน! ตอนนี้ฉันจึงอยากให้คุณช่วยหาคนจับตามองฟางหลานซินให้ฉันหน่อย”
โจวจินหนานรู้สึกว่าวิธีนี้ยังมีช่องโหว่อยู่มาก “ถ้าเกิดของนั่นถูกบ้านตระกูลสวี่ซ่อนเอาไว้จริง คุณจะทำอย่างไร”
สวี่ชิงคลี่ยิ้ม “งั้นก็ยิ่งดีสิคะ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็เป็นโจรคนหนึ่ง ทำอะไรไม่ต้องทำตามกฎอยู่แล้ว!”
พูดจบก็เขย่งจูบแก้มโจวจินหนานเสียงดัง “คุณต้องไปกับฉัน สนับสนุนฉัน อย่าให้พวกเขาลงมือตีฉันได้ ดังนั้นคุณต้องช่วยฉัน”
โจวจินหนานยิ้มลูบหลังศีรษะเธอไปมา น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่ง “ได้ มีผมอยู่รับรองว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณได้แม้แต่ปลายเล็บ”
สวี่ชิงพาโจวจินหนานไปโทรศัพท์หาเกาจ้านด้วยกัน หาคนที่มีไหวพริบหน่อยมาคอบจับตามองฟางหลานซิน
และพรุ่งนี้เช้าพวกเขาจะทำให้ฟางหลานซินไม่ทันได้ตั้งตัวได้เชียวล่ะ!
ฟางหลานซินวางแผนว่าวันหรือสองวันนี้จะไปขุดของล้ำค่ากลับมาจากที่บ้านเก่า เลือกสองชิ้นออกมาประดับชุดแต่งงานให้กับสวี่หรูเยว่ ที่เหลือก็เอาไปขายทอดเป็นเงินในตลาดมืด
ขอเพียงมีเงิน หล่อนจะไปกลัวว่าสวี่จื้อกั๋วจะไม่ไว้หน้าหล่อนอีกทำไม!
อีกอย่างไม่รู้ว่าสองวันที่ผ่านมาเหตุใดสวี่จื้อกั๋วถึงไม่กลับบ้านเลยในตอนเย็น กลับมาก็ทำหน้าตาบูดบึ้ง หน้าดำทะมึนราวกับว่าใครติดหนี้เขาอย่างไรอย่างนั้น
ฟางหลานซินอดทนมาพอแล้วกับชีวิตแบบนี้ รอให้สวี่หรูเยว่แต่งงานไปแล้ว หล่อนก็จะหย่ากับสวี่จื้อกั๋วไอ้คนเฮงซวยนี้!
ตอนกินข้าวเช้าอยู่นั้น ฟางหลานซินกลัวว่าสวี่หรูเยว่อยู่บ้านแล้วจะทำให้ธุระของหล่อนล่าช้า จึงให้สวี่หรูเยว่ตุ๋นไข่ไก่ “มีเวลาอีกสองวันก็แต่งงานแล้ว ลูกกินข้าวเสร็จแล้วก็รีบไปดูว่ายังมีอะไรยังไม่ซื้ออีกบ้าง ไม่ต้องรอให้ถึงวันแล้วยังขาดโน่นขาดนี้”
สวี่หรูเยว่ไม่มีอารมณ์ “อะไรควรซื้อก็ซื้อหมดแล้ว อย่างอื่นทางบ้านหลี่เขาก็ซื้อหมดแล้ว แม่ เครื่องประดับชุดแต่งงานที่จะให้ฉันล่ะ เมื่อไรจะให้ฉันสักที”
ฟางหลานซินจ้องตาหล่อน “แม่ต้องให้แกอยู่แล้ว จะรีบร้อนให้มันได้อะไร เรื่องนี้อย่าเพิ่งไปพูดให้ใครฟัง ไว้ถึงวันแต่งงานแกค่อยใส่ นั่นถึงจะเรียกว่ามีหน้ามีตา”
สวี่หรูเยว่วางใจลง “แม่อย่าลืมนะคะ ถึงตอนนั้นต้องให้ฉันสองอย่าง”
ฟางหลานซินมองหล่อนอย่างรำคาญ “ได้ ๆ รู้แล้วก็รีบกินข้าวซะ”
ตอนที่สองแม่ลูกกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูมาจากหน้าบ้าน
ฟางหลานซินใจเต้นตึกตัก เช้าขนาดนี้ใครจะมาหาได้ หรือว่าจะเป็นหม่าเสวี่ยหลานขี้นินทาของชั้นมาหาเรื่องสนุกฟัง
หล่อนดึงประตูเปิดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นสวี่ชิงกับโจวจินหนาน
พอเห็นสวี่ชิง ในใจของฟางหลานซินก็รู้ถึงคำพูดของอีกฝ่ายหมดทุกอย่าง และแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่คำพูดที่ดีอะไรนัก “แกมาทำอะไร ไม่ใช่ว่าตัดความสัมพันธ์กันไปแล้วหรือ?”
สวี่ชิงยิ้มเย็น “ฉันไม่ได้มาหาพวกคุณ แต่มีธุระนิดหน่อยจะมาพูดกับคุณและก็พ่อของฉัน ถ้าคุณอยากพูดที่ประตูก็ได้! งั้นฉันจะพูดแล้วนะ”
เธอรู้ว่าฟางหลานซินรักหน้าตาตัวเองแค่ไหน หล่อนจะต้องไม่ยอมให้เธอยืนพูดหน้าประตูบ้านเป็นแน่
พอฟางหลานซินเห็นท่าทางของสวี่ชิงก็รู้ได้ว่าธุระที่ว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ช่วงนี้หล่อนขายหน้าคนในเขตโรงงานนี้มากเกินพอแล้ว ไม่ควรเพิ่มอีกเรื่องหนึ่งอีก
หล่อนจ้องสวี่ชิง “เข้ามา”
ตอนนี้สวี่หรูเยว่ไม่ต้องแต่งเข้าบ้านสกุลโจวแล้ว ฟางหลานซินก็ไม่คิดจะไว้หน้าโจวจินหนานให้ได้อะไร มองสองคนนั่งลงบนโซฟาตรงหน้า ขี้เกลียดกระทั่งรินน้ำให้พวกเขาจิบสักคำ หล่อนจ้องทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้า “พูดเถอะ มีธุระอะไรว่ามา”
สวี่ชิงเงยหน้ามองรอบ ๆ ก็เห็นสวี่หรูเยว่ชัดสีหน้ากินข้าวอยู่บนโต๊ะกินข้าว แต่กลับไม่เห็นเงาของสวี่จื้อกั๋วจึงถามขึ้นมา “พ่อของฉันล่ะ”
ฟางหลานซินแค่นหัวเราะหึเสียงเย็น “ไม่อยู่ แกยังรู้อยู่เหรอว่าเขาเป็นพ่อแก ฉันนึกว่าแกลืมไปแล้วซะอีก”
สวี่ชิงไม่สนใจคำพูดเหน็บแนมของฟางหลานซิน “เขาไม่อยู่ งั้นฉันก็จะพูดกับคุณแล้วกัน ที่ฉันมาก็เพราะกลับมาเอาของที่แม่ฉันทิ้งไว้ เป็นกระเป๋าหนังสีดำใบหนึ่ง สิ่งของงข้างในนั้นทั้งหมดก็คือของของฉัน!”
ฟางหลานซินหัวชาวาบ พูดเสียงสูงโดยไม่รู้ตัว “กระเป๋าหนังสีดำอะไร ของอะไรไม่ทราบ!”
สวี่ชิงหัวเราะเหอะ “คุณคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ ถึงได้คิดจะอมของเหล่านั้นมาเป็นของตัวเองทั้งหมด คุณนี้โลภไม่เบาเลยนะ ตอนนี้รีบเอาของมาให้ฉันซะ ไม่งั้นฉันเองก็มีวิธีของฉันที่จะเอาของกลับมา”
ฟางหลานซินสงบใจลง ยิ้มเย็นชา “แกนี้ช่างน่าขันจริง ๆ แกบอกว่ามีแล้วมันต้องมีอย่างั้นเหรอ? ถ้าแกบอกว่าแม่แท้ ๆ ของแกทิ้งทองกล่องหนึ่งไว้ให้ แล้วฉันต้องไปฉวยออกมาจากธนาคารเอากล่องทองคำมาให้แกอย่างนั้นหรือไง”
สวี่ชิงจู่ ๆ ก็หัวเราะออกมา รอยยิ้มเย็มนั่นทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย “คุณไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไร แต่สิ่งที่คุณกับติงชางเหวินพูดที่สวนสาธรณะ ฉันไม่ทันระวังเกิดอัดเสียงเอาไว้ซะด้วยสิ แล้วยังเป็นความลับที่น่าสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเสียด้วย!”
พูดอยู่ก็ถอนหายใจเฮ้อ “ไม่รู้ว่าถ้าเกิดเอาไปให้คลื่นวิทยุของเขตโรงงานแล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรเลยเนอะ”
ฟางหลานซินใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวขึ้นมา “สวี่ชิง! แกกล้าเหรอ!!”
สวี่ชิงหัวเราะ “ถ้าคุณไม่ให้ของฉัน ฉันก็กล้าทำจริง ไม่ใช่ว่าคุณถามฉันหรือคะว่ามีอะไรบ้าง สร้อยคอเครื่องประดับของเหล่านี้…คงไม่ต้องให้ฉันพูดทีละอย่างให้คุณฟังหรอกนะคะ”
พูดจบก็หยิบรูปภาพจากในกระเป๋าและแว่นขยายออกมา ทั้งยังมีจดหมายฉบับหนึ่ง “ก่อนอื่น สร้อยคอกับกำไลที่อยู่บนร่างของแม่ฉันคุณต้องเอามาให้ฉัน มาสิ คุณมาดูรูปทรงของมันหน่อยสิ อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก!”
สวี่ชิงเหมือนกับคนหาเรื่องเอาแว่นขยายมาส่องที่รูปภาพ ส่งไปให้ฟางหลานซินดู!
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มาค่ะ เอาคืนมาให้หมด อย่ากล้าเก็บไว้เชียว
ไหหม่า(海馬)