เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 603 คุณลุงกำลังทำอะไรครับ
บทที่ 603 คุณลุงกำลังทำอะไรครับ
อวี๋เซี่ยงตงไม่พูด เขารู้ดีแก่ใจวว่าการกระทำของตัวเองนั้นมันต่ำช้า แต่เขากลับทำใจปล่อยมือไม่ลง เขาคิดว่าหากเปลี่ยนเป็นโจวจินหนานหรือเหยียนจี้ชวนที่เจอเรื่องแบบนี้ จะต้องบอกเลิกฝ่ายหญิงอย่างแน่นอน
ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด จะเกลียด
แต่เขาไม่เหมือนกัน เขามิได้มีคุณธรรมสูงส่งแบบนั้น หัวใจก็ไม่ได้กว้างขวางขนาดนั้นด้วย อีกทั้งก็ไม่แน่ว่าเขาจะตาย ถ้ามีชีวิตรอดกลับมา แล้วเห็นซูซ่านต้องแต่งงานกับคนอื่น แล้วเขาจะทำอย่างไร?
เขาไม่อาจทำได้ลงกับการมองหล่อนมีชีวิตที่มีความสุข โดยที่เขาได้แต่ปกป้องหล่อนอยู่ห่าง ๆ แต่เขามันเป็นไอ้บ้าคนหนึ่ง ที่ทนมองคนรักอยู่เคียงข้างคนอื่นไม่ได้
พูดอีกอย่างคือถ้าเขาตาย ก็ยังมีคนคอยทำพิธีศพให้ตัวเองอยู่
โจวจินหนานไม่เข้าใจความคิดในสมองของอวี๋เซี่ยงตง เพราะคนคนนี้ตั้งแต่ไหนมาก็ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปอยู่แล้ว ปัญหาคือความถูกต้องและความไม่ถูกต้อง แต่ไรมาเขาก็คลุมเครือแยกไม่เป็น เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เขาจึงไปหยิบเหล้ามาหนึ่งขวด กับแก้วชาสองใบมา แก้วกระทบกันเสียงดังกริ้ง ๆ ขณะรินให้คนละทีจนเต็มแก้ว “งั้นก็มาดื่มเหล้าอำลากันก่อนเถอะ”
เมื่อสวี่ชิงผัดเนื้อย่างสมุนไพรและผัดเห็ดหูหนูและยกมากับซูซ่าน โจวจินหนานกับอวี๋เซี่ยงตงก็ดื่มเหล้าครึ่งขวดลงท้องไปแล้ว
ยิ่งดื่มก็ยิ่งพูดมาก อวี๋เซี่ยงตงวิเคราะห์สถานการณ์แนวหน้าให้โจวจินหนาน เมื่อพูดถึงช่วงตื่นเต้นเร้าใจ ก็หยิบตะเกียบกับแก้วเหล้าและเมล็ดถั่วลิสงบนโต๊ะมาจัดรูปกระบวนทัพ โดยมีทหารของศัตรูกระจัดกระจายกันอยู่
ต้าเป่านั่งกินซาลาเปาอย่างสงบเสงี่ยมอยู่ด้านข้าง ขณะเสี่ยวเป่าขยับยุกยิกอยู่ตลอด บัดนี้ขึ้นมานั่งตักผู้เป็นพ่อ จ้องรูปกระบวนทัพบนโต๊ะที่อวี๋เซี่ยงตงเอามาวางด้วยดวงตาเป็นประกายวับแวบบาง ประหนึ่งว่าฟังอย่างออกรสออกชาติยิ่ง
อวี๋เซี่ยงตงเห็นซูซ่านเข้ามาก็พลันกลืนคำพูดลงไป รู้สึกสร่างเมาไปไม่น้อย ยกยิ้มส่งไปให้ “พวกเธอรีบมานั่งกินข้าวเร็ว ได้ยินว่าคืนนี้มีงานเทศกาลดอกไม้ไฟด้วย พวกเราไปดูด้วยกันสิ”
สวี่ชิงเดิมทีว่าจะพาโจวจินหนานกับเด็ก ๆ ไปดูงานเทศกาลดอกไม้ไปอยู่แล้ว งานเทศกาลในตอนนี้ครึกครื้นกว่าในยุคต่อมามาก ยังมีคณะโรงละครสัตว์กับคณะกายกรรมมาทำการแสดงด้วย
หันไปมองซูซ่าน “ไปด้วยกันไหมจ๊ะ?”
เธอคิดว่าตอนที่ซูซ่านมาดูเสียใจขนาดนั้นน่าจะยังโกรธที่อวี๋เซี่ยงตงปกปิดหล่อน เมื่อเห็นว่าอวี๋เซี่ยงตงต้องจากไปแล้ว จากนิสัยของซูซ่านจึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะเลิกกับเขา ดังนั้นไม่สู้ถนอมช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันสักหน่อยไม่ดีกว่าหรือ
ซูซ่านยิ้มตาหยีโค้งพยักหน้า “ได้สิจ๊ะ”
จากนั้นก็เดินไปนั่งข้างอวี๋เซี่ยงตงราวกับไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อน ขมวดคิ้วมองแก้วเหล้าในมือเขาแล้วบ่นเสียงเบา “คุณดื่มให้มันน้อย ๆ หน่อย”
อวี๋เซี่ยงตงพลันว่าง่ายขึ้นไม่น้อย รีบพยักหน้า “แก้วสุดท้ายแล้ว ๆ กินเสร็จแล้วพวกเราก็ไปดูดอกไม้ไฟกันนะ”
เสี่ยวเป่าที่กำลังฟังอย่างสนุกอยู่ จู่ ๆ ก็ได้ยินคุณลุงเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน เขาก็ร้อนรนดึงแขนโจวจินหนาน “เสี่ยวเป่าจะฟัง ๆ ”
โจวจินหนานประหลาดใจมาก “เสี่ยวเป่าฟังรู้เรื่องหรอกลูก?”
เสี่ยวเป่าคิดว่าตัวเองฟังรู้เรื่อง พยักหน้าน้อย ๆ โดยแรง
อวี๋เซี่ยงตงเองก็มองตามเช่นกัน เห็นท่าทางร้อนรนของเสี่ยวเป่าก็ยกยิ้ม “ดี พวกเรามาพูดกันต่อ” เพราะว่ารอบนี้อารมณ์ดีขึ้นมาก ทำให้พูดรู้เรื่องกว่าเดิมมาก และเพื่อเห็นแก่เสี่ยวเป่า เขาจึงพูดให้ฟังเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
“ดู ปิดล้อมเส้นทางนี้จะดีว่าเส้นทางแรกมาก ในนี้สามารถสร้างช่องทางเพื่อบุกทะลวงได้…”
เสี่ยวเป่าเบิกตากลมโตจ้องตะเกียบที่ชี้ลงอย่างกระตือรือร้น ที่จริงเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ฟังเข้าใจเพียงคำว่า สู้รบ ปืน ระเบิด สิ่งของง่าย ๆ พวกนั้น แต่เท่านี้เขาก็รู้สึกว่าน่าสนใจแล้ว
ซูช่านนั่งฟังอยู่ข้าง ๆ คอยสลับเปลี่ยนแก้วในมืออวี๋เซี่ยงตงเป็นชาเย็น ๆ ให้
ตลอดจนท้องฟ้ามืดแล้ว ต้าเป่าตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปตื่นหนึ่ง มื้ออาหารถึงค่อยสิ้นสุดลง
สวี่ชิงกับโจวจินหนานสวมเสื้อนวมบุด้วยฝ้ายให้เด็กทั้งสอง แล้วพันผ้าพันคอ เมื่อห่อเด็กสองคนอย่างแน่นหนาแล้วถึงค่อยพาไปดูดอกไม้ไฟ
เทศกาลย่อมมีคนเยอะมาก กลัวว่าไป๋หลางจะทำให้นักท่องเที่ยวกลัว จึงสั่งให้มันกับเจ้าแมวดำรออยู่ที่บ้าน
และซซูซ่านกับอวี๋เซี่ยงตงก็ออกเดินทางไปก่อนก้าวหนึ่ง ไม่รู้ว่าดื่มเหล้าเข้าไปเยอะ หรือว่าเพราะความเห็นแก่ตัวเล็กน้อยยในใจตรงนั้นของเขา เมื่อออกจากบริเวณหมู่บ้าน อวี๋เซี่ยงตงก็ยื่นมือไปกุมมือซูซ่านแนบแน่น
แม้ว่าปลายนิ้วเย็น แต่อุณหภูมิที่หัวใจกลับร้อนแทบแผดเผา
ซูซ่านขัดขืน ไม่ใช่ว่าไม่ยินดีที่ถูกอวี๋เซี่ยงตงจับมือ แต่กลัวว่าจะเจออาจารย์หรือเพื่อนในคณะเข้าแล้วจะกระอักกระอวน
อวี๋เซี่ยงตงกลับจับมือหล่อนแน่นไม่ยอมปล่อย “ผมขอโทษนะ…..”
ราวกับว่านอกจากขอโทษ เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดคำว่าอะไรแล้ว
ซูซ่านนิ่งงันพักหนึ่ง ไม่ได้พยายามปล่อย “คุณทำเรื่องอะไรให้ต้องขอโทษฉันเหรอ? หรือว่าไปทำเรื่องอะไรที่ไม่อาจให้อภัยกับฉันกันคะ?”
อวี๋เซี่ยงตงรู้สึกสมองมึนงงเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งพลันไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไร
ซูซ่านถอนหายใจแผ่วเบา “ฉันก็แค่โกรธที่คุณไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ ถ้าคุณบอกฉัน ยังไงฉันก็ไม่ขัดขวางที่คุณจะไปอยู่แล้ว มันเป็นเหตุสุดวิสัยฉันก็พอจะรู้ อีกทั้งถ้าคุณหาเรื่องโกหกมาบอกเลิกฉันเพราะเรื่องนี้ ช้าหรือเร็วฉันก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี รอจนฉันรู้ความจริงเข้าสักวัน ถึงอย่างนั้นฉันก็จะยังรอคุณกลับมา”
“ดังนั้น ที่จริงฉันดีใจมากนะที่คุณไม่ได้ทิ้งฉันไป และฉันจะรอคุณกลับมาที่เมืองตลอดไป ถ้าฉันเรียนจบแล้ว คุณยังไม่กลับมา ฉันก็จะไปหาคุณเอง”
“ถ้าคุณบอกเลิกฉันจริง ๆ ฉันกลับจะรู้สึกประหลาดใจด้วยซ้ำ”
อวี๋เซี่ยงตงหยุดเดินกะทันหัน หมุนตัวมองหน้าหญิงสาวตรงหน้า
แสงอาทิตย์ยามเย็นมืดมาก ไฟข้างทางใกล้ ๆ เองก็ไม่มี องคาพยพทั้งห้าของเธอดูราวกับซ่อนอยู่ในความมืดใต้แสงสลัว ดวงตาคู่นั้นกลับแวววาวเป็นพิเศษ ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
อวี๋เซี่ยงตงรู้สึกหายใจติดขัด ยื่นมือไปกุมใบหน้าของซูช่าน เอ่ยปากขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ช่านช่าน ผมมันเห็นแก่ตัวจริงๆ”
เพราะว่าชอบ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง ก็ยังชอบเขามากอยู่ดี
อวี๋เซี่ยงตงรู้สึกสมองอื้ออึง ตอนนี้ไม่รู้กระทั่งว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว ราวกับแรงดึงดูด เขาก็ก้มหน้าลงจูบบนริมฝีปากของซูซ่านโดยไม่รู้ตัว
“คุณลุงกำลังจุ๊บๆอยู่แหละ”
สวี่ชิงกับโจวจินหนานพาลูกของตนมาพอดี เสี่ยวเป่าอยู่ในอ้อมแขนของโจวจินหนาน จ้องอวี๋เซี่ยงตงกับซูซ่านที่อยู่ไม่ไกล พูดด้วยน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจอย่างยิ่ง
โจวจินหนานรีบปิดตาของเสี่ยวเป่า
ซูซ่านได้สติคืนมาทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนของเสี่ยวเป่า ผลักอวี๋เซี่ยงตงออกด้วยหน้าแดงก่ำ ผลลัพธ์กลับยิ่งถูกอวี๋เซี่ยงตงโอบไหล่ หมุนตัวมองครอบครัวสี่คนของโวจินหนานด้วยสายตาไม่พอใจ “พวกนายเดินให้สุ้มให้เสียงหน่อยไม่เป็นรึไง?”
สวี่ชิง “??”
หรือว่าต้องตีฆ้องร้องป่าวเดินมากัน?
ใบหน้าของซูซ่านไม่ได้หนาขนาดนั้น ถูกครอบครัวของสวี่ชิงเห็นเข้า ไม่อาจทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วไปดูดอกไม้ไฟกับพวกเขาได้ ใบหน้าแดงก่ำแสดงทีท่าว่าตนอยากกลับหอพักแล้ว
อวี๋เซี่ยงตงคิด ๆ แล้วก็เอ่ยว่า “งั้นก็ได้ พวกนายไปกันเถอะ ฉันก็ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่เหมือนกัน”
สวี่ชิงมองอวี๋เซี่ยงตงเดินไปทางหอพักของซูซ่าน หนังตากระตุกหยิก ๆ หันไปมองโจวจินหนาน “ทำไมฉันรู้สึกลางไม่ค่อยดีคะ? คงไม่ได้จะมีเรื่องอะไรหรอกนะ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พอบอกรักกันก็หวานไม่แพ้คู่อื่นเลยนะคู่เซี่ยงตงเนี่ย
มีลางสังหรณ์อะไรอีกเหรอ?
ไหหม่า(海馬)