เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 296 จะเอาอะไรไปชอบคนรักของฉันอีก
บทที่ 296 จะเอาอะไรไปชอบคนรักของฉันอีก
เมื่อสวี่ชิงเห็นว่าผู้เฒ่าหลูกับหลูเว่ยตงเดินผ่านหัวมุมถนนไปแล้วและไม่ได้หันกลับมามองอีก เธอจึงหันไปถามเหยียนป๋อชวนที่อยู่ด้านข้างด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่อคะ กลับไปปักกิ่งมาแล้วใช่ไหมคะ?”
เหยียนป๋อชวนพยักหน้า “อืม”
สวี่ชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อ พ่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหรือยังคะ?”
เหยียนป๋อชวนส่ายหน้า “ยังหรอก แต่พ่อหาเจียงเสวี่ยอิงมาที่นี่ด้วย แม่จะได้จัดการหล่อนตามใจชอบ”
สวี่ชิงนึกอยากถามคุณย่าว่าคิดเห็นอย่างไร?
แต่เมื่อคิดดูแล้ว พวกเขาเป็นพ่อแม่เธอ เธอจะทำอย่างไรได้?
เหยียนป๋อชวนจ้องมองสวี่ชิง “ลูกเข้าไปถามแม่ที พ่ออยากเจอแม่ พ่อเข้าไปได้ไหม?”
น้ำเสียงฟังดูถ่อมตนและระมัดระวัง นี่คือสาเหตุที่เขาไม่เคยเข้าบ้านคนอื่นก่อนจะได้รับอนุญาต
เย่หนานที่อยู่ในห้องคงจะรู้ว่าเขากำลังเข้ามา ถึงกระนั้นเขาก็ยังเคารพการตัดสินใจของหล่อน
สวี่ชิงพยักหน้า “ค่ะ ฉันจะไปถามให้”
เธอเข้ามาในห้องและยังไม่ทันได้พูดอะไร เย่หนานก็โพล่งขึ้นก่อน “บอกให้เหยียนป๋อชวนกลับไป! แม่อยากเห็นเจียงเสวี่ยอิง ถ้าอยากแก้แค้น แม่จะไปแก้แค้นด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้เขาพามาที่นี่”
สวี่ชิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “พ่ออุตส่าห์มาทั้งที ทำไมแม่ไม่ไปเจอหน่อยล่ะคะ?”
เย่หนานส่งเสียงไม่พอใจ “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? อยากเจอก็จะเจอให้ได้? กลับกันถ้าตอนนั้นเขาอยากจะตามหาแม่เขาก็ตามหาได้ กลายเป็นแม่ที่หน้าด้านตามตื้อเขา ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าการตามตื้อมันทำให้คนอื่นสะอิดสะเอียนมากแค่ไหน เพราะงั้นให้เขารีบออกไปซะ”
เหยียนป๋อชวนที่ยืนอยู่นอกบ้าน พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “อาหนาน ผมไม่เคยรังเกียจที่คุณตามตื้อเลย ทุกครั้งที่คุณมาหา ผมมีความสุขมาก พอเห็นว่าคุณชอบเพลงพื้นบ้าน ผมก็หัดเป่าขลุ่ยให้ฟัง แต่ก่อนผมไม่เคยเล่นเป็นเลย แต่หลังจากได้เจอคุณ ผมก็แอบไปฝึกซ้อมเงียบ ๆ”
เย่หนานไม่ได้พูดอะไร ทว่าท่าทางกลับดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
เหยียนป๋อชวนยังคงพูดต่อ “อาหนาน ทุกครั้งที่คุณมาหาผม ผมดีใจมาก ผมจงใจสอนให้คุณทำหน้านิ่ง ๆ เพราะกลัวว่าคุณจะทำแบบเดียวกันกับผู้ชายอื่น คุณชอบบอกว่าคุณชอบหนุ่มหล่อหน้าตาดี ผมเลยกลัวว่าวันหนึ่งคุณจะเจอคนที่ดูดีกว่าผมและปฏิเสธผม”
“ทุกครั้งคุณมักจะรีบจากไปราวสายลม ผมไม่รู้ว่าจะไปตามหาคุณได้ที่ไหน รู้สึกเหมือนจะรั้งก็รั้งคุณไว้ไม่ได้ และทุกครั้งที่เราไปเดินตลาดกัน สายตาของคนพวกนั้นที่จ้องมองมาที่คุณทำให้ผมอยากจะเอาคุณไปซ่อนไว้ให้รู้แล้วรู้รอด”
“แต่ในตอนนั้น ผมก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะถูกย้ายไปผลัดเปลี่ยนการป้องกันที่ไหน ไม่รู้ว่าคุณจะทนไปลำบากกับผมได้หรือเปล่า”
“ผมรู้สึกสับสนมาตลอด และบังเอิญพลัดพรากกับคุณ อาหนาน คุณไม่จำเป็นต้องให้อภัยผมก็ได้ ขอแค่ให้ผมได้เฝ้ามองคุณไปทุกวันก็พอ”
ดวงตาของสวี่ชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะหันไปมองเย่หนาน
เย่หนานยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า ราวกับเป็นคนใจแข็งมากจริง ๆ
รอจนกระทั่งเหยียนป๋อชวนพูดจบ หล่อนก็กำมือแน่นและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เหยียนป๋อชวน เอาใบหน้าอันสะอิดสะเอียนของคุณออกไปให้พ้น และออกไปได้แล้ว!”
สวี่ชิงที่กอดเย่หนานอยู่รีบเดินออกไปดึงแขนเสื้อของเหยียนป๋อชวน “พ่อคะ ทำไมพ่อไม่กลับไปพักผ่อนก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาหาแม่ใหม่ดีไหมคะ?”
ในปากของเหยียนป๋อชวนพลันขมปร่า ก่อนจะเอื้อมมือออกไปลูบศีรษะสวี่ชิง “ดูแลแม่ด้วยนะลูก พรุ่งนี้พ่อจะมาแต่เช้า”
เขาหันกลับไปและเดินโซซัดโซเซ ทำให้ภาพแผ่นหลังของเขาดูมีอายุเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สวี่ชิงมักจะคิดมาเสมอว่าในความสัมพันธ์ ผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายติดกับดักและรู้สึกสิ้นหวังมากกว่าผู้ชาย
อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจของพวกผู้ชายเยือกเย็นและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ชนิดไหน พวกเขาก็สามารถทำงานและเข้าสังคมได้เป็นปกติ โดยไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพปัจจุบันของเหยียนป๋อชวนแล้ว ผู้ชายก็คงมีความรู้สึกลึกซึ้งและสับสนเช่นกันสินะ
ทันทีที่สวี่ชิงออกจากห้องไป ดวงตาของเย่หนานก็กลายเป็นสีแดงก่ำ หล่อนจะจำไม่ได้ได้อย่างไร?
หล่อนจะหลงลืมผู้ชายที่เธอเคยรักมาตลอดชีวิตได้อย่างไร
ทว่าตอนนี้หล่อนจะเอาอะไรไปชอบอีก? การอยู่กับเหยียนป๋อชวนก็มีแต่จะไปเพิ่มภาระให้เขาเปล่า ๆ
นอกจากนี้ความอวดดีของหล่อนยังเป็นตัวขัดขวางไม่ให้หล่อนทำเช่นนั้น
หล่อนก้มหน้าลงและกัดมันเทศเผาที่เย็นชืด น้ำตาหยดลงบนมันเทศโดยไม่รู้ตัว กล้ำกลืนมันเทศเผาทั้งน้ำตา
เฟิงซูฮวาที่มองดูอยู่ถึงกับถอนหายใจ “ถ้ามันยากเกินไป ก็ปล่อยวางซะบ้าง”
เย่หนานส่ายหน้า “น้าจิ่น พอฉันทำเรื่องนี้เสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะกลับไปเยี่ยมอามาที่เตียนหนาน และทำหลุมศพให้ท่าน”
และที่นั่นจะเป็นปลายทางสุดท้ายของหล่อน
เฟิงซูฮวาไม่พูดอะไร รู้ดีว่าเย่หนานกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเอื้อมมือออกไปลูบเรือนผมขาว “เจ้าเด็กน้อยน่าสงสาร จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน รอก่อนเถอะนะ”
สวี่ชิงสงบสติอารมณ์อยู่ด้านนอกประตูและเดินเข้ามา ขณะที่เย่หนานกับเฟิงซูฮวากำลังก้มศีรษะชนกัน ออกแบบลวดลายอยู่บนโต๊ะขนาดเล็ก
เย่หนานยิ้มและโบกมือทันทีที่เห็นสวี่ชิง “รีบมานี่สิ แม่กับคุณย่ากำลังวาดแบบรองเท้าเด็กให้ลูกอยู่ แล้วเดี๋ยวเราจะทำเสื้อผ้าให้หลานด้วย”
ทันใดนั้น สวี่ชิงก็นึกขึ้นมาได้ว่าช่วงนี้เธอยุ่งมากจนลืมเตรียมเสื้อผ้าเด็ก ผ้านวมและรองเท้าให้กับลูกในท้อง
และแล้วทั้งสามคนก็รวมหัวกันออกแบบลวดลายอย่างมีความสุข
……
เหยียนป๋อชวนเดินกลับไปด้วยใบหน้าเศร้าหมอง วิ่งฝ่าไฟแดงด้วยความมึนงงอยู่หลายครั้ง
ก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าลานบ้านที่ดูทรุดโทรม ผนังด้านนอกมีรอยด่างและมีคำขวัญเก่า ๆ ติดอยู่บนผนังทั้งสี่ทิศ ตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้นขนาดเล็ก
ผนังภายนอกตัวบ้านถูกปกคลุมด้วยไม้เลื้อย ทำให้ตัวบ้านขนาดเล็กทั้งหลังดูมืดมนและน่ากลัว
นี่คือบ้านผีสิงที่มีตำนานเล่าขานว่าเคยมีผู้หญิงชุดแดงแขวนคอตายในบ้าน และคนที่ผ่านไปมากลางดึกก็จะได้ยินเสียงร้องไห้อยู่เสมอ
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นค่อย ๆ พากันย้ายออก ส่งผลให้บ้านดูทรุดโทรมมากขึ้น
เหยียนป๋อชวนพาคนที่เกี่ยวข้องเข้ามา ไขแม่กุญแจและค่อย ๆ เดินเข้าไปข้างใน
ในตัวบ้านมีฝุ่นหนาทึบ หน้าต่างถูกปิดตายไว้ตลอดทั้งปี ภายในตัวบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นอับ
เหยียนป๋อชวนจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา หยิบหน้ากากที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาใส่ จากนั้นจึงหยิบถุงมือออกมาสวมใส่ขณะเดินขึ้นไปข้างบน
พื้นไม้ค่อนข้างเก่ามาก ยามรองเท้าบูทหนังสามข้อกระทบพื้น ก็จะมีเสียงเอียดอาดดังขึ้นทุกครั้ง
ราวกับเหยียบย่ำบนหัวใจของใครบางคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวบ้านหลังเล็กที่มืดมนแห่งนี้ ทำให้บรรยากาศยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น
เหยียนป๋อชวนยืนอยู่หน้าประตูห้อง หยุดลงชั่วขณะและค่อย ๆ เปิดประตู
ภายในห้อง เจียงเสวี่ยอิงถูกผ้าปิดปากและมัดตัวติดกับเก้าอี้ จ้องมองเหยียนป๋อชวนด้วยความสยดสยอง
เหยียนป๋อชวนรู้ถึงวิธีการทำลายล้างจิตวิญญาณของผู้คนเป็นอย่างดี และยังรู้ถึงวิธีการในการทำให้ผู้คนแตกสลายลงภายในไม่กี่วินาที
เขายืนอยู่ที่ประตู จ้องมองเจียงเสวี่ยอิงด้วยดวงตาหนักอึ้ง และไม่มีทีท่าว่าจะเปิดปากหล่อน
เจียงเสวี่ยอิงถูกเหยียนป๋อชวนพามาที่เมืองเอกมณฑล ภายในใจคิดตลอดทางว่าตนนั้นโชคดี เขาคงไม่ฆ่าหล่อนอย่างแน่นอน เพราะนั่นขัดต่อหลักกฎหมาย!
เหยียนป๋อชวนที่รู้กฎหมายไม่มีทางฝ่าฝืนกฎหมาย!
แต่ตอนนี้หล่อนรู้แล้วว่าตัวเองคิดผิด หล่อนประเมินเหยียนป๋อชวนต่ำเกินไป!
เขาไม่ได้จะฆ่าหล่อน แต่จะทำให้ชีวิตของหล่อนย่ำแย่กว่าความตาย!
เพื่อให้ทุกอย่างสมเหตุสมผลและถูกต้องตามหลักกฎหมาย เหยียนป๋อชวนถึงตราหน้าว่าหล่อนเป็นสายลับ
ผู้ชายที่สุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตนราวกับหยก ตอนนี้ได้กลายเป็นปีศาจตนหนึ่ง!
เหยียนป๋อชวนค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน ปิดประตูจนเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ภายในห้องมีหลอดไฟแสงสลัวเพียงหลอดเดียว แสงไฟสลัวที่ตกกระทบบนใบหน้าเหยียนป๋อชวนทำให้เขาดูคล้ายกับครึ่งเทพครึ่งปีศาจ
เขาเดินตรงไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยฝุ่น เปิดลิ้นชักและหยิบกล่องเข็มฉีดยาขึ้นมา…
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอาใจช่วยให้พ่อกับแม่ได้มาปรับความเข้าใจกันก่อนที่เวลาชีวิตของแม่จะหมดลงนะคะ
คุณพ่อตอนนี้ดูเหมือนฆาตกรต่อเนื่องมากเลย คนดีๆ ถ้ามันเจ็บปวดอย่างถึงที่สุดแล้วมันก็โหดอย่างคาดไม่ถึงได้นะ
ไหหม่า(海馬)