เกิดใหม่เป็นภรรยาสุดโหดยุค 80 - บทที่ 10 ปฏิบัติต่อเธออย่างดีตลอดชีวิต
บทที่ 10 ปฏิบัติต่อเธออย่างดีตลอดชีวิต
โจวจินหนานพยักหน้าแม้จะมองไม่เห็น
เกาจ้านมองไปที่สวี่ชิงด้วยความปรารถนาดีและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ ผมขอรบกวนช่วยดูแลเขาในอนาคตด้วยนะครับ”
สวี่ชิงไม่ได้ยินสิ่งที่เกาจ้านพูดกับโจวจินหนาน และเดาว่าเขาอาจจะถามเธอด้วยความอยากรู้? เธอจึงยิ้มอย่างเป็นกันเองให้เกาจ้าน “เรากำลังจะกินเกี๊ยวกัน คุณมากินด้วยกันกับเราไหมคะ?”
หลังจากพูดแล้วเธอก็ดูเคอะเขินเล็กน้อย ร้านเกี๊ยวเหลือโต๊ะเพียงสามหรือสี่โต๊ะเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กัน มีสามโต๊ะถูกพลิกคว่ำและหนึ่งในนั้นถูกทุบจนแหลก
ในตอนนี้เถ้าแก่และภรรยาของเขากำลังทำความสะอาดร้านด้วยใบหน้ามืดมน พวกเขาจะยังมีกะจิตกะใจทำเกี๊ยวให้คนพวกนี้ได้อย่างไร
เกาจ้านยังมองเห็นเลือดบนพื้นและม้านั่งด้านหลังสวี่ชิงที่ยังไม่ได้ยกขึ้น แววตาของเขาจึงเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ โจวจินหนานไม่เคยเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้มาก่อน
สุดท้ายทั้งสามก็ไม่ได้กินเกี๊ยว และสวี่ชิงต้องการส่งโจวจินหนานกลับบ้าน
แต่ถึงอย่างนั้น เกาจ้านยังกล่าวว่ามีธุระจะคุยกับโจวจินหนาน จึงขออาสาไปส่งโจวจินหนานเอง
สวี่ชิงดูเสียใจเมื่อมองเกาจ้านเดินตามโจวจินหนานไป เธอยังมีคำพูดบางอย่างที่อยากจะพูดกับชายหนุ่ม ดังนั้นจึงทำได้แค่รอในครั้งต่อไปเท่านั้น
เกาจ้านเดินตามโจวจินหนานไปอีกสองถึงสามร้อยเมตร เมื่อมองย้อนกลับไป เขาก็เห็นสวี่ชิงยืนอยู่ที่ทางเข้าตลาด จากนั้นหันกลับมาถามโจวจินหนาน “นายคิดเรื่องนี้ดีแล้วใช่ไหม?”
โจวจินหนานเงียบไปพักหนึ่ง “เป็นการขอโทษจากฉันต่อหล่อน”
เกาจ้านรู้บุคลิกของเพื่อนดี เขาพูดว่า “แต่งงานก็ดี ฉันเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว หล่อนดูดีเลย แววตาใสสะอาดแต่ก็ดื้อรั้น ซึ่งเหมาะมากสำหรับนาย แต่นายต้องจำไว้ว่าอย่าพูดอะไรเกี่ยวกับคืนนั้น”
โจวจินหนานนิ่งเงียบ หากเขาไม่พูดออกไป เขาก็รู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ในใจจนทำให้หายใจไม่ออก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาก็ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้ว
เขารู้ว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย และถูกเยาะเย้ยถากถางบ่อยครั้งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
เมื่อเห็นว่าโจวจินหนานเงียบ เกาจ้านก็รู้ว่าเขาไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคในใจได้ “นายต้องจำไว้ว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายคนเดียว ในภายภาคหน้าแค่ทำดีกับเธอให้มาก ๆ นะ”
หัวใจของโจวจินหนานยังคงบีบคั้น เขาจะชดเชยเรื่องนี้เพียงแค่ทำดีกับเธอได้อย่างไร?!
…
สวี่ชิงมองดูเกาจ้านกับโจวจินหนานค่อย ๆ หายตัวไปจากฝูงชน จากนั้นจึงเดินกลับบ้านพร้อมก้อนไหมพรม
ในขณะที่เดินขึ้นบันได เธอเห็นอิฐที่เด็ก ๆ เล่นวางอยู่ที่ประตูบ้านพวกเขา เธอหยิบขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วยัดใส่ลงในกระเป๋า จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบนโดยไม่ได้คิดอะไร
ทางเดินที่คับแคบนั้นเต็มไปด้วยสิ่งของ และแม้แต่ขวดของดองยังถูกวางบนขั้นบันได
ต้องหันข้างถึงจะผ่านไปได้
เมื่อสวี่ชิงกำลังขึ้นไปชั้นบน เธอบังเอิญได้พบกับฟางหลานซินกำลังเดินส่งฟางคุนลงไปที่ชั้นล่าง
เมื่อเห็นสวี่ชิง ใบหน้าที่ตึงเครียดของฟางหลานซินก็มืดมนยิ่งขึ้น ความเกลียดชังในแววตาของเธอไม่ได้ลดลงเลย
ฟางคุนมาหาฟางหลานซิน ผู้เป็นน้องสาวเพื่อขอเงิน เขาได้ยินมาว่าสวี่ชิงสร้างปัญหามากมายในช่วงสองวันที่ผ่านมา และบังคับให้ฟางหลานซินออกไปขอยืมเงินค่าสินเดิมมาให้เธอ
เมื่อเห็นสวี่ชิงในตอนนี้ สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก เขามองสวี่ชิงราวกับว่าเห็นสิ่งสกปรก “เหอะ หน้าด้าน!”
ในชีวิตที่แล้วเธอไม่ค่อยได้เจอฟางคุนและไม่คุ้นเคยกับเขานัก แต่ตอนนี้สวี่ชิงได้ยินคำด่านั่นชัดเจน เธอจึงเยาะเย้ยกลับไปว่า “หน้าด้านจริง ๆ นั่นแหละ คนวัยสี่สิบกว่าที่มือเท้ายังดีอยู่ แต่ก็ยังมาแบมือขอเงิน”
ฟางคุนจ้องเขม็ง “แก!”
พวกเขายืนห่างกันเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น และฟางคุนก็ทำท่าจะเอื้อมมือไปตบเธอ
แต่เขาถูกฟางหลานซินคว้าตัวเอาไว้ “อย่าสร้างปัญหานะ รีบกลับบ้านไปซะ”
หล่อนไม่ได้มองสวี่ชิงเลย ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวในโรงงาน เพื่อประเมินบุคคลขั้นสูง หากสวี่จื้อกั๋วสามารถทำคะแนนได้ เขาจะได้เงินเพิ่มเดือนละห้าหยวน
และภาพลักษณ์ที่ดีที่หล่อนสร้างขึ้นในโรงงานมาหลายปีก็ไม่อาจถูกทำลายได้
ฟางหลานซินผลักฟางคุนให้เดินลงไป
สวี่ชิงขี้เกียจเกินกว่าจะเข้าไปพัวพันกับทั้งสองคน แต่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อกุมก้อนอิฐไว้ ถ้าฟางคุนพุ่งเข้าหาหรือกล้าที่จะเอื้อมมือมาทำร้ายเธอ เธอเองก็กล้าฟาดหัวของเขาเช่นกัน
เนื่องจากฟางหลานซินเฝ้าดูจากด้านหลัง ฟางคุนจึงจ้องเขม็งไปที่สวี่ชิงขณะเดินลงไป และถ่มน้ำลายอย่างหนักเมื่อถึงชั้นล่าง
สวี่ชิงไม่ได้ใส่ใจและขึ้นไปชั้นบนเพื่อกลับบ้าน
โดยไม่คาดคิด สวี่หรูเยว่ที่ควรจะอยู่ในชั้นเรียน เวลานี้กลับอยู่ที่บ้าน หล่อนนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมมองกระดาษแผ่นหนึ่งในมือ เมื่อได้ยินสวี่ชิงเปิดประตูเข้ามา หล่อนก็รีบซ่อนกระดาษไว้ด้านหลัง และจ้องมองที่สวี่ชิงด้วยดวงตาเดือดเป็นไฟ
สวี่ชิงไม่สนใจและเปลี่ยนรองเท้าแตะเพื่อไปที่ห้องนอน
ใบหน้าของสวี่หรูเยว่ยังคงเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ซึ่งทำให้หล่อนไม่สามารถไปเรียนได้ เมื่อเห็นสวี่ชิงทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ผุดลุกยืนและปรี่ไปขวางหน้าสวี่ชิง “ตอนนี้สาแก่ใจเธอแล้วสินะ!”
สวี่ชิงมองกลับอย่างเฉยเมย “ไม่”
สวี่หรูเยว่หยุดนิ่งครู่หนึ่ง และเสียงของหล่อนก็ดังขึ้น “สวี่ชิง! เธอต้องการอะไรกันแน่! ที่เป็นอยู่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ? ทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันกับแม่ใช่ไหม? เราเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ แม่ก็กลัวว่าเธอจะคิดสั้น คอยนอนเฝ้าเธอที่พื้นข้าง ๆ ไม่ห่าง ถ้ายังมีจิตสำนึกอยู่ เธอจะไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อนแบบนี้”
สวี่ชิงอยากจะหัวเราะ หัวเราะให้กับความโง่เขลาของเธอเอง
ถ้าเป็นชาติก่อนเธอคงจะหวั่นไหวไปแล้ว! และแทบรอไม่ไหวที่จะรับใช้ฟางหลานซินเป็นเหมือนวัวและม้า!
สวี่ชิงมองสวี่หรูเยว่ด้วยแววตาเย็นชาและเฉียบคม “คนที่ทำร้ายฉันและคนของฉัน มันจะต้องเจ็บปวดกลับไปพันเท่า!”
หลังจากพูดจบ เธอก็เดินผ่านสวี่หรูเยว่และกลับไปที่ห้อง!
เธอแค่ต้องการทำให้สวี่หรูเยว่หงุดหงิด และทำให้หล่อนรู้สึกว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง
รอให้สวี่หรูเยว่ตื่นตระหนกและไปหาหลี่ต้าหย่ง ด้วยวิธีนี้แล้ว เธอก็จะจับทั้งสองได้คาหนังคาเขาและจัดการให้สิ้นซาก
สวี่หรูเยว่ตื่นตระหนกจริง ๆ เมื่อเห็นแววตาเย็นชาของสวี่ชิงกับปฏิกิริยาของเธอในช่วงสองวันที่ผ่านมา หล่อนก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายต้องรู้อะไรบางอย่างแน่!
เป็นไปได้ไหมที่นักเลงสองคนที่หลี่ต้าหย่งหามา กลับเที่ยวไปพูดคุยเรื่องไร้สาระกันข้างนอก?
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นตระหนก ถ้าโจวจินเซวี่ยนรู้เรื่องนี้… เขาจะคิดอย่างไรกับหล่อน?
สวี่หรูเยว่ไม่อาจนั่งติดที่ได้แล้ว หล่อนไม่อาจมองดูสวี่ชิงแต่งงานกับโจวจินหนานอย่างภาคภูมิได้ แม้ว่าเขาจะตาบอดก็ตาม
คนอย่างสวี่ชิงควรแต่งงานกับพ่อม่ายฟันเหลืองที่ปากซอยสิ
ใบหน้าของสวี่หรูเยว่ดูน่ากลัว และหล่อนกำลังจะออกไปหาหลี่ต้าหย่ง!
หากหล่อนสามารถทำลายสวี่ชิงได้แล้วครั้งหนึ่ง หล่อนก็สามารถทำลายสวี่ชิงได้อีกครั้งเช่นกัน!
มาดูกันว่าเธอยังจะได้แต่งงานเข้าตระกูลโจวอยู่ไหม
สวี่ชิงเอนพิงประตูฟังสวี่หรูเยว่ที่เดินไปมาอย่างหงุดหงิดในห้องนั่งเล่น และยังฟังการเคลื่อนไหวของหล่อนที่ออกไปและปิดประตู
สวี่ชิงแบกกระเป๋าที่มีอิฐอยู่บนหลัง และค่อย ๆ เดินตามหล่อนไป
เธอไม่ได้เจอกับฟางหลานซินเมื่อออกไปข้างนอก เดาว่าถึงเวลาไปซื้อของชำแล้วสินะ
เธอตามสวี่หรูเยว่ออกจากบ้านอยู่ไกล ๆ และมุ่งหน้าไปยังบังกะโลด้านหลัง
สวี่ชิงจำได้ว่าบริเวณนั้นเป็นของโรงงานสหพันธ์เนื้อสัตว์
ครอบครัวของหลี่ต้าหย่งอาศัยอยู่ที่บ้านหลังแรกในซอยหลี่โค่ว โคลงกลอนบนประตูที่มีรอยด่างขาวสะท้อนกระทบแสงแดด
สวี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูและมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะเคาะประตูเบา ๆ
สวี่ชิงซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งแถวบ้านและแอบฟัง แต่เธอไม่รู้ว่าหลี่ต้าหย่งที่เพิ่งพ่ายแพ้ไปกลับมาแล้วหรือยัง
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ได้ยินเสียงประตูลานบ้านเปิดออก และสวี่หรูเยว่ก็เอ่ยกระซิบเสียงเบา “พี่ต้าหย่ง”
หลี่ต้าหย่งรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นสวี่หรูเยว่ แต่ก็ไม่พอใจเล็กน้อยด้วยเช่นกัน “เธอจะแต่งงานกับไอ้หน้าขาวนั่นไม่ใช่เหรอ? มาหาฉันทำไม!”
สวี่หรูเยว่กังวลเล็กน้อย “พี่ต้าหย่ง เรื่องนั่นพ่อแม่ของฉันจัดการเองทั้งนั้น ฉันไม่ได้ต้องการสักหน่อย! และตอนนี้สวี่ชิงกำลังจะแต่งงานกับโจวจินหนาน ตระกูลโจวเลยกำลังหาคนที่จะตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดกับน้องสาวของฉัน…”
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป็นความสัมพันธ์ที่… ขมมากค่ะ ขมแต่ไม่คายของแท้ จินหนานคือคนที่พรากครั้งแรกของชิงชิงไป เลยจะขอแต่งงานเพื่อชดเชยความรู้สึกผิด ถ้าชิงชิงรู้เมื่อไหร่ก็คือเจ็บอะ
ที่ว่าไม่ได้มีคนเกี่ยวข้องแค่คนเดียว แสดงว่านังแม่เลี้ยงกับนังพี่สาวนี่ก็เป็นคนวางแผนด้วยสินะ
ไหหม่า(海馬)