เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN) - ตอนที่ 96 ความกล้าหาญและการก้าวไปข้างหน้า
- Home
- เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรี่ส์รอมคอมทั้งที ก็ขอใช้ชีวิตวัยรุ่นกับนางเอกคนโปรดก็แล้วกัน (WN)
- ตอนที่ 96 ความกล้าหาญและการก้าวไปข้างหน้า
ตอนที่96 : ความกล้าหาญและการก้าวไปข้างหน้า
เรโอะที่อ่อนโยนและใจดี เขามักไม่แสดงความไม่พอใจ แต่ตอนนี้ เจ้าตัวกลับขมวดคิ้วอย่างเห็นได้ชัด ข้างๆเขา ฮิเมโนะก็ยืนเอามือเท้าเอวพร้อมแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจออกมา
การเข้ามาแทรกของทั้งสองทำให้เพื่อนร่วมชั้นที่รวมตัวกันอยู่ในห้องเรียนต่างก็ตกใจ
อาจเพราะพวกเขาแปลกใจที่เรโอะและฮิเมโนะ ที่ปกติจะสนิทสนมกับไรโตะ กลับมีท่าทีขัดแย้งกับสิ่งที่ทั้งสองคนพูด หรือไม่ก็เป็นเพราะความหนักแน่นในคำพูดของพวกเขาที่ทำให้ทุกคนในห้องเรียนเงียบลงทันที
“เรโอะ คาเร็น… ทำไมอยู่ๆพวกนายถึงพูดแบบนี้ขึ้นมาล่ะ?”
“เพราะพวกเรามีสิ่งที่ต้องพูดน่ะสิ แน่นอนว่าข้อเสนอของไรโตะกับคุณฮานาซากิน่าสนใจมากและมันคงทำให้เทศกาลโรงเรียนนี้ประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่หัวใจสำคัญของงานวัฒนธรรมไม่ใช่การสร้างมันขึ้นมาด้วยกันงั้นเหรอ?”
“นั่นน่ะสิ ไรโตะ ยูนะ พวกนายบอกว่า การที่คะแนนโหวตมันกระจายตัวกันแสดงถึงการที่คนทั้งห้องไม่สามารถสามัคคีกันได้สินะ แต่มันเกินไปหน่อยรึเปล่า ความจริงแล้วที่คะแนนโหวตมันหลากหลายเพราะตัวเลือกของชินโดน่าสนใจมากทุกอันต่างหาก นั่นน่ะไม่ใช่หลักฐานว่าชั้นเรียนไม่ลงรอยกันสักนิด”
ฮิเมโนะถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยหน่าย ส่วนเรโอะที่ยืนอยู่ข้างๆก็ส่ายหัวเบาๆ
พอเห็นท่าทีของทั้งสอง ฮานาซากิ ยูนะก็กัดริมฝีปากแน่น ขณะที่ฟุเสะคาวะ ไรโตะพยายามก้าวไปข้างหน้าเพื่อแย้งกลับ
“แต่ว่า ถ้าเป็นแบบนั้น ถึงจะพูดคุยกันมากแค่ไหนก็ตัดสินใจไม่ได้อยู่ดี! มันต้องมีใครสักคนต้องลุกขึ้นมานำทางให้ทุกคน เพื่อให้งานวัฒนธรรมสำเร็จ! นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด!”
“ใช่ค่ะ คิซากิคุง คาเร็นจัง! พวกเราคิดว่าถ้าตัดสินใจเลือกแผนที่ดีที่สุดแล้วอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ มันคงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด!”
“ไรโตะ ยูนะ พวกนายพูดผิดแล้ว”
ฮิเมโนะพูดตัดบทเสียงดัง ก่อนจะถอนหายใจยาวอีกครั้ง
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องพูดให้ชัดเจนสินะ ไรโตะ ยูนะ ‘ทุกคน’ ที่พวกนายพูดถึงมันไม่มีชินโดรวมอยู่ด้วยเลย คนที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้งานวัฒนธรรมประสบความสำเร็จ กลับถูกกีดกันออกไป แล้วแบบนี้จะเรียกว่า ‘แผนที่ดีที่สุด’ ได้งั้นหรอ?”
“แต่ว่าถ้ามีชินโดอยู่ มันอาจทำให้เรื่องยุ่งเหยิงกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ!”
“ใช่ค่ะ ถ้าเราต้องการรวมชั้นเรียนให้เป็นหนึ่งเดียว วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว!”
ฮิเมโนะถอนหายใจอีกครั้งหลังจากฟังคำพูดของทั้งสองคน
คราวนี้เรโอะเป็นคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง ราวกับกำลังอธิบายให้เด็กฟัง
“นั่นแหละที่พวกนายเข้าใจผิด ก็จริง ที่ในเทอมแรก ริวสุเกะเคยเป็นเด็กเกเร ไม่มีอะไรจะแก้ตัวหรอก เขาเองก็เคยสร้างปัญหาในชั้นเรียนเหมือนกัน ทั้งไม่มาโรงเรียน แถมยังดูเหมือนจะเข้ากับใครไม่ได้เลย”
“ใช่ไหมล่ะ! ถ้าอย่างงั้น—”
“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเอง สำนึกผิด และพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ เขายังพยายามอย่างหนักเพื่อได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมชั้นกลับมาอีกครั้ง แล้วทำไมพวกนายถึงไม่ยอมรับกันสักทีล่ะ? พวกนายจะปล่อยให้เขาถูกกีดกันต่อไปแบบนี้ถึงเมื่อไหร่?”
เรโอะพูดกับทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังขอร้องให้เข้าใจ
หลังจากใช้เวลาช่วงเทอมแรกและวันหยุดฤดูร้อนด้วยกัน ไม่มีใครในชั้นเรียนที่ใส่ใจและคอยดูแลผมมากเท่าเรโอะอีกแล้ว
คำพูดของเรโอะ คนที่เห็นผมต้องต่อสู้กับชะตากรรมของตัวร้ายในโลกใบนี้ใกล้ชิดที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
และในเทอมสอง ฮิเมโนะ ผู้ที่ให้โอกาสผมได้เป็นเพื่อนและช่วยกันพยายามเพื่องานวัฒนธรรมของโรงเรียน
ฮิเมโนะซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่คอยสนับสนุนพระเอก ตอนนี้กำลังพยายามโน้มน้าวทั้งสองคนอยู่เหมือนกับเรโอะ
ความรู้สึกแปลกแยกที่เธอเริ่มมีต่อฟุเสะคาวะ ไรโตะ เพื่อนสมัยเด็กของเธอ และทำให้เธอหันมาคุยกับผมมากขึ้นเพื่อค้นหาสาเหตุของความรู้สึกนั้น
ความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นจากความพยายามของผมที่อยากให้ฟุเสะคาวะ ไรโตะและฮิเมโนะกลับมาดีกัน
ฮิเมโนะซึ่งในต้นฉบับเป็นคนที่มีความยุติธรรมอย่างแรงกล้า ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆและยืนหยัดเพื่อความถูกต้องของเธอเสมอ
แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาจากคนรอบข้าง เธอก็ยังคงเดินไปข้างหน้าด้วยความเชื่อมั่นในแบบของตัวเอง
และตอนนี้ ความสัมพันธ์ครั้งใหม่นั้นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมจริงๆ
จากนั้นฮิเมโนะก็พูดต่อพลางพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเรโอะ
“และเหตุผลที่ฉันเรียกทุกคนมาวันนี้ ก็เพื่อชิมขนมที่ชินโดเตรียมไว้สำหรับชั้นเรียน เขาอุตส่าห์ตื่นเช้ามาเตรียมทุกอย่างเพื่อพวกเรา แล้วพวกนายจะตัดโอกาสนั้นทิ้งไปง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ? ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่พวกนายกำลังทำอยู่เลยจริงๆ”
“ไรโตะ คุณฮิเมโนะพูดถูกแล้ว นายคิดจะทำลายความพยายามและความตั้งใจของริวสุเกะเพื่อจะผลักดันความคิดของตัวเองจริงๆงั้นเหรอ? แบบนี้มันถูกต้องแล้วจริงเหรอ?”
“……”
คำพูดที่หนักแน่นของเรโอะทำให้ฟุเสะคาวะ ไรโตะและฮานาซากิ ยูนะเงียบไป
เพื่อนร่วมชั้นต่างก็กลั้นหายใจเมื่อได้ฟังคำพูดอันมุ่งมั่นของทั้งสองคน
และเมื่อได้ยินคำพูดของเรโอะและฮิเมโนะ มาชิโระก็มองผมด้วยดวงตาสีฟ้าสดใส พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“เรโอะคุงกับคุณคาเร็นอยู่ข้างริวสุเกะ ฉันเองก็เหมือนกัน… ฉันอยากให้ความพยายามของริวสุเกะได้รับการตอบแทน เพราะงั้น ไปกันเถอะ ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง จะคอยสนับสนุนนายต่อไปนะ”
“มาชิโระ… ขอบคุณมากนะ ใช่แล้ว ไปกันเถอะ เราจะทำให้ความตั้งใจของเราไปถึงทุกคนให้ได้”
ทั้งเรโอะและฮิเมโนะต่างยืนหยัดเพื่อผม
พวกเขาออกหน้าอย่างกล้าหาญ ด้วยความปรารถนาที่อยากให้ความพยายามของผมได้รับการยอมรับ
และมาชิโระก็คอยสนับสนุนผมอยู่เสมอ เธออยู่เคียงข้างและช่วยเติมเต็มความกล้าให้ผมก้าวไปข้างหน้า
เพราะงั้น ผมเลยอยากตอบแทนความรู้สึกของทุกคน อยากทำให้อนาคตที่มีความสุขร่วมกับมาชิโระเป็นจริงให้ได้
ด้วยความมุ่งมั่นและความหวังที่เต็มเปี่ยม ผมและมาชิโระก็ก้าวเข้าสู่ “เวที” ที่เรียกว่าห้องเรียนไปด้วยกัน
(TL : กลับมาแล้วครับ! เย้!)
(TL2 : ผมไม่ได้ว่างเหมือนก่อนช่วงปีใหม่แล้ว จากนี้เวลาแปลของผมน่าจะลดลงเยอะเลยล่ะครับ เพราะงั้นเลยว่าจะมาบอกว่าหลังจากนี้ผมคงลงให้ได้แค่วันละตอนแล้วล่่ะครับ ขอโทษจริงๆฮะ)
(TL3 : ไม่ได้หมายความว่าจะลงวันละตอนตลอดนะครับ ถ้าวันไหนว่างๆก็จะมีเพิ่มให้นะ)