เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! - ตอนที่ 311
< < 194 Sec2 > >
ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ผมสามารถออกมาเดินข้างนอกห้องขังในยามวิกาลได้ โดยที่มีคุณแจ็คสันเดินนำหน้า และไม่ใช่แค่ผม คุณอลิซาเบธเองก็ได้รับอนุญาติให้ออกมาเดินข้างนอกได้เหมือกัน
“ยินดีต้อนรับสู่แดนของนักโทษชั้นพิเศษครับ”
และขณะนี้ ผมก็อยู่ที่ห้องขนาดยักษ์ซึ่งเต็มไปด้วยนักโทษ และผู้คุมขัง ปะปนกันไปอย่างกับว่าสนิทกันดี บ้างก็นั่งเล่นไพ่ บ้างก็นั่งกระดกเหล้าเข้าปากด้วยกัน หลายคนทำกิจกรรมของตัวเองไม่ต่างกับคนหลายๆคนในอาณาจักร ให้กลิ่นอายคล้ายกับยามราตรีของย่านๆหนึ่งแถวสลัมที่ขึ้นชื่อ
ระหว่างที่เดินตามหลังแจ็คสันไป หลายๆคนก็จ้องเขม็งมาทางผมกับคุณอลิซาเบธ
“จำกฏที่ผมบอกให้ขึ้นใจไว้นะครับ ยูจิ”
แจ็คสันกล่าวเตือน ผมพยักหน้ารับ และนึกย้อนถึงกฏที่แจ็คสันแจ้งให้ทราบก่อนที่เขาจะพาพวกผมออกมาจากคุก
****
“ในยามค่ำคืนจะมีอิสระในการเดินเล่นได้เต็มที่ไม่พอ ยังได้รับการละเว้นการทำงานในบางวันอีก พวกเราให้นิยามสถานะอิสระยามค่ำคืนนี้ว่า ‘นักโทษชั้นพิเศษ’ ครับ”
คุณแจ็คสันเริ่มอธิบายหลายๆอย่างให้ผมที่นั่งอยู่อีกฝั่งในจุดที่เขายืนให้ฟัง
“นักโทษชั้นพิเศษคือนักโทษซึ่งเป็นที่ถูกใจของผู้คุมขังครับ โดยที่เกณฑ์การได้รับเลือกจะต่างกันไปแต่ละคน แต่ถ้าเป็นวิธีสามัญทั่วไปก็เป็นพวกที่มีความประพฤดี ทั้งว่านอนสอนง่าย ทั้งขยันทำงาน อย่างตัวผมที่อาศัยอยู่มาถึงสี่ปีเต็มๆครับ”
ดูเขาภูมิใจหน่อยๆตอนพูด
“ถ้าทำตัวดีๆสักสองปีก็น่าจะได้แล้วครับ”
“ผมไม่มีเวลาว่างพอจะทนรอแม้แต่อาทิตย์เดียวหรอกครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็มีตัวเลือกอื่นอีก ประการแรก ติดสินบน ครับ จำเป็นต้องเป็นคนที่รวย และมิอิทธิพลมากๆจากโลกภายนอก จึงจะทำได้”
“อันนั้นก็ไม่ไหวครับ”
ผมไม่ได้มีแบ็คอัคอัพ เพราะฉายเดี่ยวมาตลอด ถ้าหากไม่นับเทียนหลงที่โดนเทพดาบฟาดจนไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงแล้วละก็ ..
“ประการที่สอง เป็นที่ถูกใจของผู้คุมขัง”
“ให้เจาะจงคือ?”
“เป็นคนที่ผู้คุมขังรู้สึกถูกใจจนอยากชวนไปร่วมหลับนอนด้วยสักคืนน่ะครับ”
“ขอผ่านครับ”
“บอกดักไว้ก่อนว่ายูจิน่าจะไหวนะ เพราะยูจิเนี่ยให้พูดเป็นคนหน้าละอ่อนที่แอบน่ารักเหมือนกัน จับไปแต่งตัวดีๆหน่อยแล้วเสิร์ฟให้ผู้คุมขังที่มีรสนิยมทางนี้ก็พอไหวนะครับ คุณอลิซาเบธเองก็คิดว่าน่าจะผ่านได้สบายๆเลย”
“ขอผ่านเหมือนเดิมครับ”
“ไม่เอาเหมือนกันค่ะ”
คุณแจ็คสันได้ยินเสียงตอบรับอันตรงไปตรงมาก็หัวเราะออกมา
“ถ้านั้นก็ประการสุดท้าย ..พวกคุณคนใดคนหนึ่ง จะต้องขึ้นเป็น ‘ดาวดาราเด่น’ ครับ”
ดาวดาราเด่น??
“ไปดูเองก็จะรู้ครับ”
****
สิ้นสุดที่แจ็คสันบอก พวกเราก็ถูกพาตัวออกมา และเดินทางมาจนถึง ‘แดนของนักโทษชั้นพิเศษ’ ดังที่บอกไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากเรื่องกฏการเป็นนักโทษชั้นพิเศษแล้ว แจ็คสันยังบอกเรื่องกฏระเบียบการอาศัยอยู่ในแดนของนักโทษชั้นพิเศษอีกด้วย
1.ห้ามก่อเรื่องทะเลาะวิวาท
2.ห้ามให้นักโทษธรรมดามาที่แห่งนี้โดยไม่มีนักโทษระดับพิเศษเป็นคนนำทาง
3.ห้ามขัดคำสั่งผู้คุมขัง
4.ห้ามขัดคำสั่งดาวดาราเด่น
“เป็นกฏที่ตามใจตัวเองดีนะครับ”
“ใช่สิ ที่นี่คือคุกนรกนะ ไม่มีสิทธิ์ให้กับนักโทษอย่างพวกเรานักหรอก แต่สำคัญที่สุดเหนือกว่ากฏแบบเป็นทางการก็คือกฏที่มองไม่เห็นสำหรับนักโทษธรรมดาๆอย่างพวกเรานี่แหละครับ ข้อเดียวที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ–”
****
“อย่าเป็นที่หมายตาของดาวดาราเด่นเป็นอันขาด ..”
“ใช่ครับ ถ้าเกิดเขาสนใจอยากจะเอายูจิไปเป็นทาส ผู้คุมขังก็จะให้อภิสิทธิ์ดาวดาราเด่นเต็มที่เลยละครับ พวกเขาต่างกับผู้คุมขังที่ยังพอมีกฏของตัวเองอยู่บ้าง แต่ดาวดาราเด่นคือตัวตนที่เป็นอิสระของจริงในที่แห่งนี้ครับ ยูจิได้สังเกตุรึเปล่าครับว่าผู้หญิงในคุกแห่งนี้ทำไมถึงไม่ค่อยมีนัก หรือถ้ามีก็มักมีแต่คนติดยาที่หมดสภาพ”
“…”
“เพราะว่าผู้หญิงทุกคนโดนพวกดาวดาราเด่นเอาตัวไปเป็นนางบำเรอหมดครับ”
…เดรัจฉานจริงๆครับ
“อ๊ะ แต่ผู้ชายหน้าละอ่อนบางคนก็โดนเอาตัวไปรังรักเหมือนกันนะครับ ยูจิเองก็อย่าลำพองใจเพียง เพราะเกิดมาเป็นผู้ชายเชียวนะครับ ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนั้นครับ”
เคยมีข่าวลือปริศนาที่อาณาจักรฟัฟนิร์ว่าพวกหน้าละอ่อน มักจะโดนชายฉกรรจ์ที่เดียวดายในคุกจับมาทำเรื่องที่ยากจะอธิบาย เคยคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือแต่พอถูกคุณแจ็คสันพูดเข้าบ่อยๆ ผมเองก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาหน่อยๆแล้วสิครับ
“อีกอย่าง ทำไมคุณแจ็คสันถึงได้รู้ดีจังเลยละครับ”
“อ่า ผมเองก็เคยโดนเหมือนกันครับ ช่วงมาแรกๆผมถูกจำแนกให้เป็นพวกหน้าละอ่อนน่ะครับ”
…..
“เอ่อ”
“ไม่มีปัญหาครับ หลังจากเหตุการณ์นั้นผมก็ไม่ใช่พวกหน้าละอ่อนอีกต่อไปแล้ว ทำให้ไม่โดนเพ่งเล็ง นอกจากนั้นผมก็มีรสนิยมชายรักชายมาตั้งแต่แรกแล้วด้วยสิ แต่ให้พูด ยังไงๆธรรมเนียมที่หน้าละอ่อนจะโดนเล่นก็คือการขืนใจกลายๆนี่แหละครับ ซึ่งผมไม่ชอบเอาซะเลย”
ที่บอกว่าไม่มีปัญหานี่คงแค่ปลอบใจตัวเอง การโต้กลับของคุณแจ็คสันทำเอาผมไปไม่เป็นเลย
“..ขอโทษด้วยนะครับ”
“จะขอโทษอะไรละครับ ยูจิไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ฮ่าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะของคุณแจ็คสันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดในอดีต ผมจะจับไว้ให้ขึ้นใจ แม้ว่าเขาจะเป็นฆาตกรโฉดชั่วที่มีคดีสังหารผู้หญิงไปกว่าสี่สิบคน แต่เรื่องเจ็บปวดสำหรับคนๆหนึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องเจ็บปวด ผมไม่อยากจะซ้ำเติมเขาเท่าไหร่นักจึงเดินตามไปแบบเงียบๆ
“นอกจากอยากแหกคุก คุณยูจิที่หน้าละอ่อนก็ต้องรีบๆสร้างสถานะให้ตัวเองสูงพอจะไม่โดนเล่นสินะคะ”
“เรื่องนั้นคุณอลิซาเบธก็ไม่ต่างกันหรอกครับ”
คุณอลิซาเบธทำหน้าตกใจเหมือนพึ่งจะนึกได้ ทั้งๆที่คุณแจ็คสันก็พูดมาตลอด ..หืม?
ผมชนกับแผ่นหลังของคุณแจ็คสันซึ่งหยุดลงอย่างกระทันหัน เมื่อมองไปข้างหน้าก็พบกับคุณอัลกาดในชุดซึ่งต่างกับนักโทษคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเสื้อกั้กหนัง หรือกางเกงขายาว
“อ้าว อ้าว ก็ว่าใคร น้องยูจิกับยัยหมูตัวเมียไม่ใช่หรือนั่น”
หมูตัวเมีย?
“อลิซาเบธต่างหากค่ะ”
“นั้นหรอกเหรอเนี่ย ขอโทษที่เสียมารยาทเนอะ คนสวย”
คุณอัลกาดหัวเราะก่อนเดินผ่านพวกผมไปกัน
“…คุณแจ็คสัน ถึงผมจะตัดสินใจตามคุณมา แต่ไหนๆผมก็มาถึงที่หมายแล้ว ผมอยากจะรู้สักทีครับว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เป็น ‘ดาวดาราเด่น’ ..ผมคิดว่ามันแปลกตั้งแต่ที่คุณไม่ยอมบอกรายละเอียดทั้งหมดแล้วละครับ”
แน่นอนว่าคุณแจ็คสันเองก็หวังอะไรบางอย่างจากพวกผมอยู่ และคิดว่าไม่น่าใช่เรื่องที่ดีด้วย ถึงอย่างนั้นก็ยอมตามมา
“นั่นสินะครับ ขออธิบายคร่าวๆนะครับ” คุณแจ็คสันยิ้มอย่างมีเลศนัยที่มุมปาก “การจะขึ้นเป็น ‘ดาวดาราเด่น’ ได้นั้นจำเป็นต้องเข้าร่วมการต่อสู้ใน ‘กรงนก’ ให้ได้สิบอันดับแรกครับ”
อะไรกัน
“คุณคือนายหน้าสินะครับ”
“ก็ประมาณนั้นครับ ผมมีหน้าที่หาคนที่กำลังมีประเด็นเข้างานประลอง ถ้าทำอย่างนั้นจะได้รับความชอบจากดาวดาราเด่น และจะได้สิทธิ์พิเศษจากภายในคุก”
ไม่ใช่ประพฤดีมาตลอด แต่เพราะทำหน้าที่นี้คุณแจ็คสันเลยได้รับเลือกให้เป็น ‘นักโทษระดับพิเศษ’
“ถ้าไม่อยกาเสี่ยง จะกลับก็ได้นะครับ”
“กลับไม่ได้หรอกครับ วินาทีที่เดินแยกกับคุณแจ็คสัน ผมกับคุณอลิซาเบธจะถูกเล่นงานโดยผู้คุมขังทันที นี่คือกฏของที่นี่ไม่ใช่หรือครับ?”
กฏข้อที่สอง-ห้ามให้นักโทษธรรมดามาที่แห่งนี้โดยไม่มีนักโทษระดับพิเศษเป็นคนนำทาง
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ต่อให้ผมจะยอมกลับไป ผมก็คงโดนคุณแจ็คสันใช้ประโยชน์ หรือต่อให้เข้าร่วมงานประลองก็คงจะโดนหมายจะเล่นงาน
“ให้เดา คุณแจ็คสันคงร่วมมือกับคุณอัลกาด”
“ฉลาดเหมือนกันนะครับ ขอทราบได้รึเปล่าว่าทำไม?”
“ผู้อ่อนแอ(แจ็คสัน)มักจะมีหน้าที่ทำตามความพึงพอใจของผู้แข็งแกร่ง(อัลกาด) เพื่อจุดยืนของตัวเอง และผู้แข็งแกร่งคนเดียวในเขตุที่ผมอยู่ก็คือคุณอัลกาด”
“..ใช่แล้วละครับ จะโกรธกันก็ไม่ว่าหรอกนะครับ”
“หน้าที่ที่คุณแจ็คสันทำอยู่คือหน้าที่ที่มีไว้เพื่อปกป้องตัวเอง จากภัยอันตรายในคัลเซเรม”
พูดไปอย่างนั้นก็เป็นครั้งแรกที่คุณแจ็คไม่ได้ยิ้ม จู่ๆเขาก็หยุดปั้นหน้ายิ้มไปดื้อๆ
“ผมไม่โกรธผู้อ่อนแอหรอกครับ และไม่ถือโทษผู้แข็งแกร่งด้วย” ผมยิ้มตอบกลับ “เพราะผมคือตัวตนที่อยู่เหนือกว่าสองสิ่งที่ว่ามาครับ ไม่มีสิทธิ์ไปชิงชังใครหรอกครับ”
คุณแจ็คสันได้ยินการตอบกลับของผมเขาก็หลุดหัวเราะออกมา หวังว่านั่นจะไม่ใช่การหัวเราะเยาะเย้ยเรื่องที่ผมพล่ามออกมา
“คู่ต่อสู้ของผมคือ ‘อัลกาด’ ใช่รึเปล่าครับ เขาคือดาวดาราเด่นหรือครับ?”
“ไม่ใช่ครับ คุณอัลกาดอยู่ในฐานะผู้ท้าชิง แต่อีกไม่นานเขาก็จะได้ท้าสู้กับ ดาวดาราเด่นลำดับที่ 10 แล้วน่ะครับ คิดว่าอีกราวๆสองสามรอบ”
“ผมอยากจะได้ตำแหน่ง ดาวดาราเด่น วันนี้เลยครับ พอจะทำได้รึเปล่า?”
“ถึงผมจะแหย่ยูจิไปว่าอย่างนั้น แต่มันก็ค่อนข้างยากนะครับ …”
เป็นคนพูดเองแท้ๆว่าวันนี้ผมจะต้องได้ตำแหน่งดาวดาราเด่น ถึงจะอยู่รอดในที่แห่งนี้ได้ แต่เอาเข้าจริงๆได้ในวันเดียวมันก็ยากเกินไป ..ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยๆผมก็ต้องคว้าไว้ให้มากที่สุดในทีเดียว
“ไม่เป็นไรครับ คุณแจ็คสันมาส่งแค่นี้ก็พอ ที่เหลือปล่อยให้ผมจัดการเอง”
“…เข้าใจแล้วครับ ทางอลิซาเบธล่ะ?”
“ฉันคงจะตามคุณยูจิไปค่ะ”
คุณแจ็คสันโค้งศรีษะให้อย่างสุภาพ ก่อนที่เขาจะเดินไปทางขวาจากทางแยกที่ผมยืนอยู่
“สำหรับคนที่เข้าร่วมการประลองในกรงนก ..ทางซ้ายสินะครับ”
ไม่รีรอ ผมเดินตรงไปทางซ้าย ไร้ซึ่งความหวาดกลัว หรือลังเลใดๆทั้งสิ้น
****
‘กรงนก’ คือชื่อเรียกของการต่อสู้ในแดนนักโทษชั้นพิเศษ
“อัลกาด!!!!! รอชมอยู่นะเว้ย!!!!!”
“ในที่สุดอัลกาดก็คิดจะท้าชิงตำแหน่ง ดาวดาราเด่น แล้วในรอบสามปี!!!”
“ตื่นเต้นจริงๆโว้ย!!!!”
และเป็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในแดนนักโทษชั้นพิเศษ
ที่นั่งคนดูสามารถบรรจุคนได้กว่าพันคน ตรงกลางซึ่งเป็น ‘กรงนก’ เป็นพื้นที่ที่เป็นหลุมต่ำลงไปราวสามเมตรจากที่นั่งผู้ชม
กรงนกคือรั้วเหล็กสีดำที่ปกคลุมช่องว่างระหว่างผู้ชม และสนามประลองเอาไว้ ภายในกรงนกคือพื้นดินที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่าสนามฟุตบอลสำหรับการเล่นห้าต่อต่อ ขนาดอยู่ที่ราว 20×40 เมตร ด้วยสนามที่ใหญ่ทำให้การต่อสู้ดูให้อิสระแก่นักสู้เต็มที่
“รอดูโชว์ทรมานคนของแกอยู่นะ อัลกาด!!!”
แน่นอนว่ารวมถึงการทรมานคู่ต่อสู้ที่ทำได้อย่างอิสระขึ้นเนื่องจากขนาดเวทีที่ใหญ่ จะไล่ตี หรือจับคลานเป็นหมาก็ทำได้เต็มที่ …
‘แจ็คสัน’ อยู่ในที่นั่งผู้ชม เขาจ้องมองสนามแข่งขันด้วยสีหน้าที่ดูตึงเครียดต่างกับบุคลิกที่ใช้คุยกับคนอื่นๆ
“ขอโทษนะ ยูจิ อลิซาเบธ ..ผมเองก็เหมือนกับพวกเธอ ผมจะต้องออกจากที่แห่งนี้ให้ได้ เพื่อการนั้นผมจะต้อง–เอ๊ะ?”
แจ็คสันหยุดพูดลงกระทันหัน เขาสัมผัสได้ถึงมือของใครบางคนที่สัมผัสไหล่ของเขา เมื่อหันกลับไปมองก็พบกับคนๆหนึ่ฝ ร่างยักษ์ผิดมนุษย์ สูงเกือบสามเมตร ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และมีใบหน้าที่งดงามประหนึ่งผู้หญิง
วินาทีที่แจ็คสันได้สบตากับเขาคนนี้ ร่างของแจ็คสันก็สั่นด้วยความหวาดกลัว
“คะ ควีน!?”
“ไม่ได้เจอกันนานนะจ๊ะ แจ็คสัน ตั้งแต่ที่พวกเราต้องแยกจากกันเมื่อสามปีก่อน”
ผู้ที่ถูกเรียกขานว่า ‘ควีน’ ลงไปนั่งข้างๆแจ็คสัน จากนั้นก็นำมือขนาดยักษ์เคลื่อนมาสัมผัสที่ไหล่ของแจ็คสันอย่างอ่อนโยน
“ตอนนั้นฉันเป็นเพียง ดวงดาราลำดับที่ 10 เพียงเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้ขึ้นเป็น ดวงดาราลำดับที่ 7 แล้วนะจ๊ะ รู้รึเปล่า?”
“..พะ พอได้ยินข่าวลือมาอยู่บ้างครับ จะยังไงก็แล้วแต่ ยินดีกับความประสบความสำเร็จนะครับ ควีน”
“อืม ตอนนี้แจ็คสันเป็นเด็กของเจ้าอัลกาดอะไรนั่นสินะ เขาดูแลดีรึเปล่าจ๊ะ”
“..ดีสิครับ ดีมากๆเลย”
“ไม่ได้หมายถึงเรื่องทั่วๆไปหรอกนะจ๊ะ”
ควีนสัมผัสที่ขาของแจ็คสัน และเคลื่อนตัวไปกระซิบข้างๆหู
“ตอนอยู่กับเจ้าอัลกาด แจ็คสันคงไม่ได้รับการฝึกฝนอะไรเลยสินะจ๊ะ แต่ไม่เป็นไรนะ ..วันนี้ฉันจะเอาแจ็คสันกลับคืนมาเอง”
ได้ยินอย่างนั้นแจ็คสันก็หน้าซีด เขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้เลย นอกจากตามน้ำ
“ดะ ด้วยความยินดีครับ ควีน”
มือของควีนขยับขึ้นมาเรื่อยๆเรื่อยๆ แจ็คสันทำได้เพียงข่มตาหลับเพื่อหนีความจริง ทว่าจังหวะนั้นนักสู้ทั้งสองฝั่งก็เดินออกมาจากห้องเตรียมตัว ควีนจึงผละมือออก และจ้องไปที่เวทีเบื้องล่างแทน
“ไว้ค่อยลำลึกความหลังต่อจากนี้นะจ๊ะ แจ็คสัน”
“..ครับ”
เบื้องล่าง ณ ข้างในกรงนก
ยูจิได้เดินออกมา โดยที่อีกฝั่งก็คือ อัลกาด ตามที่แจ็คสันจัดการเอาไว้ …
“เด็กคนนั้นไม่เลวเลย”
คงจะหมายถึงหน้าตาของยูจิ ก็คงจะตรงสเป็คของควีนอยู่บ้างละนะ
ไม่ใช่แพ้แล้วจะจบไปง่ายๆ ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา ยูจิได้โดนอัลกาดใช้งานเยี่ยงทาส หรือถ้าชนะ ภายในพรุ่งนี้ก็ไม่พ้นโดนควีนโผล่มาชิงตัวไปอีก ตามกฏที่นักโทษธรรมดาไม่สามารถตอบโต้ดวงดาราเด่นได้
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าทางไหนก็สยองพอๆกัน ..ชีวิตของยูจิคงจะจบแค่นี้แหละ
“..ขอโทษนะ ยูจิ”
แจ็คสันแอบพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดจากใจจริง
****
ผมยืนอยู่บนเวทีซึ่งถูกเรียกว่า ‘กรงนก’ และตรงหน้าคือคู่ต่อสู้ของผม ‘อัลกาด’
ให้พูด อัลกาดเป็นคนที่มีประเด็นกับผมมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอาศัย อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นเด็กใหม่ และอัลกาดคือผู้แข็งแกร่งที่สุดประจำเขตุที่ผมอาศัยอยู่ ทำให้เป็นปกติที่เขาจะต้องเข้าหาผมในฐานะจ่าฝูงเพื่อข่มให้ผมอยู่ใต้อำนาจ
ผมไม่คิดถือโทษอะไรทั้งนั้น คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องทำอย่างนี้เพื่อสร้างจุดยืนให้ตัวเอง หากให้เทียบระหว่างสั่งสอนอัลกาดให้รู้ว่า ‘ใครสูงต่ำกว่ากัน’ กับ ‘ออมแรง’ ไว้ให้มากที่สุด ผมคงเลือกอย่างหลัง แต่ว่าถ้าเกิดว่าอัลกาดคือศัตรูที่ขวางทางผม ตัวเลือกอย่าง ‘ออมแรง’ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กับอัลกาดต่อไป
พูดให้ถูก ผมออมแรงไว้เพื่อจัดการกับพวกที่ขวางทางผมนั่นแหละ
“คุณอัลกาด ถึงเวลาสับเปลี่ยนที่นั่งบนบังลังค์แล้วครับ”
“หืม? เอาจริงดิ? คิดว่าจะชนะได้จริงๆดิ? คิดว่าฉันคนนี้หมูขนาดนั้นเลยหรือไง!? ฮ่าๆๆๆๆ เอาเข้าไปๆ!!”
อัลกาดดึงดาบออกมาจากฝักดาบ ไม่ใช่แค่นั้น เขายังปลดล็อคปลอกคอของตัวเองด้วยกุญแจสีดำ ปลอกคอสีดำล่วงลงพื้น พร้อมกันนั้นอากาศก็เกิดการสั่นสะเทือนเบาๆ นั่นคือปฏิกิริยาการรวบรวมมานา
“ทางผมไม่ได้กุญแจนะครับ แล้วก็ดาบของผมเป็นแค่ดาบไม้ด้วย”
“แหงอยู่แล้วสิ”
แบบนี้นี่เองครับ คิดจะสู้ในสภาวะที่ได้เปรียบที่สุดนี่เอง สิทธิ์ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับก็คงมาจากการติดสินบนเจ้าหน้าที่กระมัง
บางที ‘คัลเซเรม’ อาจไม่ใช่คุกที่หฤโหดที่สุดในแง่ของการควบคุมดูแล แต่มันอาจโหดร้ายที่สุดด้วยระบบภายในของมันมากกว่า ผมแหงนหน้าขึ้นไปบนเวที สังเกตุเห็นชายร่างยักษ์ผู้มีใบหน้าเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งนั่งข้างๆคุณแจ็คสัน
สิ่งที่เป็นเสาหลักทำให้นักโทษทุกคนต้องอยู่ใต้อำนาจ ไม่ใช่ผู้คุมขัง หากแต่เป็น .. ‘ดาวดาราเด่น’ มากกว่า ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดขึ้นเป็น ดาวดาราเด่น ได้ ผมก็จะได้ผลประโยชน์มากมายไม่พอ การแหกคุกออกจากที่นี่มันอาจจะง่ายกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้
เบื้องต้น สันนิฐาน ไว้แค่นี้น่าจะเพียงพอแล้ว
“มาสู้กันเถอะ น้องยูจิเอ๋ย!!!!”
สัญญาณจากกรรมการบนที่นั่งคนดูได้เริ่มขึ้น
“3…2…”
นับแค่สอง อัลกาดก็พุ่งเข้าใส่ผมแล้ว ไม่มีใครท้วงหรือเสียงตักเตือนใดๆจากกรรมการ หมายความว่านี่ก็เตี้ยมกันมาเหมือนกัน
[ไฟเยอร์บอล] ราวสามลูกพุ่งใส่ผม ตามด้วยร่างของคุณอัลกาดที่พุ่งมาพร้อมดาบบนมือที่เป็นดาบมีคม ผิดกับดาบของผมที่เป็นเพียงดาบไม้ธรรมดา
เห็นอย่างนั้นผมก็ถอนหายใจออกมา และก้าวไปข้างหน้า–
“เหมือนว่าผมจะเข้าใจผิดไปหนึ่งเรื่องนะครับ คุณอัลกาด”
“หา?”
ผมพุ่งหลบวิถีดาบ และบอลเพลิงทั้งหมดของคุณอัลกาดอย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วที่มากกว่า แค่อ่านจังหวะการต่อสู้ให้ทะลุ และส่งตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุดก็พอแล้ว
เทียบกับคุณเรเซอร์ การเคลื่อนไหวของคุณอัลกาดค่อนข้างเลวร้าย เทียบกับคุณหนิง พลังทำลายล้างของคุณอัลกาดยังห่างไกล เทียบกับคุณเรย์ การจับดาบของคุณมันไม่ได้เรื่อง และเทียบกับตัวผม—พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ควรจะต้องมาสู้กันครับ
“คุณไม่ได้อยู่ในฐานะผู้แข็งแกร่ง แต่อยู่ในฐานะผู้อ่อนแอต่างหากครับ”
ผมลงมือเหวี่ยงดาบไม้ใส่หลังของเขา—
“คนอ่อนแออย่างคุณ ผมจะออมมือให้อย่างดีครับ”
ตู้ม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร่างไร้สติของคุณอัลกาด นอนคากับพื้นในสภาพที่พื้นดินยุบไปราวครึ่งเมตร ผมเช็คสภาพของคุณอัลกาดว่าตรงกับที่คำนวณไว้หรือเปล่า เมื่อเห็นว่าผลลัพธ์ปรากฏอย่างน่าพึงพอใจก็ทำการโยนดาบไม้ลงบนพื้น
ดาบไม้แหลกเป็นผุยผงต่อทันที กระนั้นสิ่งนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ขอขอบคุณครับ
ผมมองไป ณ ที่นั่งคนดู จ้องไปที่คนที่น่าจะเข้าข่ายเป็น ดาวดาราเด่น ที่สุดคนหนึ่งจากทุกคน ขณะเดียวกันทั่วทั้งที่นั่งผู้ชมก็เต็มไปด้วยเสียงร้องโวยวาย
“เดี่ยว …เดี่ยวก่อนๆ”
“เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย”
“อัลกาดแพ้ ..แพ้คนที่ไม่ใช่ ดาวดาราเด่น เนี่ยนะ?”
“เมื่อกี้มองแทบไม่ทัน ..คนๆนั้นเป็นใครกันแน่”
“หนุ่มหน้าละอ่อนคนนั้นเป็นนักดาบหรอกเหรอเนี่ย”
ผมไม่สนใจเสียงเหล่านั้น เป้าหมายของผมมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ..
ถ้าหากการเป็นดวงดาวที่อยู่สูงที่สุดของที่แห่งนี้คือทางเดียวที่ผมจะหลุดจากที่แห่งนี้ไปได้ ผมก็จะทำมัน ผมจะดึงดาวนับสิบดวงลงสู่พื้น และขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูงที่สุดแทนเอง เพราะอย่างนั้น ..ถึงเวลาลงเทียบสู่พื้นแล้วละ เหล่าดวงดาวทั้งหลายในคัลเซเรม
“ดาวดาราเด่นที่รับชมอยู่”
ผมเดินไปหยิบดาบของอัลกาดขึ้นมา และชี้ไปในจุดที่ดาวดาราเด่นนั่งอยู่
“ผมขอท้าคุณดวลครับ”