เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ? - เล่มที่ 16 ตอนที่ 455 เจ้าจะลอบสังหารข้าหรือ
- Home
- เกิดใหม่ทั้งทีขอเป็นผู้ดูแลฟาร์มผู้มั่งคั่งบ้างได้ไหมคะ?
- เล่มที่ 16 ตอนที่ 455 เจ้าจะลอบสังหารข้าหรือ
เล่มที่ 16 ตอนที่ 455 เจ้าจะลอบสังหารข้าหรือ
ได้ยินคำพูดนี้หลิงมู่เอ๋อร์ก็ตระหนักได้ว่าอามู่เต๋อได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอย่างยิ่ง
ไม่รู้เพราะเหตุใดในใจนางจึงรู้สึกลิงโลดขึ้นมาเล็กน้อย
เป็นเพราะสถานะของนางจึงมิเคยได้ลงมือกับอามู่เต๋อจริงจัง ยามนี้ไม่รู้ว่าจอมยุทธผู้ยึดมั่นในคุณธรรมท่านใดมาลงมือเช่นนี้ จึงทำให้ในใจนางมีความสุขจริงๆ!
“บาดแผลที่เย็บแล้วไม่อาจโดนน้ำได้ แน่นอนว่าต้องดูแลอย่างระมัดระวังด้วย จำไว้ว่าต้องเปลี่ยนยาทุกวัน…” เจี้ยงเซียงกำชับกับชายคนน้อง พูดยังไม่ทันจบที่นอกประตูก็มีคนไข้เข้ามา
ชายผู้เป็นน้องหันไปมองข้างหลังตามสัญชาตญาณ ผลคือเมื่อเห็นแล้วก็ตกใจจนรีบร้อนทิ้งเงินเอาไว้ก่อนจะฉวยเอายาไปจากในมือของเจี้ยงเซียง และคว้าตัวพี่ชายวิ่งออกไป
“นี่ ข้ายังพูดไม่จบเลย?” เจี้ยงเซียงตะโกน ทว่าในยามนั้นเองก็เห็นคนที่มาปรากฏตัวตรงหน้าอย่างกะทันหัน “เสียนหวาง?”
หลิงมู่เอ๋อร์ถูกเสียงตะโกนของเจี้ยงเซียงดึงสติกลับมา
เห็นชุดสีขาวบนตัวซูเช่อมีรอยเลือดเป็นจุด ข้างหลังยังมีจื่อถงซึ่งมีบาดแผลไม่น้อยเช่นกันตามเข้ามา ในใจนางก็เต้น ‘ตึกตัก’ แทบจะพุ่งออกไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย “พวกท่าน นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
“ขอเจิ้งเฟยขององค์ชายรองโปรดรักษานายท่านก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จื่อถงประสานมือทั้งสองข้าง กล่าวจบก็เดินตามหลิงมู่เอ๋อร์เข้าไปในห้องส่วนตัว
ไม่ทราบเพราะเหตุใดในใจของหลิงมู่เอ๋อร์จึงคาดเดาขึ้นมาอย่างกล้าหาญ “มือสังหารที่ไปลอบสังหารอามู่เต๋อเมื่อคืนคือท่านหรือ?”
ซูเช่อเงยหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเจือไปด้วยรอยยิ้มอยู่หลายส่วน “คาดไม่ถึงว่าข่าวจะมาถึงเจ้าแล้วหรือ?”
“บาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ ท่านยังจะยิ้มได้อีกหรือ?”
หลิงมู่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเขา แต่ชุดบนร่างของเขานับว่ามีสภาพเกินไปจนหากคนไม่รู้ก็ยังคิดว่าเขาจงใจเอาเลือดสดๆ มาวาดลวดลายประดับ
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่สบายใจที่จะส่งซูเช่อให้ซางจือจึงรักษาเขาด้วยตัวเอง เมื่อพบว่ามิได้ถูกพิษและมีเพียงบาดแผลภายนอกจึงวางใจ
“ตกลงเกิดเรื่องอันใดขึ้น? อยู่ดีๆ เหตุใดจึงไปสู้กับคนแปลกประหลาดผู้นั้นได้?”
“แค่เห็นแล้วขัดตา” ซูเช่ออธิบายตามตรง แม้จะยิ้มแต่ในรอยยิ้มก็มีความแค้นพาดผ่านอยู่
หากบอกว่าระหว่างพวกเขาและอามู่เต๋อมีความโกรธแค้นกันอย่างลึกซึ้งก็นับว่าเป็นเรื่องในอดีต ยิ่งไปกว่านั้นซูเช่อยังปฏิบัติต่อมั่วจวินเหยาอย่างเย็นชาเช่นนี้ก็นับว่าทำให้อามู่เต๋ออับอายเช่นกัน หลิงมู่เอ๋อร์ไม่เชื่อว่าซูเช่อจะลงมือหมายสังหารเขาโดยหาได้มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
“เสียนหวางว่างถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด เห็นใครขัดตาก็จะไปเอาชีวิตเขา เช่นนั้นหากวันใดข้าไม่ระวังไปทำให้ท่านขุ่นเคืองเข้า อาจจะถูกท่านมาลอบสังหารกลางดึกก็ได้กระมัง?” หลิงมู่เอ๋อร์จงใจถาม การเคลื่อนไหวของมือทั้งระมัดระวังและอ่อนโยนด้วยเกรงว่าจะทำเขาเจ็บ
บนตัวซูเช่อมีเลือดเป็นจำนวนมาก แต่มองจากบาดแผลแล้วอาจจะมิใช่เลือดของเขาทั้งหมด
ในใจของหลิงมู่เอ๋อร์ยิ่งตึงเครียดขึ้น หากมิใช่เลือดซูเช่อก็ย่อมเป็นเลือดของศัตรู หวนนึกถึงคำพูดของสองพี่น้องก่อนหน้านี้ ก็เห็นได้แล้วว่าอามู่เต๋อได้รับบาดเจ็บจากเขาไปไม่น้อย
“สิ่งที่ทำให้คนเจ็บปวดมากที่สุดมักจะมิใช่การเอาชีวิตของเขาไปโดยตรง แต่เป็นการทำให้เขาอยู่มิสู้ตาย ดูท่าองค์ชายแคว้นซีอวี้ผู้นั้นจะเป็นฝ่ายทำอันใดให้ท่านขุ่นเคืองจริงๆ”
หลิงมู่เอ๋อร์มองบาดแผลบนหน้าอกซึ่งลึกที่สุดของเขา “หากเคลื่อนไปอีกสักนิ้วหนึ่งคงทำร้ายอวัยวะภายในเข้าแล้ว วรยุทธ์ของเสียนหวางช่างร้ายกาจเสียจริง”
แม้จะเป็นคำชื่นชมแต่ซูเช่อก็ฟังออกว่านางถากถางอยู่กลายๆ
ซูเช่อมุมปากกระตุก “นานแล้วที่มิได้มารักษากับเจ้าที่นี่ ข้ามาอุดหนุนเจ้าเพิ่มเสียหน่อยไม่นับว่าดีหรือ?”
หลิงมู่เอ๋อร์เกือบจะถูกคำพูดนี้ของเขาทำให้มีโทสะขึ้นมา “เสียนหวางช่างให้เกียรติข้าเสียจริง”
“เป็นเช่นนั้น”
“ขวดหนึ่งใช้เป็นยาทาภายนอก อีกขวดหนึ่งเป็นยากิน บาดแผลบนร่างอย่าให้ถูกน้ำ ภายในครึ่งเดือนนี้ก็ระวังอย่ายกของหนักหรือออกกำลังมากนัก” หลิงมู่เอ๋อร์กลอกตาขาวไปขณะที่อธิบาย หลังจากลุกขึ้นก็โยนยาสองขวดไปให้เขา
ซูเช่อรับมาได้อย่างมั่นคง “ขอบคุณมาก”
มองจื่อถงอีกครา เขาก็ไม่ได้พูดอันใดทำเพียงแค่ใช้สายตาส่งสัญญาณให้
จื่อถงหยิบตำลึงเงินเดินเข้ามาโดยพลัน
หลิงมู่เอ๋อร์ตะลึงงัน รอยยิ้มบนใบหน้าสลายหายไปโดยพลัน นางออกแรงโยนผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดมือไปบนร่างของซูเช่ออย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
ซูเช่อที่อยู่ในท่าทางกึ่งนอนหลบเลี่ยงไม่ทันผลคือถูกนางจู่โจมอย่างแรง เขาตะโกนเสียงดัง “หลิงมู่เอ๋อร์ เจ้าจะลอบสังหารข้าหรือ!”
“หากข้าอยากฆ่าท่านคงลงมือไปตั้งแต่ที่หมู่บ้านตระกูลหลิงแล้ว ท่านแน่ใจหรือว่าท่านจะหนีไปได้?”
หลิงมู่เอ๋อร์แค่นเสียงต่ำ “เสียนหวางไม่ปฏิบัติต่อข้าเหมือนเป็นสหายจริงๆ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็ยังล้วนถือสาเช่นนี้ ดูท่าข้าคงต้องกลับไปพลิกบัญชีดูให้ดี หลังจากแปลงหนี้ที่ติดค้างเสียนหวางทั้งหมดเป็นเงินแล้วก็จะส่งไปให้เสียนหวางที่จวน”
ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนฟังออกว่าหลิงมู่เอ๋อร์โกรธแล้ว และซูเช่อก็กลัวว่านางจะโกรธมากที่สุด
เขารีบลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปใกล้นางและผลักจื่อถงไปข้างหลังแสดงท่าทีให้เขาเก็บเงินไป ยามที่มองหลิงมู่เอ๋อร์อีกครา รอยยิ้มของเขาก็ราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ประหนึ่งว่าเขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย “เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก”
หลิงมู่เอ๋อร์จ้องเขม็งไปที่เขาคราหนึ่งอย่างดูแคลน ก่อนจะเดินอ้อมเขาไปข้างตัวจื่อถง “เจ้าก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย นั่งลงเถอะ ข้าจะดูอาการให้เจ้า”
จื่อถงไหนเลยจะกล้าให้คนที่นายท่านสนใจมารักษาตัวเองต่อหน้าเขา?
เขาไม่ขยับอยู่นาน
เป็นธรรมดาที่หลิงมู่เอ๋อร์จะรู้ว่าเขากังวลอันใดจึงบังคับกดเขาลงไปบนเก้าอี้ “มองอันใด ต่อให้จะเป็นบ่าวของเขาแต่เมื่อได้รับบาดเจ็บก็ต้องรักษามิใช่หรือ? หากผู้เป็นนายไม่ให้แม้แต่เวลาเช่นนี้กับบ่าว อยู่ข้างกายเจ้านายเช่นนั้นไปจะมีประโยชน์อันใด?”
ได้ยินหลิงมู่เอ๋อร์จงใจพูดประชดประชัน ซูเช่อก็ยิ้ม ในรอยยิ้มมีความอัดอั้นตันใจเผยออกมาจากมุมปากอีกทั้งยังรู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นมากเช่นกัน
เขาไม่พูดอันใดแต่ก็พยักหน้า จื่อถงจึงยื่นมือออกไปอย่างสบายใจ “เช่นนั้นรบกวนเจิ้งเฟยขององค์ชายรองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“อย่าได้เกรงใจ”
หลิงมู่เอ๋อร์จับชีพจรให้เขาแต่สีหน้าก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม จื่อถงที่เห็นเช่นนั้นขนทั่วทั้งร่างก็ลุกชัน “เจิ้งเฟยขององค์ชายรอง ท่านอย่าขู่ให้กระหม่อมตกใจกลัวเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากับข้าหาใช่ญาติพี่น้องหรือมิตรสหาย ข้าจะไปขู่ให้เจ้าตกใจกลัวเพื่ออันใด เจ้าถูกพิษ”
หลิงมู่เอ๋อร์พูดอย่างไม่ใส่ใจโดยไม่มองแม้แต่น้อยว่าจื่อถงแทบจะถูกนางทำให้สำลักน้ำลายตาย
“ถูกพิษ?”
หมอผู้หนึ่งเหตุใดจึงเอาเรื่องจริงจังอย่างการถูกยาพิษมาพูดอย่างไม่ใส่ใจเช่นนี้ได้?
ซูเช่อก็มองมาอย่างสงสัยเช่นกัน “พิษอันใด สถานการณ์เป็นเช่นไรบ้าง?”
“อามู่เต๋อเชี่ยวชาญเรื่องการใช้พิษมากที่สุด เมื่อครู่ข้าก็ยังสงสัยว่าเหตุใดท่านจึงไม่เป็นอันใด ยามนี้มาคิดดูแล้วคงเป็นผลจากกลีบดอกไป่หลิงเซียน แต่จื่อถงหาได้มีกล้ามเนื้อทองแดงกระดูกเหล็กเป็นธรรมดาที่จะหนีไม่พ้น”
หลิงมู่เอ๋อร์บุ้ยคางไปข้างนอก “เมื่อครู่เสียนหวางมิใช่อยากขอบคุณข้าหรือ? ไม่ทราบว่าขอรบกวนบางเรื่องได้หรือไม่?”
เห็นใบหน้ามีเสน่ห์ตราตรึงใจคนของหลิงมู่เอ๋อร์ที่ราวกับมองอย่างไรก็มองไม่พอ ทั้งยังมีรอยยิ้มที่มอบให้ตนเป็นพิเศษ การป้องกันทั้งหมดของเขาก็ล้วนถูกตีจนแตกพ่ายโดยพลัน
“ด้วยความยินดี”
“ให้ซางจือจ่ายยาตามเทียบยานี้ ยิ่งเร็วยิ่งดีไม่เช่นนั้นคงไม่ทันการ”
หลิงมู่เอ๋อร์จดเทียบยาส่งให้ซูเช่อโดยเร็วที่สุดโดยไม่แม้แต่จะมองเขา ก่อนจะรีบกลับมาอยู่ข้างตัวจื่อถง
ซูเช่อที่เดิมทียังสงสัยก็ปล่อยวางความสงสัยไปและรีบหมุนกายเดินออกไป
เมื่อหลิงมู่เอ๋อร์ยืนยันว่าไร้ซึ่งเสียงฝีเท้าแล้ว นางก็หยุดการเคลื่อนไหว การกระทำนี้กลับทำให้จื่อถงตกใจขึ้นมา
“เกิดอันใดขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะเจิ้งเฟยขององค์ชายรอง เหตุใดท่านจึงหยุดมือเช่นนี้? คงมิใช่ว่าไม่อาจแก้พิษให้กระหม่อมได้ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
ความเคร่งเครียดของเขาทำให้หลิงมู่เอ๋อร์ส่ายศีรษะอย่างขบขัน “หากเป็นเช่นนั้นเหตุใดต้องให้เสียนหวางออกไปด้วย เขาถูกหลอกก็ยังนับว่าเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้ แต่เหตุใดเจ้าจึงเชื่อไปด้วยเล่า?”
จื่อถงไม่เข้าใจคำพูดของนางอยู่ครู่ใหญ่ กำลังคิดจะสอบถามแต่ทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นมาได้ “เจิ้งเฟยขององค์ชายรอง ท่านหลอกกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“อามู่เต๋อมิได้ใช้พิษกับพวกเจ้านับว่าเหนือความคาดหมายของข้าจริงๆ แต่ในร่างของเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส เทียบยาเมื่อครู่หาใช่ของปลอม”
ได้ยินคำพูดนี้จื่อถงก็รีบลุกขึ้นแทบไม่ทัน ก่อนจะประสานมือทั้งสองข้างและค้อมกายให้นาง “กระหม่อมขอบพระทัยเจิ้งเฟยขององค์ชายรองเป็นอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ”
“อยากขอบคุณข้าหรือ? เช่นนั้นก็บอกข้ามาว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอันใดขึ้น?!”
หลิงมู่เอ๋อร์มีท่าทางเคร่งขรึม
นางรู้จักซูเช่อเป็นอย่างดี หากมิใช่ว่าถูกยั่วยุย่อมไม่ลงมือตามอำเภอใจ
ตั้งแต่แรกที่อามู่เต๋อทำให้ซูเช่อต้องอับอายในงานเลี้ยงของไท่จื่อ เขาก็เพียงแค่สะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความโกรธโดยมิได้ลงมือกับอามู่เต๋อ
แต่ช่วงนี้มีเรื่องอันใดที่นางไม่รู้เกิดขึ้นหรือ?
“เจิ้งเฟยขององค์ชายรอง นี่มิใช่ว่าท่านกำลังทำให้กระหม่อมลำบากใจหรือพ่ะย่ะค่ะ?” จื่อถงกะพริบตาอย่างไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
แต่เมื่อนึกถึงยามที่ถูกส่งให้ไปเชิญหมอ ซูเช่อก็บอกกับตนว่าเขากล้าเล่าเรื่องนี้ออกมาโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “หากมิใช่เพราะหวางเฟยวางยาพิษนายท่าน นายท่านก็คงไม่มีโทสะมากเช่นนี้ ท่านน่าจะรู้อยู่แล้วว่านายท่านเกลียดคนที่วางแผนร้ายต่อเขามากที่สุด และยานั่นยังเป็นอามู่เต๋อที่มอบให้นาง เป็นธรรมดาที่บัญชีแค้นทั้งหมดจะตกไปอยู่บนหัวของเขาพ่ะย่ะค่ะ”
ได้ฟังที่มาที่ไปทั้งหมด ในใจหลิงมู่เอ๋อร์ก็มีความรู้สึกซับซ้อน
จื่อถงไม่เข้าใจว่าเหตุใดซูเช่อจึงทำเช่นนี้ แต่ไหนเลยนางจะไม่เข้าใจ
“ยังดีที่ซูเช่อได้รับบาดเจ็บไม่มาก” น้ำเสียงของนางแผ่วเบาดูไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง
“หากมิใช่ว่าอามู่เต๋อรับมือไม่ทัน นายท่านก็คงไม่อาจลงมือได้ราบรื่นเช่นนี้ แต่ยาที่อามู่เต๋อให้มาก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าหวางเฟยต้องการจะทำเช่นนี้แต่เขาก็ยังมอบมันให้นาง ดังนั้นเสียนหวางจึงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่งและเข้าไปเปิดฉากต่อสู้อย่างรุนแรงในที่พักแห่งนั้น แต่เจิ้งเฟยขององค์ชายรอง กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งอยากขอร้องพ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ามาเถอะ”
“นายท่านเหนื่อยล้าเช่นนี้มาหลายปีทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพอันตรายเป็นอย่างยิ่งแล้ว ท่านน่าจะรู้ว่าหลายปีมานี้มีคนมากมายที่ไล่ตามนายท่าน ทั้งยังมีคนไม่น้อยที่ใช้อุบายเช่นนี้ และถึงอย่างไรหวางเฟยก็ยังอยู่ในจวน หากครั้งหน้านางยังคงทำเช่นนี้เกรงว่าร่างกายของนายท่านคง…”
คำพูดของจื่อถงยังไม่ทันจบสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปโดยพลัน
รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกทางด้านหลัง หลิงมู่เอ๋อร์ไม่ต้องหันกลับไปก็รู้ว่าซูเช่อกลับมาแล้ว
เห็นจื่อถงคุกเข่าข้างหนึ่งลงไปบนพื้นในขณะที่คนข้างหลังมีไอสังหารทั่วทั้งร่าง หลิงมู่เอ๋อร์มิได้หันกลับไป “ที่นี่เป็นโรงหมอของข้า หากเสียนหวางอยากสั่งสอนคนของท่านก็กลับไปสั่งสอนที่จวนเถอะ ทว่ายามนี้เขาเป็นคนไข้ของข้าอยู่อย่างไรก็ขอให้เสียนหวางปล่อยคนไปก่อนเถิด”
กล่าวจบนางก็หมุนกายกลับไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยไอสังหารของซูเช่อ หลิงมู่เอ๋อร์โยนขวดยาขวดหนึ่งออกไป “แม้ว่าจะช้าไปเสียหน่อยแต่ก็อาจระงับพิษของยาปลุกกําหนัดที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ หากหวางเย่ไม่อยากกินยาเช่นนั้นข้าก็สามารถหาสตรีสักคนมาให้ท่านได้”
“หลิงมู่เอ๋อร์เจ้า…” มุมปากซูเช่อกระตุกอย่างมีโทสะ “เปิ่นหวางจะไปหาสตรีคนใดมาตามอำเภอใจได้อย่างไร!”
หลิงมู่เอ๋อร์ไม่หันศีรษะกลับไป แต่มือที่อยู่ข้างหลังก็ทำท่าทางเป็นสัญญาณให้จื่อถงออกไปก่อน
มองซูเช่ออีกครา ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็เบิกกว้างอย่างไร้เดียงสา “ดูท่าหวางเย่จะไม่พอใจสตรีในหอเซียงโหลว เช่นนั้นหวางเย่พูดมาได้เลยว่าถูกตาต้องใจสตรีจากตระกูลใด ข้าไม่ถือสาที่จะทำหน้าที่แม่สื่อผูกด้ายแดงให้พวกท่าน หลังจากนั้นค่อยส่งเนื้อหัวหมูมาให้ข้าก็พอ”
“สตรีเช่นเจ้านี่ช่าง…หยาบคายเสียจริง”
สีหน้าซูเช่อแดงก่ำเพราะความโกรธแต่ก็ไม่อาจเกลียดนางได้
เห็นดวงตาของนางมีรอยยิ้มประดับอยู่ สุดท้ายเขาก็ถูกนางทำให้พ่ายแพ้ “เป็นไปดังคาดที่มีเพียงซั่งกวนเซ่าเฉินเท่านั้นที่อดทนการจู่โจมของเจ้าได้ หากเป็นเปิ่นหวางคงมิพ้นถูกเจ้าทำให้โกรธจนตาย”