ในชั้นใต้ดินของปราสาทสีเทา ในขณะนี้เหล่าผู้คนแห่งกลุ่มโอเมก้าก็ได้แต่มีสีหน้าซีดเผือด และไร้สิ้นซึ่งเรี่ยวแรงจากความกดดันจากจิตสังหารของมังกรยักษ์ตรงหน้าพวกเขา ที่แม้จะอยากหนีก็ไม่สามารถก้าวขาออกไปได้แม้แต่น้อย ทำได้แค่ยืนสั่นสู้เพียงเท่านั้น
แต่ก็ยังมีอยู่คนหนึ่งที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักที่ยืนอยู่ตรงหน้าของจอมเวทย์ชราที่ลงไปคุกเข่ากับพื้น เธอนั้นยังคงยืนได้อย่างปกติอย่างกับว่าไม่ได้รับความกดดันใดๆเลย หากเป็นเด็กปกติโดยทั่วไปคงจะช็อกหมดสติไปแล้วเป็นแน่
อย่างไรก็ตามความผิดปกติของแอนเน่ในสายตาทุกคนไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะสีหน้าของเธอยามต้องแสงไฟสลัวจากคบเพลิงนั้นดูน่ากลัวอย่างยิ่ง ดุจดั่งเธอกำลังโกรธเกรี้ยวชายชราอยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเปล่งเสียงใดๆออกมา เพราะดวงตาสีเหลืองทองของมังกรยังคงจดจ้องตรงมาที่พวกตน
“ท่านฮาน ท่านรู้ไหมว่าท่านได้ทำความผิดอะไรบ้าง?” แอนเน่มองลงมาที่จอมเวทย์ชราที่คุกเข่าตรงหน้าเธอ พร้อมกับกล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบผิดจากเด็กทั่วไป
จอมเวทย์ชราในชุดคลุมสีน้ำเงินที่คุกเข่าอยู่พร้อมกับอารมณ์หวาดกลัว เมื่อได้ยินเสียเรียกจากลูกศิษย์ก็ได้สติขึ้นมาทันที เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองเด็กหญิงช้าๆ และเมื่อสายตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของแอนเน่ เขาก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจกับสายตาของเธอที่จ้องมองมา
“แอนเน่ จะ…เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ตัวเจ้าไม่เป็นอะไรเลยอย่างนั้นรึ?” ฮานได้แต่กล่าวถามไปเท่านั้น ความสับสนนี้ทำเอาเขาตั้งตัวไม่ถูก เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
“มังกรวารีไม่ได้ทำร้ายข้า เพราะข้าได้เป็นเพื่อนกับมันแล้ว ข้ามาที่ปราสาทสีเทาแห่งนี้ก็เพื่อพามันออกไป ไม่ใช่สิ! ข้าจะปลดปล่อยสัตว์ทุกตัวออกไปจากที่นี่ และลงทัณฑ์พวกโอเมก้าทุกคน!” แม้เสียงจะยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ แต่น้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวของแอนเน่ก็ทรงพลัง ทุกคนรับรู้ได้ถึงความโกรธแค้นจากเบื้องลึกในจิตใจของเธออย่างชัดเจน
“ว่าไงนะ! นี่เจ้า…เจ้าหลอกข้ามาตลอดเนี่ยนะ! เด็กอย่างเจ้าจะคิดเรื่องพวกนี้ได้อย่างไรกัน” ฮานยังคงไม่อยากเชื่อในคำพูดของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมตรงหน้า เขาคิดว่าหากที่แอนเน่กล่าวมาเป็นเรื่องจริง การจะมาถึงจุดนี้ได้อาจเพราะมีใครบงการอยู่เบื้องหลังก็เป็นได้
“สตาดัสต์อยากจะช่วยพวกสัตว์ที่ท่านจับมาทดลอง แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ด้วยพันธสัญญาทาสที่ท่านกำกับไว้ ข้าจึงรับอาสาที่จะทำเรื่องนี้เองเพราะสงสารพวกมันยังไงล่ะ ข้าอยากให้พวกมันเป็นอิสระไม่ต้องตกไปเป็นทาสของใครอีก เช่นเดียวกับที่ข้าได้รับอิสรภาพ” เด็กน้อยเล่าความจริงออกมาทั้งหมด เพราะนี่คือแรงผลักดันอันแรงกล้าที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้ การประกาศจุดยืนออกไปคือการยืนยันในจุดมุ่งหมายของตัวเอง และทำลายความกลัวที่มีในใจให้หมดสิ้นไป
ผู้นำแห่งกลุ่มโอเมก้าถึงกับอ้าปากค้าง กับคำพูดที่เรียกได้ว่าแก่แดดเกินวัยเด็ก แต่ด้วยสิ่งที่แอนเน่แสดงออกมานั้นเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันคือเรื่องโกหก และยิ่งเมื่อแอนเน่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากจิตสังหารของมังกรวารี ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าเด็กหญิงมาเพื่อช่วยมันออกไปจริงๆ
เรื่องราวทั้งหมดที่เด็กน้อยประกาศออกมา ทุกคนในชั้นใต้ดินต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ และพวกเขาล้วนเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งถือว่าไม่เป็นเรื่องดีแน่หากมังกรวารีตัวใหญ่ยักษ์จะถูกปล่อยออกไปจากปราสาทแห่งนี้ เพราะอย่างแรกที่มันจะสังหารก็คงจะเป็นพวกตนอย่างแน่นอน
เซอร์เอนโซอัศวินหนุ่มผมทองที่ตั้งสติได้ไวที่สุดก็ก้าวออกมาจากฝูงชน แล้วเดินเข้าไปในห้องช้าๆแต่หนักแน่น แววตาที่ไร้ความกลัวของเขาก็เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า ผิดแผกแตกต่างจากคนหนุ่มในวัยเดียวกัน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่บอกได้ว่าเขาคืออัจฉริยะเช่นกัน
“ท่านฮาน ตอนนี้เด็กน้อยตรงหน้าท่านถือว่าเป็นศัตรูไปแล้ว หากสิ่งที่นางต้องการสำเร็จขึ้นมาคนที่จะเดือดร้อนก็คือพวกเราโอเมก้าทุกคนที่นี่ และคนที่จะเสียหายมากที่สุดก็จะเป็นท่าน เพราะฉะนั้นกรุณาลุกขึ้นมาเถิดข้าจะรีบจัดการนางให้เร็วที่สุด ก่อนที่มังกรนั่นจะฟื้นตัว” อัศวินหนุ่มในชุดเกราะหนังที่มีเสื้อคลุมสีขาวปิดทับอีกชั้น กล่าวจบก็เรียกดาบสีทองออกมาจากกำไลมิติเข้ามาบนมือทันที
เขาไม่รอฟังคำตอบหรือการเคลื่อนไหวใดๆจากฮาน ตอนนี้ในจิตใจของเขามีเพียงเป้าหมายตรงหน้า การจัดการศัตรูได้ในพริบตาคือสิ่งที่เขาต้องการ เพราะเขารู้จากคำบอกเล่าของจอมเวทย์ชรา และการประเมินด้วยตนเองแล้วว่าเด็กหญิงตรงหน้าต้องมีฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน
เอนโซควงดาบทองไปรอบตัวช้าๆ มันเป็นดาบมือเดียวที่โค้งดุจจันทร์เสี้ยวอันคมกริบ เขาเดินเข้าใกล้แอนเน่ไปเรื่อยๆพร้อมกับควงดาบเร็วขึ้น ผู้ที่เฝ้ามองดูต่างก็รู้สึกหวาดเสียว กลัวว่าหากพลาดโดนตัวเองอาจจะได้บาดแผลใหญ่น่าดู แต่อัศวินหนุ่มกลับยิ้มแย้มเหมือนกับเดินเล่นเสียอย่างนั้น
ทางด้านแอนเน่เองก็ไม่ได้ประมาท เด็กน้อยปลดปล่อยพลังเวทย์ให้ไหลเวียนครอบคลุมทั่วร่างกาย ออร่าสีฟ้างดงามอ่อนโยนแต่ที่จริงแข็งแกร่งมาก ซึ่งเธอก็มั่นใจว่ามันเพียงพอจะป้องกันอาวุธทางกายภาพอย่างดาบสีทองนั่นได้อย่างแน่นอน เพียงแต่เจ้ามังกรวารีด้านหลังไม่คิดเช่นนั้น
ดวงตามังกรสีทองเปล่งประกายอีกครั้ง มันส่งจิตสั่งหารจู่โจมเข้าสู่เซอร์เอนโซโดยตรง ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งแรกถึงสองเท่า แต่นั่นกลับไม่อาจทำให้อัศวินสะทกสะท้านใดๆ เขายังคงเดินหน้าเข้ามาอย่างสบายๆไร้ซึ่งความกังวลใดๆ อย่างกับว่าตรงหน้าของเขาไม่มีมังกรร้ายอยู่สักตัวเดียว
และในเสี้ยววินาทีที่ไม่มีใครคาดคิด ร่างของอัศวินผมทองก็พุ่งเข้าจู่โจมเด็กหญิงอย่างรวดเร็ว แอนเน่ไม่แม้แต่จะขยับไปไหน ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากตอบโต้ แต่ความเร็วนั้นเธอไม่อาจตามได้ทันอย่างแน่นอน คมดาบสีทองเปล่งประกายฟาดฟันเข้ากลางลำตัวของแอนเน่ทันที
“ตูม!!!” เสียงคลื่นน้ำแตกกระเซ็นอย่างรุนแรง ดั่งคลื่นทะเลกระแทกโขดหินริมหน้าผา อัศวินผมทองกระเด็นออกมาจากแรงระเบิดอันมหาศาลนั้นด้วยความไม่ยินยอม ด้วยเพราะเขามั่นใจในความเร็ว และประสาทสัมผัสของตัวเองเป็นที่สุด แต่กลับพลาดท่าอย่างง่ายดายเช่นนี้
นอกจากเอนโซแล้ว ฮานที่อยู่ใกล้ๆก็โดนลูกหลงไปด้วย เนื่องจากยังช็อกจากการถูกเด็กหลอกเขาจึงไม่ได้ระวังอันตรายรอบตัวเลยแม้แต่น้อย โชคยังดีที่ชายชราไม่ได้รับแรงระเบิดจากศูนย์กลางพลังงานเช่นเดียวกับอัศวินหนุ่ม จึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เขาต้องสำลักน้ำไปไม่น้อย
เซอร์เอนโซรีบลุกขึ้นมาตั้งท่าดาบอย่างมั่นคง เพื่อรอรับการโจมตีอีกระลอกของฝ่ายตรงข้าม แต่มันก็ทำให้เขาแปลกใจเมื่อยังคงเห็นแอนเน่ยืนเฉยอยู่ที่เดิม แม้ว่าจะมีท่าทางที่เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ทำการโจมตีต่อเนื่อง การกระทำแบบนี้ของเด็กน้อยทำให้ความคิดในหัวของอัศวินหนุ่มประมวลผลใหม่ทันที
‘นางอาจได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของข้า แม้จะไม่มากแต่ก็อาจทำให้เกิดความหวาดระแวงได้ ถ้าอย่างนั้นข้าต้องทำให้นางเสียสมาธิมากยิ่งขึ้น’ หลังจากตัดสินใจได้เอนโซก็พุ่งเข้าจู่โจมแอนเน่อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้รอบตัวของเขามีออร่าสีทองปรากฏขึ้นชัดเจน นั่นหมายความว่าชายผู้นี้สามารถใช้เวทมนตร์ได้เช่นกัน
ร่างของเอนโซกลายเป็นแสงสีทองแล้วแตกกระจายแบ่งออกเป็นห้าร่าง พวกมันกระจายตำแหน่งการยืนล้อมรอบตัวของเด็กหญิงเอาไว้ครู่หนึ่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้แอนเน่มีปฏิกิริยาสับสนขึ้นมาตามคาดหมายของอัศวินหนุ่ม ทำให้รอยยิ้มยินดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าทั้งห้าพร้อมกัน และพุ่งเข้าโจมตีเด็กน้อยอีกครั้ง
แต่ร่างทั้งหมดไม่ได้โจมตีพร้อมกัน ร่างแรกเข้าจู่โจมด้านหน้าของแอนเน่ ร่างที่สองเข้ามาทางด้านซ้ายช้ากว่าร่างด้านหน้าเล็กน้อย ร่างที่สามเข้ามาทางด้านขวา ร่างที่สี่เข้าทางด้านบน ซึ่งมีระยะห่างไกลออกไปอีกหน่อย และอีกสุดท้ายปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง แต่มันกลับถึงตัวเด็กน้อยก่อนร่างแรกเสียอีก
MANGA DISCUSSION