ภายในปราสาทหินสีเทาหม่นทางด้านตะวันตกนอกเมืองฟลอริสตี้ ชายชราพาเด็กหญิงตัวน้อยไปนั่งกินขนมในห้องอาหารใหญ่ ซึ่งมีโต๊ะตัวยาวที่สามารถรองรับแขกได้ถึง 30 คนตั้งอยู่ แต่นอกจากทั้งสองคนแล้วก็มีคนรับใช้ยืนรอรับคำสั่งเงียบๆอยู่ด้านหลังเท่านั้น
ทั้งฮาน และแอนเน่คุยเรื่องราวสรรพเพเหระอย่างสนุกสนาน ด้วยบุคลิกที่ดูสูงส่ง และหยิ่งทะนงของชายชราเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับคนรับใช้หนุ่ม ที่ยืนดูอย่างไม่เชื่อสายตาว่าจะได้พบเห็นด้านอ่อนโยน ของหนึ่งในผู้มีอำนาจแห่งกลุ่มโอเมก้า
แต่บรรยากาศแห่งความสุขเล็กๆภายในปราสาทก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อประตูบานใหญ่ของห้องแห่งนี้เปิดออก พร้อมการมาถึงของคนสองคน คนแรกคือสตรีสูงศักดิ์วัยกลางคนในชุดสีม่วงฟูฟ่อง อีกหนึ่งคือชายหนุ่มร่างผอมในชุดเรียบหรูสีดำ ซึ่งทำให้ใบหน้าของฮานที่กำลังยิ้มแย้มกลายเป็นนิ่งขรึม
“พวกเจ้ามีเรื่องด่วนอันใดรึ ถึงได้มาในเวลานี้?” ชายชราแปลกใจไม่น้อยที่ทั้งสองคนมาที่นี่โดยไม่ได้นัดหมาย
“สหพันธ์แซ็กเซอร์ถูกกองทัพออร์คที่มาจากเทือกเขาแม็กซิมัสตีแตก จนต้องถอยทัพกลับไปแล้ว” หญิงชุดม่วงแจ้งข่าวออกมาด้วยน้ำเสียง และสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
“ว่าไงนะ! มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน? หรือว่าพวกนั้นไปตั้งค่ายขวางเส้นทางการอพยพของออร์คงั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ใครๆก็รู้ว่าพวกสัตว์ประหลาดนั่นใช้เส้นทางเดิมตลอดมานับพันปี แม่ทัพของแซ็กเซอร์ก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะพลาดพลั้งเรื่องแบบนี้ได้” ฮานตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกินความคาดหมายจริงๆ
“พวกออร์คอพยพในเส้นทางเดิมนั่นแหละขอรับ แต่ที่ต่างออกไปคือพวกมันกระจายกลุ่มกันออกไปกว้างกว่าเดิม ไม่ได้จับกลุ่มเป็นกลุ่มเดียวอย่างที่ผ่านมา แถมกาลเวลาที่อพยพยังเร็วกว่าทุกปีไปเกือบหนึ่งเดือน ทำให้กองทัพแซกเซอร์ที่อยู่นอกเส้นทางถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว” คราวนี้ชายหนุ่มร่างผอมเป็นคนอธิบายรายละเอียดต่อมาด้วยสีหน้าย่ำแย่ไม่แพ้กัน
“แล้วสาเหตุที่ทำให้พวกออร์คเปลี่ยนวิถีเดิมไปนั่นคืออะไร?” ชายชรายังคงสงสัยในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามันเป็นความวิปริตของธรรมชาติเลยทีเดียว และแน่นอนว่ามันจะส่งผลต่อดินแดนที่พวกออร์คเดินทางผ่านอย่างเลี่ยงไม่ได้
ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังอ้าปากจะตอบคำถามนั้น เขาก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนด้วยเสียตบโต๊ะดังลั่น
“ปัง!”
“พวกออร์คมันจะเดินไปทางไหนก็เรื่องของมันสิ! ตอนนี้แซ็กเซอร์สูญเสียหนักดยุคกลาเซียต้องมีคำสั่งให้พวกเราส่งทรัพยากรไปสนับสนุนเพิ่มแน่นอน แต่ข้าสูญเสียทั้งเงินทองไปมากกับการศึกครั้งนี้ หากต้องส่งไปอีกพวกเราจะเหลืออะไรกันล่ะ ท่านที่เป็นผู้นำโอเมก้าแห่งฟลอริสตี้ต้องจัดการอะไรสักอย่างนะ!” สตรีสูงศักดิ์ระบายออกมาอย่างเกรี้ยวกราด เพราะชายชราสนใจเรื่องอื่นมากกว่าทรัพย์สินของพวกตน
“ใจเย็นลงก่อนเคาน์เตสมีน่า เรื่องที่เจ้ากังวลว่าจะต้องส่งเงินไปเพิ่มนั้นข้าเข้าใจดี เพราะอย่างไรเราก็เลี่ยงไม่ได้แน่นอน หากต้องเพิ่มกำลังรบขึ้นมาทดแทนที่สูญเสียไป แต่ข้าก็อยากได้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนต่อไป บางทีอาจช่วยลดเงินที่เราต้องจ่ายได้บ้าง” ด้วยวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ ฮานจึงตั้งสติพร้อมกล่าวปลอบอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามได้ทันที
“เอิ่ม…เรื่องพวกออร์คนั้นทางข้าก็หาสาเหตุมาเหมือนกันขอรับ แต่ก็ได้ข้อมูลที่พอจะบอกได้เพียงอย่างเดียวก็คือ พวกมันหนีศัตรูมาจึงได้แตกแยกกลุ่มกระจัดกระจายแบบนั้น ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามต่อไปว่าศัตรูตามธรรมชาติที่กองทัพออร์คหลายหมื่นเกรงกลัวนั่นคืออะไร ซึ่งตรงนี้ก็ยากจะหาคำตอบแล้ว” ชายหนุ่มอธิบายมาอย่างจนปัญญากับเรื่องราวที่ไม่อาจหาคำตอบ
“ขอบใจมากเซอร์เอนโซ่ ถ้าหากเป็นอย่างที่ท่านกล่าวมา เราก็คงไม่จำเป็นต้องหาต้นตอของมันอีก เพราะเจ้าสิ่งนั้นคงจะร้ายกาจยากเกินกว่าที่พวกเราจะรับมือได้ สู้เอาเวลาไปหาเงินเพิ่มจะดีกว่า” ชายชราตัดจบเรื่องราวง่ายๆไปเสียอย่างนั้น
ซึ่งเมื่อฮานพูดมาถึงตรงนี้ก็ทำให้ทั้งเคาน์เตสมีน่า และเซอร์เอนโซ่ถึงกับชะงักไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะคาดไม่ถึงว่าผู้นำกลุ่มของตนจะตัดใจง่ายขนาดนี้ และผู้ที่รู้สึกแปลกใจไม่แพ้กันก็ยังมีอีกสองคน ซึ่งยืนพิงกำแพงอยู่ด้านหลังของแอนเน่แต่กลับไม่มีใครเห็น
ภาม และมีอาที่ยังสามารถมองเห็นตัวกันได้ แม้ว่าจะอยู่ในโหมดล่องหนของแบทเทิลสูท ต่างก็มองตากันโดยอัตโนมัติ เมื่อได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกองทัพออร์คที่เข้าจู่โจมสหพันธ์แซ็กเซอร์ เพราะในใจของทั้งสองคนต่างคิดตรงกันว่า มันคือกองทัพออร์คที่เคยเจอตอนไปจับม้าในป่าทางใต้นั่นเอง
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ก็เข้าใจตรงกันแน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ส่งผลถึงกองทัพฝ่ายกบฏในวันนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และเรื่องที่ทำให้พวกออร์ครีบหนีอย่างลนลานนั้นก็เพราะการใช้พลังอันรุนแรงของมังกรน้อยนั่นเอง ซึ่งมีเพียงภามกับแพนดั้นเท่านั้นที่รู้ เพราะคนอื่นสลบอยู่
ส่วนเคาน์เตส และอัศวินหนุ่มที่ยังไม่ทันจะหายประหลาดใจ ชายชราก็กล่าวเรื่องใหม่ขึ้นมากับผู้มาเยือนทั้งสองเสียก่อน
“ยังไงข้าที่เป็นผู้นำก็ต้องหาทางแก้ปัญหาอยู่แล้ว พวกเราจะเรียกประชุมด่วนกันเย็นนี้กับสมาชิกที่เหลือ พวกเขาล้วนเป็นพ่อค้าแม่ค้าน่าจะมีทางออกให้กับวิธีหาเงินของเราได้ อ้อ! แล้วก็ข้าขอแนะนำสาวน้อยคนนี้ นางชื่อแอนเน่เป็นลูกศิษย์ของข้าเอง” ในที่สุดชายชราก็แนะนำเด็กหญิงที่นั่งกินขนมเงียบๆมานานให้กับทั้งสองได้รู้จัก
“ละ…ลูกศิษย์ ของท่านอย่างนั้นเหรอขอรับ?” อัศวินหนุ่มร่างผอมประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อรู้เรื่องนี้
“ข้าไม่เคยได้ยินว่าท่านรับลูกศิษย์เลยนี่ เด็กคนนี้คือลูกศิษย์คนแรกของท่านอย่างนั้นรึ?” ท่านหญิงมีน่าก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน
เมื่อชายชราแนะนำตัวเด็กหญิงให้กับผู้มาเยือน แอนเน่ก็ลงจากเก้าอี้แล้วย่อถอนสายบัวทำความเคารพทั้งสองอย่างงดงามเรียบร้อย
“ข้ามีชื่อว่าแอนเน่เจ้าค่ะ” เด็กน้อยในชุดกระโปรงบานที่น่ารักดั่งตุ๊กตาแนะนำตัวเองตามมารยาท ซึ่งเป็นกิริยาที่งดงามดั่งลูกผู้ดีมีตระกูลเลยทีเดียว
“โอ้! นี่เจ้าเป็นคุณหนูจากตระกูลใดรึ?” เคาน์เตสมีน่ารู้สึกถูกใจเด็กหญิงเป็นอย่างมาก จึงอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ
“ข้าน้อยเป็นเพียงทาสจากฟาร์มในฮาเวสตี้เจ้าค่ะ” แอนเน่ตอบกลับอย่างสุภาพเรียบร้อย และถ่อมตน
“เป็นทาสอย่างนั้นรึ? เจ้าไม่เหมือนกับทาสเลยสักนิด เจ้านายของเจ้าเลี้ยงดูเจ้าเป็นลูกสาวอย่างนั้นรึ?” หญิงสูงศักดิ์แปลกใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง แม้แต่อัศวินหนุ่มด้านข้างก็แปลกใจมาเช่นกัน
“ก็…คล้ายๆแบบนั้นเจ้าค่ะ” แอนเน่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรว่าภามเลี้ยงดูตัวเธอแบบไหน แต่ชีวิตของเธอนั้นมีความสุขมาก มากเกินคาดหมายตั้งแต่วันแรกที่ได้ไปอยู่ที่ฟาร์มในวันนั้น
แต่ในใจของผู้ใหญ่ทั้งสามตรงหน้าเด็กน้อย ไม่ได้คิดว่าเจ้านายของแอนเน่จะเลี้ยงดูเธอเพื่อเป็นลูกสาว แต่มีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝง ซึ่งเหล่าผู้มีอันจะกินทั้งหลายก็มีหลายคนที่เลี้ยงดูทาสหญิงบางคนให้ดีกว่าคนอื่นๆ เพื่อจะนำมาเป็นนางบำเรอเมื่อเข้าสู่วัยสาว
เรื่องที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับแอนเน่ไม่ใช่เรื่องที่เธอเป็นทาสแล้วถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่เหตุผลที่ฮานผู้นำของกลุ่มโอเมก้ารับตัวเธอมาเป็นลูกศิษย์คนแรกต่างหากที่น่าสนใจ เพราะตัวชายชราที่เป็นจอมเวทย์มากฝีมือ แต่กลับเลือกทาสคนหนึ่งมาฝึกฝน สิ่งนี้ต้องมีความหมายบางอย่างแน่นอน
“ท่านฮาน ท่านที่เป็นถึงจอมเวทย์ชั้นสูงแต่เลือกนางมาเป็นลูกศิษย์ แสดงว่าแม่หนูคนนี้มีอะไรที่พิเศษมากสินะเจ้าคะ?” ท่านหญิงมีน่าถามอย่างสนใจ
“ฮ่าๆๆ แน่นอน” ฮานหัวเราะออกมาด้วยความยินดี
MANGA DISCUSSION