ภายในห้องทำงานของภามที่บริษัทแม็กซิมัส ชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่บนเก้าอี้คนละตัวด้วยความสงบเรียบร้อย ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นหญิงสาวผมขาวยาวมัดหางม้า ในชุดหนังสีดำที่มีแจ็คเก็ตหนังสีดำคลุมอีกชั้น เธอกอดอกพร้อมจดจ้องไปที่ชายหนุ่มทั้งสอง ด้วยสายตาอำมหิตอย่างกับอยากจะกินเลือดกินเนื้อ
“อะแฮ่ม! เอาล่ะถึงแม้ว่าการเดินทางด้วยประตูมิติที่น่าเหลือเชื่อนั่นจะสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจุดประสงค์ของมันก็เพื่อประหยัดเวลาใช่ไหมล่ะ และตอนนี้พวกท่านก็กำลังทำให้ข้าเสียเวลา…มากๆ เพราะฉะนั้นพวกเรามาเข้าเรื่องธุระกันเถอะ เริ่มด้วยการเคลื่อนไหวของเดเมียน กลาเซียในฮาเวสตี้” หญิงสาวกล่าวเปิดสนทนาออกมายืดยาว เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของบทสนทนาในครั้งนี้
“อืม…เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญมากอย่างที่เจ้าบอกนั่นแหละนะสเตล่า เพราะอย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้เข้าควบคุมการปกครองเมืองฮาเวสตี้ไว้เกือบสมบูรณ์แล้ว ซึ่งทำให้การขายผลผลิตของข้าต้องหยุดชะงักโดยปริยาย เหลือก็แต่เพียงไวน์เท่านั้นที่ยังให้ตัวแทนของวีตาเร่มารับไปได้อยู่” ภามกล่าวเห็นด้วยกับเลขาสาวของครูใหญ่
“แต่ตอนนี้ทางร้านไวน์วีตาเร่ก็ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ข้าก็แปลกใจอยู่อย่างหนึ่งคือพวกมันไม่ได้เข้ามาหาเรื่องที่ร้านเลยแม้แต่น้อย และปล่อยให้ข้าขายของได้ตามปกติ ส่วนที่บ้านเกิดข้าท่านพ่อก็ส่งจดหมายมาบอกว่าทุกราบรื่น พวกมันไม่ยุ่งเกี่ยวกับกับธุรกิจของเราเลย” ฮาคิมอธิบายสถานการณ์ของตัวเองออกมาบ้าง ซึ่งมันก็น่าแปลกที่ตระกูลวีตาเร่ที่เป็นคู่แข่งกับโอเมก้ามาตลอดกลับยังคงรอดปลอดภัย
“เอ๋? นี่ข้ายังไม่ได้บอกพวกท่านเหรอ เรื่องที่องค์จักรพรรดิทรงพอพระทัยในซีเคร็ต บล็องค์มากน่ะ ทรงเสวยพร้อมกับอาหารแทบทุกมื้อเลยทีเดียว แถมยังเรียกตัวหัวหน้าตระกูลวีตาเร่เข้าเฝ้าเพื่อตบรางวัลอีกด้วย” อัศวินหญิงแห่งโรงเรียนเวทมนตร์เล่าเรื่องสำคัญออกมา
เมื่อสเตล่าพูดออกมาอย่างนี้ ทั้งภาม และฮาคิมที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนก็ได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความงง เพราะนั่นก็หมายความได้อย่างเดียวว่า องค์จักรพรรดิทรงชื่นชอบไวน์ของตระกูลวีตาเร่ ทำให้พวกโอเมก้ายังไม่เคลื่อนไหวใดๆเพื่อกดดันทางการค้านั่นเอง แต่เรื่องราวมันจะเรียบง่ายเพียงนั้นจริงหรือ?
“อืม…จดหมายจากท่านพ่อที่จะพูดถึงเรื่องนี้คงจะมาถึงในสัปดาห์หน้า ก็ดีที่ได้รู้เรื่องนี้ก่อน แต่เพียงแค่นี้ไม่น่าส่งผลถึงการดำเนินการของโอเมก้าได้ เจ้าพอมีเบาะแสอย่างอื่นอีกหรือไม่?” ฮาคิมรู้สึกสะกิดใจว่าเรื่องนี้คงต้องมีเบื้องหลังมากกว่ารับสั่งทั่วไปขององค์จักรพรรดิเป็นแน่
“แน่นอนว่ามีเบื้องหลังมากกว่านั้น เพราะในท้องพระโรงวันนั้นหลังจากที่องค์จักรพรรดิตรัสชื่นชมรสชาติไวน์ด้วยความพอพระทัยอย่างยิ่ง ดยุคอีธาน เกลเลียนก็ได้พูดถึงสถานที่ผลิตไวน์นี้ขึ้นมาว่ามันไม่ใช่ที่หมู่บ้านวีตาเร่ในภาคกลาง แต่มันคือเทือกเขาแม็กซิมัสในการดูแลของเมืองฮาเวสตี้ เมืองหลักของแดนตะวันออกยังไงล่ะ” สเตล่าเล่าอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
“หมายความว่าพระองค์จะเสด็จมาทอดพระเนตร หรืออะไรยังไง ก็รีบพูดมาเถอะ” ภามที่ลุ้นอยู่ด้วยความกังวล ว่าจะต้องเตรียมแผนรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็ถามเร่งหญิงสาวผมขาวทันที
“ไม่ใช่ๆ เรื่องราวไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้น เพียงแต่มันสามารถหยุดยั้งพวกโอเมก้าที่จะบุกรุกเข้าไปที่ฟาร์มได้ยังไงล่ะ เมื่อฝ่าบาททรงทราบว่าไวน์ชั้นดีเป็นของตระกูลวีตาเร่ ก็ทรงสั่งซื้อเข้าวังทันทีด้วยสัญญาระยะยาว เรียกได้ว่าพวกเจ้าต้องส่งซีเคร็ตบล็องค์เข้าวังจนถึงปีหน้าเป็นอย่างน้อยนั่นแหละ” กล่าวจบสเตล่าก็ยกชาขึ้นมาจิบทีหนึ่ง เพราะต้องเล่าเรื่องอย่างละเอียด
เมื่อเลขาสาวเล่ามาจนถึงตรงนี้ สองหนุ่มก็เข้าใจได้ในทันทีว่าหากกลุ่มโอเมก้า และตระกูลกลาเซียร่วมมือกันเข้ายึดฟาร์มลึกลับ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีก เพราะแม้จะได้สุดยอดพื้นที่เพาะปลูก แต่ก็ไม่อาจหมักบ่มไวน์ซีเคร็ตบล็องค์ออกมาได้ แถมยังอาจโดนฟ้องร้องจากตระกูลวีตาเร่พร้อมกับตระกูลเกลเลียนด้วยเช่นกัน
“ถ้าอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่เราจะได้ไม่ต้องกังวลกับการบุกโจมตีฟาร์มไปอีกนานสินะ ว่าแต่นี่คงไม่ใช่เรื่องสำคัญที่เจ้าจะมาคุยในวันนี้ แล้วมันคือเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” ภามโล่งอกได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่กลัวว่ากองทัพใดจะเข้าโจมตีฟาร์มของตัวเอง เพราะด้วยที่ฟาร์มอยู่ในห้วงมิติพิเศษ หาไม่บังเอิญเหมือนที่พวกสัตว์ป่าหลุดเข้ามา ก็ไม่มีทางเลยที่จะเข้ามาพร้อมกันได้เกินหนึ่งคนแน่นอน
“เรื่องที่จะคุยในครั้งนี้ก็คืออยากให้พวกเจ้าช่วยเหลือดยุคเรโคลเต้ ให้กลับมาเป็นเจ้าเมืองที่มีอำนาจปกครองอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ตระกูลเรโคลเต้ไม่ได้มีเพียงแค่ที่เห็นนี้หรอกนะ พวกเขายังมีสายสัมพันธ์ทางการเมือง และการค้าอีกมากมายนัก เพียงแต่เจ้าเมืองไม่มีความสามารถพอเท่านั้นเอง” สเตล่ากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลำบากใจเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเรื่องราวความขัดแย้งของชายหนุ่มทั้งสองกับเจ้าเมืองเป็นอย่างดี
“แล้วถ้าเราช่วยเหลือเขา มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? แม้ว่าข้าจะไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทนจากเขา แต่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าเมืองแทนจะไม่ดีกว่ารึไง? ข้าคิดไม่ออกเลยว่าหากเขากลับมาปกครองเมือง เมืองฮาเวสตี้จะดีขึ้นไปกว่านี้ได้เหรอ?” ภามกล่าวถามออกมาตามตรง เพราะเรื่องราวมากมายที่เจ้าเมืองมาเอลได้ทำเอาไว้ ส่งผลถึงตัวภามในหลายๆด้านทั้งทางตรง และทางอ้อม
สเตล่าที่ได้ยินคำถามนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร แต่หญิงสาวก็มีคำตอบไว้อยู่แล้ว เพราะเรื่องราวในครั้งนี้มันสำคัญเกินกว่าใครจะคาดคิด และเธอจะต้องทำมันให้สำเร็จ
“เรื่องนี้เป็นความคิดของครูใหญ่เอง และดยุคเกลเลียนเป็นคนช่วยวางแผนด้วย เอาเป็นว่าคุ้มค่าที่จะทำเรื่องนี้แน่นอน รวมทั้งยังเป็นการกำจัดอำนาจของโอเมก้า และตระกูลกลาเซียไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไม่เข้าโจมตีตรงๆอยู่แล้ว เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เปรียบเรื่องไวน์…” เลขาสาวเริ่มเล่าแผนการ และความเป็นมาต่างๆออกมา
สถานการณ์ภายในเมืองฮาเวสตี้ตอนนี้ย่ำแย่กว่าที่ผ่านมามาก เพราะกองทัพจากตระกูลกลาเซียได้เข้ามาประจำการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเมือง แทนกองทหารจากตระกูลเรโคลเต้ ส่วนพวกทหารเดิมก็ไปประจำอยู่สองที่คือกำแพงเมือง และที่ทำการเจ้าเมืองเท่านั้น
แม้ว่าจะไม่มีการขัดขืนจากชาวเมือง หรือทหารดั้งเดิมของเมืองเลยเพราะพวกเขาสิ้นศรัทธาในดยุคมาเอลไปแล้ว แต่แน่นอนว่าตระกูลกลาเซียที่กระหายอำนาจบวกกับความโลภของฮาเซลผู้นำของโอเมก้า ทำให้ประชาชนไม่กล้าออกจากบ้านเพราะกลัวการรีดไถ หรือการจับกุมโดยไม่มีความผิด
ซึ่งทำให้ภายในเมืองไม่เกิดการซื้อขาย เหล่าพ่อค้าแม้ค้าจึงจำเป็นต้องขายของให้กับฮาเซลในราคาถูกเท่านั้น สมาคมการค้าแห่งฮาเวสตี้ก็ไม่อาจค้านอำนาจได้อีกต่อไป เพราะมีทหารกลาเซียคอยกดดันอยู่อีกทาง
แม้แต่กลุ่มอำนาจอีกสามแห่งก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ มหาวิหารซันไลท์เป็นที่แรกที่เดเมียน กลาเซียเข้าไปเจรจาด้วย แม้ทางท่านคาดินัล(ตำแหน่งผู้นำมหาวิหาร)จะไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของดยุคเรโคลเต้ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขวางอย่างชัดเจน ส่วนไฮพาเลซก็นิ่งเฉยไม่สนับสนุน และไม่ขัดขวางใดๆ
และสถาบันพัฒนาเวทมนตร์ลูนาซองค์ก็ไม่ยอมรับในการกระทำของเดเมียนอย่างแน่นอน แต่ครูใหญ่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปเช่นกัน ส่วนเหตุผลของทางครูใหญ่ก็ชัดเจนในรูปแบบของสถานศึกษา พวกเขาจะไม่เข้าร่วมกับความขัดแย้งใดๆ แต่ที่จริงก็เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมจอมเวทย์จากทั่วทั้งจักรวรรดิกาลอเรีย
จอมเวทย์ผู้เก่งกาจจากหลากหลายตระกูล จากหลากหลายฝ่ายมาเป็นอาจารย์สอนวิชาอยู่ที่ลูน่าซองค์ หากโรงเรียนเลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ภายในสถาบันตัวเองย่อมต้องเกิดการแตกแยกจากภายในแน่นอน สำหรับครูใหญ่แล้วโรงเรียนควรจะเป็นแหล่งความรู้ และที่พักพิงของผู้เดือดร้อนมากกว่า
“ที่พักพิงของผู้ที่เดือดร้อน อย่างนั้นเหรอ?” ภามถามย้ำกับสิ่งที่สเตล่าเล่ามาอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION