เวลาหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้บริษัทขนส่งแม็กซิมัสได้เปิดทำการวันแรก ภามจึงได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆขึ้นมา โดยมีเหล่าพ่อค้าประชาชนในเมืองฟลอริสตี้มาร่วมงานเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่คนเหล่านี้ก็คือสมาชิกในกลุ่มพันธมิตรโลเลี่ยนนั่นเอง
เพราะว่านี่เป็นงานเลี้ยงอย่างไม่เป็นทางการ ภามจึงเลือกชวนเฉพาะเหล่าคนที่เขาสนิท และได้เจรจาทางธุรกิจไว้แล้วเท่านั้น ส่วนงานฉลองอย่างเป็นทางการชายหนุ่มคาดตั้งใจจะจัดขึ้นในเดือนหน้า เขาต้องการจัดการปัญหาต่างๆให้เข้าที่เข้าทางเสียก่อนจึงจะเปิดตัวกับฝ่ายตรงข้ามได้
แม้ว่าภายในงานเลี้ยงในสนามหญ้าหน้าบ้านพักในเขตโกดังของบริษัท จะมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง และมีแต่คนรู้จัก ภามก็ยังไม่คลายการระวังตัวแม้แต่น้อย เพราะเขาได้รับรู้มาจากนักฆ่าที่มังกรน้อยจับตัวไว้แล้วว่ามีไส้ศึกแฝงตัวอยู่ในกลุ่มพันธมิตรโลเลี่ยน การกระทำทุกอย่างจึงต้องเป็นไปอย่างรัดกุม
“สวัสดีเจ้าค่ะท่านภาม เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านได้เชิญข้ามาในงานเลี้ยงวันนี้” เจ้าของกิจการที่อยู่ในชุดสูทภูมิฐานหันกลับไปมองหญิงสาวที่เอ่ยทักทายตน เธอมีเส้นผมสีน้ำเงินมัดมวยไว้ด้านหลัง ด้วยชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงินสดนั้นขับให้ความงดงามเด่นชัดขึ้นมาเตะตาผู้คน
“เป็นเกียรติของข้าเช่นกันขอรับ ที่คุณหนูเนลล่า แห่งตระกูลอินดิโก้ให้เกียรติรับเชิญมาในงานเลี้ยงครั้งนี้ เป็นอย่างไรบ้างท่านชอบอาหาร และดนตรีในวันนี้รึเปล่า?” ภามกล่าวถามด้วยความสุภาพ ชาวไร่ในวันก่อน เพียงเปลี่ยนการแต่งกายใหม่ก็กลายเป็นพ่อค้าผู้มั่งมีดูดีไปในทันที
“ข้าชอบไวน์มาก ไม่นึกเลยว่าท่านจะสามารถหาของหายากอย่างซีเคร็ทบล็องที่เหล่าขุนนางต่างต้องเข้าคิวจับจองมาเลี้ยงพวกเราได้ในวันนี้ ดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่ใช่เศรษฐีใหม่ธรรมดาที่ไร้ชื่อเสียงสินะเจ้าคะ ข้าอยากรู้จริงๆว่าท่านทำอย่างไรถึงหาซื้อมันมาได้ ทั้งที่ไม่ใช่ขุนนางชั้นสูง?” หญิงสาวจากตระกูลแม่ค้ากล่าวถามออกมาด้วยความสนใจใคร่รู้
“เอ๋? นี่ท่านถามข้าตรงๆเลยงั้นรึ? ไม่คิดว่านี่คือความลับของธุรกิจของข้าหรืออย่างไร?” ภามรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่จู่ๆแม่ค้าสาวก็ถามเขามาตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
หลังจากได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่ม หญิงสาวก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เหมือนว่าเธอจะลืมตัวไปว่าเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรถามออกไป หากไม่ใช่ธุระสำคัญจริงๆ ซึ่งภามเองก็ไม่ได้ถือสาอะไรอยู่แล้วด้วยเห็นว่าแก้วไวน์ในมือของหญิงสาวนั้นว่างเปล่า สิ่งนี้ยืนยันได้ว่าเธอชอบมันจริงๆ
“เอาเป็นว่าหากคุณหนูชอบไวน์นี่จริงๆ ข้าก็สามารถมอบให้ท่านเป็นของขวัญได้สักขวดสองขวดนะขอรับ แต่หากต้องการเจรจาซื้อขายกันก็คงต้องขอให้คุณหนูรอก่อน เพราะตอนนี้อย่างที่รู้ๆกันซีเคร็ทบล็องนั้นแทบจะผลิตไม่ทันอยู่แล้ว แม้ว่าข้าจะรู้จักกับผู้ผลิตก็เถอะ” พ่อค้าหน้าใหม่เสนอของขวัญเล็กๆน้อยๆ พร้อมกับปล่อยเหยื่อล่อลูกค้าออกมา
“เอ๋! จริงหรือเจ้าคะที่ท่านภามรู้จักกับตระกูลวีตาเร่?” เนลล่าโพล่งเสียงตื่นเต้นทันที เมื่อรู้ว่าเจ้าของกิจการขนส่งรู้จักผู้ผลิตสินค้ายอดฮิตที่สุดในตอนนี้
“ฮ่ะๆ แน่นอนว่าใครๆก็รู้จักกิจการผลิตไวน์ของตระกูลวีตาเร่ แต่ข้านั้นทำธุรกิจกับสาขาเมืองฮาเวสตี้มาสักพักแล้วก็พอจะคุ้นเคยกับท่านฮาคิมผู้ดูแลกิจการที่นั่นอยู่บ้าง หรือแม้แต่คุณหนูมีอาผู้ทำหน้าที่ดูแลการเพาะปลูก และการผลิตซีเคร็ทบล็องข้าก็รู้จักเช่นกัน” ชายหนุ่มได้เล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเจ้าของกิจการคนสำคัญ แม้ว่าเขาจะสนิทสนมกับทั้งสองมากกว่าที่บอกไป แต่การโม้มากเกินไปก็ดูไม่น่าเชื่อถือแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
ยิ่งชายหนุ่มเล่าเรื่องเกี่ยวกับการทำธุรกิจกับตระกูลวีตาเร่มากขึ้นเท่าไร แขกรอบด้านก็หูผึ่งเข้ามาฟังด้วยมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนในกลุ่มพันธมิตรโลเลี่ยน ที่รวมกลุ่มกันเพื่อโค่นล้มกลุ่มโอเมก้า แต่คนส่วนใหญ่ที่มาก็ล้วนเป็นพ่อค้า และช่างฝีมือ จึงมีความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจเป็นพิเศษ
แม้แต่ทีเรียนที่สนิทกับภามอยู่แล้วยังเข้ามายืนฟังอย่างตั้งใจ อาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นบาร์เทนเดอร์จึงมีความสนใจเกี่ยวกับเครื่องดื่มเป็นพิเศษนั่นเอง ส่วนลูแชงค์ที่มีชื่อเสียงนั้นก็ช่วยต้อนรับคุยกับแขกในงาน ทีโอเรียก็ไปเป็นเด็กเสิร์ฟไวน์
มีเพียงแค่เรญ่าเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่เดิมของเธอ ผู้คุ้มกันในเงามืด แต่ไม่ใช่การคุ้มกันเจ้านายของเธอที่มีพลังดุจดั่งสัตว์ประหลาด เพราะครั้งนี้ภามได้คาดการณ์เอาไว้ว่าไส้ศึกภายในพันธมิตรโลเลี่ยนจะต้องเข้ามาหาข้อมูลผลึกเวทย์ที่นี่แน่ๆ เขาจะต้องรู้ตัวตนของคนผู้นั้นให้ได้
แม้ว่าจะไม่มีใครพูดถึงผลึกเวทย์เพราะมีคนนอกอยู่ด้วย แต่สุดท้ายแล้วการประชุมของพันธมิตรโลเลี่ยนก็จะเริ่มขึ้นในช่วงเย็นที่นี่อยู่ดี และเมื่อถึงเวลานั้นทุกคนก็ต้องพูดถึงการนำผลึกเวทย์ขึ้นมาอย่างแน่นอน ส่วนสำหรับคำตอบนั้นภามเองก็ได้เตรียมตัวเอาไว้แล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการดำเนินการในวันนี้อดีตทหารจากต่างโลก ก็ไม่ได้ประมาทด้วยการใช้คนเพียงเล็กน้อยของฟลอริสตี้เท่านั้น เมื่อมีประตูมิติเป็นของตัวเองแล้วเขาก็ต้องใช้งานมันให้คุ้มค่า และสำหรับชาวเมืองฟลอริสตี้แล้ว พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆที่ภามได้จัดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ณ ห้องทำงานชั้นสองของตึกสำนักงาน หญิงสาวทั้งสามคนกำลังมองลงมาที่สนามหญ้าจากหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดอยู่ พวกเธอจดจ้องไปยังเนลล่า อินดิโก้ ผู้ที่กำลังพูดคุยกับเจ้าของโกดังหนุ่มอย่างออกรส ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่ค้าผ้าจากแดนใต้ผู้นั้นกำลังเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่มอยู่นั่นเอง
“นี่ถ้าไม่ใช่ว่าข้าต้องปกปิดตัวตน ไม่มีทางหรอกนะที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้เข้าใกล้ท่านภามแน่” หญิงสาวผมแดงดวงตาแทบจะลุกเป็นไฟ เมื่อต้องเห็นผู้ชายที่ตัวเองชอบถูกเกาะแกะโดยสาวสวยจากต่างแดน
“ใจเย็นหน่อยสิวานีล พวกเราล้วนเป็นอาวุธลับของท่านภาม ไม่ว่าอย่างไรก็จะเผยตัวไม่ได้” แม้ว่าทั้งน้ำเสียง และท่าทางของหญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนจะฟังดูปกติเมื่อกล่าวเตือนเพื่อนด้านข้าง แต่ทั้งแววตาที่อำมหิต และหมัดที่กำแน่นเมื่อเห็นภาพบาดตาด้านล่างก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่ง
“ข้าว่าทั้งเจ้ามีอา และวานีลไปนั่งลงดื่มชาสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ พวกเราต้องเตรียมตัวรับมือศัตรูตลอดเวลา หากคนของเราที่ปลอมตัวเป็นคนงานในงานเลี้ยงให้สัญญาณจะได้จัดการได้ทัน” หญิงสาวผมดำกล่าวเตือนเพื่อนทั้งสองคนให้สงบใจ แต่ตอนนี้ตาซ้ายของเธอก็กระตุกไม่หยุดกับความตึงเครียดที่จ้องมาไปยังคุณหนูชุดน้ำเงินด้านล่างเช่นกัน
“พอเลยบีดีเลียหน้าเจ้าดูไม่ได้ยิ่งกว่าข้าอีก เจ้าคงอยากจะลงไปฉีกหน้าลูกสาวพ่อค้าขายผ้าคนนั้นแล้วสินะ ท่านภามน่ะคุยกับนางก็เพราะต้องการขายของเท่านั้นแหละ ยังไงเขาก็ไม่สนใจนางอย่างแน่นอน” วานีลหันมามองเพื่อนสาวอย่างรู้ทัน
และก่อนที่ทั้งสามสาวจะเถียงกันไปมามากกว่านี้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน
“เข้ามาสิ” มีอาผู้ที่มีสติ และสุขุมมากที่สุดหันไปกล่าวกับคนหน้าประตูอย่างรวดเร็ว
“เอิ่ม…พวกท่านเป็นอะไรรึเปล่าขอรับ?” ชายหนุ่มผมแดงเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ต้องประหลาดใจกับสายตาแปลกๆ ที่หญิงสาวสามคนที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างหันมองมา มันทำให้เขารู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
“เดนิสมีอะไรก็รีบพูดมาสิ” วานีลผู้เป็นพี่สาวกล่าวถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด
“คือ…เหมือนจะมีคนทำตัวลับๆล่อๆเข้ามาในเขตโกดังขอรับ เรญ่ากับแอดเลอร์กำลัง…” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะกล่าวต่อเขาก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวทั้งสามรีบวิ่งผ่านเดนิสลงไปที่ชั้นล่างทันทีโดยไม่รีรอให้เขาพูดจบก่อน
MANGA DISCUSSION