ณ มิติร้านค้าของพระเจ้า ในห้องบัญชาการรบที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกใส ภามที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ถึงสามจอ เขากำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวงแหวนเวทย์เคลื่อนย้ายอยู่ เขาต้องการสร้างเพิ่ม และสามารถให้คนอื่นได้ใช้ด้วยเช่นกัน
แม้ว่าในโลกแห่งนี้จะมีจอมเวทย์ และรูปแบบคาถาอาคมมากมาย แต่เวทมนตร์ระดับสูงก็ไม่ได้ใช้งานง่ายนัก รวมทั้งคนธรรมดาก็ไม่อาจจะใช้งานพวกมันได้เลยแม้แต่น้อย
วงแหวนเคลื่อนย้ายชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ภามจะต้องสร้างขึ้นมาอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ แม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของพวกตน แต่ถ้ามันตกไปอยู่ในมือของศัตรูล่ะก็ฟาร์มของเขาอาจจะถูกโจมตีในทีเผลอเลยก็ว่าได้ ชายหนุ่มจึงต้องใส่เงื่อนไขพิเศษ และระดับรักษาความปลอดภัยต่างๆเข้าไปด้วย
‘ตามแผนการเราจะต้องส่งคนไปประจำตามเมืองต่างๆ แล้วใช้วงแหวนเคลื่อนย้ายเป็นเครื่องมือในการขนส่งสินค้าที่รวดเร็ว ซึ่งเราคงจะหานักเวทย์จำนวนมากมาทำงานแบบนี้ไม่ได้แน่นอน ต้องทำให้อุปกรณ์พวกนี้คนธรรมดาก็ใช้ได้ แต่ต้องเป็นเฉพาะพนักงานบริษัทเท่านั้น’ เจ้าของกิจการหน้าใหม่กำลังใช้โปรแกรมออกแบบอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นเครื่องมือชิ้นหนึ่งจากทั้งหมดที่พระเจ้าโลลิผมม่วงมอบให้
ขนาดของวงเวทย์ และประเภทการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อคิดถึงว่าเขาจะเปิดบริษัทขนส่งแล้วนอกจากจะขนสินค้าแล้ว ยังต้องมีงานรับจ้างขนส่งคนเดินทางอีกด้วย เพี่อไม่ให้ความลับเรื่องวงเวทย์รั่วไหล อย่างไรทำรถม้าเพิ่มด้วยก็น่าจะเป็นการดี และรถม้านั่นก็ต้องไม่ธรรมดาอีกเช่นกัน
แต่ก่อนที่จินตนาการของภามจะฟุ้งมากเกินไป เขาจึงตัดสินใจเริ่มสร้างผลงานต้นแบบขึ้นมาก่อน หลังจากที่ออกแบบเสร็จก็เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบก่อนการผลิต โปรแกรมจะประเมินราคาวัตถุดิบที่ต้องจ่าย และไม่กี่วินาทีรายการก็ขึ้นมาบนหน้าจอ
วัตถุดิบที่ใช้ในการสร้าง ‘วงแหวนเวทย์เคลื่อนย้าย No. 7’
20 เหรียญทอง
ไวน์แดง 1 ถัง
มีดอาคม 1 เล่ม
อัญมณี 5 เม็ด
มานา 100 หน่วย
เมื่อเห็นรายการตรงหน้าภามก็ได้แต่อึ้งไป นั่นเป็นเรื่องธรรมดาเพราะราคาที่ต้องจ่ายครั้งนี้ไม่ใช่น้อยเลยสักนิด แต่หลังจากพิจารณาไปได้สักครู่เกษตรกรหนุ่มก็เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่าง และพอจะยอมรับราคาที่ต้องจ่ายนี้ได้
‘ของ 5 อย่างนี้เป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้าในดาวห้าแฉกที่เป็นวงแหวนเวทย์พื้นฐานสินะ ด้วยคุณสมบัติของวงแหวนเคลื่อนย้ายเบอร์ 7 ใช้ของแค่นี้ก็ถือว่าไม่แพงแล้ว แต่เราต้องสร้างอีกหลายชิ้นนี่สิ เฮ้อ! ทำธุรกิจนี่มันลงทุนสูงเหมือนกันนะ’ หลังจากบ่นในใจเสร็จภามก็ออกจากมิติร้านค้าของพระเจ้า เพื่อไปนำวัตถุดิบต่างๆกลับมาสร้างวงแหวนเคลื่อนย้ายอีกทีหนึ่ง
อีกด้านหนึ่ง ณ เมืองฮาเวสตี้ หญิงสาวผมดำยาวสวมผ้าคลุมผมสีขาว กำลังเดินไปตามถนนอันเงียบเหงาเพียงลำพัง สองมือของเธออุ้มตะกร้าสานใบใหญ่ปิดฝามิดชิดใบหนึ่ง ที่ด้านในมีขนมปังสามสี่แผ่น และมีด 1 เล่ม มันไม่ใช่มีดตัดขนมปัง แต่มันคือมีดสังหาร ผู้หญิงคนนี้ก็คือเรญ่า
เป็นเวลาเกือบ 3 วันแล้วที่เธอติดตามเหล่านักฆ่าของฮาเซลกลับมาที่เมืองฮาเวสตี้ แม้ว่าแต่ละคนจะแยกย้ายกันไปกบดานในที่ต่างกัน บางคนอยู่ในเมือง บางคนอยู่นอกเมือง แต่เรญ่าก็สามารถหาที่อยู่ของทุกคนได้อย่างไม่ยากเย็นเพราะอยู่ในทีมเดียวกันมาก่อน
หญิงสาวเดินเลี้ยวเข้าตรอกซอกซอยมากมายจากเมืองรอบนอกเขตตะวันออก ไปจนถึงเขตทิศใต้ซึ่งเป็นย่านสลัมของเมืองนี้ ตลอดระยะทางที่มานี้เรญ่าแทบไม่ได้ตัดผ่านถนนใหญ่เลย นั่นเพราะความชำนาญเส้นทางในเมืองฮาเวสตี้เป็นอย่างดี จนในที่สุดเธอก็มาถึงที่หมาย
บ้านโทรมๆหลังเล็กที่รังคารั่วมานานตรงหน้าดูรกร้างเหมือนจะไม่มีคนอยู่ แต่กลับมีควันออกมาจากปล่อง พร้อมกับกลิ่นซุปหอมกรุ่นที่ลอยโชยออกมา เรญ่าเคาะประตูหน้าบ้านตามมารยาท แสดงให้เห็นว่าเธอต้องการสนทนากับเจ้าของบ้านนั่นเอง และไม่นานก็มีคนมากเปิดประตู
“มาแล้วขอรับ! ขออภัยที่มาช้า ข้ากำลังทำอา….” ชายอ้วนออกมาเปิดประตูพร้อมกับพูดไม่หยุด ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในกลุ่มนักฆ่านั่นเอง และเมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือนแล้วเขาก็ถึงกับชะงักไปทันที
“ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย ขอเข้าไปข้างในนะ” ผู้มาเยือนกล่าวด้วยน้ำเสียง และสีหน้าเย็นชาจากนั้นก็เดินเข้าบ้านไปโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ได้อนุญาตแม้แต่น้อย
“อะ…เอ่อ เรญ่า! ข้านึกว่าเจ้าตายไปแล้ว เจ้ารอดจากเจ้าป่ามาได้ยังไงกัน?” ชายอ้วนรีบปิดประตูแล้วหันมาถามหญิงสาวทันทีด้วยความรีบร้อนสับสน
“ข้าหลบอยู่บนต้นไม้เหนือหัวของมัน เมื่อมันมองไม่เห็นข้า ด้วยความโมโหมันก็เลยตามพวกเจ้าไป ไม่ใช่พวกเจ้าสิ แต่เป็นเจ้าแค่คนเดียวดอม” หญิงสาวนั่งบนเก้าอี้โดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ได้เชื้อเชิญแม้แต่น้อย และบนตักของเธอก็ยังกอดตะกร้านั้นไว้แน่น
“ฮ่ะๆๆ เจ้านี่ตาดีจริงๆนะกลางป่ามืดขนาดนั้นยังเห็นได้” ชายอ้วนผมสั้นเกาหัวของตนด้วยความอายเล็กน้อย
“ช่างเถอะ มาเข้าเรื่องกันก่อน ข้าอยากรู้ข้อมูลของนักฆ่าที่ส่วนกลางส่งมา เจ้าบอกข้าหน่อยสิ” เรญ่ากล่าวถามตามตรงโดยไม่สนใจสีหน้าลำบากใจของดอมเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ…คือเรื่องนี้นายท่านให้เป็นความรับผิดชอบของข้าเพียงคนเดียว เกรงว่าข้าจะบอกเจ้าไม่ได้ แหะๆ” ชายอ้วนเริ่มหน้าซีดลงแล้ว แต่เขาก็ยังอ้างหน้าที่ความรับผิดชอบขึ้นมา เพื่อไม่ให้หญิงสาวได้ถามต่อ ถึงแม้ว่าเขาจะค่อนข้างกลัวหัวหน้าหน่วยตรงหน้าตัวเองก็ตาม
“ถ้าข้าถามนายท่านได้ข้าคงไปถามแล้ว แต่เรื่องนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ตอนนี้ศัตรูรับรู้การมาถึงของพวกเขาแล้ว เราจะต้องเตือนพวกเขาไม่อย่างนั้นแผนการอาจล้มเหลวได้ เมื่อถึงตรงนั้นเจ้าคงรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ!” เรญ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ที่เมื่อดอมได้ฟังแล้วถึงกับขนหัวลุก
ยามเย็นมาถึงฟาร์มในหุบเขาลึกลับอีกครั้ง ด้านข้างโกดังเก็บสินค้าปรากฏสิ่งก่อสร้างแปลกประหลาดขึ้น มันเป็นลานซีเมนต์ยาว 10 เมตร กว้าง 5 เมตร ที่ปลายสุดทางของลานมีซุ้มหินโค้งสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ บนก้อนหินเหล่านั้นเต็มไปด้วยร่องรอยของอักขระเวทมนตร์ที่สลักไว้จนเต็มไปหมด
หลายคนในฟาร์มเข้ามายืนล้อมรอบเพื่อชื่นชมประตูมิติที่ภามเป็นออกแบบ และสร้างขึ้นในพริบตา ถึงแม้ว่าเบื้องหลังการทำงานนี้จะใช้เวลาไปหลายชั่วโมง แต่ก็ถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับจอมเวทย์อื่น แต่ด้วยราคาที่สูง เขาจึงสร้างเพียงซุ้มประตูหินเท่านั้น ส่วนลานซีเมนต์ก็เป็นพวกอลันที่มาเทฉาบปูนทีหลัง
“พี่มีอา เราจะลองใช้มันเลยได้หรือไม่ขอรับ” เป็นอามินที่รู้สึกตื่นเต้นจนต้องกล่าวถามออกมา
“ได้สิ แต่มันจะไปได้เฉพาะวงแหวนเวทย์ที่เชื่อมต่อเวทย์เอาไว้เท่านั้นนะ และในตอนนี้ก็มีอยู่เพียงที่เดียวที่ไปได้ นั่นก็คือที่ถ้ำใต้น้ำตก ต่อไปจะได้เข้าออกง่ายๆ ไม่ต้องดำน้ำเข้าไปอีกแล้ว ท่านภามกำลังติดตั้งมันอยู่ เดี๋ยวถ้าเขาออกมาจากประตูมิตินี่เราก็จะได้เห็นกันแล้วล่ะ” หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนอธิบายให้เด็กชายได้เข้าใจ ตอนนี้ในใจของเธอก็ตื่นเต้นไม่ต่างจากอามินเลย ด้วยที่เธอเป็นนักเวทย์สายประดิษฐ์ และปรุงยา จึงรู้ดีว่าการสร้างประตูวาร์ปแบบนี้มันยากเย็นเพียงใด แต่ภามกลับทำมันได้อย่างง่ายดาย
หลังจากมีอากล่าวจบเพียงครู่เดียว อักขระเวทย์รอบซุ้มประตูหินก็เรืองแสงสีฟ้า พร้อมกับที่ว่างกลางซุ้มปรากฏม่านมานาสีฟ้าที่เคลื่อนไหวไปมาดุจคลื่นน้ำกระเพื่อม รออยู่ไม่นานภามก็เดินทะลุออกมาจากม่านพลังนั้น ตามด้วยสมาชิกฟาร์มผู้ชายอีกหลายคนที่ตอนนี้ทั้งตัวเปียกปอนกันไปหมด
“สุดยอด! ข้าอยากเข้าไปบ้างได้ไหมขอรับ?” อามินวิ่งไปถามภามที่อยู่ด้านหน้า
“ฮ่ะๆ ได้สิ ลองเลยเสียแต่วันนี้ เพราะเราคงจะเดินเล่นเข้าๆออกๆประตูมิติไม่ได้บ่อยๆหรอกนะ เพราะมันมีค่าใช้จ่ายอยู่ไม่น้อยเจ้าของฟาร์มอนุญาตอามิน พร้อมกับเรียกให้คนอื่นๆที่ยืนรออยู่ลองใช้งานประตูมิตินี้ดู
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ภามรู้สึกว่าชีวิตของเขามีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นมาอีกนิด
MANGA DISCUSSION