เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ฟาร์มกลางหุบเขาลึกลับ เช่นเดิมกับทุกวันสายลมเย็นสบายอากาศอบอุ่น และท้องฟ้าแจ่มใส ภามที่ยืนจิบกาแฟอยู่บนดาดฟ้าของบ้านมองดูเหล่าเด็กๆวิ่งออกกำลังกายรอบแปลงผัก เวลาในการวิ่งของทุกคนเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก มากจนน่าตกใจ แต่นั่นก็สำหรับคนทั่วไปเท่านั้น
ภามยิ้มอย่างยินดี เขารู้สึกว่าเด็กๆของเขามีพัฒนาที่ดีมาก มากแบบก้าวกระโดด และที่พวกเขาเป็นได้แบบนี้ก็เพราะสองอย่าง อย่างแรกก็คือฟาร์มแห่งนี้คือสถานที่พิเศษซึ่งเพิ่มพลังให้กับพวกเขา อีกอย่างก็คือความพยายามของทุกคนเอง
จากนั้นเจ้าของฟาร์มก็ทอดสายตามองออกไปทั่วทั้งฟาร์มของเขา เพื่อชื่นชมบรรยากาศอันรื่นรมย์ แต่แล้วสายตาเขาก็สะดุดไปเห็นเด็กสาวคนหนึ่ง เธอที่กำลังต้อนวัวออกมาจากคอกเพื่อไปกินหญ้านั้นหยุดยืนมองคนอื่นๆที่กำลังวิ่งออกกำลังกายด้วยความสนใจ
‘จะว่าไปเบลล่าก็อายุพอๆกับเมโลเอ้สินะ อืม…ต่อไปทั้งสองคนคงจะเข้ากันได้ดี แต่เราควรจะไปคุยกับเธอสักหน่อย’ ภามรู้สึกว่าเด็กสาวผมสีน้ำตาลมีอะไรที่ยังกังวลใจอยู่ เขาจึงกระโดดลงจากดาดฟ้าเข้าไปหาเธอ
“ตุ๊บ!” สองเท้าของภามกระทบพื้นเสียงดัง และฝุ่นก็ฟุ้งขึ้นมา
“ว้าย!” เบลล่าที่ไม่รู้ตัวมาก่อนถึงกับสะดุ้งตกใจ
“อ่า…ขอโทษที ข้ารีบไปหน่อย” ชายหนุ่มรู้ผิดที่ทำให้เด็กสาวต้องตกใจโดยใช่เหตุ
“ท่านภาม…ท่านตกลงมาแรงมาก ไม่เจ็บหรือเจ้าคะ?” เบลล่ารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“ไม่นี่ ปกติข้าก็ทำแบบนี้ แต่เอาเป็นว่าวันหลังข้าจะค่อยๆเหาะลงมาช้าๆก็แล้วกัน จะได้ไม่มีใครตกใจอีก” ชายหนุ่มพูดเหมือนกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ
ตอนนี้สำหรับเบลล่าในความคิดของเธอยังรู้สึกว่าภามนั้นเป็นคนแปลกประหลาด เขาเป็นเพียงแค่เกษตรกรที่ร่ำรวยคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับคิดการใหญ่ถึงขั้นยุติสงคราม
แววตาของเด็กสาวผมสีน้ำตาลที่จ้องมองภามในตอนนี้ มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองได้ทำอะไรผิดไป ซึ่งเขาก็ยังไม่แน่ใจเพราะที่ผ่านมาคนอื่นๆในฟาร์มก็ใช้พลังเหนือมนุษย์นี้เป็นเรื่องปกติ ไม่อย่างนั้นทั้งการทำงาน และเดินทางในฟาร์มคงจะเหนื่อย และเสียเวลาน่าดูทีเดียว
“ท่านภามมีอะไรจะพูดกับข้ารึเปล่าเจ้าคะ?” เมื่อหญิงสาวตั้งสติได้เธอก็คิดว่าเจ้าของฟาร์มคงมีเรื่องจะบอกเธอจึงได้เข้ามาหาเช่นนี้
“อ้อ…ใช่แล้วล่ะ เจ้าคงสงสัยสินะว่าเด็กพวกนั้นทำอะไรกันอยู่ พวกเขากำลังออกกำลังกายนั่นคือการฝึกซ้อมประจำวันของผู้ที่จะเป็นอัศวิน และจอมเวทย์ เจ้าอยากจะฝึกซ้อมด้วยกันไหมล่ะ?” ภามหันไปถามพร้อมกับรอยยิ้มบาง เขาคิดว่าเบลล่ายังคงสับสนกับการเดินทางที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อคืนนี้
“ข้าอยากเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้ต้องการออกไปต่อสู้แบบนั้นหรอกเจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนท่านภาม” พูดจบด้วยสีหน้าเฉยชาเบลล่าก็หันจากไปต้อนวัวของเธอต่อ โดยไม่สนใจเจ้าของฟาร์มอีก
ปฏิกิริยาของเด็กสาวทำให้ภามถึงกับอึ้งไปทันที เขาไม่เคยเจอใครที่ปฏิเสธอย่างไม่ใยดีแบบนี้มาก่อน อย่างน้อยก็ตั้งแต่มาที่โลกแห่งนี้ ภามที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองได้ทำอะไรผิดไปรึเปล่า จึงได้คิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
‘หรือเพราะว่าเราพาพ่อของเธอเข้าร่วมสงครามรึเปล่า? ส่วนการที่เธอยอมมาอยู่ที่นี่ด้วยตัวเองนั่นก็คงเป็นเพราะ ไม่อยากให้พ่อลำบาก และเป็นกังวลใจด้วยสินะ’ เดิมทีภามก็มาอยู่ที่ฟาร์มแห่งนี้ด้วยความตั้งใจที่จะอยู่อย่างสงบสุข แต่สุดท้ายเมื่อสงครามเกิดขึ้น เขาก็เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีกำลังจะหยุดยั้งความสูญเสียนี้ได้ ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ต้องการผู้ช่วยที่มีความสามารถ มันจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องเข้าสู่สงครามไปโดยปริยาย
ที่โรงอาหาร ทุกคนในฟาร์มทั้งสมาชิกเก่า และใหม่มากันอย่างพร้อมหน้าทุกคน ยกเว้นก็แต่เบลล่าที่ต้อนวัวไปกินหญ้าอยู่กลางทุ่งแล้ว เช้านี้มีเสียงดังคึกคักเป็นพิเศษเมื่อแอดเลอร์ได้พบกับอลัน ทั้งสองมาจากหมู่บ้านเดียวกัน และไม่ได้เจอกันมานานเกือบปีแล้ว
รวมทั้งไซเลอร์ที่ได้เจอกับแม็กซ์ อามิน และแอนเน่ที่เคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก ความสุขได้กลับมาเยือนพวกเขาอีกครั้ง เหมือนกับว่านี่คือการต้อนรับกลับบ้านของผู้ที่เดินทางจากบ้านไปไกลแสนไกล ภามที่เห็นอย่างนั้นก็อดยิ้มขึ้นมากับตัวเองไม่ได้ เมื่อเห็นภาพความสุขที่เพื่อนเก่าได้กลับมาพบกัน
และแน่นอนว่าเจ้าของฟาร์มหนุ่มยังคงเป็นที่สนใจอยู่เสมอ สาวๆต่างก็เคลิ้มไปกับรอยยิ้มยามเผลอที่มีเสน่ห์ของเกษตรกรผู้สมบูรณ์แบบ ทั้งมีอา วานีล และบีดีเลียที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันพวกเธอเข้าไปอยู่ในจินตนาการของตัวเองไปแล้ว จะมีก็แต่เด็กสาวอย่างเมโลเอ้เท่านั้นที่กินซุปอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจใคร
หลังมื้ออาหารผ่านไปเช่นเคยที่พวกเขาจะประชุมกัน ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมเพื่อวางแผนการรวบรวมคนเพื่อมาเป็นแรงงาน และทหาร ซึ่งมีแต่เพียงกลุ่มผู้ใหญ่เท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่โรงอาหารแห่งนี้ ส่วนพวกเด็กๆก็แยกย้ายกันไปทำงานแล้ว
“ขอแนะนำสมาชิกใหม่สองท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นี่คือท่านแอดเลอร์ยอดนักธนูแห่งเมืองแอนวีน และเคยเป็นหัวหน้าหน่วยจู่โจมมาก่อน ข้าจึงให้เขาเป็นผู้ดูแลเรื่องการทหารทั้งหมด ต่อมาคือท่านเบ็นเป็นหัวหน้ากลุ่มพลโล่ เชี่ยวชาญด้านการจัดขบวนรบรูปแบบการป้องกัน เขาจะรับหน้าที่ฝึกฝนทหารเป็นหลัก” ภามเป็นผู้กล่าวแนะนำสมาชิกใหม่ให้กับกลุ่มผู้ช่วยของเขา
ส่วนคนที่เหลือก็แนะนำตัวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอดีตบารอนอองรี อดีตบารอนเนสเลนก้า อดีตอาจารย์สอนเวทมนตร์วานีล แม่ค้าไวน์มีอา อดีตหัวหน้าหน่วยเทพอัคคีบีดีเลีย หัวหน้าผู้ดูแลฟาร์มอลัน และเจ้าของฟาร์มลึกลับภาม
“เอาล่ะทุกคน วันนี้เราจะคุยกันเรื่องการรับคนเพิ่มทั้งคนทำสวน และทหาร ซึ่งเราก็จำเป็นต้องสร้างที่พักเพิ่มเช่นกัน แต่ตอนนี้เราคงต้องพูดถึงจำนวนคนที่จะรับเพิ่มก่อน องค์กรของเราจะคล้ายๆกับทหารรับจ้าง อย่างไรก็ตามข้าก็ไม่ได้ต้องการคนที่ฆ่าคนเพื่อเงิน แต่เป็นคนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนอย่างแท้จริง” แม้เริ่มต้นเจ้าของฟาร์มจะบอกว่าจะคุยเรื่องจำนวนคนที่ต้องการ แต่เมื่อต้องเชื่อมโยงไปถึงคุณสมบัติของคนก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึงอุดมการณ์ หรือวัฒนธรรมองค์กร
“เอิ่ม…ท่านภาม หากรับคนเข้ามาแล้วเรายังไม่ส่งพวกเขาไปรบ อย่างนั้นจะให้พวกเขาไปทำอะไรละขอรับ ถ้าไม่ให้ไปรับจ้างปราบโจร หรือคุ้มกันสินค้า” แอดเลอร์ถามขึ้น
“ข้าว่าก็ให้พวกเขาทำฟาร์มไปก่อนก็ได้นะ ถึงเวลาค่อยไปรบ จะได้ไม่ต้องจ้างคนเยอะด้วยไง” อลันเสนอ
“ไม่ได้ หากทำเช่นนั้นเมื่อถึงคราวต้องไปรบแล้วจะไม่เหลือคนทำฟาร์มน่ะสิ” เลนก้าแย้งขึ้น
“แต่ถ้าเราจะสร้างกองทัพจริงๆ เราก็ต้องมีคนเป็นหมื่นเลยไม่ใช่เหรอ? ที่นี่คงไม่พอรองรับ หรือว่าท่านภามจะสร้างเพียงหน่วยรบขนาดเล็ก แต่เมื่อเจอศึกใหญ่ก็คงต้องหาพันธมิตรเพิ่มแล้วล่ะขอรับ” อองรีกล่าวเสริม
“เราเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ ถ้าจะมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เราก็ต้องมีทั้งภาพลักษณ์ที่ดี เงิน และอำนาจ เหมือนกับที่พวกโอเมก้าทำ แต่จะให้ไปก่อตั้งสมาคมการค้าแข่งกับพวกนั้นก็คงต้องใช้เวลามากเกินไป” บีดีเลียวิเคราะห์จากข้อมูลที่คนอื่นกล่าวมา
“นอกจากผลผลิตที่มีคุณภาพนอกฤดูกาลที่เป็นจุดเด่นของเราแล้ว ที่นี่ยังมีนักเวทย์ และนักรบที่จะรีบเพิ่มอีกหลายคน น่าจะขยายทำกิจการอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องได้นะ” มีอาเริ่มเห็นสิ่งที่พอจะเป็นไปได้
“แต่ความสัมพันธ์ของเรากับตระกูลวีตาเร่ และโรงเรียนลูน่าซองค์ก็น่าจะช่วยเริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้ไม่ยาก” วานีลคิดถึงพันธมิตรของตน
“สรุปคือเราต้องหากิจการบังหน้าสินะ?” เบ็นสรุปจากที่ทุกคนพูด
การประชุมยืดยาวออกไปเรื่อยๆ ตามจุดประสงค์ของพวกเขาคือหยุดยั้งสงคราม แผนการจัดตั้งกองทัพนี้จะต้องละเอียดรอบคอบ สิ่งที่พวกเขาจะทำต้องไม่โดดเด่นจนเกินไป และสามารถสนับสนุนงานกองทัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บริษัทขนส่งแม็กซิมัส เปิดกิจการแล้ว” ภามกล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้มยินดี
MANGA DISCUSSION