ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูง และพระอาทิตย์ตกดิน มันเป็นภาพงดงามอันไร้ที่ติซึ่งธรรมชาติเป็นผู้สรรค์สร้างขึ้นมา และก็เป็นความงามนี้เช่นกันที่อาจทำให้คนผู้เฝ้ามองมันเกิดความเหงาขึ้นในจิตใจได้เช่นกัน
ชายหนุ่มผมแดงนั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่เพียงลำพัง ดวงตาที่จับจ้องไปยังดวงตะวันที่กำลังจะลับขอบฟ้า สีหน้าของเขานั้นแสดงออกให้เห็นถึงความโศกเศร้าจับใจ แม้ว่าในตอนนี้อาจจะมีหลายคนที่กำลังมีความสุขกับงานเลี้ยงอยู่ก็ตาม
แต่ก็เพียงไม่นานที่บุตรชายอดีตขุนนางผู้ที่กำลังหวนคิดถึงวันวานอันรุ่งโรจน์ ต้องตื่นออกจากภวังค์ความคิด ด้วยเสียงที่เรียกขานนามของเขา
“เดนิส ทำไมยังไม่ไปทานข้าวล่ะ?” ชายชรากล่าวเรียกชายหนุ่มจากด้านหลัง
“ท่านพ่อ!…คือข้ายังไม่หิวขอรับ” เดนิสหันไปตอบรับอองรีผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ไม่หิวอย่างนั้นรึ? แม็กซ์บอกข้าว่าวันนี้เจ้าฝึกเพลงดาบสำเร็จไปอีกขั้นแล้วไม่ใช่หรือไง แทนที่จะรู้สึกดีใจแต่กลับมานั่งเศร้าคิดอะไรคนเดียวแบบนี้ล่ะ หรือยังคิดถึงท่านหญิงอยู่?” อดีตบารอนเข้าไปนั่งบนก้อนหินข้างๆชายหนุ่ม พร้อมกับหันมาจ้องตาบุตรชาย
“มะ…มะ…ไม่ใช่นะท่านพ่อ ข้าไม่กล้าอาจเอื้อมไปถึงท่านหญิงอิลม่าผู้สูงศักดิ์ได้หรอก” เดนิสรีบตอบออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงไปถึงใบหู
“ฮ่ะๆๆ เมื่อก่อนเจ้าไม่เห็นจะพูดแบบนี้เลยนะ เจ้าบอกว่าจะเดินรอยตามข้าที่สามารถทำให้บุตรสาวมาควิสอย่างแม่ของเจ้าหลงรักได้ แต่เป้าหมายของเจ้าต้องสูงกว่านั้นคือบุตรสาวดยุค ข้ายังจำเรื่องนี้ได้ดีนะเดนิส” อองรีผู้เป็นบิดากล่าวแซวลูกชาย หวังให้เขารู้สึกดีขึ้น
แต่กลับกลายเป็นตรงข้าม ชายหนุ่มผมแดงกลับกลายเป็นเศร้าลงกว่าเดิม ศีรษะก้มต่ำลงจนไม่อาจมองเห็นแววตาในขณะนั้นได้ เพราะเขาไม่อยากให้บิดาเห็นน้ำตาที่กำลังเอ่อคลออยู่บนลูกตานั้น
“ข้าไม่รู้ว่าข้าจะฝึกฝนการต่อสู้ไปเพื่อสิ่งใดขอรับ ในเมื่อเราไม่อาจที่จะกลับไปยังเมืองฮาเวสตี้ได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนเรื่องราวที่ตระกูลเราโดนใส่ร้ายนั้นท่านพ่อก็บอกให้ข้าปล่อยวาง แล้วใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข แต่สำหรับข้ามันไม่ใช่เป้าหมายที่ข้าเคยฝันไว้เลยสักนิด…” เดนิสกล่าวความในใจออกมามากมาย แต่เขาก็ต้องหยุดพูดเสียก่อน เพราะไม่อยากจะทำให้ผู้เป็นพ่อต้องกังวลมากไปกว่านี้
หลังจากชายชราได้รับฟังสิ่งต่างๆจากบุตรชาย เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายืดยาวพร้อมด้วยแววตาที่เศร้าหมองยิ่งกว่าเดนิสเสียอีก แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นอองรีหันมาตอบกลับลูกชายด้วยแววตาที่เครียดขึง
“ตัวข้านั้นอ่อนแอเกินไป ที่พวกเราต้องพ่ายแพ้ และโดนใส่ร้ายง่ายๆแบบนั้นเป็นเพราะตัวของข้าเอง ที่ผ่านมาสิ่งที่ข้าได้บอกกับครอบครัวของเราก็คือการปล่อยวาง และใช้ชีวิตอย่างสงบนั้นมันก็เพื่อการคลายความทุกข์ใจให้กับพวกเราเท่านั้น แต่ในความจริงข้าก็ไม่อาจสลัดความทรมานเหล่านั้นไปได้เช่นกัน” อดีตบารอนผู้นำตระกูลกล่าวถ้อยคำทั้งหมดออกมาด้วยน้ำเสียงที่โศกเศร้า เครียดแค้น และทุกข์ทรมาน
“ทะ…ท่านพ่อ” เดนิสที่เห็นสีหน้าอันทุกข์ระทมเช่นนั้น ก็ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาเป็นกังวลอยู่ในใจนั้น ไม่อาจเทียบเท่าได้กับสิ่งที่บิดาของเขาต้องเผชิญอยู่
“สักวันหนึ่ง เดนนิส พวกเราจะต้องกลับไปเพื่อทวงความยุติธรรม แต่ในวันนี้พวกเรายังไม่พร้อม การที่ลูกของข้าทั้งสามได้อยู่ในฟาร์มแห่งนี้เพื่อฝึกฝนถือเป็นสิ่งที่ดี พลังงานมานาอันเข้มข้นภายในเขตแดนของพระเจ้านี้จะทำให้พวกเจ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดเหนือกว่าผู้อื่น ยังไงเราก็ต้องกลับไปแน่นอน” อองรีจ้องตาบุตรชายด้วยความมุ่งมั่นจริงจัง
“ขอรับท่านพ่อ ข้าจะต้องเติบโตจนแข็งแกร่ง และทวงคืนความยุติธรรมกลับมาสู่ตระกูลเราให้จงได้! เอิ่ม…แต่ตอนนี้ข้าชักหิวแล้ว เราไปกินข้าวเย็นกันดีกว่า แหะๆ” เดนิสตอบด้วยคำสัญญาอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่วายท้องร้องขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
ภายในห้องนอนของภาม
หลังจากรีบกินอาหารเย็นจนเสร็จ ภามก็รีบเข้ามาเคลียร์งานเอกสารจดบันทึกผลผลิตที่เก็บได้ในวันนี้ตั้งแต่หัวค่ำ นั่นก็เพราะเขามีภารกิจใหม่ที่จะต้องไปทำ ชายหนุ่มไม่รอช้าหลังจากเก็บสมุดรายการผลผลิต และรายรับรายจ่ายไปแล้วก็หยิบสมุดบันทึกเล่มใหม่ออกมา และเริ่มจดบางสิ่งลงไป
‘ภารกิจสอดแนม ครั้งที่ 1 วันที่ 30 เดือน 10 ปีโลเลี่ยน 544
สถานที่ ที่ทำการกลุ่มโอเมก้า’
ภามเขียนหัวข้อไว้เพียงสั้นๆ จากนั้นเขาก็หันไปสนใจกับสิ่งของซึ่งวางอยู่บนที่นอน นั่นก็คือชุดสีดำตัวหนึ่ง ถุงเท้ากับถุงมือยาวสีดำ เข็มขัดสีดำที่มีอุปกรณ์ติดตั้งไว้มากมาย และสุดท้ายคือหน้ากากสีดำด้านมีลวดลายนูนคล้ายกับใบหน้าของสิงโต
มันคือบอดี้สูทสีดำคล้ายกับชุดของนักประดาน้ำ เพียงแต่ว่ามันถูกเสริมด้วยซับในกันกระแทก และชิ้นส่วนโลหะหลายจุดติดตั้งอยู่ทั่วทั้งชุด ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์ไซไฟหลายๆเรื่อง ก็จะเคยเห็นสิ่งนี้ที่เรียกว่า แบทเทิลสูท (Battle Suit) ชุดสำหรับต่อสู้ของทหารที่ใช้ในการรบนั่นเอง
อดีตทหารจากต่างโลกไม่รอช้าเขาถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดก่อนที่จะสวมชุดรัดรูปสีดำนี้ ตามด้วยถุงมือ ถุงเท้า และเข็มขัดด้วยความชำนาญ สุดท้ายมีเพียงหน้ากากที่เขายังถือเอาไว้อยู่ เขาจ้องพิจารณาสิ่งนี้ด้วยแววตาคิดถึง แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นแล้ว ภามก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับถือหน้ากากไปด้วย
“ว้าย!” เสียงหญิงสาวร้องตกใจดังขึ้นต่อหน้าของเจ้าของฟาร์ม
“เป็นอะไรรึเปล่ามีอา?” ภามที่เปิดประตูออกมาก็เจอหญิงสาวยืนอยู่ แถมร้องเสียงดังก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อยเช่นกัน แต่เขาก็ตั้งสติได้เร็วแล้วถามกลับไป
“มะ…ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าแค่กำลังจะเคาะประตูเรียกท่าน แต่ท่านก็เปิดประตูออกมาพอดีเท่านั้น เอ่อ…แล้วชุดที่ท่านภามใส่นี่คืออะไรหรือเจ้าคะ?” แม่ค้าไวน์รีบกล่าวอธิบาย แต่ก็มาพร้อมด้วยคำถามเมื่อเห็นชุดประหลาดบนตัวชายหนุ่ม
“อ๋อ…นี่เรียกว่าแบทเทิลสูท ก็เหมือนชุดเกราะของทหารนั่นแหละ” ภามตอบกลับเหมือนกับว่าชุดที่เขาใส่มันเป็นของธรรมดาทั่วไป
“แล้วท่านภามจะใส่ชุดนี้ทำไมหรือเจ้าคะ?” หญิงสาวผมสีน้ำตาลอ่อนกล่าวถามอีกครั้งด้วยหน้าที่แดงระเรื่อเล็กน้อย ด้วยรู้สึกว่าชุดนี้มันมันมีไว้เพื่ออวดหุ่นล่ำของชายหนุ่ม มากกว่าใช้ในการต่อสู้ เธอจึงคาดเดาไปว่าเขาจะใส่มาให้เธอเชยชมโดยเฉพาะ
“เจ้ามาก็ดีละ ข้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย จะกลับมาก่อนเช้านะ” ภามบอกพร้อมกับรอยยิ้มบางq
“จะ…เจ้าค่ะ ระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ” หญิงสาวถึงกับใจสั่นกับรอยยิ้มที่ยากจะเห็นของคนตรงหน้า และตอบรับไปโดยไม่ได้คิดอะไร
แล้วชายหนุ่มก็เดินผ่านหญิงสาวเข้าไปยังประตูสู่แดนลึกลับที่ด้านหลังบ้าน
“ปัง!” เสียงปิดประตูมิติสู่ร้านค้าของพระเจ้าปิดลง ทำให้มีอาที่กำลังเคลิบเคลิ้มกลับมามีสติ
“เอ๊ะ! ท่านภาม แล้วท่านจะไปที่…” หญิงสาวหันกลับไปถามชายหนุ่มหุ่นล่ำ แต่ตอนนี้เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว
ณ ร้านค้าของพระเจ้า
ตอนนี้ตรงหน้าภามปรากฏห้องกระจกขนาดใหญ่ห้องหนึ่งที่มีป้าย ‘ศูนย์บัญชาการ’ ติดอยู่ ซึ่งห้องนี้อยู่ด้านข้างเคาน์เตอร์แคชเชียร์ที่เขาใช้บริการอยู่ประจำ และตอนนี้เป้าหมายของเขาก็คือสิ่งที่อยู่ภายในห้องกระจกนั่นเอง
“สวัสดีค่ะท่านภาม ยินดีต้อนรับค่ะ” หญิงสาวในร่างโฮโลแกรมสีฟ้ากล่าวทักทายชายหนุ่มด้วยด้วยรอยยิ้ม และน้ำเสียงน่ารัก
“อ่า…สวัสดีครับคุณฟ้า คุณนี่ร่าเริงมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะครับ แหะๆ” ภามยังไม่คุ้นเคยกับนิสัยที่เปลี่ยนไปของเธอ
“ก็คงต้องขอบคุณพระเจ้าที่อัปเกรดระบบใหม่ให้กับดิฉันนั่นแหละค่ะ แล้ววันนี้ท่านภามต้องการใช้บริการอะไรคะ เดี๋ยวดิฉันจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เลยค่ะ” ฟ้าตอบกลับด้วยอัธยาศัยดีเช่นเคย
“ผมต้องการไปเมืองฮาเวสตี้ครับ” ชายหนุ่มบอกเป้าหมายของเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญที่วงเวทย์ข้ามมิติไว้เลยค่ะ”
MANGA DISCUSSION