ณ โรงเรียนเวทมนตร์ลูน่าซ็อง ห้องผู้อำนวยการ
“เฮ้ย!” มหาจอมเวทย์นาธานชายหนวดเครารุงรังผู้ห่มหนังเสือ จู่ๆก็อุทานออกมาขณะนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะของเขา
“เป็นอะไรไปเจ้าคะครูใหญ่?” เลขาสาวสวยเซ็กซี่ของครูใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างกันกล่าวถาม เมื่อเห็นท่าทางผิดปกติของเจ้านาย
“เอิ่ม…คือข้าสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง พลังงานมหาศาลมาจากทางทิศใต้ของเทือกเขาแม็กซิมัส” ครูใหญ่กล่าวพร้อมลุกขึ้นไปยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้จากระยะสายตาจะเห็นเพียงกลุ่มก้อนเมฆสีเทารวมตัวกันแค่ไกลๆก็ตาม
“เป็นการต่อสู้ของจอมเวทย์ชั้นสูงหรือเจ้าคะ?” อัศวินสาวสเตล่าเดินเข้ามากล่าวถามที่ด้านหลังครูใหญ่
“ไม่ใช่หรอก เป็นการใช้พลังเพียงครู่เดียวของมอนสเตอร์ระดับสูงน่ะ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นตัวอะไรหรือพลังประเภทไหน มันน่าจะใช้พลังด้วยเหตุจำเป็นคงไม่อยากจะปรากฏตัวออกมาเท่าไร ไม่อย่างนั้นถ้าคนภายนอกรู้คงต้องเข้าไปยุ่งกับมันแน่ๆ” มหาจอมเวทย์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุขุมนุ่มลึก เหมือนกับว่ากำลังกังวลอยู่
“แล้วเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่รึเปล่าเจ้าคะ? ถ้ายังไงให้ข้าเรียกประชุมผู้บริหารเลยดีหรือไม่” สเตล่าเริ่มกังวลตามท่าทางของครูใหญ่ ซึ่งปกติจะเป็นคนขี้เล่นตลอดเวลา
ผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์ถึงกับเงียบไปสักพักเพื่อเรียบเรียงคำพูดให้ดี ก่อนจะกล่าวออกมาอีกครั้ง
“แค่นี้ไม่ใช่ปัญหาหรอก เราไม่มีความจำเป็นอะไรต้องไปรบกวนพวกมันให้วุ่นวาย ต่างคนต่างอยู่นั่นแหละดีแล้ว เรื่องใหญ่คือนี่ต่างหาก” กล่าวจบครูใหญ่ก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานแล้วก็หยิบเอกสารม้วนยาวที่เขากำลังเขียนอยู่เมื่อครู่ยื่นให้กับเลขาสาว
“นะ…นี่มัน ไม่จริงใช่ไหม…เจ้าคะ” สเตล่าที่เห็นเอกสารนั้นก็ถึงกับตกตะลึงปากอ้าตาค้าง
“นี่เป็นเอกสารราชการสำคัญที่ต้องส่งไปเมืองหลวง ต้องไม่มีความผิดพลาดแม้แต่น้อยข้าขอโทษจริงๆ ตอนที่คลื่นพลังนั่นปะทุขึ้นมาข้าตกใจจนเซ็นพลาดไป ยังไงก็ขอให้เจ้าช่วยเขียนมาใหม่อีกฉบับแล้วก็เอามาให้ข้าเซ็นใหม่ด้วยนะ อ้อ! แล้วก็ขอเร่งมือหน่อยนะเอกสารนี่ด่วนจริงๆ” ชายผู้ห่มหนังเสือกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียง พร้อมกับแววตาที่จริงจังมากกว่าตอนสัมผัสเวทย์มหาศาลนั้นได้เสียอีก จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องทำงานไปอย่างเงียบๆ แต่…
“กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!! ครูใหญ่ ข้าใช้เวลาเขียนมันถึง 2 วันเลยนะเจ้าคะ แล้วนี่ท่านจะมาเร่งข้าอีกอย่างนั้นเหรอ!!!!!!!!!!” เสียงก่นด่ากรีดร้องของเลขาสาวดังลั่นไปทั่วโรงเรียนลูน่าซ็อง แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่คนทั้งโรงเรียนนั้นเคยชินกันไปเสียแล้ว
ณ ที่ทำการเจ้าเมืองฮาเวสตี้ ห้องทำงานของบีดีเลีย
บุตรสาวเจ้าเมือง และพ่อบ้านของเธอกำลังรับฟังรายงานของจอมเวทย์ฝ่ายงานประดิษฐ์ประจำหน่วยเทพอัคคีอยู่ด้วยความตั้งใจ
“จริงเหรอที่ท่านจับสัมผัสพลังระดับสูงนั้นได้?” บุตรีของเจ้าเมืองกล่าวถามจอมเวทย์ชราที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอ ในขณะที่ตัวเธอเองกำลังจิบชาอยู่ที่โต๊ะรับแขก
“จริงขอรับ เครื่องตรวจจับคลื่นมานาของข้าสามารถรับสัญญาณได้จากระยะไกลมาก และมีความแม่นยำกับพลังที่มีความรุนแรงระดับกลางขึ้นไปด้วยขอรับท่านหญิง” กล่าวจบชายชราก็ยื่นจานโลหะขนาดเท่าจี้ห้อยคอให้กับบีดีเลียดู
“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคลื่นพลังที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของใคร ถ้าใกล้ๆมีคนใช้เวทมนตร์หลายคนพร้อมกัน?” หญิงสาวผมดำสลวยยังคงสงสัยในอุปกรณ์เวทย์ตรงหน้าอยู่
“นั่นก็เพราะข้าสร้างให้มันตรวจจับเฉพาะวงแหวนแห่งภูติโบราณเท่านั้นขอรับ แม้จะไม่อาจชี้ชัดตัวเป้าหมายได้อย่างละเอียด แต่เราก็ใช้การประเมินสถานการณ์ตรงหน้าได้ด้วยปริมาณพลังเวทย์ที่ตรวจจับได้ ที่สำคัญมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนตร์ได้ หรือมีปริมาณมานาเยอะก็มีไม่มากนัก ยิ่งเป็นมนุษย์นั้นมีไม่กี่คนเท่านั้นขอรับ” จอมเวทย์ชราชี้แจงระบบตรวจจับอย่างละเอียดด้วยความมั่นใจในฝีมือของตน
“อืม…อย่างนั้นก็ดี คราวนี้เราคงจะตามจับมังกรมายาได้ง่ายขึ้นสินะ” บีดีเลียพยักหน้าดีใจที่อย่างน้อยก็มีเรื่องให้ดีใจขึ้นมาบ้าง จากที่ช่วงนี้เธอต้องเจอแต่ความผิดพลาด และคำตำหนิมาหลายครั้ง
หลังจากที่จอมเวทย์ชราได้มอบเครื่องตรวจคลื่นจับมานาให้กับบีดีเลียเขาก็ขอตัวไปทำงานต่อ ส่วนหญิงสาวก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ชื่นชมในอุปกรณ์เวทมนตร์ชิ้นใหม่
“คุณหนูยังอยากจะจับมังกรมายาอยู่อีกหรือขอรับ? ทั้งที่การปล้นนักโทษคราวนั้นก็สำเร็จไปได้ด้วยดีโดยไม่ต้องใช้พลังของมัน”ชายชราพ่อบ้านประจำตระกูลเรโคเต้กล่าวถามหญิงสาวผู้เป็นเจ้านาย
“พลังของมังกรมายานั้นมีความสามารถที่หลากหลาย พลิกแพลงได้หลายสถานการณ์ทั้งรุก และรับ ถ้าเราต้องต่อสู้กับคนเป็นกองทัพละก็ เจ้านั่นจะทำให้เราชนะได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อเลยแม้แต่คนเดียว เจ้าว่าไหมล่ะอัลเฟรด” ท่านหญิงยังคงกล่าวไปชื่นชมจานโลหะไปอยู่อย่างนั้น
“คนของเรารายงานมาว่าเวเบอร์ได้ออกไปพบพ่อค้าฮาเซลเมื่อสักพักที่ผ่านมาแล้ว ข้าเกรงว่าปัญหาของเราจะร้ายแรงกว่าที่คิดนะขอรับ กลุ่มโอเมก้าที่ทำพลาดในคราวนี้คงจะลงมืออย่างเด็ดขาดแน่นอน ท่านหญิงควรวางแผนรับมือในส่วนนี้ก่อนจะดีกว่า ถ้าเวเบอร์รู้ว่าท่านอยู่เบื้องหลัง…” อัลเฟรดที่มีประสบการณ์ชีวิตมากมายรีบเตือนเรื่องสำคัญให้กับเจ้านายของเธอได้ตระหนักไว้ก่อน แต่หญิงสาวก็ขัดขึ้นมาก่อน
“จากการแสดงออกของมันข้าว่าเวเบอร์รู้เรื่องที่ข้าช่วยพวกวีตาเร่แล้วล่ะ แต่มันยังไม่ฆ่าข้าในเร็ววันนี้หรอกอัลเฟรด และข้ายังจะลองเดินตามน้ำไปตกกับดักของมันดูสักหน่อย เพื่อใช้แผนหนีออกจากบ้านที่ข้าเคยใช้ตอนเป็นเด็กซ้อนแผนการมันไปอีกชั้นหนึ่ง” บีดีเลียเปลี่ยนมายิ้มร่าเริงเหมือนเด็กน้อยให้กับชายชราตรงหน้า
“โธ่! คุณหนูท่านไม่ใช่เด็กแล้วนะขอรับ คงไม่ได้รับการอภัยง่ายๆอีกต่อไป อาจถึงขั้นถูกปลดจากหน้าที่ หน่วยเทพอัคคีโดนยุบไม่พอ อาจต้องถูกบังคับแต่งงานเร็วขึ้นด้วย แถมถ้าหนีไปคราวนี้คุณหนูก็คงไม่มีบ้านของสหายคนไหนให้ซ่อนตัวอีกแล้วนะขอรับ คฤหาสน์วีตาเร่ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย” อัลเฟรดถึงกับบ่นออกมายืดยาวเมื่อนึกถึงวีรกรรมที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กของเจ้านาย
“ใครว่าข้าไม่มีที่ไป ยังมีอยู่ที่หนึ่งที่ท่านพ่อ และพวกโอเมก้าไม่มีทางหาเจออยู่นะ” หญิงสาวยังทำหน้าร่าเริงไม่รู้ผิดต่อไป นั่นก็เพราะเธอได้ตัดสินใจที่จะเดิมพันงานนี้ด้วยชีวิตของตัวเอง
“อย่าบอกนะว่าหมายถึงฟาร์มลึกลับนั่น! ละ…แล้วข่าวจากทางนี้ใครจะเป็นคนสืบเล่าขอรับ ?” พ่อบ้านชรายิ่งตกใจไปใหญ่เมื่อรู้ที่หมายของหญิงสาว ซึ่งมันเป็นจุดเสี่ยงที่จะเกิดการต่อสู้ได้มากที่สุดแห่งหนึ่ง
“ก็ต้องฝากท่านพ่อบ้านด้วยก็แล้วกัน เอ้ะ! ไม่ใช่สิต้องบอกว่าขอรบกวนท่านจอมเวทย์อัลเฟรด เฟลมเมียด้วยนะเจ้าคะ” กล่าวจบบีดีเลียลุกขึ้นยืนแล้วก้มหัวขอร้องชายชราผู้เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เกิด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บีดีเลียทำเช่นนี้ อัลเฟรดเข้าใจในความตั้งใจจริงของหญิงสาวดี จึงถามถึงแผนการต่อไปของเธอว่ามันจะมีความเป็นไปได้หรือไม่
“เฮ้อ! คุณหนูคงยอมเสียหน่วยเทพอัคคีไปจริงๆสินะขอรับ แต่เมื่อไม่ได้เป็นทหารพวกนั้นคงจะทำงานลับได้ง่ายขึ้นเยอะ แล้วหลังจากที่คุณหนูกลับมาล่ะ? ท่านอาจต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และอาจต้องย้ายไปต่างเมืองนะขอรับ” อัลเฟรดที่รู้ใจหญิงสาวมากกว่าผู้ใดก็อดเป็นห่วงความรู้สึกของเธอไม่ได้
“แต่ถ้าอย่างน้อยเป็นคนที่ข้ารู้สึกดี และยังเลือกเขาด้วยตัวเอง แถมอยู่ที่เมืองฮาเวสตี้ด้วยจะว่าอย่างไร?” บุตรีเจ้าเมืองกลับมาทำท่าทะเล้นอีกครั้งจนชายชรายังรู้สึกเอือมระอา
“แล้วคุณสมบัติของเขาดีพอที่ท่านดยุคจะยอมรับรึเปล่าขอรับ?” พ่อบ้านได้แต่กลอกตามองบนพร้อมกับถามถึงเงื่อนไขสำคัญ
“ถ้าเขามีพลังระดับมหาจอมเวทย์ และมีอาหารเพียงพอที่จะเลี้ยงคนทั้งเมืองให้อิ่มท้องไปจนหมดหน้าหนาวได้ล่ะ!” บีดีเลียกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
“อย่าบอกนะว่าเป็น…” อัลเฟรดไม่รู้จะพูดอะไรต่อได้อีก เมื่อเขารู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวหมายถึงใคร
MANGA DISCUSSION