อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 - ตอนที่ 98
ตอนที่ 98 งานเลี้ยงฉลองชัยกับการกระทำที่เหนือความคาดหมายของเธอ
ผู้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูกับหมอพาอาจารย์จากลูดันช่าทั้ง 3 คนออกไป ซึ่งมิไฮล์ก็ตามไปด้วย
ถึงลูกะอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ แต่จะให้อาจารย์ของลูดันช่ารู้ความสัมพันธ์ของคลอร์ดกับตัวเธอในตอนนี้ไม่ได้ เลยตามมิไฮล์ไปด้วย
“……แล้ว เป็นไงบ้าง?”
คลอร์ดถามออกมาด้วยความมั่นใจนิดๆ
“อือ การเคลื่อนไหวต่างกับนักเรียนที่กลัวจนตัวสั่นช่วงแรกๆเลย”
“เดี๋ยวสิ!? นะ โน้นเพราะว่าจู่ๆฮิคารุฟันมาในตำแหน่งแปลกๆต่างหาก……”
“อย่างนั้นแหละ การใช้ดาบดูต่างไปจากเดิมอยู่”
อย่างที่คิดเอาไว้เลย การเพิ่ม “ความชำนาญด้านอาวุธ” ของโซลบอร์ด ทำให้ “ใช้งาน” ได้ดีขึ้น
สิ่งนี้ไม่ได้เพิ่มความรุนแรงของอาวุธ แต่สิ่งที่เสริมประสิทธิภาพของสิ่งนั้นมันคือ “ปริมาณพลังกาย” กับ “พลังออกตัว” ต่างหาก
(แต่มันไม่เหมาะกับผมสักเท่าไร)
ความสามารถพิเศษของฮิคารุคือ “ลอบเร้น”
ต่อให้ใช้อาวุธได้ดีขึ้น แต่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว
“นะ นั่นสินะ!? ถึงฉันจะรู้สึกอยู่ แต่พอได้มาลองอย่างนี้ก็เป็นอย่างที่ฮิคารุพูดเอาไว้เลย!”
“โธ่เว้ย ‘อาชีพ’ ของคลอร์ดมันยอดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“จนถึงตอนนี้แค่โชคร้ายแล้วพลิกกลับมาได้ต่างหาก ไม่ใช่ ‘อาชีพ’ ที่ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้นหรอก ดังนั้นคลอร์ดเองก็อย่าเหลิงมากนัก”
คลอร์ดเองคงคิดเหมือนกัน ที่พัฒนาได้ถึงขนาดนี้ก็เพราะ “อาชีพ”
ต้องบอกว่าที่เปลี่ยนแปลงในตัวเขามีแค่ “อาชีพ” เท่านั้น การจะเชื่ออย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“แต่ว่าชนะอาจารย์ได้เลยนะ! จะเหลิงนิดหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่?”
“แล้วก็การต่อส้เมื่อกี้ ก็แค่ปัดการแทงหอกสั้นของอาจารย์คิลเน็นโก้อย่างเดียวนี่”
“เอ๊ะ? อะ อือ…ก็ใช่อยู่หรอก ทำได้ดีอยู่……ใช่ไหม?”
“ขายืนนิ่งจะตาย ถ้าโดนโจมตีทีเผลอจะล้มได้ง่ายเอา”
“อึ้ก!”
“ไหนจะจดจ่อกับดาบมากเกินไปจนไม่ใส่การตั้งท่าอีก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยกับพวกที่จู่ๆก็เก่งขึ้นไง”
“อึ้กกก!”
ฮิคารุรู้เรื่องนั้นจากประสบการณ์โดยตรง การเพิ่ม “ขว้าง” ขึ้นรวดเดียว ทำให้ร่างกายตามความคิดไม่ทัน
“จนกว่าจะชินกับ ‘อาชีพ’ นี้ ห้ามมเหลิงเป็นอันขาด เข้าใจไหม?”
“……อืออออ”
“ใช่แล้วคลอร์ด สายตาของอาจารย์มิไฮล์เองก็เปลี่ยนไปแล้ว น่าจะเริ่มซ้อมตั้งแต่พรุ่งนี้เลย!”
“มีปิศาจตัวอื่นนอกจากฮิคารุเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว! ขอทีเหอะ!”
“…..จู่ๆมาเรียกผมว่าปิศาจทำไมเนี่ย”
ฮิคารุตั้งใจจะบอกอย่างนั้น แต่อีวานก็บอกว่า “มันก็ถูกต้องแล้วนี่ จะมาพูดอะไรป่านนี้?”
“เดี๋ยวสิ……ผมไม่ได้ฝึกให้คลอร์ดโดยตรงสักหน่อย?”
“ก็เพราะอย่างนั้นแหละ……”
ที่คลอร์ดต้องการจะบอกก็คือ
ในระหว่างที่ฮิคารุไปฟอเรสซาร์ด คลอร์ดทำการซ้อมสู้กับอีวานและพวกนักเรียนของจาราซัก ยังบอกออกมาอยู่บ่อยๆเลยว่า “ถ้าเป็นฮิคารุคงทำอะไรที่น่ารังเกียจกว่านี้อีก”
“……อีวาน”
“ดะ เดี๋ยวสิ! กะ ก่อนอื่นไปนี่กันเถอะ! ฉลองชัยชนะไง!”
“หา?”
“ทำได้ถึงขนาดนั้นอาจารย์มิไฮล์คงไม่บ่นอะไรแน่ๆ แถมคนคนนั้นยังทำสายตาแบบว่า ‘รีบๆมาสู้กับฉันได้แล้ว’ ด้วย ดังนั้นมาฉลองชัยกันเถอะ! เนอะ!”
“นั่นสินะ ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกัน อยากจะผ่อนคล้ายด้วย ไปดื่มเบาๆกันเถอะ!”
“พวกนายเนี่ยนะ……”
“ฮิคารุ เรื่องอย่างนี้ก็สำคัญเหมือนกันนะ! เพื่อที่จะรักษาแรงจูงใจไง!”
อีวานพูดเกลี้ยมกล่อมและพาฮิคารุมาร้าน “เอ้า ดื่ม” ได้สำเร็จ
“ถ้างั้นไชโยให้กับชัยชนะของคลอร์ด!”
แก้วทั้ง 3 ใบชนกัน
ร้าน “เอ้า ดื่ม” ถึงจะเป็นช่วงเที่ยงแต่ก็มีคนเยอะพอตัว
ดูเหมือนที่โลกแห่งนี้การดื่มเหล้าตอนกลางวัน จะเป็นอะไรที่ปกติสามัญอยู่ ทำให้มีคนสั่งเหล้าค่อนข้างเยอะ
อาหารกลางวันของวันนี้คือพาสต้าซอสมะเขือเทศที่ใส่ผักและเนื้อจำนวนมาก
พาสต้าไม่ได้เป็นเส้นยาวๆเหมือนเส้นสปาเก็ตตี้ แต่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆเหมือนมักกะโรนี แล้วใส่ซอสเข้าไปข้างใน ทำให้ได้สัมผัสในการกินอยู่
(……หือ?)
ฮิคารุรู้สึกถึงสิ่งที่แปลกไปในรสที่คุ้นเคยของร้าน “เอ้า ดื่ม”
แน่นอนว่ามันอร่อยเหมือนเดิม
(อ้อ——อย่างนี้นี่เอง กระเทียมสินะ)
ร้าน “พาสต้าเมจิค” ที่พอนด์ ไม่ได้ใส่กระเทียมทำให้รู้สึกเหมือนมันขาดรสอะไรไปสักอย่าง แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังอร่อยแสดงให้เห็นถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของเจ้าของร้านร่างโตเหมือนหมี
แต่ร้าน “เอ้า ดื่ม” ใช้กระเทียมเป็นปกติอยู่แล้ว
อาจจะเป็นเพราะคนละพื้นที่หรือเปล่านะ?
“เดี๋ยวไปหามาสเตอร์แป็บ—-”
“ฮิคารุ! ทำไมนายดื่มน้ำอยู่คนเดียวเนี่ย!”
อีวานจับไหล่ของฮิคารุที่ว่าจะไปถามมาสเตอร์ว่าซื้อกระเทียมจากไหนให้นั่งลง
“เจ็บ”
“นายเองก็มาดื่มเบียร์ด้วยสิ”
“ปล่อยนะ……จริงๆเลย ผมดื่มไม่เก่ง อย่ามาบังคับกันสิ”
“เหล้าเนี่ยนะ ยิ่งดื่มก็ยิ่งคอแข็งไง”
“เป็นวิธีการชวนที่ดูออกง่ายจริงๆ แถมผมจะไปหามาสเตอร์—-”
“อ้าว ฮิคารุ?”
และคนที่เข้ามาในร้านคือลาเวียกับเอคาเทรินา
เนื่องจากลาเวียมักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุดเลยไม่ค่อยได้กินอาหารกลางวันด้วยกันสักเท่าไร ดูเหมือนลาเวียเองก็อยากจะอยู่กับเพื่อนผู้หญิงของยูราบะเหมือนกัน
“แปลกนะเนี่ย ที่ลาเวียมาร้านนี้”
“เอคาเทรินาบอกว่าอยากจะมาดูสักครั้งน่ะ”
“ดะ เดี๋ยวสิลาเวียจัง! ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! ที่จริงไปร้านไหนก็ได้ แค่นึกว่าน้ำชาที่ลาเวียจังรินให้มันอร่อยมากเท่านั้นเอง”
เอคาเทรินาคงไม่นึกว่าจะพบกับฮิคารุ, อีวานและคลอร์ด เลยพูดกลบเกลื่อนออกไป
“จะว่าไปร้านนี้ ไม่ดูแย่ไปหน่อยเหรอ?”
“ก็ร้านเหล้านี่ ไม่รู้เหรอ?”
“มาสเตอร์ ขออาหารกลางวันสำหรับ 2 คนด้วยค่ะ?”
ลาเวียนั่งลงข้างๆฮิคารุแล้วสั่งอาหารไป เสียงนั้นเมื่อเทียบกับเสียงเซ็งแซ่ในร้านแล้วมันฟังดูเบามาก แต่มาสเตอร์ที่อยู่อีกฝั่งของเคาเตอร์ก็ชูนิ้วโป้งขึ้นมาให้เห็น
“ได้ยินด้วยเหรอเนี่ย”
“ดูเหมือนหูจะไม่มีทางพลาดคำสั่งอาหารน่ะ”
เหมือนลาเวียจะรู้อยู่แล้ว เลยห้ามฮิคารุที่คิดจะเปิดโซลบอร์ดของมาสเตอร์ คงไม่อยากให้รุกล้ำความเป็นส่วนตัวพร่ำเพรื่อ
(จะว่าไป พวกผมยังไม่รู้ชื่อจริงของมาสเตอร์เลย)
โลกนี้สิ่งที่จะยืนยันตัวตนได้มีแค่กิลด์การ์ดเท่านั้น เพราะไม่มีพวกทะเบียนบ้าน ดังนั้น “ชื่อ” เองก็คงไม่ได้สลักสำคัญสักเท่าไร
“แล้ว……เหตุผลที่ดื่มเหล้าตั้งแต่กลางวันอย่างนี้คืออะไร? มันใช่เวลาให้คุณคลอร์ดมาทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
เอคาเทรินาที่นั่งอยู่ข้างๆลาเวียส่งสายตาอันเย็นชาไปทางคลอร์ด
คลอร์ดถึงกับสำลักสิ่งที่ดื่มอยู่ ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะส่วนอีวานที่อยู่ข้างๆก็บอกว่า “ไม่รู้ดิ” ก่อนจะดื่มเบียร์ต่อ
ฮิคารุคิดว่าน่าควรจะช่วยพูดออกไปสักหน่อย
“เมื่อกี้คลอร์ดเพิ่งชนะอาจารย์จากลูดันช่าได้ 3 คน เลยมาฉลองชัยกันน่ะ”
“หา? หมายความว่ายังไงกัน?”
“แต่ผมพยายามห้ามแล้วว่าไม่ต้องมาฉลองชัยชนะกันก็ได้”
“คุณคลอร์ด?”
ฮิคารุโยนความรับผิดชอบไปให้คลอร์ด ส่วนมาสเตอร์ก็เอาพาสต้ามาเสิร์ฟให้ลาเวียกับเอคาเทรินา
“มะ ไม่ใช่นะ แบบว่า……อะ เอ่อ เพราะว่าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เพื่อที่จะยืนยันสิ่งนั้น……”
“ช่วยอธิบายออกมาให้ชัดเจนได้ไหมคะ? มันเกี่ยวข้องกับสหพันธ์ของพวกเราใช่ไหมคะ?”
“เอ่อ”
คลอร์ดเริ่มอธิบายออกมาอย่างสับสน
ฮิคารุที่ได้ยินอย่างนั้น ก็ถามลาเวียเบาๆ
(น่าตกใจนะเนี่ยที่เอคาเทรินาบอกว่า “สหพันธ์ของพวกเรา” เนี่ย)
(อือ เธอพยายามอย่างมากเลย ตอนอยู่ห้องสมุดก็ตรวจสอบเกี่ยวกับงานวันสถาปนาชาติในอดีต ว่ามีการพูดถึงหัวข้ออะไรบ้าง ไหนจะเตรียมร่างหัวข้อไว้แล้วด้วย)
(โห……)
ทำท่าทางไม่ค่อยสนใจ แต่กลับตั้งใจทำงานผิดคาด
“เฮ้อ……เข้าใจแล้วค่ะ”
ดูเหมือนคลอร์ดจะอธิบายจบแล้ว
“ต้องขอบคุณคุณลูกะนะเนี่ย เธอคงอธิบายเหตุผลที่นายเลิกเรียนวิชานี้ไปว่า ‘คุณคลอร์ดไม่ชอบที่อาจารย์สอนเป็นคนของลูดันช่า’ ออกไปค่ะ”
“เอ๊ะ อย่างนั้นเหรอ?”
“มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว แถมยอดมากเลยค่ะที่ตามอาจารย์มิไฮล์ไปด้วย คงพยายามชักนำอาจารย์มิไฮล์ให้พูดเพื่อไม่ให้สงสัยในความสัมพันธ์ของพวกคุณหรอก”
“สมกับที่เป็นลูกะของฉัน”
คลอร์ดเริ่มทำตัวเหม็นความรัก ทำให้เอคาเทริน่าถึงกับทำหน้าขึงขัง
“ถ้านายไม่ทำอะไรเกินความจำเป็น คุณลูกะคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอก คราวหลังระวังให้มากกว่านี้ด้วย”
“อึ้ก……ขอโทษที”
“ฮิคารุก็ด้วย”
“ผมด้วยเหรอ?”
“รู้อยู่แล้วว่าอาจารย์คิลเน็นโก้จะมา ยังปล่อยไว้อย่างนั้นใช่ไหม?”
ดูเหมือนคลอร์ดจะอธิบายเรื่องนั้นไปด้วย เลยมองคลอร์ดราวกับจะบอกว่า……พูดมากเกินไปแล้วนะ ส่วนเขาก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พร้อมกับดื่มเบียร์ต่อ
“เอาเถอะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะมาตอนไหน เลยคิดว่าควรจะรีบเด็ดหน่อทิ้งไปก่อน”
“ไว้ทำหลังจากวันสถาปนาชาติก็ได้นี่”
“ที่จริงก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่มันดีสำหรับทางนี้ด้วย ที่คลอร์ดจะได้ประสบการณ์สำหรับต่อสู้กับอาจารย์มิไฮล์ไง”
“อืม……”
“วิธีการที่หยาบกว่านั้นก็มีอยู่หรอก? ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคืนอาจารย์คิลเน็นโก้โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุ……หรือว่าเอคาเทรินาชอบอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
พอฮิคารุพุดอย่างนั้น คลอร์ดก็หน้าซีดเผือก
“คิดอะไรอย่างนั้นเหรอเนี่ย……กะแล้วเชียวว่าฮิคารุเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุดเลย”
“อะไรๆ หมายความว่าไงเหรอ? โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุเนี่ย?”
ดูเหมือนจะมีอีวานคนเดียวที่ไม่เข้าใจ แต่ไม่คิดจะอธิบายอยู่แล้ว
เอคาเทรินาถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ……สหพันธ์นี้จะไปได้ด้วยดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายเนี่ย คงเป็นเรื่องจริงสินะ”
“ผมเหรอ? มันหมายความว่ายังไง?”
“ก่อนที่คุณซิลเวสเตอร์จะกลับไปซูบร้าได้บอกเอาไว้ค่ะ เขาเป็นห่วงเอามาก บอกว่าถ้านายทำอะไรที่เลวร้ายลงไป สหพันธ์คงล่มสลายได้เลย”
“เวอร์ไปแล้วน่า”
“ถ้าการเป็นห่วงนั้นไม่เป็นจริงขึ้นมาก็คงจะดีอยู่หรอก……”
เอคาเทรินาชำเลืองมองมาทางนี้
ทันใดนั้นลาเวียก็เข้ามากอดแขนของฮิคารุ
“ต่อให้เป็นเอคาเทรินา แต่ถ้าพูดว่าร้ายฮิคารุก็โกรธเหมือนกันนะ”
“ไม่ได้พูดว่าร้ายอะไรหรอก ‘โรงเรียนอัศวินกุหลาบ’ ก็มีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ‘อัศวินที่แข็งแกร่งเป็นทั้งตัวตนที่น่าพึงพาและอันตรายในเวลาเดียวกัน’ ไง”
“อะไรกัน ‘โรงเรียนอัศวินกุหลาบ’ เนี่ย”
“หนังสือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันกับคุณเอคาเทรินาคุยกันไง ฮิคารุจะลองอ่านดูไหม?”
“นั่นสินะ ถ้ามีเวลา”
ตอนที่คุยกันอยู่ ประตูของร้าน “เอ้า ดื่ม” ก็เปิดออก เผยให้เห็นชายร่างใหญ่แห่งจาราซัก
ชายคนนั้น—-มิไฮล์ พอเห็นคลอร์ดก็พูดออกมาด้วยเสียงอันดังว่า “ไปซ้อมสู้กัน”
ฮิคารุคิดว่า สิ่งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง