อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต - ตอนที่ 41 การต้อนรับและยานใหม่ (มุมของเรด)
คัตสึมิคุงมาถึงสำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์แล้ว
เหตุผลที่พวกเราต้องการให้เขามาก็เพื่อขอความร่วมมือและตรวจสอบอาการปัจจุบันของเขา
เพราะตอนนี้พวกเราไม่รู้เลยว่าเขาได้รับอิทธิพลจากการควบคุมของยัยลาสบอสที่พยายามปั้นเขาตามใจชอบมากขนาดไหน
ขั้นแรกก็เชิญเขามาสำนักงาน เปิดตัวประธาน ก่อนปิดท้ายด้วยพวกเรา
「แล้ว อาโออิซัง นี่มันอะไรกันยะ? 」
「ก็เรียกฉันไง」
อาโออิเอานิ้วชี้ไปตรงหัวของเธอ
ฉันถึงกับของขึ้น แล้วพยายามให้เธออธิบายความเป็นมา
「คำนวณเส้นทางที่เขาใช้หลบหนี ตรวจสอบแผนที่รอบๆ 」
「แล้ว」
「มนุษย์นั้นมักจะยึดติดกับสัญชาตญาณเดิมและใช้เส้นทางประจำของตัวเอง ดังนั้นจึงพยายามคำนวณจากจุดที่เขาโผล่มาและจากไป」
สรุปก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำได้ยังไง
ถึงจะบอกว่าเป็นเด็กเรียนวิทย์ แต่วิทย์ของเธอเหมือนจะต่างจากที่ฉันรู้จักไปหน่อยหรือเปล่า
「ตรงจุดนี้ก็เลยพอจะคาดเดาตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ หากรวมกับสวนสาธารณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก ฉันจึงมองว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากที่สุด ก่อนจะเดินสำรวจไปมาโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์อย่างดาวซิ่ง」
「แต่ไอที่ฟังๆ มาดูยังไงมันก็แปลกๆ นะ!? หลักวิทยาศาสตร์แน่เหรอ」
「ไอ้ของแบบนั้นมันวิทยาศาสตร์ตรงไหนกันยะ! สุ่มมั่วชัดๆ เลยนี่หว่า!!」
「เรดบ้าเลือดกับกอลิล่าเยลโล่อย่างพวกเธอคงไม่เข้าใจหรอก 」
คิคาระทำการดึงแก้มของอาโออิให้ยืดไปทันที
อาโออิก็พยายามขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหว ฉันก็เลยหรี่ตาแล้วยิ้มให้กำลังใจเธอ (?)
「คราวหน้าก็ลองทำแบบนั้นอีกดูสิเดี๋ยวเธอจะได้รู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง」
「ระวังตัวไว้ก็แล้วกันยัยตัวยุ่งนี่」
「มะーไม่นะ น่ากลัวจังเลย」
หากเป็นอิตาประธานก็คงจะกลัวจริงหรอก แต่พออาโออิพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยใครมันจะไปเชื่อ
แถมเธอยังเป็นพวกพ้องที่สู้ด้วยกันมานาน
ถ้าแค่การขู่นิดหน่อยแบบนี้้ยังกลัว ไม่มีทางจะหายใจมาถึงตอนนี้ได้หรอก
「ถึงจะบรรยาตามหลักวิทย์อะไรมาแต่สุดท้ายก็สุ่มไปเจอสินะ? 」
「กลัว กลัวจังเลย คิคาระน่ากลัว น่ากลัวจริงจัง」
「ฉันว่าการที่เธอเดินสุ่มไปเจอเขาได้มันน่ากลัวกว่าเยอะนะ……」
อาโออินี่เหลือเชื่อเกินไปหน่อยหรือเปล่า
「เอาเป็นว่า…ฉันทำการแทรกซึมเข้าไปที่ทำงานของคัตสึมิคุง…ไม่สิรุ่นพี่คัตสึมิโดยปลอมตัวเป็นลูกค้า ก่อนจะขอให้เขามาพูดคุยด้วยกันอย่างมีเหตุและผล กระชับความสัมพันธ์ มิตรภาพอันดี ปิดท้ายด้วยการบอกชื่อ ก่อนกลับบ้าน」
「ได้ทุกอย่างที่ต้องการเชียวนะ……」
「อย่าได้ใจให้มันมากนัก……」
「อัลฟ่าก็ทำงานที่เดียวกับเขา」
ฉันถึงกับนิ่งไป
อะไรกันน้า อัลฟ่าจัง นอกจากจะอาศัยอยู่ร่วมกันกับชิราคาวะกับและคัตสึมิคุงแล้ว ยังได้ทำงานพาร์ทไทม์ที่เดียวกันอีกงั้นเหรอ หึหึ
「อากาเนะ เสียเวลานานแล้วรีบกลับไปห้องดีกว่าไหม? 」
「นั่นสินะ ประธานก็เปิดตัวไปแล้ว ยังไงพวกเราก็ต้องไปแนะนำตัวด้วยสิ」
แม้จะน่าหงุดหงิดที่ถูกอาโออิชิงตัดหน้า แต่วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันสำคัญ
ต้องแนะนำตัวเองให้คัตสึมิคุงได้รู้และกระชิบความสัมพันธ์ในฐานะพวกพ้องใหม่
—
เมื่อฉันกลับมาถึงห้องประธานก็กำลังอธิบายถึงงานของพวกเราอยู่
แม้จะมีการพูดอะไรไร้สาระไปบ้าง แต่เขาก็ยังตั้งใจฟังเป็นอย่างดี
ฉันเข้าไปหาเขาและเริ่มแนะนำตัวอีกครั้ง
「ยินดีที่ได้เจอนะ ฉันอากาเนะ อาราซากะ หรือเรดเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะ คัตสึกิคุง!」
「ฉันคิราระ อามัตสึกะ นายอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่ฉันคือเยลโล่ที่เคยต่อสู้เคียงข้างนายเองเด้」
「ส่วนฉันบลู เจอกันก่อนแล้วเนอะ」
「อะ อ้า ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันคัตสึกิ ชิราคาวะ」
พอเขาพูดนามสกุลอย่างชิราคาวะออกมาจากปาก มันก็ทำให้พวกเราไปไม่เป็นเหมือนกัน
สายตาของฉันกับคิราระจ้องมองไปยังชิราคาวะจังซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังอัลฟ่า ใบหน้าของเธอซีดอย่างเห็นได้ชัด
จิตใจที่แสนอิจฉาของฉันมันมากเกินกว่าจะบรรยาย ไหนจะกลายเป็นพี่สาวแถมยังใช้นามสกุลเดียวกันอีก
「แต่เกินคาดเลยนะ ที่เหล่าจัสติสครูเซเดอร์อายุใกล้เคียงกับฉัน อาราซากะซังเองก็แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อเลย」
「อ่ะ ขอโทษเรื่องเมื่อตอนนั้นด้วยนะ……」
โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นตอนสัตว์ประหลาดยักษ์ขยายร่างพ่ายแพ้
คือมันก็ไม่ใช่เรื่องปกติหรอกนะที่ฉันจะคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงน่ารักแล้วเลือดอาบท่วมตัว
แม้จะรู้สึกเสียใจเอาทีหลังก็เถอะ เอาเป็นว่าก็ต้องพูดขอโทษเขาให้เป็นเรื่องราว
คัตสึมิคุง ที่เห็นก็เหมือนจะประหลาดใจและยิ้มเกร็งๆ ออกมา
「ไม่เป็นไรหรอก ก็จริงอยู่ว่าฉันกลัว แต่ก็ต้องขอบคุณความพยายามของพวกเธอที่จัดการสัตว์ประหลาดนั่นได้ถึงจะน่ากลัวสุดๆ ก็ตาม การโจมตีที่แสนยอดเยี่ยมปิดประตูสัตว์ประหลาด ฉันที่เห็นนี่สั่นกลัวไปหมดเลย ไหนจะตอนจบทั้งที่เข้ามาหาแล้วคุยอย่างเป็นมิตรแท้ๆ ก็ยังกลัวซะได้」
「คัตสึกิคุง……!」
「รู้บ่ว่าเมื่อกี้เขาพูดว่ากลัวไปกี่ครั้ง? 」
「4」
「ไม่นะความประทับใจแรกของฉัน……」
พอโดนคำพูดที่เหมือนจะพยายามถนอมน้ำใจของเขาฉันถึงกับน้ำตาจะไหล
แม้ว่าบุคลิกของเขาจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ความมีน้ำใจและความห่วงใยคนอื่นของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
「นอกจากนี้ ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ เอาแต่ต่อสู้มั่วซั่วไม่ระวังมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้」
「ไม่จริงหรอก พวกเราต้องขอบคุณต่างหากที่นายเข้าช่วยปกป้องผู้คนได้ก่อนใคร」
เขาคือคนที่มีพลังตรวจจับและเข้าต่อสู้กับผู้รุกรานก่อนใครเพื่อน
ไม่มีเหตุผลให้ตำหนิเขา
「เรด เอาเป็นว่าเลิกสานสัมพันธ์อะไรนั่นของเธอก่อน พวกเราต้องไปกันต่อแล้ว」
「จะไปไหนอีกล่ะคะ? 」
「เอ้า มันก็ต้องศูนย์ปฏิบัติการที่แท้จริงของพวกเธอไง ไปขึ้นลิฟต์กัน!!」
ประธานชี้นิ้วไปยังลิฟต์ด้วยท่าทางเกินเบอร์
คัตสึมิคุงก็พยักหน้าให้กับเขาและหันไปหาชิราคาวะจัง
「พี่ฮาคัว ไปกันเถอะ」
「หือ!? อะ อื้อ นั่นสินะไปกันเถอะ」
ชิราคาวะจังมองมาทางฉันกับคิราระที่ส่งยิ้มหวานให้เธอ
ใบหน้าของเธอยังคงซีดเซียวขณะเดินไปยังลิฟต์พร้อมกับคัตสึมิคุง
「นั่นสินะ ประธาน หากคนมากันขนาดนี้คงไปพร้อมกันไม่ไหวหรอก เราแยกกันไปคนละรอบดีกว่า」
「นั่นสิน้อ แบบนั้นจะปลอดภัยกว่าเด้」
「ความปลอดภัย」
ประธานเอียงหัวสงสัยกับคำพูดของพวกเรา
「หา? พูดอะไรของพวกเธอลิฟต์นี้น่ะถึงจะมีคนเยอะกว่า―――」
「……? 」
「แยกกันไปเถอะ! เน๊อะ!」
ประธานยอมจำนนต่อแรงกดดันของพวกเรา
「ถ้างั้น ประธานก็ลงไปพร้อมกับคัตสึกิคุงและอัลฟ่าจังก่อนเลยค่ะ」
「อะ อะ เอ่อ」
「หลังจากนั้นพวกเรา 3 คนและชิราคาวะจังจะตามลงไปเอง」
「เชี่ย?! ค คัตซึน! ฉ-ฉัน ก็จะไปกับนายด้วยยยยยยย ไปด้วยกันเถอะ คัตสึกิ!!! ม่ายยย!! อ๊ะเดียวสิ อัลฟ่าทำไมผลักฉันแบบน้าน」
「ฉันไปกับพวกเธอดีกว่า……คงได้สิเนอะ? 」
หลังจากนั้นประธาน คัตสึมิคุงและคนอื่นๆ ก็ลงลิฟต์กันไป
อัลฟ่าจังก็ตามพวกเรามาแทน
ฉันกับคิราระได้ว่างมือบนไหล่ของเธอทั้งสองข้าง ระหว่างที่ลิฟต์กำลังค่อยๆ ลงไปข้างล่างช้าๆ
「พี่ฮาคัวสินะ? ฉันไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะทำยังไงกับเธอดี ชิราคาวะจัง」
「เนอะ พี่ฮาคัว อยากฟังนิทานที่ฉันจะเล่าให้ฟังไหม? 」
「อึก……」
「อยากจะให้คายเรื่องที่อยู่ด้วยกันกับเขามาจังเลย」
แน่นอนว่าพวกเรารู้เรื่องราวของเธออยู่แล้ว ว่าเธอเติบโตมายังไง แต่มันก็คนละเรื่องกับการต้องมานั่งจับเข่าคุยกันให้มันดีๆ นี่เนอะ
—
สำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์ถูกตั้งเอาไว้ที่ชั้นใต้ดินของบริษัท
การจะไปที่นั่นได้ทั้งฉันและพวกเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีคีย์การ์ดพิเศษ และการมีอยู่ของมันจำเป็นต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับกับพนักงานธรรมดาทุกคน
ระหว่างทางที่พวกเราลงไปชั้นใต้ดินเราก็ทำการสอบปากคำชิราคาวะจังไปพลางๆ พอถึงจุดหมายก็พบว่าคัตสึมิคุงและคนอื่นๆ กำลังรอพวกเราอยู่หน้าลิฟต์
「พี่ฮาคัวเป็นอะไรหรือเปล่า? 」
「สงสัยจะรู้สึกเมาลิฟต์นิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ฮะ ฮ่าๆๆๆๆ 」
「งั้นเหรอครับ? ฮ่าๆๆ พอได้เห็นแบบนี้แล้วพี่ก็มีด้านเด็กๆ เหมือนกันเนอะ ตัวสั่นเหมือนลูกแมวเลย…」
บอกไว้ก่อนเลยว่าการพูดคุยของพวกเรายังไม่จบหรอกนะ
ระหว่างที่ฉันเดินออกจากลิฟต์ ประธานที่กำลังจะเดินนำพวกเราไปก็พูดขึ้น
「คัตสึกิคุง ได้เอาอุปกรณ์แปลงร่างมาหรือเปล่า? 」
「ครับ ชิโระ」
『โฮก!』
หมาป่าจักรกลตัวเล็กโผล่ออกมาจากกระเป๋าที่เขาถือมาด้วย
…มันเป็นอุปกรณ์แปลงร่างอันเดียวกันกับตอนที่เวลาก้าบังคับให้เขาแปลงร่างคราวก่อน แม้สีของมันจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ไม่ผิดแน่
「มีความนึกคิดเป็นของตัวเองสินะ ขอโทษทีแต่ว่า…ฉันขอตรวจสอบเด็กคนนี้หน่อยได้หรือเปล่า? 」
「เอ่อ ชิโระ โอเคไหม? 」
คัตสึมิคุงหันไปสบตากับหมาป่าที่เรียกว่าชิโระ
รู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงมากกว่าอุปกรณ์แปลงร่างนะ
『โฮก』
「เหมือนจะไม่มีปัญหานะครับ」
「งั้นก็ดี」
หลังรับตัวชิโระมาประธานก็สวมแว่นตาแปลกๆ แล้วตรวจสอบร่างของมัน
「พื้นฐานของมันลอกมาจากโปรโตไทป์สินะ หื้ม ไอ้เจ้าพวกโง่นั่น คิดจะใช้เด็กนี่มั่วซั่วโดยไม่คำนึงถึงความเข้ากันได้เลยหรือยังไง ไม่แปลกใจว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงโกรธ แถมคอร์นี่ยังสร้างให้มันมีความนึกคิดอีก…..สวะของแท้เลยวุ้ย」
『โฮก』
หลังพูดอะไรอยู่คนเดียว เขาก็ส่งชิโระคืนให้คัตสึมิคุง
「หลังจากนี้ฉันขอตรวจสอบบันทึกการต่อสู้ด้วยได้หรือเปล่า? อ้อ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันไม่ไปขุดคุ้ยเรื่องแปลกๆ แน่นอน」
「ถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าจะเป็นไร……」
「เชื่อใจฉันได้เลย ฉันเป็นถึงประธานเชียวนะ พูดคำไหนเป็นคำนั้นอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ เอ้าตามมาๆ!!」
ประธานหัวเราะออกมาเกินเบอร์นิดหน่อยแล้วเดินต่อ
จุดแรกที่พวกเราไปกันก็คือประตูของห้องซ่อมบำรุงยาน
「นี่เป็นพื้นที่สำหรับเก็บและซ่อมบำรุงรักษายานทั้งสามลำของจัสติสครูเซเดอร์」
「โหววว……อย่างเจ๋ง……!」
「ฉันตั้งใจสร้างให้เป็นแบบนี้ยังไงล่ะ」
ยานสีแดง น้ำเงิน เหลือง ได้จอดเรียงกันอยู่ในโถงกว้าง
ยานที่พวกเราใช้ในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ อาวุธพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีจากต่างดาว ซึ่งมีความสามารถโดดเด่นแตกต่างกันออกไป
「แต่ให้ตายสินะ ไอ้ความคิดที่เน้นไปทางปฏิบัติการอย่างเดียวโดยไร้ความโรแมนติคเลยเนี่ยมันไม่ไหววุ้ย รวมร่างกันโดยที่ไม่มีเอฟเฟคพิเศษหรือเสียงประกาศตัวอะไรเลยมันใช้ได้ที่ไหน พวกเด็กสาวสมัยนี้มันใช้ไม่ได้จริงๆ 」
ตอนนี้ฉันอยู่ต่อหน้าคัตสึมิคุง…!!
แม้จะอย่างซัดหน้าประธานขนาดไหน ก็ต้องทนไว้….!!
ฉันพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง แล้วเฝ้ามองคัตสึมิคุงที่เดินดูยานของพวกเรา
「แล้วยาน 2 ลำนี่คืออะไรครับ? สีดำแล้วก็ขาวด้วย」
มียานอีก 2 ลำจอดเอาไว้ อันหนึ่งเหมือนยานเกราะขนาดใหญ่สีขาว ส่วนอีกอันเหมือนยานของพวกเราสีดำ
ประธานหันหน้าไปวางมือบนไหล่ของคัตสึมิคุง
「ยานสีขาวนั่นกะจะเอาให้นายใช้น่ะ…ถึงจะยังปรับแต่งไม่เสร็จก็เถอะ」
「หา? 」
「ไวท์ 5 มันเป็นยานที่จะแสดงพลังที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อรวมเข้ากับรถที่นายใช้อยู่」
「แล้วลำสีดำนั่น……」
「อันนั้นก็สร้างให้นายเหมือนกัน แต่ตอนนี้เอาไว้ก่อน…」
เขาคุยกับคัตสึมิคุงต่อ
「พวกเราตั้งใจขอความร่วมมือจากนาย เช่นเดียวกับจัสติสครูเซเดอร์ นายน่ะคือความหวังของมนุษยชาติ ไม่สิความหวังของโลกใบนี้」
「นั่นก็ออกจะเกินจริงไป……」
「เกินจริงงั้นเหรอ……ไม่มีทางหรอก」
คัตสึมิคุงสับสนกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของประธาน
หากเรากระตุ้นอะไรเขาพลาดไป ความทรงจำของคัตสึมิคุงคงได้ถูกจัดการอะไรอีกแน่ ดังนั้นสิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนี้คือผลักดันเขา
「ประธานเราย้ายที่กันก่อนไหม? 」
「อะ อ้านั่นสินะ ไปห้องประชุมชั้นล่างแล้วคุยกันในนั้นน่าจะดีกว่า」
「คะ-ครับ」
จากนั้นพวกเราก็ไปคุยกันในเรื่องขอความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับเขาในห้องประชุม
หากทำแบบนั้นการประสานงานต่างๆ จะง่ายขึ้น พวกเราจะสามารถช่วยกันกำจัดผู้รุกรานได้ด้วย
ระหว่างที่กำลังเดินไป ฉันก็เห็นชิโระโดดออกจากกระเป๋าของคัตสึมิคุงแล้ววิ่งไปที่ไหนสักแห่ง
「หือ? อากาเนะ เป็นอะไรไป? 」
「อัลฟ่าจังไม่เห็นเหรอว่าชิโระกระโดดวิ่งออกไปไหนไม่รู้? 」
「ฉันไม่ทันสังเกตอ่ะ….สงสัยอยากไปเปิดหูเปิดตามั้ง」
「ถ้าถึงเวลาแล้วคัตซึนเรียกก็คงกลับมาเองแหละ」
มันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?
นอกจากจะเป็นอุปกรณ์แปลงร่างแล้ว ยังสามารถเรียกให้มาหาจากระยะไกลได้อีก สะดวกจริงๆ
ถ้างั้นคงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมั้ง
「ห้องประชุดอยู่ตรงหน้านี้แหละ ส่วนนี่เป็นคีย์การ์ดกับอุปกรณ์สื่อสารถ้าจะเกิดอะไรขึ้น…หือ นายเป็นอะไรไปน่ะ? 」
「……อึก」
ทันทีที่เดินออกจากโถงทางเดิน คัตสึมิคุงก็เอามือขวาจับหัวตัวเองเอาไว้
ชิราคาวะจังที่เห็นก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันที และมองไปทางพวกเราด้วยสีหน้าปั้นยาก
「ผู้รุกรานกำลังใกล้เข้ามาแล้ว! จำนวนของมันเหมือนจะเยอะด้วย!!」
「เอาล่ะ ออกไปกระทืบพวกมันซะ!! จัสติสครูเซเดอร์เตรียมตัว!! คัตสึกิคุงก็ด้วย!」
「ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะรีบนำทางให้เอง ตามผมมาได้เลย!」
「เอาตามนั้น ชิราคาวะคุง อัลฟ่า ช่วยพาเขาขึ้นไปที่พื้นดินด้วยล่ะ!」
คัตสึมิคุงกับคนอื่นๆ รีบวิ่งไปยังลิฟต์โดยมีชิโระวิ่งออกมาจากโรงเก็บยานที่พวกเราอยู่กันก่อนหน้านี้
ทางพวกฉันเองก็จะช้าไม่ได้ ฉันรีบวิ่งไปยังโรงเก็บยานเพื่อเตรียมออกปฏิบัติการ
ระหว่างที่ฉันกับคิราระขึ้นไปบนยาน อาโออิก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
「……อุ」
「เป็นอะไรไป อาโออิ? 」
「หายไปแล้ว……」
「หายไปแล้ว? อะไรหาย? 」
แล้วทางฉันกับคิราระก็พูดอะไรไม่ออก เมื่อหันไปยังทิศตามที่นิ้วของอาโออิชี้ ออกมาจากยานบลู 2
「โฮ่ย พวกเธอ รีบออกไปกันได้แล้ว ศัตรูมันไม่มีนั่งรอพวกเธอหรอกนะเห้ย!」
「ประธาน…เอ่อ ยานที่คุณจะสร้างให้กับคัตสึมิคุงมัน….」
「ไอ้ของที่ฉันยังปรับแต่งอยู่น่ะเหรอ―――ยังใช้ไม่ได้หรอก แล้วมันทำมะ… หา?!」
ยานสองลำที่จอดมาจนถึงก่อนหน้านี้ ยานเกราะยักษ์สีขาวและยานบินสีดำ มันได้หายไปเสียแล้ว
อย่าบอกนะว่าชิโระของคัตสึมิคุงกินมันไปแล้ว?
「NOOOOOO!? 」
「อะ เอาเป็นว่าพวกเราไปกันก่อนนะ!」
「นะ นั่นสิเนอะ!」
「ออกตัว」
พวกเราแปลงร่างแล้วก็บังคับยานให้พุ่งจากโรงจอดใต้ดิน ก่อนทะลวงผิวน้ำขึ้นไปบนฟ้า
————-
Note 1 : ที่มาของคำว่าหมาคาบไปแดก ส่วนเรดก็ยังคงเป็นยันเดเรด
Note 2 : ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code