"เพียะ!"
หลังจากตบไปแล้ว ฉันก็เพิ่งตระหนักได้ในสิ่งที่ฉันทำลงไป เห็นลู่จือสิงเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดแล้วเขาก็อ้าปากพูดอะไรไม่ออก
แต่จริงๆแล้วที่เขาทำมันก็เกินไป เขาผลักฉันเข้าไปในรถและใช้ความรุนแรงกับฉัน!
หรือว่าเป็นเพราะตัวฉันในฉันค่ำคืนนั้น ดังนั้นฉันเลยถูกตัดสินว่าเป็นผู้หญิงง่ายๆงั้นเหรอ?
ความกดอากาศภายในรถนั้นต่ำมาก ใบหน้าของเขานั้นน่ากลัวจนฉันไม่กล้ามอง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉันถึงได้ยินเขาเริ่มกล่าว "ผมจะไปส่งคุณ"
ฉันไม่ได้มองเขา "ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้"
"ซูยุ่น!"
ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือมาคว้าฉันไว้ เขาขมวดคิ้วและมีความเย็นชาในดวงตาของเขา
ฉันรู้สึกตกใจ ไม่อยากทำให้เขาขุ่นเคืองดังนั้นฉันจึงทำได้แค่อดทนไว้ "ประธานลู่ ฉันรู้สึกว่าฉันเองก็พูดไปชัดเจนแล้ว เราสองคนอยู่กันคนละโลก ฉันไม่คิดว่าเราจะมีเรื่องอะไรที่ต้องติดต่อกันอีก"
เขามองมาที่ฉันและหัวเราะเยาะ "คุณเป็นคนที่เจียมตัวดีนะ แต่ทำให้ผมเจ็บใจแล้วคิดจะถอนตัวจากไปหรือไง คุณลองไปถามคนอื่นนะว่าในเมืองAมีคนแบบนี้หรือเปล่า?"
คำพูดของเขาทำให้ฉันหงุดหงิด ฉันเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับเขา "แน่นอนฉันรู้ตัวเองดี ไม่งั้นครั้งต่อไป ฉันก็คงไม่รู้อะไรเลยว่าฉันจะตายอย่างไร"
"คุณหมายความว่าไง ซูยุ่น?"
ดวงตาของลู่จือสิงสั่นไหว ความเศร้าหมองในดวงตาสีดำคู่นั้นทำให้ฉันสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว
แต่ฉันรู้ว่าในวันนี้ฉันจะต้องพูดให้ชัดเจน "ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรที่จะล่อลวงและยั่วยวนคุณ แต่สำหรับเรื่องนี้ฉันก็ได้ชดใช้ไปแล้ว ประธานลู่ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ช่วยให้ฉันได้ใช้ชีวิตต่อไปในเมืองนี้ด้วยเถอะ!"
“พูดให้ชัดเจนซูยุ่น ผมไปพูดอะไรที่ทำให้คุณไม่สามารถอยู่ในเมืองAได้เหรอ?”
เมื่อเห็นเขายังไม่ยอมรับ ฉันก็โกรธมากขึ้น "ไม่ใช่คุณเหรอ ที่เป็นคนพูดว่าไม่ให้ฉันอาศัยอยู่ในเมืองAต่อไป? เพราะอะไรทำไมประธานลู่จึงมีท่าทีหน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ หากว่าไม่ใช่คุณ วันนี้ฉันจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้เหรอ? เรื่องที่ฉันทำผิดไป ฉันก็ได้ชดใช้ไปแล้ว…"
"คุณคิดว่าผมกำลังเล่นงานคุณงั้นเหรอ?"
เขามองฉัน สีหน้าที่เย็นชาของเขานั้นทำให้ฉันนิ่งงัน ลึกๆภายในใจก็แอบสงสัยว่าฉันอาจจะคาดเดาผิดคนหรือเปล่า แต่ในเมืองAนี้คนที่มีอำนาจนอกจากเขาแล้วยังจะมีใครอีก?
"ไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร?"
ฉันพูดจบ สีหน้าของลู่จือสิงก็หม่นหมองลง "ไปซะ! จำคำพูดวันนี้ของคุณไว้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก!"
"ฉัน……." ฉันอ้าปากค้างและมองเขา ฉันอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เมื่อได้มองดวงตาสีดำคู่นั้นแล้วฉันก็พ่ายแพ้ ฉันหันกลับมาหยิบกระเป๋าของตัวเองและออกไปจากสายตาของลู่จือสิง
หลังจากวันนั้น ฉันก็ได้ไปสัมภาษณ์งานอีกหลายบริษัทและในที่สุดฉันก็ได้เข้าทำงานบริษัทสื่อใหม่แห่งหนึ่ง
หนึ่งเดือนหลังจากนั้นฉันบังเอิญเจอเข้ากับผู้จัดการที่พยายามข่มเหงฉันในวันนั้น และพบว่าเขากำลังตามวอแวหยาวตันตันอยู่ สีหน้าของหยาวตันตันนั้นดูเหมือนจะหมดความอดทนเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินพวกเขาพูดถึงฉัน ฉันก็มีปฏิกิริยาในทันที และคิดอยากจะเข้าไปถามให้ชัดเจน ทว่าหยาวตันตันนั้นได้ขึ้นรถไปเสียแล้ว แต่ผู้จัดการที่เคยจะข่มเหงฉันนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ฉันรีบวิ่งเข้าไปโบกมือให้ผู้จัดการ "ผู้จัดการหลิว จำฉันได้ไหม?"
เมื่อเขาเห็นฉัน ใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อ เขาหมุนตัวเพื่อจะเดินหนีจากไป ฉันจึงคว้ามือเขาเอาไว้ "เดี๋ยวก่อนสิ ก่อนหน้านี้คุณพูดไว้ว่าจะทำให้ฉันอาศัยอยู่ในเมืองAไม่ได้อีกต่อไป คนนั้นน่ะคือใครเหรอ?"
“เธอกำลังพูดอะไร? ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร!”
เขาไม่ยอมพูด ท้ายที่สุดฉันจึงกล่าวถึงลู่จือสิงและเขาก็ยอมพูดออกมา "คือหยาวตันตัน คุณซู ตอนนั้นผมโดนครอบงำ ในตอนนี้ผมนั้นไม่มีงานทำแล้ว และไม่สามารถอยู่ในเมืองAได้อีกต่อไป คุณไม่ต้องพูดถึงผมกับประธานลู่นะ ผมรู้ตัวแล้วว่าผมผิดจริงๆ"
ฉันคลายมือที่กำแน่นออก ที่แท้ฉันเข้าใจลู่จือสิงผิดไปจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนั้นเขาจะโมโหขนาดนั้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หัวใจของฉันเหมือนถูกอะไรบางอย่างปิดกั้น …
MANGA DISCUSSION