หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 432 ย่อมพอมีหนทางเยียวยา
ตอนที่ 432 ย่อมพอมีหนทางเยียวยา
แววตาที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นของกู้หลิวเฟิงแฝงมากับถ้อยคําทิ้งท้าย
หากแต่ความเจ็บปวดทรมานใจแสนสาหัสสามารถรับรู้จากร่างที่สั่นสะท้านของชายหนุ่ม
ต้องลงมือสังหารมารดาผู้ให้กําเนิดให้สิ้นใจคามือ หรือทนดูนางรับชะตากรรมอันทุกข์ทรมาน โดยมิอาจหยิบยื่นความช่วยเหลือใด ล้วนเป็นทางเลือกอันโหดร้ายเกินกว่ามนุษย์ผู้ใดจะทนรับได้
เกอซีพยักหน้ารับ โดยไม่เอ่ยกล่าวถ้อยคําใด นางขยับโน้มกายเข้าตรวจจับเส้นชีพจรของกู่อวี้หลาน
แม้กู่อวี้หลานจะยังคงกรีดร้องดิ้นทุรนทุราย ก็หาได้ส่งผลใดกับการตรวจวินิจฉัยของเกอซีไม่
หลังการตรวจจับชีพจรนานกว่าครึ่งชั่วยามที่สุด เกอซีจึงคลายมือจากข้อมือของอีกฝ่าย
*ครึ่งชั่วยามคือหนึ่งชั่วโมง
ใบหน้าของผู้ตรวจอาการไม่ปรากฏว่าผ่อนคลายแม้เพียงน้อย นางก้มลงจับกู่อวี้หลานอ้าปาก ตรวจส่องดูรูม่านตา
กู้หลิวเฟิงผู้ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านข้างสูดหายใจเย็นยะเยียบตัวแข็งค้าง กระทั่งเมื่อเกอซีขยับกายลุกขึ้น เขาจึงอดกระซิบกระซาบขึ้นมิได้ “เอ่อ…. จากผลการตรวจอาการไข้ของเจ้า…..”
ทว่าเขากลับต้องฝืนสูดหายใจให้ลึกกล้ํากลืน ทุกถ้อยคําที่คิดจะเอ่ยกล่าวกลับคืนไป ด้วยเกรงจะได้ยินคําตอบที่ไม่ปรารถนาจะรับฟัง
“ซีเยว่ โอสถที่ได้รับจากเรือนมู่หรงมีปัญหาใช่หรือไม่ ?” เขานิ่งเงียบอยู่นานกว่าจะยอมปริปากไถ่ถาม “หาก….หากข้าได้โอสถชุดนี้มา จะเป็นประโยชน์ในการรักษายิ่งขึ้นหรือไม่ ?”
“ตราบเท่าที่ยังพอมีความหวัง แม้เพียงริบหรี่ ไม่ว่าด้วยหนทางใด ข้าพร้อมยอมเสี่ยง ! ขอเพียงเจ้าสามารถรักษาชีวิตท่านแม่ไว้ได้!
เกอซีบิดกายจ้วงน้ําสะอาดทําความสะอาดฝ่ามือที่ตรวจจับอาการก่อนตอบกลับด้วยน้ําเสียงบางเบาราบเรียบ “เจ้าคลายใจได้ อาการของแม่เจ้าหาใช่หนักหนาเกินเยียวยา ข้าสามารถรักษาอาการของนางได้”
“ว่ากระไรนะ ?” ผู้ไถ่ถามส่งเสียงลั่นด้วยอาการสั่นเครือเล็กน้อย “ซีเยว่ เจ้า…เจ้าสามารถรักษาได้จริงกระนั้นหรือ…สามารถให้การรักษาท่านแม่ของข้าได้จริงหรือ ? รักษาได้หรือ?”
สองคิ้วของเกอซีเลิกขึ้นสูง น้ําเสียงเชิดหยิ่งเปี่ยมความมั่นใจอย่างเหลือล้นคล้ายกําลังประกาศกร้าวว่า เจ้าคิดว่าข้าคือผู้ใด ! “เจ้าหลงลืมสิ่งที่ข้าเคยเอ่ยกล่าวไปแล้วกระนั้นหรือ ? ข้าย่อมไม่อาจกล่าวว่าตนสามารถรักษาชีวิตทุกผู้คน ทว่าผู้ใดที่ข้ากล่าวว่าข้าสามารถให้การเยียวยารักษาได้ กระทั่งพญามัจจุราชย่อมไม่อาจพรากคนผู้นั้นไปจากข้าได้ !”
“เพียงยามนี้ ขุมพลังในร่างของมารดาเจ้าถูกใช้กระทั่งแห้งเหือด แม้สามารถเยียวยารักษาชีวิตไว้ได้ เป็นไปได้มากว่าภายหลังการรักษานางอาจไม่สามารถฝึกฝนพลังฝีมือ เมื่อนางได้สิ้นพลังปราณแห่งจิตวิญญาณ นางย่อมดํารงอายุขัยเพียงเท่ามนุษย์สามัญทั่วไป”
“เท่านั้นย่อมเพียงพอ” กู้หลิวเฟิงพยายามระงับความตื่นเต้นยินดีที่ท่วมท้นภายในใจ กระนั้นน้ําเสียงของเขายังคงสั่นเครือ “ซีเยว่ ไม่รู้จะกล่าวขอบใจเจ้าเช่นไร นับแต่นี้ต่อไป ชีวิตของข้าหลิวเฟิง…”
“เมื่อไม่รู้จะกล่าวเช่นไร ไยต้องเอ่ยกล่าว” อีกฝ่ายกลับโบกมือขัด
เพียงพริบตาแท่งเข็มเงินสองแท่งพลัน ปรากฏขึ้นระหว่างปลายนิ้วเรียวอย่างรวดเร็วก่อน จะค่อย ๆ ถูกแทรกฝังลงบนขมับซ้าย และขวาของกู่อวี้หลาน เพียงได้รับการฝังเข็ม อาการดิ้นทุรนทรายแผดเสียงกรีดร้องของกู่อวี้หลานพลันค่อย ๆ บรรเทาเบาบางลง
แม้ร่างของนางยังคงสั่นเทาเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด ทว่าหว่างคิ้วทั้งสองเริ่มค่อย ๆ คลี่คลายออกจากกันเผยให้เห็นถึงความรู้สึกผ่อนคลาย
กู้หลิวเฟิงจับจ้องหนุ่มน้อยผู้กําลังจดจ่อกับการฝังเข็มรักษาอาการป่วย มิรู้ด้วยเหตุใด ภาพเหตุการณ์ครั้งเมื่ออยู่ในม่านหมอกร้อยพฤกษ์สมุนไพรพลันผุดขึ้นในหัวของเขาอย่างไม่ทันรู้ตัว ในครานั้น ซีเยว่กําลังปรุงกลั่นสมุนไพรโดยมีหนานกงยวี่คอยส่งตัวยาต่าง ๆ ให้
องค์ราชันมัจจุราชผู้สูงส่งเหนือผู้คน บุรุษผู้มีปกติเฉยเมยเย็นชาห่างเหินไม่แยแสต่อผู้ใด เพียงเฉพาะเมื่ออยู่เบื้องหน้าซีเยวผู้นี้เท่านั้น ที่สามารถทําให้ชายผู้นั้นหมดความหยิ่งผยองลําพอง สิ้นความทระนง คงเหลือเพียงความยินยอมพร้อมใจและโอนอ่อน
ในครานั้น กู้หลิวเฟิงพลันบังเอิญเหลือบไปเห็นแววตาอ่อนละมุนซาบซึ้งตรึงใจที่หนานกงยวี่มีให้แก่ซีเยว่
หากทว่าช่วงเวลานั้น ซีเยว่กําลังจดจ่ออยู่กับการกลั่นต้มโอสถ จึงมิได้นําพาต่อสายตาอันหยาดเยิ้มของหนานกงยว ทั้งอาจไม่ทันได้แลเห็น ทว่าสายตาของอีกฝ่ายกลับยังคงจดจ้องติดตามนางทุกความเคลื่อนไหวอย่างไม่ลดละด้วยความอิ่มเอมสุขใจ
แววตาคู่นั้น ท่วมท้นด้วยความอ่อนโยน พะเน้าพะนอเอาใจและเทิดทูน ไหนเล่า องค์ราชันมัจจุราช ทรราชผู้เลือดเย็นไร้หัวใจ ? ที่ปรากฏ เห็นจะมีเพียงสามีแสนดีผู้กําลังส่งสายตามองตามภรรยาผู้เป็นดังดวงใจด้วยแววตาอันเปี่ยมล้นด้วยความลุ่มหลงรักใคร่เท่านั้น !
กู้หลิวเฟิงทอดถอนใจพลางบ่นพึมพําบางเบา “หนานกงยวอาจเป็นผู้ที่เหมาะสมกับเจ้าที่สุดแล้ว”
***จบตอน ย่อมพอมีหนทางเยียวยา***