หวานใจคุณชายเสิ่น - ตอนที่ 57
จนกระทั่งออกจากสโมสร ขึ้นมาบนรถ เวินจิ่นไหวอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยขึ้น “เสี่ยวหวู่ เล่นอะไรของนาย วันที่เคยรักกันหวานชื่นก็ปล่อยวางไม่ได้ แต่พอได้เจอกลับเมินเฉยใส่กัน?”
เสิ่นมั่วเฉิงนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง ด้วยสีหน้าท่าทางเงียบขรึม
เขาสูบบุหรี่จนหมดมวน แล้วกระตุกมุมปาก “ดูไม่ออกเหรอว่าเธอไม่อยากเกี่ยวข้องกับฉันแล้ว?”
ชายหนุ่มหยุดไปชั่วครู่ กดน้ำเสียงให้ต่ำลง ล่องลอยราวกับเศษฝุ่น “เธอเกลียดผู้ชายมีลูกติด”
เวินจิ่นไหวตกตะลึงจนใบ้กิน
………………
กู้สวงส่วงไม่ได้กลับไปทำงานพาร์ทไทม์ที่สโมสรอีก
หากเจอเขาต้องใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกเป็นแน่ พอใจลอยก็จะทำให้งานผิดพลาด แม้หักเงินเดือนทั้งหมดยังไม่พอ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ?
เมืองใหญ่ขนาดนี้ ประชากรตั้งหลายล้าน แต่ไปที่ไหนที่ไหนก็พบเจอแต่เขา
-
วันรุ่งขึ้น เสิ่นมั่วเฉิงเป็นฝ่ายนัดเวินจิ่นไหวกับเซียวอี้เฉินเอง บอกว่าคันไม้คันมืออยากไปเล่นสควอชที่สโมสร
เวินจิ่นไหวอมยิ้ม
แต่เมื่อไปถึงที่นั่น พอได้รู้ว่าคนที่ต้องการพบเธอลาออกไปแล้ว หลังจากนั้นเสิ่นมั่วเฉิงก็ไม่ได้ย่างกายเข้าไปเหยียบอีกเลย
เวินจิ่นไหวจ้องมองเข้าไปในแววตาของเขา มีความไหววิตกอยู่ในนัยน์ตาลึกล้ำ
กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วจริงๆ งั้นเหรอ? สูญเสียเวลาสามสี่เดือนทิ้งไป เขานอนไม่หลับ เพียงกะพริบตาก็จะกลับสู่สถานะคนไม่รู้จักกันราวกับเมื่อสองปีก่อนใช่ไหม?
-
วันที่ลาออกคือวันที่ยี่สิบเดือนสิบสอง (ตามปฏิทินจันทรคติจีน) อีกไม่กี่วันจะถึงวันปีใหม่
กู้สวงส่วงคำนวณเงินเก็บของตนเอง เงินแปดพันที่ไม่มีเจ้าของ เงินรางวัลจากการแข่งขันการออกแบบไม่กี่พัน และรายได้ที่หามาด้วยตัวเองอีกสองพัน
ค่าเทอมชั้นปีที่สามทางมหาวิทยาลัยจ่ายอีกทีเดือนกันยายนปีหน้า ต้องประหยัดใช้บ้าง แต่ก็ไม่ต้องเคร่งครัดมากนัก
หลายวันมานี้เธอกักตัวอยู่แต่ในห้องเพื่อแก้ไขแบบของเธอ มีบ้างที่สนทนาทางวิดีโอกับลู่ซีหลี เพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการกำหนดทิศทางของรูปแบบ
เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดนี้จะได้ออกจำหน่ายในท้องตลอด
วันที่ยี่สิบหกเดือนสิบสอง (ตามปฏิทินจันทรคติจีน) เธอกดรับสายโทรศัพท์จากกู้ไห่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
เธออายุเท่าไหร่อันที่จริงกู้ไห่อาจไม่ได้ใส่จำด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ กลับพูดถึงเรื่องวันเกิดของเธอทางโทรศัพท์ขึ้นมา
กู้สวงส่วงรู้สึกว่าทั้งไร้สาระและเศร้าใจคละเคล้ากันไป
อันที่จริง คงวางแผนการล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว
กู้ไห่พูดขึ้นทางโทรศัพท์ “สวงส่วง ก่อนหน้านี้พ่อเป็นหนี้ลูกมาก ปีนี้ลูกอายุครบยี่สิบ พ่อจะชดเชยให้ลูกเป็นอย่างดี จัดงานวันเกิดยิ่งใหญ่ให้ลูก เมื่อถึงเวลาเหล่าคนดังทั้งหลายจะถูกเชิญไปที่นั่น สื่อต่างๆ ดารานักแสดง จะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง พ่ออยากป่าวประกาศให้โลกได้รับรู้ ว่าลูกคือเจ้าหญิงคนเล็กของตระกูลกู้!”
กู้สวงส่วงคลื่นไส้จนแทบอาเจียนออกมา
เธอหัวเราะคิกคัก “คุณรักฉันจริงๆ? แต่คุณโอ้อวดขนาดนี้ คุณป้าปล่อยให้ทำงั้นเหรอ?”
กู้ไห่แทรกขึ้น อดกลั้นอารมณ์ตนเองเอาไว้ “สวงส่วงลูกไม่มาไม่ได้นะ พ่อได้เชิญบัตรเชิญไปหมดแล้ว โรงแรมก็จองไว้แล้ว อย่าทำให้พ่อเสียน้ำใจสิ”
กู้สวงส่วงวางสายโทรศัพท์ รู้สึกหนาวเหน็บในใจ
นี่ทำให้รู้ว่าสามีผู้ลึกลับของเธอมีอิทธิพลมากขนาดไหน ในที่สุด เธอก็ได้รับความสนใจจากเขา
เขาต้องการกระตุ้นให้สามีของเธอปรากฏตัวออกมา? ความคิดของกู้ไห่ชัดเจนมาก
วันเกิดวันที่ยี่สิบแปด ในความทรงจำอันคลุมเครือ มีเงาเลือนรางอ่อนโยนของใครบางคน กำลังต้มไข่ให้เธอในวันที่หิมะตก มือของแม่ช่างสวยงาม นิ้วมือแต่ละนิ้วดูอบอุ่น นิ้วนั้นแตะตรงปลายจมูกเธอเบาๆ ขณะที่กำลังปอกเปลือกไข่ให้เธอ ฉีกยิ้มและบอกว่าเธอน่ะซนมาก สองวันสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหญ่หางเล็กๆ ก็โผล่ออกมาเสียแล้ว
หลังจากอายุห้าขวบ ก็ไม่มีใครต้มไข่ให้เธออีกเลย วันเกิดไม่ใช่งานรื่นเริงอีกต่อไป เป็นเพียงความเจ็บปวดในใจที่เธอไม่อยากพูดถึง
และตอนนี้ ความเจ็บปวดนี้ถูกกู้ไห้นำมาใช้เป็นเครื่องมือ
-
สองวันผ่านไปไวเหมือนกะพริบตา
เช้าตรู่ เธอได้รับชุดราตรีจากคนรับใช้ที่ครอบครัวกู้ส่งมาให้
ตอนเที่ยง ครอบครัวกู้ส่งรถมารับ
นอกจากคนขับเก่าแก่ของครอบครัวกู้แล้ว ยังมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งมาข้างคนขับด้วย เธอแต่งหน้าแต่งตัวแบบมืออาชีพ
“สวัสดีค่ะคุณหนูรอง ฉันเป็นเลขาของท่านประธานกู้ค่ะ”
กู้สวงส่วงเหลือบมองเธอ อายุไม่แก่กว่าเธอมากนัก ปากแดงฟันขาว หน้าตาสวยหยาดเยิ้ม เป็นเลขาประเภทไหน กู้สวงส่วงเข้าใจได้ชัดเจน
เธอรู้สึกเห็นใจเจียงหรงขึ้นมา
เลขาสาวสวยคนนี้เห็นว่าเนื้อตัวเธอยังไม่เรียบร้อย จึงพาเธอไปทำสปาที่ร้านเสริมสวย และพาไปร้านออกแบบทรงเพื่อให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้นมาหน่อย
กู้สวงส่วงนั่งจนผล็อยหลับไป ตื่นขึ้นมาส่องกระจกอีกที ถึงกลับตกใจตัวเอง
งานเลี้ยงวันเกิดจัดขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยงบนชั้นสองของโรงแรมโป๋เจวี๋ย
ขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นสอง เมื่อมาถึงบริกรซ้ายขวาค่อยๆ เปิดประตูไม้บานคู่ออกอย่างช้าๆ การตกแต่งภายในห้องจัดเลี้ยงหรูหราอลังการ บรรยากาศครึกครื้น รองเท้าส้นสูงคมกริบของกู้สวงส่วงไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก
แม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวกู้ยืนอยู่ข้างๆ “คุณหนูรอง ขอมือหน่อยค่ะ”
ชุดที่กู้สวงส่วงสวมช่างงดงาม สายตาเธอจับจ้องไปข้างหน้า ก้าวเท้าไปบนพรมแดงมุ่งหน้าไปยังเวทีอย่างเกร็งๆ
บนเวที กู้ไห่หยิบไมโครโฟนขึ้นมา “ขอบพระคุณแขกทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่า มาร่วมแสดงความยินดีกับงานวันเกิดเจ้าหญิงเล็กของผม สวงส่วงมานี่มา แนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักสักหน่อยสิ”
กู้สวงส่วงยืนนิ่งไม่ไหวติง เรือนร่างที่ห่อหุ้มด้วยชุดราตรีเกาะอกหรูหรา ความอบอุ่นภายในห้อง แต่เธอกลับรู้สึกหนาว หนาวราวกับว่าถูกแช่แข็งลงไปถึงกระดูก
เธอไม่อาจแสดงละครจอมปลอมเช่นนี้ได้ แต่เมื่อสายตามองเห็นเจียงหรงและกู้จื่ออี้ที่อยู่ข้างเวที ใบหน้าของพวกเธอยิ้มแย้ม แต่กลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังและไม่พอใจในสายตาคู่นั้น
กู้สวงส่วงฉีกยิ้ม ยกกระโปรงขึ้นจากพื้น ก้าวเท้าขึ้นบนเวที
หยิบไมโครโฟนขึ้นมา แสร้งทำเป็นยิ้ม และกำลังจะเอ่ยขึ้น——
ทันใดนั้นประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออก ตามมาด้วยเสียงแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวกู้ “เจ้านายคะ! ท่านประธานบริษัทเซิ่งซื่อ คุณเสิ่นมั่วเฉิงมาแล้วค่ะ”
ทันทีที่เสียงนั้นจบลง เกิดความเงียบทันใด
กู้สวงส่วงรับรู้ได้ถึงเสียงลมพัดผ่านข้างกาย เธอจับจ้องไปข้างหน้า กู้ไห่รีบก้าวลงจากเวทีโดยเร็ว
หันมองไปรอบๆ ผู้คนด้านล่างเวทีต่างหลีกทางให้ ทุกคนเงียบกริบ แต่มีเสียงลมหายใจดังขึ้นต่อเนื่องกันไปเป็นระลอก
จากนั้นเธอมองไปตามสายตาของทุกคน จับจ้องไปยังประตู บนพรมแดงมีร่างสูงเพรียวของใครบางยืนโดดเด่นอยู่ตรงนั้น
ในสายตาของทุกคนที่กำลังจ้องมอง ราวกับว่าเขากำลังเหยียบอยู่บนแสงสีทองเป็นประกาย ลำแสงสว่างไสวชวนเพ้อฝัน เขาค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ
กู้สวงส่วงก้มลงมอง ประหลาดใจกับใบหน้าหล่อเหลาอันคุ้นเคย
เขา? เป็นประธานบริษัทเซิ่งซื่องั้นเหรอ?
ใบหน้าของเสิ่นมั่วเฉิงเย็นชา คิ้วเข้มขมวดแน่น ดวงตาเฉียบคมของชายหนุ่มจ้องมองไปบนเรือนร่างงดงามบนเวที
หลงกลเวินจิ่นไหวจนได้!
อันที่จริงต้องบอกว่าวันนี้มีงานเลี้ยงแลกเปลี่ยนทางธุรกิจที่สำคัญมาก บริษัทชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมดต้องส่งตัวแทนมาเข้าร่วม พลาดไปคงน่าเสียดาย
เมื่อเขามาถึง กลับไม่เห็นแม้เงาของไอ้คนนั้น โทรศัพท์ไปถามให้ละเอียด เวินจิ่นไหวบอกว่าสถานที่คือชั้นสองของโรงแรมโป๋เจวี๋ย ไม่ผิดแน่
เขามาถึงหน้าประตู เซ็นชื่อลงทะเบียน แต่เมื่อเดินเข้ามา กลับเจอเธอ
ในชุดเกาะอกสีขาว กระโปรงกวัดแกว่งไปตามพื้น ผมดำขลับสะบัดไปมา เธอม้วนชายกระโปรงขึ้น เผยให้เห็นขาเล็กๆ เรียวงาม
เธอที่ยืนสะโอดสะองอยู่ตรงนั้น งดงามราวกับนางเงือก สง่างามราวกับเทพธิดา
แย่จริง เธอเจอเขาอีกแล้ว
รูปร่างสง่าผ่าเผยและเคร่งขรึมจ้องมองอยู่ไกลๆ เป็นเวลาเนิ่นนานที่สมองของกู้สวงส่วงคิดอะไรไม่ออก
เธอนึกถึงตอนที่ไปแข่งขันการออกแบบในเดือนพฤศจิกายน เธอติดตามผู้ปฏิบัติงานนักศึกษาไปส่งแผนกำหนดการที่ CC International เวลานั้นจุดจอดรถอยู่ตรงใจกลางศูนย์การค้าของเมือง A เธอมองไปยังนอกย่านการค้าที่ดูคึกคัก ห่างออกไปไม่ไกลเห็นอาคาร CC International ตั้งตระหง่านเผชิญหน้ากับอาคารบริษัทเซิ่งซื่อ
ตึกสูงตระหง่านที่เกือบกลืนหายไปในหมู่เมฆ ทั้งหกสิบหกชั้นทั้งหมดเป็นกระจกเทมเปอร์ทึบแสง แสงแดดที่ตกกระทบลงมาสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่วิจิตรตระการตา
กลุ่มบริษัทเซิ่งซื่อ แม้เธอเป็นเพียงนักศึกษาที่ไม่ค่อยรู้เรื่องธุรกิจมากนัก แต่ก็ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาพอสมควร
เพราะบริษัทใหญ่มากขนาดนี้ต้องปรากฏบนช่องข่าวเศรษฐกิจในทุกๆ เช้า และยังมีอีกหลายบริษัทที่ถูกควบคุมภายในการบริหารของบริษัทนี้