หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 465 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (3) / ตอนที่ 466 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (4)
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 465 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (3) / ตอนที่ 466 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (4)
ตอนที่ 465 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (3)
ปกติเขาไม่ได้ขี้น้อยใจขนาดนี้
ถ้าโกรธจริง แค่จูบหรือกอดก็ดีขึ้นแล้ว
แต่วันนี้เขาไม่สนใจเธอจริงๆ
หรือว่ายังหึงเรื่องที่เธอทำแผลให้ฟ่านอวี่อยู่
เธออธิบายไปแล้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่สงสัยอยู่ในใจ ครั้นเห็นเขาหลับตาอยู่ตลอด เธอจึงหมุนตัวเข้าหาเขา แล้วจ้องเขม็งไปที่เขา
เขาหล่อมากจริง
เครื่องหน้าของเขาสมบูรณ์แบบ
ทุกมุมเหมาะเจาะพอดี
ริมฝีปากบางเม้มเบาๆ ดูน่าหลงใหลเป็นพิเศษ…ราวกับงานศิลปะที่จิตรกรตั้งใจปั้นออกมาเป็นที่สุด
เหนียนเสี่ยวมู่มองแล้วรู้สึกเสียสมาธิอยู่บ้าง
หญิงสาวทำปากจู๋ เพื่อขโมยจูบบนแก้มของเขาครั้งหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าเขาเหมือนจะหลับอยู่จริงๆ ไม่ได้ลืมตาขึ้นมา เธอก็ยิ่งเข้าไปใกล้เขาด้วยความสบายใจ แล้วขโมยจูบบนริมฝีปากของเขาอย่างไม่เกรงกลัว
แถมยังใช้มือจิ้มใบหน้าที่หน้ามองของเขา พลางพึมพำเสียงเบา
“คนขี้หึง ขืนยังไม่สนใจแฟนอีก คุณต้องไม่มีแฟน…” คำว่า ‘แล้ว’ ยังไม่ทันได้ออกมาจากปาก คนตรงหน้าของเธอก็พลันเบิกตาโพลง
ดวงตาของเขาสุกใส ทว่าสายตากลับหยั่งลึก
ท่าทางเหมือนคนเพิ่งตื่นที่ไหนกัน
“เฮ้ย!” เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจจนต้องหดมือกลับ ชายหนุ่มก็จับมือเธอไว้แล้ว
อวี๋เยว่หานพลิกตัว ร่างสูงใหญ่กอดเธอไว้อกเบาๆ ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ “เหนียนเสี่ยวมู่ คุณยั่วผมเองนะ ต้องรับผิดชอบด้วย”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
คฤหาสน์ตระกูลเหวิน
“เพียะ”
ประธานเหวินฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเหวินหย่าไต้อย่างแรง
แรงฟากนั้นทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ และล้มลงข้างๆ โต๊ะน้ำชาทันที
“โง่! เสียดายที่ฉันฟูมฟักแกมาตั้งหลายปี แค่พยาบาลรับจ้างคนเดียวยังจัดการไม่ได้ แถมยังโง่เสียเงินตั้งยี่สิบล้าน ไปซื้อเข็มกลัดที่ไม่มีค่า ฉันมีลูกสาวที่โง่แบบแกได้ยังไงกัน”
พอประธานเหวินคิดถึงเงินยี่สิบล้าน เขาก็โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เงื้อมือเตรียมจะฟาดใส่เหวินหย่าไต้อีกครั้ง
เหวินหย่าไต้รีบคุกเข่าลง
“พ่อ หนูทำไปเพื่อตระกูล พ่อไม่เห็นงานเมื่อวาน เหนียนเสี่ยวมู่ทำให้หนูตกอยู่ในสถานการณ์น่าอาย ถ้าหนูยอมแพ้ไปอย่างนั้น ไม่เท่ากับทำให้ตระกูลเหวินเสียหน้าเหรอคะ”
หญิงสาวพูดพร้อมน้ำตาไหลเป็นสายฝน เธอคลานเข่าไปตรงหน้าบิดา ก่อนจะยื่นมือไปจับขากางเกงของเขาเอาไว้
“พ่อ หนูผิดไปแล้วจริงๆ…”
ถึงอย่างไรตนก็เป็นลูกสาวคนโต อย่างไรประธานเหวินก็ต้องรักและเอ็นดูเธออยู่บ้าง
เมื่อได้ยินเธอยอมรับผิดด้วยท่าทางน่าสงสาร สีหน้าของประธานเหวินก็อ่อนลงเล็กน้อย
ผู้เป็นพ่อเพิ่งให้เธอลุกขึ้น ทว่าจางหมิงเยี่ยนที่อยู่ข้างๆ กลับเป่าหูเขาอีก
“นี่ ฉันได้ยินว่าตอนประมูลในงานเมื่อวาน คุณหนูเหวินไม่กะพริบตาเลยสักครั้ง บอกว่าจะเอาชนะเหนียนเสี่ยวมู่ให้ได้ แต่ไม่คิดเลยว่าเหนียนเสี่ยวมู่ใช้เงินของอวี๋เยว่หาน แล้วจะเอาชนะเธอยังไง ตอนนี้มาบอกว่าทำไปเพื่อตระกูลเหวิน ใครเชื่อก็โง่แล้ว!”
ครั้นได้ยินดังนั้น สีหน้าของประธานเหวินที่เพิ่งอ่อนลง ก็ดำคล้ำขึ้นอีกครั้ง
เขาสะบัดมือของลูกสาว ที่จับขากางเกงของเขาออก
“พ่อคะ อย่าไปฟังเธอพูดมั่ว…” เหวินหย่าไต้ร้อยใจอยากอธิบาย แต่จางหมิงเยี่ยนให้โอกาสเธอที่ไหนกัน
“พูดขึ้นมาแล้วก็เป็นเพราะเธอไปแข่งกับเหนียนเสี่ยวมู่เอง ถ้าเธอมัดใจคุณชายหานได้ ตระกูลอันจะอยู่เหนือตระกูลเหวินของพวกเราได้ยังไงกัน แถมตอนนี้ยังกลายเป็นเรื่องตลกของทุกคนอีก พวกเขาบอกว่าตระกูลเหวินของพวกเราไม่มีความสามารถที่จะร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋ ทำเป็นแค่ตบหน้าตัวเองให้บวมเพื่อเรียกร้องความสนใจ กล้าแย่งของกับบริษัทตระกูลอวี๋…” จางหมิงเยี่ยนแย่งพูด
แต่เธอยังพูดไม่ทันจบดี กล้ามเนื้อบนใบหน้าของประธานเหวินก็ต้องกระตุกด้วยความโมโหเสียแล้ว
ตอนที่ 466 หึงมากจนต้องปล่อยให้ลอยนวลไปก่อน (4)
คนที่มีหน้ามีตามาโดยตลอด จะรับการตกเป็นขี้ปากหลังมื้ออาหารของทุกคนได้อย่างไร
แถมยังเป็นเพราะเรื่องน่าขายหน้าพรรค์นั้นอีก
เขาถลึงตามองเหวินหย่าไต้ครั้งหนึ่ง แล้วคำรามด้วยความโกรธเคือง “คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ พิจารณาตัวเองให้ดี! ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากฉัน ก็ห้ามลุกขึ้น!”
ตอนนี้พวงแก้มของเหวินหย่าไต้บวมแดง ผมยาวสยาย กำลังคุกเข่าอยู่ในห้องรับแขกของคฤหาสน์
คนรับใช้ที่เดินผ่านไปมามองเห็นเธออย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีใครยอมเอ่ยปากร้องขอความเห็นใจแทนเธอเลย
เพราะปกติเหวินหย่าไต้คิดว่าตัวเองสูงส่งมาก
อาหารและของใช้ทุกอย่างล้วนมีคุณภาพดีที่สุดในตระกูล หากรำคาญใจ ก็จะต่อว่าตบตีคนรับใช้ และใช้คำพูดที่ไม่น่าฟังต่างๆ นานา
เธอคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงผู้สูงส่ง และคนอื่นไม่มีค่าอะไร
ตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศ ถึงเวลาที่เธอจะได้ลิ้มรสของการถูกผู้อื่นรังแกและดูถูกแล้ว!
คนทั้งคฤหาสน์ตระกูลเหวินเห็นสภาพน่าเวทนาของเหวินหย่าไต้แล้ว ก็พากันร้องว่า ‘สมควร’ อยู่ในใจ!
“ใจเย็นๆ นะคะ โมโหแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ”
จางหมิงเยี่ยนเดินไปข้างๆ ประธานเหวิน พร้อมกับนวดไหล่ให้ผู้เป็นสามี
ก่อนจะเป่าหูเพิ่มอีก
“ทางตระกูลอันตอนกลับมาแล้วนะคะ พวกเขาบอกว่าคุณหนูใหญ่ของพวกเราสร้างเรื่องให้คุณชายอันไว้มากมาย เจอกันวันแรกก็สวมเขาให้เขาต่อหน้าคนเยอะแยะแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมแต่งงานค่ะ”
ครั้นจางหมิงเยี่ยนพูดจบ ประธานเหวินก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาโกรธจนตัวสั่น ก่อนจะชี้นิ้วไปที่เหวินหย่าไต้ “แกทำให้คุณชายหานชอบแกไม่ได้ก็ช่างเถอะ คิดไม่ถึงว่ายังจะทำเรื่องขายหน้าพรรค์นี้ ทำให้ตระกูลอันหัวเราะเยาะ!”
“หนูเปล่านะคะ! ไอ้เลวอันหลีนั่น…แค่เขาเห็นหนู เขาก็คิดแต่จะเอาเปรียบหนูท่าเดียวเลย!” เหวินหย่าไต้ปิดหน้า น้ำตาไหลพราก
หญิงสาวเพิ่งกล่างฟ้องผู้เป็นพ่อ ทว่าอยู่ๆ จางหมิงเยี่ยนก็แค่นหัวเราะออกมา
“คุณชายอันเอาเปรียบเธอแล้วยังไง เดิมทีพวกเธอก็เป็นแฟนกันอยู่แล้ว รักกัน เหมาะสมกันก็ต้องแต่งงาน น่าสงสารคุณชายอัน เขาอยากจูงมือ กลับถูกหาว่าลามกซะงั้น แถมยังต้องมองว่าที่ภรรยาของตัวเองอ่อยผู้ชายคนอื่น จะไม่ให้โกรธได้ยังไง”
พอได้ยินคำพูดยั่วเย้าของอีกฝ่าย เหวินหย่าไต้ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที
เธอคลานไปตรงหน้าของประธานเหวินอีกครั้ง
“พ่อ อันหลีเป็นคนไม่ได้เรื่อง ตระกูลอันก็แค่อาศัยการร่วมงานกับตระกูลอวี๋ ถึงมาอยู่เหนือเราได้ พ่อให้โอกาสหนูอีกสักครั้งนะคะ หนูกับคุณชายหานโตมาด้วยกัน ตอนนี้เขาแค่โมโห คงไม่มองข้ามหนูไปจริงๆ…”
“คุณหนูใหญ่ของฉัน คุณกำลังฝันกลางวันอะไรอยู่” จางหมิงเยี่ยนขัดจังหวะคำพูดของหญิงสาว แล้วเดินไปตรงหน้าเธอ
“หรือคุณไม่รู้ ว่าตระกูลอวี๋เตรียมจัดงานหมั้นแล้ว คุณนายใหญ่อวี๋เป็นคนออกปากด้วยตัวเอง”
“เธอว่ายังไงนะ”
ประธานเหวินยังไม่ทันได้พูดอะไร เหวินหย่าไต้ก็ร้อนใจจนต้องตะเกียกตะกายลุกขึ้น ก่อนจะชี้หน้าและถลึงตามองจางหมิงเยี่ยน
“เป็นไปไม่ได้ เธอหลอกฉันเหรอ ผู้หญิงฐานะอย่างเหนียนเสี่ยวมู่ จะเหมาะสมกับคุณชายหานได้ยังไง!”
จางหมิงเยี่ยนไม่ได้มองเธอ แต่มองไปทางประธานอันด้วยสีหน้ากังวลใจ “ที่รักคะ คุณดูท่าทางของเธอในตอนนี้สิ ผิดใจกับคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเธอยังอยู่ในตระกูลต่อไป มีหวังตระกูลเหวินของพวกเราต้องขายหน้าเพราะเธอแน่!”
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของประธานเหวินก็หม่นลง
เขายืนขึ้นทันควัน และกำชับกับพ่อบ้าน “จัดการทำเรื่องส่งคุณหนูใหญ่ไปเมืองนอกในอีกสองวัน ถ้าต่อไปไม่มีเรื่องอะไร ก็ไม่ต้องกลับมา!”
“ครืดๆ”
เหนียนเสี่ยวมู่กำลังหลับลึก อยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ปลุกเธอจนตื่น
หญิงสาวยื่นมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือมากดรับ ทั้งๆ ที่ยังสะลึมสะลือ
ปลายสายมีเสียงน่ากลัวดังมาสายหนึ่ง “เหนียนเสี่ยวมู่ เธอไม่อยากรู้เหรอ ว่าทำไมคุณชายหานถึงชอบเธอ”