หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 821 ทุกอย่างมันจบลงแล้ว
ตอนที่ 821 ทุกอย่างมันจบลงแล้ว
หลังจากที่กชกรกินข้าว และคุยกับดัมพ์รงค์และชนัณเสร็จนั้น ก็เย็นมากแล้ว เธอไปอาบน้ำแล้วก็นอนลงบนเตียง ก่อนจะหลับนั้น ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กดูด้วยความเคยชิน แล้วก็เข้าweibo
พึ่งจะเข้าไป ก็เห็นข้อความส่วนตัวที่จิดาภาส่งมา เธอก็กดเข้าไปอ่านด้วยความสงสัย
หลังจากนั้นก็เห็นข้อความที่เธอส่งมา แล้วก็ลุกขึ้นมาทันที
เธอถือโทรศัพท์ แล้วก็อ่านอย่างละเอียดอีกครั้งก็เห็นว่าไม่ได้อ่านผิด
นั่งอยู่บนเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอลงจากเตียงแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แม้แต่หน้าก็ไม่ได้แต่ง หยิบกุญแจแล้วก็ออกจากบ้านมาอย่างไว
ดัมพ์รงค์กับชนัณยังคงดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น เห็นว่าเธอรีบร้อนลงมาก็พูดออกมา “กชกร ลูกจะไปไหน? ”
“แม่ หนูออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว! ” หลังจากพูดจบ ก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ ขับรถพุ่งออกไปทันที
ชนัณมอง แล้วก็หันมามองดัมพ์รงค์ “จะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม? ”
“เฮ้อ เดี๋ยวจะออกไปอยู่แล้ว ปล่อยลูกไปเถอะ! ”
ชนัณเองก็พยักหน้า แล้วก็ดูทีวีต่อ
กชกรขับรถมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที
เพราะว่าตอนนี้มันดึกมากแล้ว ก็ไม่มีคนแล้ว พอรู้ว่าเขาอยู่ที่ห้องไหน กชกรก็ค่อยๆ เดินไปที่ห้องผู้ป่วยของเขา
โชคดี ที่ไม่ได้มีใครเฝ้าเขาอยู่ กชกรเคาะประตู ไม่ได้ยินเสียงอะไร เธอก็ค่อยๆ ผลักประตูแล้วเดินเข้าไป
ฝีเท้าของเธอเบามาก ทุกก้าว หัวใจเธอก็เต้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวว่าเปรมศักดิ์จะรู้ตัว
หลังจากเดินเข้าไปแล้ว ก็เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียง นอนหลับอยู่ตรงนั้นอย่างเรียบร้อย ดวงตาดูอ่อนโยนเป็นพิเศษ
ใจที่กำลังเป็นห่วงอยู่นั้น ก็สงบลง
เธอเดินเข้าไปเบาๆ นั่งลงข้างๆ เปรมศักดิ์ ยื่นมือออกไป อยากจะลูบหน้าของเขา แต่ว่ายื่นมือไปได้ครู่หนึ่ง ก็หยุดลง……
ดวงตาคู่นั้น เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งและไม่มีทางเลี่ยง สุดท้าย ก็กำหมัด แล้วก็เก็บมือกลับมา
มองหน้าเขา กชกรก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี ได้แต่นั่งบื้อมองเขาอยู่แบบนั้น
อยู่เป็นเพื่อนเขาเงียบๆ
โดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอก็เริ่มชื้น
เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันถูกหรือผิด แต่ว่าเธอรู้ว่า ถ้าเกิดว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งคู่ก็จะเจ็บปวด
เพราะฉะนั้น เธอยอมที่จะปล่อยมือ……
ยอม ที่จะแบกรับความรักที่หนักอึ้งนี้ไว้เพียงคนเดียว
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านไปนานแค่ไหน เห็นว่าผ้าห่มของเขาเปิดออกเล็กน้อย เธอก็ลุกขึ้น ช่วยห่มผ้าให้เขา แต่ใครจะไปรู้ว่า เปรมศักดิ์กลับขยับ แล้วก็ลืมตาขึ้นมา
สายตาของทั้งคู่ประสานกัน ต่างก็ดูตะลึง
“กชกร……”เปรมศักดิ์มองเธอ แล้วก็เรียกด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้
ตอนที่เห็นเขานั้น กชกรก็ขมวดคิ้ว น้ำตาหยดลงบนใบหน้าของเปรมศักดิ์ วินาทีหลังจากนั้น เธอไม่พูดอะไรต่อแล้วรีบสิ่งออกไปด้านนอกทันที แผ่นหลังเธอดูตกที่นั่งลำบาก เหมือนกับว่ากำลังวิ่งหนี “กชกร……” เปรมศักดิ์ตะโกนเรียก แต่ว่าก็จับเธอไว้ไม่ทัน กชกรเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน พุ่งออกไปด้านนอกทันที เปรมศักดิ์ไม่รีรอ ก็วิ่งตามออกไปเหมือนกัน แผลฉีก เขาหายใจเข้าด้วยความเจ็บปวด เอามือกำแผลแล้วก็วิ่งออกไป แต่ว่าพอถึงทางเดิน กชกรจะยังอยู่ตรงนั้นได้ยังไงกันล่ะ เขาเดินอยู่ระหว่างทางเดิน มองไปรอบๆ แล้วก็ตะโกนออกมา “กชกร……” การกระทำนี้ ทำให้พยาบาลที่อยู่เวรดึกตกใจ ตอนที่เห็นเขานั้น ก็รีบมาขวางเขาไว้ “คุณผู้ชาย เป็นอะไรรึเปล่าคะ? ” เปรมศักดิ์ไม่สนใจ มองไปรอบๆ เพื่อตามหาเธอ “กชกร……” เขาตะโกนต่อ เพื่อตามหาเธอ อีกมือหนึ่งก็กุมหน้าท้องของตัวเองไว้ “คุณผู้ชายคะ ตอนนี้มันดึกมากแล้ว ถ้าเกิดว่าคุณทำแบบนี้จะรบกวนคนไข้ท่านอื่นนะคะ! ” “คุณผู้ชายคะ ได้โปรดให้ความร่วมมือด้วยได้ไหมคะ? ” พยาบาลเอาแต่ขวางเขาไว้ สุดท้าย จากการปลอบใจของพยาบาล เปรมศักดิ์ก็เลยจำเป็นต้องกลับไปที่ห้อง แต่ว่าสายตายังคงมองไปรอบๆ ไม่หยุด พยายามหากชกร แต่ว่า เหมือนกับว่าเธอหายไปภายในพริบตาเดียวเท่านั้น แล้วตรงทางเดิน ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง และกชกรที่หลบอยู่ในมุมตรงบันไดนั้น แผ่นหลังก็แนบอยู่กับกำแพง น้ำตาคลอเบ้า เครียด กังวล กลัวว่าเปรมศักดิ์จะมาเจอเข้า ไม่กล้าแม้แต่หายใจดัง ท่าทางแบบนั้น ทำให้คนปวดใจมาก จนถึงตอนที่ทางเดินนั้นไม่มีเสียงอะไรอีก กชกรถึงได้สบายใจขึ้น หลังจากนั้นก็วิ่งออกมาจากมุมบันได พอวิ่งไปถึงรถ กชกรถึงได้สบายใจ แต่ว่าน้ำตาก็ไหลไม่หยุด เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ว่าไม่สามารถควบคุมได้ นึกถึงภาพเมื่อกี้ ที่ทั้งคู่สบตากัน นึกถึงตอนที่เขาตะโกนอยู่ตรงทางเดิน……น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ สุดท้ายเธอก็ซบไปที่พวงมาลัยแล้วก็ร้องไห้ ……พอกลับมาถึงบ้าน ก็เป็นเวลาตีหนึ่งแล้ว กชกรขึ้นไปชั้นบน แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่อยากจะเปลี่ยนแล้ว นอนลงบนเตียงเลย เอาหมอนมาปิดหน้าไว้ น้ำตาก็ยังคงไหลไม่หยุด…… คืนนี้ น่าจะนอนไม่หลับ และเปรมศักดิ์ที่อยู่ที่ด้านหนึ่งนั้น หลังจากที่กลับมาที่ห้อง ก็นั่งลงบนเตียง นึกถึงเรื่องเมื่อกี้นี้ วินาทีนั้น ก็รู้สึกว่ามันเหมือนกับความฝัน แต่ว่าเขารู้อย่างชัดเจน ว่ามันไม่ใช่ความฝัน กชกรมาที่นี่จริงๆ เธอมาที่นี่! นั่งอยู่บนเตียง มองไปที่เอกสารที่อยู่ตรงหัวเตียง เขาก็ค่อยๆ หยิบขึ้นมา เหมือนกับว่า แค่มองจากภายนอก เขาก็สามารถเห็นของที่อยู่ข้างในได้ยังไงยังงั้น…… กชกร เธออยากจะหนีจากฉันไปแบบนี้จริงๆ ใช่ไหม? วันถัดมา กชกรนอนจนถึง11โมง พึ่งจะตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงชนัณตะโกนขึ้นมาจากชั้นล่าง “กชกร เอกสารของลูก! ” กชกรได้ยินเสียงนั้น ก็ลงจากเตียงอย่างขี้เกียจ แล้วก็เดินลงไปชั้นล่าง “เอกสารอะไรเหรอแม่? ”กชกรลูบผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ยังรู้สึกง่วงอยู่นิดหน่อย เมื่อวานหลับไปกี่โมงเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนที่เห็นกชกรนั้น ชนัณก็ประหลาดใจ “กชกร ตาลูกเป็นอะไรน่ะ? ” “ตาหนูเหรอ? ทำไมเหรอ? ” กชกรลูบตาของตัวเอง “บวมน่ะสิ ทำไมถึงได้บวมขนาดนี้ได้? ” ชนัณพูด กชกรยื่นมือมากุมตาของตัวเอง แล้วก็คิด ว่าเมื่อวานร้องไห้จนหลับไป ไม่บวมสิแปลก “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น่าจะเพราะว่าเมื่อวานนอนดึกไปหน่อย! ” กชกรหาข้ออ้าง “ใช่สิแม่ เอกสารอะไรเหรอ? ” “แม่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไปรษณีย์มาส่ง! ”หลังจากพูดนั้น ชนัณก็ส่งซองเอกสารให้กชกร กชกรรับมือ แล้วก็เปิดอ่าน ตอนที่เห็นตัวอักษรที่อยู่ด้านในนั้น หัวใจก็เหมือนกับว่าโดนอะไรกระแทกอีกครั้ง “อะไรเหรอ?! ” ชนัณมองเธอแล้วถาม กชกรรีบเก็บเอกสารกลับไป แล้วก็ยิ้มให้ชนัณ “ไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูขึ้นไปก่อนนะ! ”หลังจากพูดจบ กชกรก็ขึ้นชั้นบนไปทันที ชนัณยืนอยู่ชั้นล่าง มองกชกร เอาแต่ทำตัวลึกลับตลอด แล้วก็ส่ายหน้าอย่างจำใจ “ป้าน้ำ ทำอาหารให้กชกรด้วยนะ! ” ……ชั้นบน กชกรนั่งอยู่บนเตียง มองเอกสารที่อยู่ในมือ เอกสารการหย่า เธอค่อยๆ ดึงออกมา มองลายเซ็นที่อยู่บนนั้น ไม่รู้ว่าทำไม ในใจเธอรู้สึกว่างเปล่า ถึงแม้ว่าเธอจะตัดสินใจเรื่องนี้ดีแล้ว แต่ว่าเอกสารนี้ พอมันยังไม่ได้เซ็นต์ เธอก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่ผูกมัดพวกเขาเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้ พอมองดูลายเซ็นของเปรมศักดิ์……ดวงตาของเธอมีประกายแวววาว แล้วริมฝีปากของเธอก็คลี่ยิ้มอย่างขมขื่น…… ทั้งหมด ทั้งหมดของทั้งหมด มันจบลงแล้ว…… ทั้งหมดมันจบลงแล้ว…… เธอจ้องอยู่ที่ชื่อนั้นอยู่นานมาก สุดท้าย กชกรก็เก็บเอกสารเข้าไปอีกครั้ง เปิดลิ้นชัก แล้วก็เก็บมันเข้าไป เปรม……ลาก่อน! ตอนที่เก็บเข้าไปนั้น ไม่รู้ว่าใช้แรงมากแค่ไหน แต่ว่าหลังจากวางเข้าไปได้แล้ว จู่ๆ เธอก็รู้สึกโล่งใจ หันไปมองกระเป๋าสัมภาระที่อยู่ด้านข้าง กชกรก็หยิบมา หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บของ……กลางคืน จิดาภาและพันเดชปรากฏตัวที่สโมสรส่วนตัวระดับสูง ตอนที่เดินเข้าไปนั้น ลาภิศ จัสตินและปาณชัยก็มาถึงกันแล้ว และพวกเขา ก็มาถึงเป็นคนสุดท้าย “พันเดช แกมาสาย! ” พึ่งจะเดินเข้าไป ลาภิศก็จ้องหน้าพวกเขา ตอนนี้เอง พันเดชก็ดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง เลิกคิ้วขึ้น “ไม่มากไม่น้อย กำลังดี! ” แต่ว่า ก็ถือว่ามาช้ากว่าพวกเราสามคน! ” “ไม่มีทางเลือก คนที่มีเมียก็เป็นแบบนี้แหละ พวกแกต้องเห็นใจด้วยนะ! ” หลังจากพูดนั้น พันเดชก็โอบจิดาภาแล้วก็เดินไปที่โซฟาอย่างพึงพอใจ ตั้งแต่หลังจากมีเมีย น้ำเสียงของพันเดช ก็ลำพองมากขึ้นเรื่อยๆ วันๆ เอาแต่ทำท่าทางเหมือนว่าแค่ฉันมีเมียทุกอย่างก็เพียงพอแล้ว จัสตินกลอกตาใส่เขา “พันเดช เมื่อไหร่ที่ลูกชายแกคลอด แกจะพูดไหมว่า คนที่มีลูกชายก็เป็นแบบนี้แหละ ให้พวกเราเห็นใจหน่อย? ” พันเดชหยิบแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมา จิบไปนิดหน่อย หลังจากได้ยินนั้น ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง “อืม ถูกต้อง ต่อไปก็จะเป็นแบบนี้แหละ! ” ปาณชัยส่งสายตาเหยียดหยามไปให้ ลาภิศเองก็เช่นกัน ตอนนั้นเอง ลาภิศก็เดินเข้าไป มองหน้าจิดาภา “คุณจิดาภา เรื่องนี้ เธอว่าไง? ” จิดาภาโบกมือ “ไม่เกี่ยวกับฉันนะ! ” พอได้ยินดังนี้ พันเดชก็หันไปมองหน้าจิดาภา แล้วก็บ่น “เมีย เธอเป็นแบบนี้ได้ไงอะ? ” มองไปที่เครื่องดื่มที่ถูกเตรียมไว้ตรงหน้า จิดาภาก็หยิบขึ้นมาดื่มและทำเป็นไม่ได้ยิน ลาภิศกับจัสตินก็หัวเราะออกมา “ช่างเถอะ ในเมื่อเมียพูดแบบนี้แล้ว ฉันจะลงโทษตัวเองแก้วหนึ่งแล้วกัน! ” พอพูด เขาก็หยิบเหล้าขาวตรงหน้าขึ้นมา แล้วก็ดื่มลงไปจนหมด เห็นเขาดื่มอย่างรวดเร็วขนาดนี้ จิดาภาก็พูดออกมา “ถ้าเกิดว่าดื่มจนเมา ฉันไม่รับผิดชอบพานายกลับบ้านนะ! ” พันเดชมองเธอ ยื่นมือไปจับคางของเธอไว้ แล้วก็ขยับเข้าไปด้วยความรัก “เธอทนไหวเหรอ? ” “ก็ลองดูสิ! ” “ถึงฉันลอง เธอก็ทนไม่ไหวหรอก! ” เขายิ้มอย่างแน่ใจ แล้วก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ