หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 784 รับกรรมที่ตัวเองก่อ
ตอนที่ 784 รับกรรมที่ตัวเองก่อ
ตอนนี้เอง นิสนธิ์มองหน้าเธอ แล้วก็โน้มตัวเข้าหาริมฝีปากของเธอช้าๆ เจมน่าไม่ได้ขยับออก เห็นว่าเขาค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ภาพต่างๆ ก็แว๊บเข้ามาในหัวของเธอ……
“นิสนธิ์ ตอนนี้ดึกมาแล้ว นายควรจะกลับไปได้แล้ว! ” ตอนที่เขากำลังจะขยับเข้ามาถึง ทันใดนั้นเจมน่าก็พูดออกมา
การกระทำของนิสนธิ์ก็หยุดลง สายตาของเขามองเจมน่า ลังเลอยู่หลายวินาที สุดท้ายก็ถอยออกมา แล้วมองไปด้านนอก “จริงด้วย ดึกมากแล้ว เธอรีบพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาหาเธอใหม่! ”
“ได้! ” เจมน่าพยักหน้า หวังว่าอยากจะให้เขากลับไปตอนนี้
ดังนั้น ภายใต้การรอคอยของเจมน่า นิสนธิ์ก็กลับไป
หลังจากเขาไปแล้ว เจมน่าก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วก็นึกถึงว่าพรุ่งนี้จะมีข้ออ้างให้ไปเจอพันเดช นี่มันเหมือนกับว่า……เป็นเรื่องที่น่ายินดี!
วันรุ่งขึ้น
แต่เช้า เจมน่าแต่งหน้าเบาๆ แล้วก็ไปที่บริษัทของพันเดช
การ์ดก็รู้ความสัมพันธ์ของเธอกับพันเดช ไม่ต้องแจ้ง เธอก็เดินเข้าไปได้เลย
พันเดชมองหน้าเธอ กุมมือเข้าด้วยกัน “มาหาฉันมีเรื่องอะไรหรอ? ”
“ฉันอยากได้เงินห้าล้าน! ”
พันเดชขมวดคิ้ว “เธออยากเอาเงินเยอะขนาดนั้นไปทำอะไรกัน? ”
“ฉันจะเอาก็แน่นอนว่าฉันต้องเอาไปใช้ประโยชน์ของตัวฉันเองอยู่แล้ว! ”
“อยู่ดีๆ ก็อยากได้เงินก้อนเยอะขนาดนี้ ก็ต้องมีเหตุผล บอกมา! ” พันเดชปิดเอกสารที่อยู่ตรงหน้า ต้องการจะคุยกับเธอดีๆ
เจมน่าขมวดคิ้วแน่น หรือต้องบอกว่ามันเกี่ยวกับนิสนธิ์งั้นหรอ? ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับว่าเป็นการพิสูจน์สิ่งที่เขาพูดวันนั้นรึเปล่า?
เพราะฉะนั้น ยังไงเจมน่าก็บอกเขาไม่ได้หรอก
“ฉันอยากจะซื้อของ! ”
“มันก็ไม่จำเป็นต้องใช้ถึงห้าล้านหรอก! ” ระหว่างที่พูดอยู่นั้น พันเดชก็หยิบปากกาขึ้นมา กับสมุดเช็ค แล้วก็เขียนลงไป หลังจากนั้นก็ส่งให้เธอ “ล้านเดียวก็พอแล้ว! ”
มองเช็กที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง เจมน่าก็ขมวดคิ้วเข้าด้วยกันอย่างไม่พอใจ “พันเดช ฉันก็แค่อยากจะเอาเงินที่พ่อฉันทิ้งไว้ให้ไป ฉันจะเอาเท่าไหร่นายก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องยุ่งหรอกใช่มั้ย? ”
“พ่อของเธอให้ฉัน ก็เพราะว่าจะให้ฉันเป็นคนดูแลให้เธอ ไม่ยังงั้น เขาก็เอาให้เธอเลยก็จบ ทำไมต้องเอามาให้ฉันด้วย?! ”
“นาย——ยังไงก็ตาม ฉันต้องการห้าล้าน! ” เจมน่าพูดออกมา อารมณ์ดีที่จะได้มาหาเขาในตอนแรกพังทลายลงทันที
พันเดชจ้องหน้าเธอ “บอกฉัน ว่าเธออยากเอาไปทำอะไรกันแน่? ” เขารู้สึกได้ ว่าการที่อยู่ดีๆ เจมน่าอยากจะได้เงินก้อน ต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
“ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันจะเอาไปซื้อของ! ” เจมน่าพูดอย่างแน่วแน่ “OK……”พันเดชหยิบการ์ดทองของตัวเองออกมา “ถ้าอยากซื้ออะไรก็ใช้บัตรฉัน ไม่จำกัดวงเงิน! ” “นาย——” เห็นท่าทางที่วางเกมของพันเดช เธอก็ทั้งโกรธและทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายเธอก็หยิบเช็กหนึ่งล้านบาทแผ่นนั้นมา “เดี๋ยวฉันจะโทรหาพ่อเอง! ” หลังจากพูดจบ เธอก็เดินออกไปทันที พันเดชยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้ขยับไปไหน แต่ว่าสายตาที่มองตามเจมน่าที่เดิมออกไปนั้นเปลี่ยนเป็นคมกริบยิ่งกว่าเดิม จิดาภากับแก้วอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ซื้อของนิดหน่อย ทั้งสองคนซื้อของไปพร้อมกับแขวะไปรยาเรื่องที่ตอนนี้เธอเป็นผู้ชาย ยุ่งมาก แม้แต่เวลาที่จะมาเดินเล่นซื้อขอก็ไม่มี แต่ทว่า ตอนที่จิดาภาซื้อของเกือบจะเสร็จและกำลังจะกลับนั้น ทันใดนั้นก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคย นั่นคือนิสนธิ์ไม่ใช่หรอ? จิดาภาขมวดคิ้วแน่น และผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาก็คือ……? เห็นท่าทางของพวกเขาที่สนิทสนมกันมาก ในใจของเธอก็มีคำตอบอยู่แล้ว ตอนนี้เอง เธอก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วก็ถ่ายรูปนิสนธิ์ที่อยู่ไม่ไกล แต่ว่าแก้วที่มองดูอยู่นั้นไม่เข้าใจอย่างมาก “จิ เธอทำอะไรน่ะ? ” หลังจากจิดาภาถ่ายไปไม่กี่รูปนั้น ก็เก็บโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง “ไม่มีอะไรหรอก! ” เห็นว่าสายตาของจิดาภามองไปที่ไกลๆ แก้วก็มองตามไปด้วยความสงสัยเหมือนกัน “เธอมองนิสนธิ์อยู่หรอ? ” พอได้ยินชื่อนี้ออกมาจากปากของแก้ว จิดาภาก็หันกลับไปมองด้วยสายตาสงสัย “เธอรู้จักหรอ? ” “เพลย์บอยแบบนี้ ฉันจะไม่รู้จักได้ยังไง เมื่อวานยังพึ่งนินทากับเพื่อนร่วมงานอยู่เลย ช่วงนี้บริษัทเขามีปัญหา ตอนนี้ไปยืมเงินจากทั่วทุกที่ไปหมด ฉันได้ยินแม้แต่ว่า เขาไปหาผู้หญิงแก่ๆ ที่รวยเยอะแยะ อาศัยว่าตัวเองหน้าตาดี ไปหลอกเอาเงิน! ”พอพูดขึ้นมานั้น น้ำเสียงของแก้วก็ดูรังเกียจ พอได้ยินดังนั้น จิดาภาก็อดประหลาดใจไม่ได้ เธออ้าปากค้าง “เธอพูดจริงหรอ? ” แก้วพยักหน้า “ใช่สิ! ” จิดาภาเงียบลง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบเจมน่า แต่ว่าเธอก็ไม่เคยทำร้ายเธอมาก่อน ตอนนี้ ทั้งๆ ที่รู้เรื่องแบบนี้แล้ว จะให้เธอนั่งดูเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยได้ยังไงกัน! ตอนที่จิดาภามองกลับไปอีกครั้ง ก็ไม่เจอแผ่นหลังของนิสนธิ์แล้ว เธอคิดไปคิดมา กลับไปปรึกษากับพันเดชหน่อยจะดีกว่า หลังจากที่เธอกลับไปกับแก้ว แก้วก็ไปทำงาน ส่วนจิดาภาก็ขึ้นไปชั้นบน ตอนที่จิดาภาเข้าไปนั้น พันเดชก็กำลังสั่งงานอะไรบ้างอย่างกับเจ๊ก พอเห็นว่าจิดาภาเดินเข้ามา พันเดชก็กำชับอีกไม่กี่ประโยค “ไปจัดการเถอะ! ” เจ๊กพยักหน้า แล้วก็ออกไป ตอนที่กำลังจะเดินผ่านจิดาภาไปนั้นก็ไม่ลืมที่จะทักทาย “คุณจิดาภา! ” จิดาภายิ้มให้ แล้วเจ๊กก็เดินออกไป พันเดชนั่งอยู่ตรงที่นั่งเจ้านาย มองหน้าจิดาภา มุมปากก็คลี่ยิ้มออกมา “เป็นยังไงบ้างไปเดินเล่นมาเหนื่อยมั้ย? ” จิดาภาเดินเข้าไปหาเขา แล้วก็วางของไว้บนโต๊ะ พันเดชยื่นมือออกมา จิดาภาก็จับมือเขา “ยังดี เหนื่อยนิดหน่อยเอง! ”จิดาภาพูดอย่างอ่อนโยน ตั้งแต่ตั้งท้องมา เธอกลายเป็นคนอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกรักมากจนไม่ไหว “นั่งก่อน พักผ่อนหน่อย! ” พอพูดจบ พันเดชก็ให้จิดาภานั่งลงบนร่างกายของเขา จิดาภายิ้ม มองหน้าเขา คิดอยู่นาน แล้วก็ตัดสินใจพูดออกมา “พันเดช มีเรื่องนึง ที่ฉันจำเป็นต้องคุยกับนายหน่อย! ” พันเดชมองหน้าเธอ มีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าปีศาจของเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก “เรื่องอะไรหรอ? ” “วันนี้ตอนที่ฉันไปชอปปิ้ง เห็นนิสนธิ์อยู่กับผู้หญิงคนนึง แล้วก็ได้ยินมาว่า ตอนนี้บริษัทของนิสนธิ์เจอปัญหาเรื่องการเงิน เพราะฉะนั้นก็เลยไปหาผู้หญิงหลายคนเพื่อขอความช่วยเหลือ……”จิดาภาบอกข่าวที่เธอรู้มาให้พันเดชรู้ อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มบนใบหน้าของพันเดชก็จางหายไป ในดวงตาของเขาเหมือนกับว่ามีพายุกำลังก่อตัว “เธอได้ยินมาจากใครหรอ? ” “แก้ว เธอบอกว่าเมื่อวานในแผนกออกแบบยังคุยกันถึงเรื่องนี้อยู่เลย มีคนเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงหลายคนมาก! ”จิดาภาพูด สีหน้าของพันเดชดูไม่ดีมากๆ “ดูเหมือนว่า เขาอยากจะเล่นกับไฟมากสินะ! ” จิดาภาหรี่ตาลง มองหน้าพันเดช แล้วลองถามดู “พันเดช นายคงไม่ได้รู้อยู่แล้วใช่มั้ย? ” พันเดชมองหน้าเธอ “ฉันก็แค่รู้ ว่าเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทของเขามีปัญหา ติดหนี้อยู่ไม่น้อย แต่ฉันไม่คิดว่า เขาจะเล่นแบบนี้! ” จิดาภาเองก็เงียบลงเหมือนกัน นิสนธิ์ที่ดูนุ่มนวลเหมือนกับหยกแบบนั้น ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ ทันใดนั้นก็เหมือนพันเดชนึกอะไรขึ้นมาได้ จิดาภาเห็นว่าเขาดูผิดปกติไปเล็กน้อย “นายเป็นอะไรไป? ” “เมื่อกี้เจมน่ามาเอาเงินจากฉัน! ” “เงินอะไรกัน? ” “ก่อนที่อาจารย์จะไปนั้น ทิ้งเงินไว้ที่นี่ก้อนนึง เอาไว้ให้เธอนั่นแหละ ถ้าให้พูดตามจริง ก็คือเอาไว้ทดสอบนิสนธิ์ เมื่อกี้เจมน่าก็จะมาเอาไปห้าล้าน! ” “นายคิดว่า นิสนธิ์หลอกเจมน่ายังงั้นหรอ?! ” จิดาภาถาม พันเดชพยักหน้า ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ นิสนธิ์ก็จะน่าเกลียดเกินไปแล้ว “แล้วนายวางแผนจะทำยังไง? ” “ทำให้เขาได้รับกรรมในสิ่งที่ก่อไว้! ” “ถ้าเกิดว่านายทำแบบนั้น แล้วเจมน่าล่ะจะทำยังไง? ” จิดาภาถาม “บางที ตอนนี้เจมน่าอาจจะยังไม่รู้อะไรเลยก็ได้นะ! ” “แล้วเธอคิดว่ายังไง? ” จิดาภาคิด “ฉันไปคุยกับเธอหน่อยดีกว่า! ” “เธอ? ”พันเดชมองหน้าเธอ สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย จิดาภามองหน้าเขา แล้วก็เชิดหน้าขึ้น “ทำไม? นายสงสัยฉันหรอ? ” “ไม่ แต่ว่า เธอไม่ถือสาหรอ? ” “ฉันต้องถือสาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่า นี่มันเป็นคนละเรื่องกัน ถ้าเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจมน่าเพราะว่าเรื่องนี้ล่ะก็ ตลอดชีวิตนี้นายก็ปล่อยไปได้ยาก จนถึงตอนนั้น ฉันก็ควรจะถือสาแล้วล่ะ! ”จิดาภายิ้มแล้วพูดออกมา ถึงยังไงเธอก็ไม่ใช่จุฑา และเธอก็ไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้าย เธอก็แค่รักคนที่ไม่ควรรักเท่านั้นเอง แล้วอีกอย่าง ดูจากอายุของเธอ จิดาภาก็ได้แต่มองเธอเป็นเด็กคนหนึ่ง พอได้ยินคำพูดของจิดาภา พันเดชก็ยิ้มมุมปาก “คุณจิดาภาครับ ผมชอบการที่คุณ “แคร์” ผมนะ! ” เขาพูด “คุณพันเดชคะ อย่าคิดเยอะเลยค่ะ ฉันก็แค่ทำเพื่อลูกเท่านั้น! ” “ข้ออ้างนี้ดีนะ! ” จิดาภากลอกตาใส่เขา แต่พันเดชกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ “ยังไงดี ให้ฉันไปกับเธอด้วยมั้ย? ” “ไม่ต้องหรอก ถ้าเกิดว่านายอยู่ด้วย เธอต้องรู้สึกอึดอัดแน่ จนถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว! ”จิดาภาพูดในมุมมองของคนกลาง พันเดชคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พยักหน้า “เธอพูดก็ถูก ถ้ายังงั้นก็ระวังตัวหน่อยนะ ถ้าเกิดว่ามีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันได้เลย! ” จิดาภาลุกขึ้นมาจากตัวเขา แล้วก็พยักหน้า “อืม แน่นอน! ” “เดี๋ยวฉันให้เคนไปส่งเธอ! ” “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันขับรถไปเองก็ได้! ”จิดาภาพูด “ถ้าเกิดว่าเคนไปส่งฉันล่ะก็ มันก็จะเป็นการพิสูจน์ว่านายเองก็รู้เรื่องเหมือนกันน่ะสิ? ” พันเดชรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย “แต่ว่าตอนนี้เธอขับรถได้หรอ? ” “นี่ก็ไม่ได้ท้องสิบเดือน มีอะไรที่ไม่ได้ด้วยหรอ ไม่เป็นไรหรอก! ” เธอพูดออกมาอย่างสบายใจ ในเมื่อเธอพูดแบบนี้แล้ว พันเดชก็ได้แต่ตอบรับ “ถ้ายังงั้นก็ได้ ขับรถก็ระวังๆ หน่อยแล้วกัน! ”