หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 769 อนาคตของเอลิสต์
ตอนที่ 769 อนาคตของเอลิสต์
เอลิสต์เหลือบตาขึ้น มองเธอ“รีบกินเถอะ กินเสร็จแล้วต้องไปร้านอีก!”
ท่าทีของเขาดูไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ไปรยารู้สึกเหมือนกับว่าฮ่องเต้ไม่ดูดาย แต่ขันทีร้อนรนจนวอดวายยังไงไม่รู้
เมื่อโดนสาดน้ำเย็นมาซะขนาดนี้ ไฟในตัวไปรยาก็มอดดับ จึงกินอาหารต่อ
ตลอดทางที่ไปบริษัท ไปรยาก็อดไม่ได้“เธอจะไม่ลองคิดดูหน่อยเหรอ เป็นดารามีอนาคตกว่าอยู่ในร้านฉันเป็นไหนๆ!”ไปรยากล่าว
“เธออยากให้ฉันเป็นดาราเหรอ”
“แน่นอนสิ มันก็เป็นอาชีพหนึ่งนะ คุณจะได้ก้าวไปข้างหน้าไง!”ไปรยากล่าว
“ถ้าเป็นดารา ก็จะมีคนรอบตัวมากมาย ถ้าถ่ายหนัง ก็จะเจอดาราสาวสวยเยอะแยะ มีบทรัก บทจูบ……”
ไปรยาตกตะลึง เรื่องพวกนี้เธอไม่เคยคิด แค่รู้สึกว่า เอลิสต์อยู่ในร้าน เหมือนเป็นการตัดอนาคตเขาไปหน่อย ในเมื่อมีโอกาสดีๆแบบนี้ ทำไมไม่ก้าวไปข้างหน้าล่ะ
พอพูดถึงเรื่องนี้ ไปรยาก็คิดถึงดาราหนังขึ้นมา แม้ว่าบทรักนั้นจะปลอม แต่ต้องจูบจริง เธออยากให้เขาไปทำกับผู้หญิงอื่นแบบนั้นจริงๆเหรอ……
ไปรยานิ่งเงียบตลอดทาง ไม่มีการพูดคุยใดๆทั้งสิ้น ต่างก็ครุ่นคิดกับปัญหานี้
จนกระทั่งไปถึงที่ร้าน เธอเองก็ยังคงสับสนเรื่องนี้อยู่
มีเอลิสต์อยู่ ที่จริงไปรยาแทบไม่ต้องเป็นกังวลอะไรในร้านเลย เธอนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง และกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
ในเวลานี้เอง จีจ้าก็คอยจ้องมองไปรยา วันนี้ตั้งแต่มาถึง เธอแทบจะไม่พูดอะไรเลย เธอหันไปมองเอลิสต์ทีหนึ่ง“พี่เอลิสต์ วันนี้พี่ไปรยาเป็นอะไรเหรอ วันนี้ดูแปลกไปนะ!”
เอลิสต์ก็กวาดตามองไปรยา ราวกับว่าหลังจากคำถามนั้นแล้ว เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรเลย
ที่มุมปากเผยยิ้มขึ้น ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น แล้วทำงานต่อ
จนกระทั่งถึงเวลากินข้าวตอนเที่ยง ไปรยาแทบไม่ได้พูดอะไรเลย คอยครุ่นคิดปัญหาอยู่ตรงนั้น
ท้ายที่สุด ก็คิดตก จึงได้ไปหยุดตรงหน้าเอลิสต์“เอลิสต์ ฉันมีอะไรจะคุยกับนาย!”
เอลิสต์ชะงักเล็กน้อย จีจ้าที่อยู่ข้างๆก็พลอยชะงักไปด้วย ไปรยาจะกะทันหันไปหน่อยไหม
ไปรยายืนตรงหน้าเอลิสต์“ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็อยากให้นายคิดถึงอนาคตของตัวเอง โทรศัพท์นี้ ถ้านายต้องการมัน ก็โทรเถอะนะ!”พูดพลาง ไปรยายื่นนามบัตรให้กับเขา
แววตาของไปรยาแน่วแน่มาก แม้ว่าเอลิสต์จะช่วยหางานมาให้เธอได้ไม่น้อยเลย แต่เธอก็ไม่อาจจะขวางทางอนาคตของเขา เพราะฉะนั้น เธอตัดสินใจแล้ว!
เอลิสต์หลุบตาลง มองดูนามบัตรที่อยู่ในมือ สุดท้ายสายตาก็จับจ้องไปที่เธอ
“เธออยากจะพูดเรื่องนี้เองน่ะเหรอ!?”
ไปรยาพยักหน้า
เอลิสต์ไม่ได้ว่าอะไร เก็บนามบัตรเข้า แล้วมองเธอ“ตอนเที่ยงอยากจะกินอะไร”
“นาย……”
“ออกไปกินข้างนอกเถอะน่า!”
ไปรยา“……”
ดังนั้น เอลิสต์จึงลากเธอออกไป
ไปรยาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี เธอไม่รู้แม้กระทั่งเอลิสต์กำลังคิดอะไรด้วยซ้ำ
โอกาสที่ดีขนาดนี้ หรือว่าเขาจะไม่เอาจริงๆ
“เอลิสต์……”ตอนกินข้าว ไปรยาจ้องหน้าเขา
“อืม!”
“นายไม่อยากจะเป็นดาราจริงๆเหรอ”
“อืม!”เอลิสต์ขานรับ
“ทำไมล่ะ”เพราะว่า เพราะว่าไม่อยากให้เธอไม่สบายน่ะสิ……ในใจของเอลิสต์คิด แต่กลับไม่ได้พูดออกไป จึงได้แต่มองเธอแล้วยิ้ม“ไม่ทำไม เพราะฉันไม่สนใจเรื่องนั้น!”“แต่นี่เป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวนะ!”เอลิสต์มองดูเธอ“ในเมื่อเป็นเรื่องของฉัน ก็ให้ฉันตัดสินใจเถอะนะ เอาล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว กินข้าวเถอะ!”เอลิสต์พูดถึงขนาดนี้แล้ว ไปรยายังจะพูดอะไรได้อีก ก็ได้แต่ไม่พูดอะไรอีกต่อไป แล้วกินต่อเพียงแต่ในใจรู้สึกเสียดายแทนไม่ได้เป็นแบบนี้ ผ่านไปสองวันในช่วงบ่ายของวันที่สาม รถคันหนึ่งจอดอยู่หน้าร้านของเธอสองวันที่ผ่านไปนี้ ไปรยากับเอลิสต์ต่างก็วางเรื่องนี้ลงแล้วล่ะ ไม่มีใครเอ่ยถึงทั้งนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าพีทจะมาหาถึงที่ “สวัสดี เราเจอกันอีกแล้วนะ!”พีทมองเอลิสต์ยิ้มแล้วพูดขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มสำหรับเอลิสต์ เขาเป็นคนที่จะได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่งั้นคงไม่มาหาถึงที่เอลิสต์มองดูเขา ปราดเดียวก็จำได้ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ได้แต่เอ่ยปากเสียงเรียบขึ้น“สวัสดีครับ บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ เอาอะไรหน่อยไหมครับ”เขาถามอย่างผู้เชี่ยวชาญ“ไม่ได้บังเอิญหรอกนะ ผมตั้งใจมาหาถึงที่เลยล่ะ!”พีทพูดเจตนารมณ์ออกไปตรงๆในตอนที่เห็นพีท ไปรยาก็รู้แล้วว่า โอกาสของเอลิสต์มาเยือนแล้ว“ออกไปคุยกันสักสองคำได้ไหม”พีทถาม“ตอนนี้เวลางานผมครับ……”“ได้ค่ะ ได้ค่ะ!”เอลิสต์กำลังปฏิเสธ ไปรยาก็เอ่ยปากขึ้น ตอบรับแทนเขาทันทีพีทมองดูไปรยา มุมปากอมยิ้มขึ้น“ไม่เป็นไรนะ คุยได้ค่ะ ยังไงบ่ายวันนี้ก็ไม่ได้งานยุ่งมาก!”ไปรยากล่าวได้ยินแบบนี้ เอลิสต์จึงหันหัวไปทางไปรยา ผู้หญิงที่งกเงินอย่างกับอะไรดีจู่ๆก็ให้เขาออกไปเสียอย่างนั้น……“ไม่เสียเวลาคุณมากเท่าไหร่หรอก!”พีทเอ่ยปากพูด ในเมื่อพูดขนาดนี้ เอลิสต์จะพูดอะไรได้ จึงได้แต่พยักหน้าว่าแล้ว เอลิสต์จึงได้แต่เดินตามพีทออกไปเมื่อเห็นเอลิสต์ขึ้นรถจากไป จู่ๆไปรยากลับรู้สึกว่า นับแต่นี้ คงเป็นโลกของเขาสองคนแล้วสินะพอเป็นดาราแล้ว หลายอย่างที่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ เธอเลยกลัวว่าต่อไปคงไม่ได้เจอกันอีกแต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ ยังไงจะให้เอลิสต์อยู่ในนี้ทั้งปีทั้งชาติก็คงไม่ได้……ในเวลานี้ จีจ้าที่อยู่ด้านข้างกำลังมองอยู่“พี่ไปรยา คนนั้นใครกันหรือคะ”ไปรยามองดูเงารถที่หายลับตาไป ถึงได้เอ่ยปากขึ้น“ผู้จัดการบริษัทวงการบันเทิงน่ะ……”ในร้านกาแฟพีทจ้องมองเอลิสต์ ถอดแว่นออก แล้วใช้สายตากวาดดูอีกครั้ง แบบนี้แหละที่เขากำลังค้นหา“ผมคิดว่าคุณจะโทรหาผมเสียอีก!”พีทเอ่ยปากเอลิสต์มองดูเขา ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“ผมบอกแล้ว ผมไม่สนใจ!”“ทุกอย่างน่ะไม่ได้ทำเพราะชอบหรอกนะ คุณมีพรสวรรค์ในด้านการกินของอย่างหนึ่ง!”พีทพูดอย่างแน่วแน่“โทษนะครับ ผมคิดว่าผมพูดชัดเจนแล้ว ผมไม่สนใจจริงๆ!”เอลิสต์กล่าว“ไม่สนใจ หรือยังปล่อยวางอะไรไม่ได้”เอลิสต์ขมุ่นคิ้ว มองดูเขา“เอานะ คนอย่างผมค่อนข้างเปิดกว้าง ขอแค่มีวิสัยทัศน์ ผมยอมรับได้เสมอ!”“แล้วทำไมต้องหาผมด้วย”เอลิสต์สงสัย“เพราะผมรู้ว่า คุณจะต้องดังระเบิด!”“คุณมั่นใจเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”พีทกลับยิ้มตอบ “คนที่ผ่านการปั้นจากผม จนตอนนี้ไม่มีใครที่ไม่ดัง ต่อให้เป็นคนชั้นล่างแค่ไหน ผมก็ปั้นให้ดังได้ อย่าว่าแต่คนที่มีพื้นฐานศิลปะอย่างคุณเลย!”เอลิสต์มองเขา ควรจะขอบคุณคำชมเขาหรือไม่“คุณหาผมเจอได้ไง!?”เอลิสต์ถาม“ก็ต้องขอบคุณป้ายหน้าร้านของคุณไง ราชาอาหารหวาน……”พูดมาถึงตรงนี้ พีทเองก็หัวเราะขึ้น ถ้าไม่ใช่บังเอิญมาถ่ายงานบริษัทแถวนี้ เขาเองก็คงหาไม่เจอพูดถึงตรงนี้ เอลิสต์ก็คิดถึงไปรยา จึงอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้“เป็นยังไงล่ะ จะไปกับผมไหม ผมรับประกันภายในหนึ่งปี จะทำให้คุณดังไปทั่วประเทศ แล้วโกอินเตอร์ด้วย!”เอลิสต์มองเขา“ผมไม่มีใจทะเยอทะยานขนาดนั้น แต่ว่า ผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง!” “เงื่อนไขอะไร”เอลิสต์มองเขา หรี่ตาลงเล็กน้อยจนถึงตอนเย็น เอลิสต์ก็ยังไม่กลับมาหลังจากที่ปิดร้าน ไปรยาจึงขับรถกลับเองเป็นครั้งแรกที่ไม่มีเอลิสต์เป็นเพื่อน รู้สึกไม่ชินเลยจริงๆตอนขับรถ ในหัวก็เต็มไปด้วยเรื่องของเขาสุดท้ายไปรยาจึงพยายามสลัดความคิดออกจากหัว“เอาล่ะ ไปรยา ไม่ต้องคิดแล้ว ก่อนที่ยังไม่รู้จักเขา เธอเองก็ตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ตอนนี้มากลัวเหงาอะไรเล่า!!”นึกมาถึงตรงนี้ เธอจึงฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง จึงขับรถกลับไปคิดได้ว่าไม่มีใครทำอาหาร เธอเองก็ขี้เกียจทำ จึงได้ซื้ออาหารกล่องกลับไปนั่งอยู่ในร้านอาหารคนเดียว ไปรยาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ขึ้นมาต่อให้เตือนสติตัวเองเป็นพันเป็นหมื่นรอบ แต่ก็อดรู้สึกหดหู่ไม่ได้อยู่ดีเฮ้อ นี่ก็เป็นเพราะเคยชินที่จะมีคนอยู่ข้างๆ จู่ๆไม่มีใคร ก็เป็นแบบนี้แหละไปรยามองดูโทรศัพท์ นับตั้งแต่บ่ายที่เอลิสต์ออกไป จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีโทรศัพท์มาสักสาย แม้กระทั่งการติดต่อใดๆก็ไม่มีจู่ๆรู้สึกหมดความอยากอาหารขึ้นมา ไปรยาเดินไปทางโซฟา เปิดโทรทัศน์ เธอดูทั้งช่องรายการบนจอทีวีกับไวไฟบนมือถือ กวาดตาไปทางนั้นทีทางนี้ที แต่เสียงโทรศัพท์ก็ไม่ดังขึ้นแม้แต่น้อยเธอกลับสงสัยโทรศัพท์ตัวเองเสียอย่างนั้นว่าเธอไม่ได้ชำระค่าบริการแล้วมันตัดสัญญาณไปหรือเปล่าไม่อย่างนั้น เอลิสต์ไม่เคยเลยที่จะเว้นช่วงเวลาการโทรนานขนาดนี้!ในใจสับสนแบบนี้ ทำให้ไปรยาแทบบ้า!อ๊ากกกก!เธอกรีดร้อง“ไปรยา เธอเองที่อยากให้เขาไปไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้มาคาดหวังอะไรอีก!”เธอตะโกนก้อง จากนั้นจึงยกของตรงหน้ากินต่อไปคำแล้วคำเล่า เธอยัดเข้าไปเต็มปาก แต่พอกินไปได้สองคำ เธอก็ไม่อยากกินแล้ว งั้นก็ ไม่กินดีกว่า วางไว้บนโต๊ะแบบนั้นแหละเธอนอนกอดหมอนข้างดูทีวีอยู่ที่โซฟาเวลาผ่านไปทีละนาทีสายตาของไปรยาก็ยังคงคอยจ้องดูโทรศัพท์อยู่นั่นเอง แต่ว่าในใจสงยลงมากแล้วเธอกำลังคิด บางทีนับจากนี้ เอลิสต์คงไม่กลับมาที่นี่อีกด้วยความคิดแบบนี้ ในห้องที่ไม่ใหญ่นัก เงาร่างของไปรยาจึงดูวังเวงมากเป็นพิเศษแบบนี้เอง ไปรยาจึงผล๊อยหลับไปบนโซฟาพอตื่นขึ้นมา ก็เป็นวันถัดไปเธอถูกปลุกด้วยเสียงรบกวนไปรยาลืมตาขึ้น ในตอนที่เห็นเอลิสต์ เธอตะลึงเล็กน้อย เธออดสงสัยตัวเองไม่ได้ว่าดูผิดไปหรือเปล่าจากนั้นในตอนที่เห็นผ้าห่มบนตัว เธอถึงได้รู้ชัด ว่าเธอไม่ได้ตาฝาด“เอลิสต์……”ไปรยาร้องเรียกพอได้ยินเสียงเธอ เอลิสต์จึงมองตามไป“ตื่นแล้วเหรอ”“เธอ เธอไม่ได้……”ไปรยาลุกขึ้นนั่ง เธอไม่รู้จะพูดอะไร“ตื่นมากินอาหารเช้าเถอะนะ!”เอลิสต์ยิ้มพลางเอ่ยปากพูด เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงไปรยานั่งอยู่ตรงนั้น ไม่ไหวติงเป็นนานเอลิสต์เห็นเธอไม่เดินมาสักที จึงเดินไปหา“เป็นอะไรไปล่ะ ยังไม่ลุกมากินอีก เดี๋ยวก็ไปร้านสายหรอก!”“นายไปแล้วไม่ใช่เหรอ”ไปรยามองพลางถาม“แล้วฉันกลับมาไม่ได้หรือไง”เอลิสต์มองแล้วถามกลับ“แต่ว่า……”เอลิสต์มองดูเธอ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เพิ่งตื่น ในหัวคงจะมึนไปหมดเอลิสต์ย่อเข่านั่งลงตรงหน้าเธอ“แต่ว่าอะไร?”ไปรยากะพริบตา“นาย นายคุยกับพีทเป็นไงบ้าง”เอลิสต์ยิ้ม“แล้วเธออยากให้ผลลัพธ์เป็นไงล่ะ”“ฉัน……”ไปรยาไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดีใจหนึ่งก็อยากให้เอลิสต์ไป ส่วนอีกใจรู้ดี ว่าถ้าไปแล้ว ต่อไปก็คงกลายเป็นโลกของพวกเขาสองคนไม่ใช่เธอ“ฉันเคารพการตัดสินใจของนาย!”ไปรยากล่าว“ฉันตอบรับเขาแล้ว……”เอลิสต์เอ่ยปากไปรยามองเอลิสต์ แล้วชะงักงันทั้งๆที่ เป็นโอกาสที่เธอสร้างให้เอลิสต์แท้ๆ ทั้งๆที่ เธอเป็นคนเชียร์ให้เอลิสต์ไปคุยแท้ๆทั้งๆที่……ถ้าเธอเห็นแก่ตัวหน่อย เธอไม่ให้เอลิสต์ไปก็ได้……แต่ว่าเธอก็ปล่อยเขาไป ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมตอนที่ได้ยินคำตอบแบบนั้น ถึงต้องรู้สึกไม่สบายใจด้วยล่ะ อึดอัดจังเลย!มันเป็นความหวังของเธอเองไม่ใช่เหรอขอแค่ให้เอลิสต์ดีก็พอ แค่นี้ก็พอแล้วนี่นาแต่ว่าเพราะอะไร ในใจถึงได้รู้สึกเจ็บจี๊ดแบบนี้